"บางทีพวกเราก็ยึดติดอยู่กับความสะดวกสบายจนลืมความเรียบง่ายความสุขที่เกิดจากการได้อยู่กับตัวเองและธรรมชาติ"กาญจนบุรี จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักที่โดดเด่นในเรื่องของการล่องแพ ไม่ว่าจะเป็นที่เขื่อนหรือแมน้ำแควน้อย เริ่มจะเข้าหน้าร้อนแล้ว การได้มาพักแพริมน้ำสัก2-3คืนก็เป็นทริปดีๆหากเราเลือกที่พักที่ตอบโจทย์กับความต้องการของเราอย่างแท้จริงวันนี้ผมจะมามารู้จักเรือน แพ จังเกิ้ล ราฟ ตั้งอยู่ในอำเภอ ไทรโยค จังหวัด กาญจนบุรี ที่พักนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทกลุ่ม SERENATA Hotels & Resorts และ 1ใน5 ของรีสอร์ทในระแวกนี้ซึ่งจะมีจุดเด่นแตกต่างจากที่อื่นๆการเดินทางจากกรุงเทพมาก็น่าจะประมาณ 200 กว่าโล แต่ถนนเดินทางสะดวกสบายครับ การที่เราจะเข้าถึงที่พักนั้นจำเป็นต้องจอดรถไว้ที่ท้าเรือพุตะเคียนแล้วนั่งเรือของรีสอร์ทมายังที่พักใช้เวลาโดยประมาณ 15 นาทีก็ถึงครับ (ค่าเรือไป-กลับจะรวมในค่าห้องพัก)สำหรับที่พักจะเป็นเรือนแพลอยอยู่บนแม่น้ำแคว ในห้องพักและพื้นที่ของรีสอร์ททั้งหมดจะไม่มีไฟฟ้า ที่นี้อยู่ด้วยตะเกียงน้ำมันก๊าซในเวลากลางคืน หากผู้อ่านบางท่านติดในเรื่องการใช้งานมือถือแนะนำให้นำแบตสำรองมาชาร์ทเผื่อไว้ด้วยครับภายในห้องนั้นสะอาดปลอดภัยมีห้องน้ำและระเบียงส่วนตัวให้ได้พักผ่อน ช่วงเเรกๆเราอาจจะไม่คุ้นชินกับความมืดในเวลากลางคืนที่ห้องพักไม่มีทีวี ไม่มีไฟฟ้า แต่ทางที่พักจะมีตะเกียงให้ สำหรับผมว่ามันก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีที่นานๆจะได้มีโอกาศได้ตัดขาดจากโลกภายนอกและได้อยู่กับตัวเองสักพักส่วนมากนักท่องเที่ยวหลักของที่นี่จะเป็นกลุ่มต่างชาติที่ชอบในการอยู่กับธรรมชาติ หลีกหนีความวุ่นวาย แต่เนื่องจากช่วงนี้ต่างชาติยังเดินทางเข้ามาบ้านเราไม่ได้ ก็เป็นโอกาศดีที่คนไทยเราจะได้ลองมาพักและหยุดคิด หยุดทำ สิ่งต่างๆในกิจวัตรของงานประจำสักพักครับอาหารการกินที่นี่จะรวมมากับห้องพักนะครับ กิจกรรมระหว่างวันนั้นก็สามารถล่องแพเปียก เดินชมหมู่บ้านมอญ และวัดมอญซึ่งอยู่ใกล้ๆรีสอร์ทครับจริงๆรีสอร์ทนี้ได้รับรางวัลจากหลายที่ในเรื่องของความแปลกใหม่และการอาศัยอยู่รวมกับธรรมชาติ
เรือนแพของที่พักจะลอยเป็นแนวยาวบนแม่น้ำแควน้อย เอาง่ายๆคือตัดขาดจากโลกภายนอกแต่สัณญาณมือถือมีเป็นบางค่าย อย่างของผมใช้ AIS สัณญานโอเคครับ
การเดินทางมายังที่พักต้องมาทางเรือเท่านั้นนะครับ ซึ่งต้องจอดรถไว้ที่ท่าเรือพุตะเคียนแล้วมากับเรือของรีสอร์ท
พนักงานมารอต้อนรับพร้อมกับน้ำWelcome Drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆพร้อมทั้งตรวจวัดอุณหภูมิก่อนการลงทะเบียน จากการสอบถามกับทางผู้จัดการให้ข้อมูลว่า พนักงานส่วนมากจะเป็นชาวมอญที่อพยพมาอยู่เมืองไทยนานแล้ว มาพักที่นี้เราก็จะได้เห็นพนักงานแต่งตัวคล้ายๆชาวพม่า มีทาแป้งทานาคาบนใบหน้า และ รอยยิ้มที่แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นมิตร ดีใจที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ
จุดคัดกรองลงทะเบียน และแอลกอฮอร์เจลล้างมือ ช่วงนี้เราออกไปเที่ยวไหนก็ควรที่จะสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด 19 เพื่อที่เราจะยังคงสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเราได้ครับ
บรรยากาศระเบียงหน้าห้องพัก ซึ่งจุดนี้จะมีเปลญวนให้เรานอนอ่านหนังสือหรือพักผ่อนในช่วงระหว่างวัน ใครชอบเล่นน้ำก้กระโดดได้เลยครับ แต่อย่าลืมสวมชุดชูชีพกันทุกคนนะครับ
ภายในห้องพักจัดตกแต่งสวยงามสะอาด แต่เกริ่นให้ทราบกันก่อนนะครับ ว่าภายในห้องพักจะไม่มีไฟฟ้า หรือ ตู้เย็น ทีวี เครื่องปรับอากาศ นะครับ ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ด้านหลังของห้องนอน เป็นห้องน้ำส่วนตัวไม่ได้รวมกับห้องอื่นๆ
เปลญวนด้านระเบียงหลังห้อง ช่วงเย็นๆพักตรงนี้สักงีบก็ถือว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่งครับ
ที่นี่เขายังมีบริการนวดไทย ราคาไม่แพงครับ
ก่อนจะลงเล่นน้ำต้องสวมชุดชูชีพกันด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยในการมาเที่ยว ถึงแม่ว่าน้ำช่วงนี้จะไม่ค่อยไหลเชี่ยว แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดครับ
สะพานที่เชื่อมไปยังหาดจามจุรีย์ จุดนี้เป็นหาดที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ทางรีสอร์ทจัดทำเป็นซุ้ม และมีกิจกรรม Sup Board บริการครับ
สำหรับกิจกรรมต่างภายในที่พักและรอบๆที่พักแนะนำประมาณนี้ครับ
มี Sup Board สามารถติดต่อที่เรือนแพได้เลยครับ ราคาไม่แพงครับ ราคาต่อคนประมาณ 500-600 บาท ระยะเวลาเล่นก็ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างที่เล่นจะมีพนักงานคอยดูแลและสอนเราครับ
เดินป่าไปเยี่ยมชมหมู่บ้านมอญ และ วัดมอญซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหลังของเรือนแพ อันนี้เดินไปได้เลยครับไม่มีค่าใช้จ่าย
ใกล้ๆกันก็จะมีถ้ำพระ ชาวมอญที่นี่เขาจะให้ความนับถือมาก ที่เห็นคือชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจะใช้ไม่ไผ่ค้ำยันหน้าผา เพราะเชื่อว่า การใช้ไม้ค้ำยันแบบนี้จะมีคนคอยสนับสนุน ค้ำจุนชีวิตให้เจริญขึ้นๆไป
โรงเรียนมอญ วันที่ไปนั้นน่าจะเป็นช่วงปิดภาคเรียน เด็กๆก็จะไปอยู่ตามบ้านกันหมด นักเรียนส่วนมากจะเป็นเด็กมอญที่เป็นบุตรหลานของพนักงานที่ทำงานให้ที่พักที่นี่เป็นส่วนมาก หากเรามีโอกาสได้ไปพักที่นี่และพอมีทุนทรัพย์ก็สามารถซื้อขนมแจกเด็กๆที่นี่ได้เหมือนกันครับ เที่ยวด้วยทำบุญไปด้วย บางทีการให้โดยที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนก็เป็นการทำอะไรที่มีความสุขได้เป็นอย่างดีเลยครับ
กลับมาที่ เรือนแพ ช่วงเย็นๆอาหารเย็นเขาจะบริการตรงนี้ครับ เวลาน่าจะประมาณ 19.00 ผมไม่ได้เก็บ รูปมาฝากเนื่องจากแบตกล้องของผมนั้นหมด และ ไม่มีที่ชาร์ท อาหารจะเป็นเซ็ตทานได้เรื่อยๆครับ บรรยากาศตอนกลางคืนดีมาก มีแสงสว่างจากตะเกียง และ เสียงน้ำไหล ไม่มีเสียงวุ่นวาย เสียงเพลงดังๆ หลังจากทานข้าวเย็นแล้ว เขาจะมีการแสดงระบำมอญ ก่อนที่จะส่งพวกเราเข้านอนให้ได้พักผ่อนครับ
สำหรับที่นี่ผมว่าก็เป็นอีกที่พักที่น่าสนใจเพราะ สมัยนี้หาได้ค่อนข้างยากที่จะหาที่พักแบบไม่ใช้ไฟฟ้า และอยู่ในป่าที่ยังคงความสมบูรณ์แบบนี้ กลางคืนไม่ได้ร้อนมาก หากเราอาบน้ำก่อนนอน อารมณ์ประมาณนอนเต้นท์ แต่ที่นี่สะดวกสบายกว่าเยอะครับ เอาเป็นว่าถ้าได้มีโอกาสอยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองมาพักเรือนแพ แบบนี้ดูครับ
รายละเอียดของที่พักสามารถสอบถามได้โดยตรงจากที่อยู่ด้านล่างนี้ครับ
เรือนเเพริเวอร์เเควจังเกิ้ลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) เว็บไซต์: https://www.riverkwaijunglerafts.com/th Facebook: https://www.facebook.com/River...
เบอร์ติดต่อ: 081-734 0667 GPS: 14.281035, 99.000796
สุดท้ายขอบคุณที่พักมากครับที่สนับสนุนห้องพักให้ได้มาลองเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ รีวิวหน้าพบกันกับอีก 3 โรงแรมในเครือ SERENATA ที่อยู่ระแวกนี้ครับ
เที่ยวก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน
วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.10 น.