สวัสดีหน้าฝน กับความฉุ่มฉ่ำเขียวขจีที่มาพร้อมกัน
ทำให้เราเลือกที่จะออกเดินทาง ไปสัมผัสกับธรรมชาติ และฮิลตัวเองที่เจอกับเรื่องเครียดๆมาตั้งแต่ต้นปี เราเลือกที่จะไป อุทยานแห่งชาติที่.....เดินทางด้วยรถไฟ แล้วพบกันที่......"อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล"
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล : เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดลำปาง และลำพูน มีอุโมงค์ขุนตานซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีบรรยากาศที่เงียบสงบ และเจ้าถิ่นที่คอยต้อนรับหลังจากลงรถไฟเสมอ🐶🐶
เราใช้เวลาในการเตรียมตัว และซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าหนึ่งวัน.......และแล้ววันที่เดินทางก็มาถึง เรามารอรถไฟที่สถานีบางซื่อ วันนี้ท้องฟ้าสวยมากเหมือนมันกำลังอวยพรให้เราโชคดีในการเดินทางในครั้งนี้....
เวลา 18.30 น. รถด่วนพิเศษอุตราวิถี ก็มาจอดรับผู้โดยสารที่ชานชลา แล้วพบว่า....รถไฟไม่มีตู้สเบียงเนื่องจากสถานการณ์การของโรคระบาด ทริปนี้คงเป็นทริปที่อนาถาที่สุดสำหรับเราแล้ววว งือออ🥲 นั่งหิวข้าววนไป…..
เรา ใช้เวลาในการนั่งรถไฟประมาณ 10 ชม. และในเวลา 05.30 น. เราถึงสถานีรถไฟขุนตาน ฮาาาาความเขียวของต้นไม้ และการต้อนรับของเจ้าถิ่นที่นี่ ทำให้เราประทับใจ หลังจากที่เราทักทายเจ้าถิ่นเสร็จเราไปเช็คอินที่อุโมงขุนตานถ่ายรูปสักแชะ เพื่อให้รู้ว่าเรามาถึงแล้ววววว
หลังจากนั้นเราไปเริ่มเดินกันเล้ยยยย ระยะทางจากสถานีรถไฟขุนตาน-ที่ทำการอุทยาน 1.3 กม.
ก่อนวันที่เรามาถึงดูเหมือนจะมีฝนตกเพราะสภาพทางอย่างที่เห็นเลย มีทั้งดินไสลด์ และพื้นที่ปกคลุมไปด้วยมอส
เดินมาสักพักในที่สุด....เราก็เห็นทางเข้าที่ทำการอุทยานแล้ว
หลังจากตรวจสอบการรับวัคซีน และลงชื่อเพื่อเข้าอุทยานเรียบร้อย เดินเข้าไปอีกนิดเราเจอแลนด์มาค ลำปาง-ลำพูน
แล้วในที่สุดหลังจากผ่านการหิ้วท้องหิวข้าวมาตอลด 10 ชม. เราก็มาเจอสวรรค์ นั้นก็คือ....
ที่นี่จะมีอาหารตามสั่ง ขนม และน้ำไว้ขาย พอกินข้าวและเตรียมของกินเสร็จเริ่มเดินกันเลยยย จุดมุ่งหมายของเราคือกางเต็นท์ที่ ย.2 Go Go
เราเริ่มเดินจากที่ทำการอุทยาน-เส้นทางศึกษาธรรมชาติ 1.6 กม. เราแนะนำให้เดินทางเดินเท้านะจะได้ไหม่ไกลมาก
เดินมาสักพักใหญ่เลยมองเห็นป้ายรำไร ถึงแล้วโว้ยยยยยย ถึงทางเข้านะ นี่ยังไม่ได้เริ่มเดินจริงนะเนี้ยยยยยเล่นเอาหมดแรงแล้วววว
เราจะเริ่มเดินจาก ทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไปจนถึง ย.1 ระยะทางแค่..150 เมตร ทางเดินตรงนี้จะเป็นขั้นบันได สำหรับคนที่ไม่อยากแบบของไปเองของเราแอบกระซิบนิดนึง ว่าที่นี่มีลูกหาบด้วยนะ ถ้าอยากใช้บริการติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงทางเข้าเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติได้เลยน้าาา😉
เดินไปบ่นไป 150 เมตร ถึง ย.1 แล้วเราแนะนำให้แวะบ้านเหลืองด้วยนะตรงนี้วิวสวยยยย
ไปต่อ ย.2 กัน ทางเดินจาก ย.1-ย.2 เป็นทางขั้นบันไดประมาณ 100 เมตร แล้วก็จะเป็นทางเดินดิน
และแล้วก็เจอป้ายนี้ 5555 คิดว่าถึงแล้ว...หึหึ ดูถูก ย.2 ไปจ้า
ยังต้องเดินต่ออีก 50 เมตร
มาดู๊สถาพ 50 เมตร
ต้องชันขนาดไหนถึงต้องแหงนกล้องถ่ายขนานนี้
และแล้ว 50 เมตรมรณะของเราก็จบสิ้นกันสักที ถึงจุดกางเต็นท์ แล้ววววว
กางเต็นท์เสร็จ ก็กินข้าวเที่ยงเพื่อเพิ่มพลังก่อนเดินขึ้น ย.4 กัน ซึ่งระหว่างที่เรากำลังจะเดินไป ย.3-4 ฝนตกแรงมากกกก ต้องหาที่หลบเพื่อให้ฝนซาก่อนค่อยเดินต่อ แล้วสภาพทางก็เละ บอกคำเดี๋ยวว่าเละ 5555
เดินไกลมากกกก จาก ย.2-3 เดินจนต้องถามว่าเมื่อไหร่จะถึง เดินไกลจนคิดว่าหลงป่าแล้วเนี้ย TT^TT หลังจากเดินบ่นๆไปนั้นเราก็ถึง ย.3 แล้วทุกคน ถ้าใครมีเวลาเราอยากให้แวะไปถ่ายรูปตรง ย.3 ด้งยนะวิวสวยเหมือนกัน ในส่วนของ ย.3 จะเป็นที่พักของพี่ๆเจ้าหน้าที่สามารถไปขอกรอกน้ำกินได้ด้วยน้าา
หลังจากออกมาจาก ย.3 ก็ไปต่อกันที่ ย.4 เลยจ้า ระหว่าง ย.3 ไป ย.4 ไม่ไกลมากนะเราเดินแป๊บเดียว แต่....ทางขึ้นไปจุดชมวิว ย.4 บอกเลยว่า ชันชันมากชันแล้วชันอีก ชันจนอยากร้องไห้
500 เมตร ที่ทำเอาน้ำตาเล็ด และสุดท้ายเราก็ดันตัวเองมาถึงจุดชมวิว ย.4 จนได้ งืออออ ดีใจ
ทุกคนเก็นข้างหลังนั้นไหม นั้นคือ หมอก ที่มาพร้อมกับฝน และแล้ว.......สถาพที่เดินตากฝนกลับ ย.2 ก็จะเป็นแบบนี้
สรุปทริปดอยขุนตาล เราว่ามันดีนะกับการที่เราได้พาตัวเองออกไปเจอกับ ธรรมชาติ กับการเดินทาง มันเป็นการเดินทางที่ดีมากเลย มันทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิต และได้ของแถมเป็นเพื่อนใหม่ 5555 สำหรับทริปนี้ไปไปก่อนแล้ววว เจอกันทริปหน้าน้าาา
อุ๊ป..ทริบนี้มีคลิปด้วยน้าาาเข้าไปดูกันได้ค่าาา
คำแนะนำ
- อย่าลืมพกข้าวไปกินบนรถไฟด้วย
- น้ำ และขนม สามารถขึ้นไปซื้อที่ ย.2 ได้จ้า ไม่ต้องแบกเหมือนเรา หลังแทบหักก
- ซื้อตามสั่งไปกินตอนเที่ยงด้วยเผื่อหิวระหว่างเดิน
ช่องทางอื่นในการติดตามพวกเรา
Youtube : https://www.youtube.com/channe...
FaceBook : https://www.facebook.com/longm...
ไปไหนเล่า - Where U Go
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 22.29 น.