update Promotion & Review สดใหม่ได้ตลอดที่ https://www.facebook.com/reviewnowz

Sexy Cow Prime Steak & Seafood

สวัสดีครับ

ร้าน เซ็กซี่ คาว ไพรม์สเต๊ก​แอนด์ซีฟู้ด ตั้งอยู่ชั้น G ด้านหน้าทางเข้าของ อาคาร มิลเลนเนีย ทาวเวอร์ ที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีราชดำริ (ทางออก 2) เพียง 350 เมตรเท่านั้น หรือถ้าขับรถมาก็สามารถเข้าได้ทั้งจากถนนราชดำริและถนนหลังสวน มีที่จอดรถให้บริการหน้าร้านสะดวกสบาย ภายในมีการออกแบบที่สวยงามโดดเด่นโดยนักออกแบบชาวฮ่องกง ตัวร้านมีพื้นที่กว้างขวางแยกเป็นสัดส่วนให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปรองรับการมาเป็นกลุ่มใหญ่ได้อย่างสบายครับ

ชมครัวแบบเปิดที่จะสามารถชมการย่างสเต็กผ่านเตากริลล์เนื้อแบบพิเศษที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะเป็นเตาเหล็กยาว 3 เมตร และเทคนิกการใช้ตะแกรงกริลล์ที่เล่นกับอุณหภูมิของไฟที่แตกต่างกันเพื่อให้เนื้อได้สัมผัสกับความแรงของไฟหลายๆระดับรวมถึงเมนูซีฟู้ดสดๆเป็นๆอย่างคานาเดียนล็อบสเตอร์ (Canadian Lobster) และเมนูอื่นๆที่ควบคุมโดย เชฟเอก อภิชิต ปวงขจร หัวหน้าเชฟที่มีประสบการณ์มากว่าสิบปีของที่นี่

ขนมปัง อภินันทนาการจากทางร้านทานคู่กับมะกอก เนยสด และน้ำมันมะกอกผสมบัลซามิก (Balsamic) สุดคลาสสิค

‘Mixed Salad’
ราคา 390 บาท

เป็นจานเรียกน้ำย่อยที่ใช้ผักสดหลากชนิดที่สดกรอบเนื้อดี ราดด้วยซอสเลม่อนเดรสซิ่ง (Lemon Dressing) ที่มีส่วนผสมของเลม่อน น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง มอบรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เป็นเมนูที่เรียกความสดชื่น มาตรฐานที่ดี

‘Lobster Soup’
ราคา 360 บาท

เป็นซุปล็อบสเตอร์ที่มีความหอมและความข้นของตัวซุปที่กำลังดีทานแล้วไม่หนักหรือแรงไป แตกต่างด้วยเครื่องปรุงสมุนไพรที่มอบกลิ่นรสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของที่นี่เพิ่มความอร่อยแบบลักซ์ชัวรี่ (Luxury) กับเนื้อล็อบสเตอร์ที่มีความหวานนุ่มเด้งโดดเด่น ทำได้แตกต่างดี แนะนำ

‘Sip & Savour’
ราคา 320 บาท

เป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่มีส่วนผสมของจิน (Gin), เหล้าส้ม (Cointreau), อเพียรโร่ (Aperol), ซีตรัสไซรัปโฮมเมด (homemade citrus syrup) ดื่มแล้วมีความเป็นส้มที่ลงตัวกำลังดีเช่นเดียวกับความแรงและรสชาติที่ควบคุมให้มีความกลมกล่อมสดชื่นและกลิ่นหอมหลักๆจากโรสแมรี (Rosemary) เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายมอบความสดชื่นเหมาะสำหรับเป็นแก้วแรกของมื้อ แนะนำ

‘Crab Tagliolini’
ราคา 590 บาท

จานนี้โดดเด่นตั้งแต่การนำเสนอผ่านกระดองปูที่สื่อถึงความสดใหม่ของเนื้อปูที่ให้มาเป็นก้อนชิ้นใหญ่ดูดีมาก
ซึ่งทานแล้วก็ไม่ผิดหวังความหอม เนื้อสัมผัส และความหวานของเนื้อปูยังคงอยู่ชัดเจน ตัวเส้นพาสต้าเป็นเส้นสดที่ทางร้านทำเองให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลโดดเด่นต่อกับรสชาติที่เข้มข้นถึงอกถึงใจของซอสแซฟฟร่อน (Saffron sauce) ผสมกับล็อบสเตอร์บิสค์ (Lobster bisque) ซอสมันกุ้งที่เคี่ยวไว้เป็นระยะเวลากว่า 1 วัน โดยผัดแบบฉ่ำๆและใส่พริกเข้าไปทำให้มีรสจัดจ้าน เมนูนี้มีทั้งความหอมหวานมันเค็มเผ็ดครบรสถึงเครื่องในทุกๆมิติ ถ้าชอบทานเผ็ด แนะนำ

‘Pizza Foccacia’
ราคา 320 บาท

เชื่อว่าน่าจะถูกใจคนรักพิซซ่าแต่ก็กลัวแป้ง กับพิซซ่าแบบแป้งบางกรอบที่ใช้น้ำแร่เป็นส่วนผสมช่วยเพิ่มความกรอบของแป้ง ทานแล้วตัวแป้งพิซซ่าบางกรอบชัดเจนดีทั่วทั้งชิ้น ไส้ทรัฟเฟิลผสมเห็ดที่นำไปผัดกับชีสมัคคาโปน (Mascarpone Cheese) และมอสซาเรลล่า (Mozzarella Cheese) ให้หอมทั้งจากตัวเห็ดและชีส และเนื้อสัมผัสที่มีทั้งกรุบๆและหนึบหนับอร่อยทานเพลินทีเดียว ไม่น่าแปลกใจว่าเมนูนี้แสนอร่อยนี้จะเป็นเมนูซิกเนเจอร์ (Signature Menu) ของร้าน แนะนำ

‘Taurus’
ราคา 320 บาท

เพิ่มความเข้มข้นของเครื่องดื่มไปพร้อมกับอาหาร ผ่านค็อกเทลที่ใช้วิสกี้เซาเทิร์น คอมฟอร์ท (Southern Comfort Whiskey) แต่ยังคงรักษาความหอมหวานสดชื่นผ่านเสาวรส (passion fruit) และส้มยูสุ (yuzu) ดื่มง่ายแต่เข้มข้น และการนำเสนอในถังและแก้วไม้น่ารักๆให้อีกอารมณ์ในการดื่มไปอีกแบบ แนะนำ

‘Sexy Cow Sea Food Platter’
ราคา 2,950 บาท

เป็นเมนูรวมซีฟู้ดที่มีทั้งคานาเดียนล็อบสเตอร์ที่จับมาแบบสดๆเป็นๆจากหน้าร้าน, กุ้งลายเสือ, หอยเชลล์, และหอยแมลงภู่ (Mussel) นำมาย่างที่ความสุกกำลังดีและยังคงรักษาความชุ่มฉ่ำของวัตถุดิบต่างๆได้ดีอยู่ ทำได้ดี

ทานคู่กับซอสสิงคโปร์ ซอสเนื้อข้นหน้าตาคล้ายล็อบสเตอร์บิสค์แต่รสชาติคนละแบบ มีความหอมอ่อนๆและรสชาติของเครื่องสมุนไพรที่ไม่จัดจ้านไปแค่พอชูตัววัตถุดิบซีฟู้ด ทำได้น่าสนใจดี

แต่ทางร้านก็ไม่ละเลยความแซ่บจัดจ้านในสไตล์ไทยกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ปรุงมาได้ถึงรสถึงเครื่องแบบจัดเต็ม ถูกใจกันแน่นอน

‘Mikkeller Pale Ale’
ราคา 320 บาท

เลือกเป็นเบียร์สดจากประเทศเดนมาร์กกับ มิคเคลเลอร์ เพลเอล ขนาด 330 มล. ที่ให้ความหอมกลิ่นรสของคราฟเบียร์ที่เข้มข้นแต่นุ่มนวล แนะนำ

สำหรับเมนูสเต็กเนื้อของทางร้านจะใช้เนื้อวัวที่ขุนด้วยธัญพืชนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียเท่านั้น และมาบ่มต่อขั้นต่ำ 4 สัปดาห์ที่ร้าน โดยจะมีให้เลือก 4 ชนิดคือ สตริปลอยน์ (Striploin), เทนเดอร์ลอยน์ (Tenderloin), ริบอาย (Ribeye), และโทมาฮอว์ค (Tomahawk)

‘Wagyu Tomahawk’

เนื้อวากิวโทมาฮอว์คติดซี่โครงชิ้นยักษ์สามารถเลือกขนาดได้ตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป

มีบริการให้เลือกมีดหั่นสเต็กที่เหมาะกับมือของเราที่สุดอีกด้วย สำหรับความแตกต่างระหว่างมีดแต่ละเล่มนั้นให้ลองสอบถามกับทางพนักงานที่พร้อมคอยแนะนำให้อย่างละเอียด

ตัวเนื้อถูกนำไปย่างบนเตาถ่านที่ให้ความสุกกำลังพอดีด้านนอกหอมกรอบเนื้อด้านในยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำ แนะนำ

เสริมรสด้วยเกลือที่มีให้เลือกมากถึง 5 ชนิด เกลือโมเดิร์นซอลต์ (modern salt) สโม็กซอลต์ (smoked salt) ที่ทางร้านทำเอง เกลือฮาวาย (Hawaii salt หรือ Alaea salt) เกลือหิมาลายัน (Himalayan Salt) และแบล็กซอลต์ (Black Salt) เราจะได้สัมผัสของความแตกต่างของเกลือแต่ละชนิดที่มีเนื้อวัวคุณภาพพรีเมี่ยมเป็นสื่อกลางหรือจะกลับมาที่ซอสเกรวี่ (Gravy Sauce) ที่คุ้นเคย แกล้มด้วยเครื่องเคียงอย่างข้าวโพดและมันซึ่งทำออกมาได้น่าประทับใจทีเดียว

‘Gigantic Ipa’
ราคา 320 บาท

ยังคงอยู่กับคราฟเบียร์สดของทางร้านเลือกเป็นเบียร์พอร์ตแลนด์จากประเทศอเมริกาขนาด 330 มล. ตัวนี้ทั้งกลิ่นและรสค่อนข้างเข้มข้นชัดเจนกว่าเบียร์ตัวแรกซึ่งเข้ากับความเข้มข้นของเนื้อวัวได้อย่างพอดี แนะนำ

‘7 Layers Black forest’
ราคา 260 บาท

เป็นเลเยอร์เค้กช็อคโกแลตสูตรเข้มข้น ล่างสุดเป็นช็อคครั้นชี่ (Choc crunchy) ตามด้วยเค้กช็อคชิฟฟ่อน (Chocolate Chiffon Cake) ราสเบอร์รี่เยลลี่ (Raspberry Jelly) ดาร์กช็อค 70% (70% Dark Chocolate) มิลค์ช็อคมูส (Milk Chocolate Mousse) ไวท์ช็อคมูส (White Chocolate Mousse) และปิดด้วยช็อคโกแลตเกลซ (Chocolate Glazed) ท็อปปิ้งด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ แนะนำให้ทานทุกเลเยอร์พร้อมๆกันในคำเดียวจะอร่อยมากๆ แนะนำ

และสุดท้ายกับขนมหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน ‘Panna Cotta’ ราคา 250 บาท ที่นำเสนอในถ้วยแก้วใส ภายในเป็นพานาคอตต้าที่ท็อปด้วยกรานิต้าลิ้นจี่ ราดด้วยซอสราสเบอร์รี่กุหลาบ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตอเบอร์รี่

ก่อนทานให้เคาะตัวแป้งกรอบบนแก้วให้แตกลงไปในแก้วแล้วทานไปพร้อมกับพานาคอตต้าและเครื่องเคราต่างๆ ตัวพานาคอตต้าที่ใช้ครีมและกรีกโยเกิร์ตแท้ผสมกับโรสแมรี่ให้ความหอมมันสดชื่นเนื้อเนียนนุ่มละมุน เสริมเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบด้วยแป้งที่แตกกระจาย และความหอมเปรี้ยวหวานของสาระพัดเบอร์รี่ที่ออกมาโดยรวมได้ละมุนดีมากๆ แนะนำ

ป็นการตอกย้ำกันอีกครั้งว่าประสบการณ์ในมื้ออาหารนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่เพียงแค่อาหารอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งบรรยากาศโดยรวมที่สร้างอารมณ์ในการทานที่น่าสนใจ การบริการระดับสากลใส่ใจในทุกรายละเอียด อาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ผ่านการปรุงโดยเชฟระดับมืออาชีพ ในราคาที่สมเหตุสมผล ส่วนตัวถือว่าร้าน เซ็กซี่ คาว ไพรม์สเต๊ก​แอนด์ซีฟู้ด ตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบคุณ คุณโจ โชติวิทย์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) และผู้ก่อตั้ง Sexy Cow และ คุณมิ้น ธัญปภา ชลสายพันธ์ ที่สร้างร้านอาหารคุณภาพระดับสากลมาประดับไว้ในวงการอาหารของประเทศไทย ที่เหลือก็อยู่ที่นักชิมและผู้ที่ให้ความสำคัญกับมื้ออาหารแล้วที่จะต้องมาพิสูจน์ด้วยตนเองครับ.

ขอบคุณมากครับ
โด้

รายละเอียดร้านอาหาร
ร้าน เซ็กซี่ คาว ไพรม์สเต๊ก​แอนด์ซีฟู้ด / Sexy Cow Prime Steak & Seafood
อาคาร มิลเลนเนีย ทาวเวอร์ ชั้น G, 62 ซอยหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330 [เขตปทุมวัน]
The Millennia Tower G Floor, 62 Soi Langsuan, Lumphini, Pathum Wan, Bangkok 10330 Thailand
11:00-14:30 / 18:00-22:00
โทร. 08-2924-4014, 0-2118-2941
website : www.sexycowrestaurant.com

update Promotion & Review สดใหม่ได้ตลอดที่ https://www.facebook.com/reviewnowz