“ จะไปทะเลทำไม ก็ในเมื่อหัวใจมันมีเเต่เข๊าาาาาาา ”
เช้าวันนี้พวกเราเริ่มออกเดินทางจากตัวเมืองปราจีนบุรี ใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาทีก็มาถึงด่านทางเข้า อุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่ ปลายทางของวันนี้อยู่ที่ จุดกางเต็นท์ลำตะคอง ใช่เเล้วเเละนี่คือทริปแรกที่เราจะกางเต็นท์กันนนน ค่าเข้าอุทยานสำหรับผู้ใหญ่คนละ 40 บาท รถยนต์คันละ 50 บาท ส่วนใครที่อยากทำอาหารเองเราเเนะนำว่าไม่ควรเอาของกินหรือวัตถุดิบไว้ท้ายรถ เพราะมันจะหายโดยไม่รู้ตัวด้วยฝีมือของน้องลิงเเละน้องกวางเจ้าถิ่น อ๋อ เเล้วก็อย่าขับรถเร็วนะมันจะอันตรายต่อสัตว์ป่าเวลาข้ามถนน
ธรรมชาติมันดีแบบนี้ ธรรมชาติมันสวยแบบนี้นี่เอง
DAY 1 : อุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่ มีอะไรดี ?
มาเริ่มกันที่ อ่างเก็บน้ำสายศร วันนี้ฝนตกเเละฟ้าก็ร้องด้วยทำให้คนไม่ค่อยเยอะ เเละที่ตรงนี้ก็คือจุดถ่ายรูปเเละนั่งชิวยอดฮิตของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถ้าใครมาก็อย่าลืมมาเเชะภาพซักหน่อยนะ
ฉันอยากมีปีก ฉันอยากบินได้เหมือนนก
ฝนตก ฟ้าร้องหนักมาก เต็นท์ข้างๆ ก็ล้ม เอาล่ะออกไปช่วยเขาสักหน่อยตอบแทนที่พี่เขาสอนเรากางเต็นท์วันนี้ ส่วนเต็นท์เราเองน่ะหรอก็ไม่ใช่ว่าจะรอดฝนตกหนักมากจนน้ำรั่วเข้ามาในเต็นท์ นอนแบบชื้นๆ คันๆ ก็ได้อารมณ์อีกแบบ 55555555
ระวังกวางมุดเต็นท์ด้วยนะทุกคนเพราะเราโดนมาเเล้ว รูดซิปเองเก่ง เปิดเต็นท์เองเก่ง มุดหัวเข้าเต็นท์เป็นเก่ง ดึกๆ ก็รับบทเป็นเจ้าหน้าที่เดินสำรวจรอบเต็นท์ไปอี้ก ตาฮักขนาดเลย
DAY 2 : ตื่นตี 5 มาทำอะไร ?
เช้าวันนี้เรามีแพลนจะขึ้นไปดูหมอกที่ ผาเดียวดาย ผาตรอมใจ จุดชมวิวกม. 30 เเละหอส่องสัตว์หนองผักชี อะ เก็บภาพบรรยากาศตอนเช้าเเละระหว่างทางมาฝาก สวยมาก หมอกหนาจัด อากาศเย็นสบาย
จุดชมทิวทัศน์ผาตรอมใจ เป็นจุดสูงสุดของภาคกลางเเละมีฝนตกตลอดทั้งปี ไฮท์ไลท์อยู่ที่ข้าวไข่เจียวห้อยขา กินไปมองวิวภูเขาไปฟิลลิ่งดีแบบสุดๆ เเละความโชคดีของเราตอนที่ไปก็คือ ร้านปิด โอเคจ้าาาาา
ถ้าคบกันนานๆ แล้วเริ่มหมดใจ เเวะมาเติมรักใหม่ที่เขาเขียวกันมั้ยทุกโคนนน
เก็บภาพบรรยากาศที่ อ่างเก็บน้ำสายศร ในช่วงเช้ามาฝาก หมอกหนาๆ กับอากาศเย็นๆ เงียบสงบเเละไร้ผู้คน
เวลาเหลือเฟือขนาดนี้ เดี๋ยวไปแวะชมวิวที่ จุดชมวิวกม. 30 ซะหน่อย ไหนก็มาๆแล้ว มีชากาแฟเเละอาหารรองท้องด้วย เผื่อใครหิวๆ รสชาติดีใช้ได้เลย
กลับมาเก็บเต็นท์เเละอาบน้ำ ก่อนจะไปเเวะชมวิวที่ ผาเดียวดาย เเละ ไปเดินศึกษาธรรมชาติที่ หอส่องสัตว์หนองผักชี ส่วนอุปกรณ์ตั้งเเคมป์ทั้งหลายที่เราเช่ามาต้องส่งคืนเจ้าหน้าที่ก่อนเที่ยงของวันด้วยน้า
จุดหมายต่อไป : จุดชมวิวผาเดียวดาย เเค่ชื่อก็รู้สึกเหงาเเล้วอ่าาาา ~
ที่จริงเราจะเเวะ ผาเดียวดาย ตั้งเเต่ตอนลงมาจากผาตรอมใจเเล้ว เพราะมันอยู่ทางเดียวกันแล้วก็ไม่ได้ห่างกันมาก เเต่ว่าตอนนี้ผาเดียวดายเขาเปิด-ปิดเป็นเวลาเเละเราคงมาเช้าไป ฮึฮึ สำหรับใครที่มาผาเดียวดาย เจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าชมตั้งเเต่เวลา 09.00 - 16.30 น. โดยอยู่ในความดูเเลของพี่ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานนะจ๊ะ ลืมบอกว่าเราต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณเท่าไหร่จำไม่ได้เเล้ว เพราะฝนจะตกเดินจ้ำอ้าวๆ อย่างเดียว เเต่ไม่ไกลนะจำได้ว่าไม่ไกล 555555 จุดเด่นอีกอย่างคือทางเข้าจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยแหละ เเต่เราไม่ได้ศึกษาอะไรเลยจ้าแบบว่าเหนื่อยไม่ไหวล้าวววว
ไปต่อที่ หอส่องสัตว์หนองผักชี กันนนนนน เอาล่ะมาถึงเเล้วฝนตกจ้า นอนรอในรถยาวๆ ไป หลับไปได้ประมาณสามสี่ตื่น ฝนก็หยุดตกละ (หยุดเเบบไม่สุดก็คือมีตกปรอยๆ แหละ) จากจุดจอดรถไปที่ หอส่องสัตว์หนองผักชี เราต้องเดินเท้าเข้าไประยะทางประมาณ 900 เมตร ถามว่าเหนื่อยไหมตอบเลยไม่ซักนิด ถ้าโคลนมันไม่ติดรองเท้าละก็นะ 555555 เริ่มเดินเป็นรองเท้าธรรมดาพอไปถึงที่หมายรองเท้ากลายเป็นส้นสูงเฉ๊ย เพราะฝนตกเลยทำให้ทางเดินเป็นโคลนเเต่ถ้าเเลกกับความสวยของบรรยากาศก็บอกเลยว่าคุ้มค่ามากกกก
รูปนี้ถ่ายจากด้านในหอส่องสัตว์ออกมานะจ๊ะ
ส่วนรูปนี้ยื่นกล้องออกมาถ่ายด้านนอก กล้องเปียกหม๊ดดดด
ช่วงมีสาระ : ที่มาของคำว่า หนองผักชี ก็คือ เดิมเเล้วที่เเห่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านที่ปลูกพืชผัก เช่น ผักชี พริก เป็นต้น โดยอาศัยหนองน้ำตรงนี้เเหละเป็นแหล่งน้ำ จนทางการสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่เขาใหญ่ พืชผักที่เคยปลูกจึงถูกทิ้งร้างเเละกลายเป็นอาหารของสัตว์กินพืช ทางอุทยานจึงสร้างหอเเห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเอาไว้ส่องสัตว์ที่มากินอาหารนั่นเองจ้า (เอ๊ะ!! เหมือนมีสาระมั้ยเเต่ที่จริงเราลอกข้อความจากป้ายแหละ 555555)
ถ้าออกมาจาก หอส่องสัตว์หนองผักชี ก็ขับรถเลยไปอีกหน่อยมีที่ถ่ายรูปสวยๆ อยู่ อย่าลืมเเวะไปเเชะภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วยเด้อ
ยืนเกาหัวแบบงงๆ ในดงป่า :) เอ๊ะ มาทำอะไรครับเนี่ย
น้องโดนรถชนปลิวเเต่น้องไม่ได้ตายนะ กลับคืนสู่ธรรมชาติเรียบร้อย
ยิ้มไม่ไหวเเล้วจ้าาาาา หนาวมาก บรื้อ~~~~
บ๊ายบายเขาใหญ่ คิดถึงมากๆ นั่งเขียนรีวิวตรงนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ หวังว่าจะได้กลับไปอีกในเร็ววันนี้นะ : )
เก็บตก : จุดกางเต็นท์ลำตะคอง มีร้านค้าให้บริการ ร้านอาหาร ห้องสุขาเเละห้องอาบน้ำแยกกัน สำหรับทริปเขาใหญ่ก็จะประมาณนี้แหละค่ะ ส่วนราคาค่าเช่าอุปกรณ์เเคมป์ต่างๆ เเละรายละเอียดอื่นๆ เดี๋ยวเราเเนบไว้ให้ด้านล่างนี้นะค่าบบบบ
ค่าบริการสำหรับอุปกรณ์แคมป์ ก็ตามนี้เลยจ้า (รูปอาจจะเบลอๆ เเต่รักเธออ่ะชัดเจนนะ )
*มีที่บริการสำหรับชาร์จบงชาร์จแบต เเต่จะจ่ายไฟเป็นเวลา ถ้าใครจำเป็นต้องชาร์จนอกเวลาเหมือนอย่างเราที่เเบตกล้องหมด ก็เเนะนำให้ไปชาร์จที่ศูนย์ใหญ่บริการนักท่องเที่ยว มีอาหารเยอะเเยะมากมายด้วยนะจ๊ะ
จบจริงๆ แล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค้าบบบบบบ รัก :)
Butterfly 1 9 9 6
วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14.54 น.