ช่วงนี้เหล่านักเดินทางต่างก็คงอึดอัด อัดอั้น คับแค้น หื่นกระหาย กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะออกไปผจญภัยตามสไตล์ที่ถนัด แต่ด้วยสถานการณ์และมาตรการทางภาครัฐ เราจึงทำได้เพียงแค่การ "เที่ยวทิพย์" เท่านั้น

          ผมคิดว่าหลาย ๆ คนคงจะเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ไม่น้อยกับการเลื่อนดูรีวิวผ่านทางโซเชียล ผมจึง "มีเรื่องเล่า" จากการเดินทางที่น่าจะเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนอยากจะตามรอยไปสัมผัสด้วยตัวเอง

          สำหรับใครหลาย ๆ คนที่อยากจะทดลองเที่ยวต่างประเทศไกล ๆ บ้านเราอย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี หรือเวียตนาม แต่ยังไม่รู้ว่าจะเตรียมตัวอย่างไร ผมมีเมืองสำหรับซ้อมเที่ยวต่างประเทศมาแนะนำครับ เมืองนี้มีชื่อว่า "เมียวดี" เป็นเมืองชายแดนที่อยู่ในประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ผมแนะนำเมืองนี้เนื่องจากเป็นเมืองที่มีบรรยากาศ และวัฒนธรรมที่ต่างจากฝั่งไทยโดยสิ้นเชิง ไม่เหมือนกับชายแดนอื่น ๆ ที่มักจะมีวัฒนธรรมคล้าย ๆ บ้านเรา และที่น่าจะสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวต่างแดนได้ไม่น้อยคือ ชาวเมืองรู้ภาษาไทยน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นเมืองชายแดน ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ เดินทางสะดวก บ้านเมืองมีความเจริญในระดับหนึ่ง ไม่ลำบากแน่นอน ที่สำคัญคือ เหมาะมากสำหรับคนงบน้อย พูดแบบนี้หลายคนอาจจะไม่เห็นภาพ งั้นไปชมภาพประกอบเลยดีกว่า

          เราเริ่มเดินทางเข้าสู่จังหวัดตากตามถนนหมายเลข AH 1 มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่สอด ผ่านเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศเย็นตลอดทั้งปี แนะนำให้เปิดกระจกสัมผัสธรรมชาติ

iivtago76ybh
แวะกินกาแฟซักแป๊บที่ตลาดดอยมูเซอ
u0a3f0b7jbkd
ทะเลหมอกที่จุดชมวิวบนดอยมูเซอ

          ก่อนเข้าสู่อำเภอแม่สอด แวะสักการะ เจ้าพ่อพะวอ อนุสาวรีย์ทหารพระเจ้าตากสินกลางขุนเขาอันเป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดตาก เนื่องจากอนุสาวรีย์นี้อยู่ในบริเวณขุนพะวอ ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา คล้ายป้อมปราการด่านหน้าก่อนเข้าสู่เมืองตาก ทำให้บริเวณนี้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แต่ไม่ได้เงียบสงบนะ เพราะผู้นับถือจะมาแก้บนโดยการจุดประทัดเป็นระยะ เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ

f1ym0ompe025
ศาลเจ้าพ่อพะวอ มีผู้คนมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย
3j151n0buxbd
รูปจำลองเจ้าพ่อพะวอ
hyoiekw96xl4
เจ้าพ่อพะวอเป็นที่เคารพสักการะของทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา สังเกตได้จากนักท่องเที่ยวชาวเมียนมาจะนุ่งผ้าถุง
3u65ahfmrvq1
บริเวณโดยรอบศาลเจ้าพ่อพะวอ

          อีกสถานที่หนึ่งที่เราแวะก่อนเข้าตัวอำเภอแม่สอดคือ วัดโพธิคุณ เป็นวัดกลางป่าที่มีสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาที่สวยงามมาก ๆ ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสีทองอร่าม เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวเมียนมาในชื่อ ชเว โพงจีจาวน์ หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า วัดทอง

ojgf3k3tl49f
อนุสาวรีย์หลวงพ่อผู้บุกเบิกวัด ประดิษฐานบนก้อนหินรูปหมู(หันข้าง) ซึ่งเป็นปีนักษัตรของท่าน
4yswmgrtjr15
อุโบสถกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง
fpp4t216rjuy
สำหรับผู้หญิงที่ใส่กางเกงขาสั้น ทางวัดมีผ้าถุงไว้บริการ
2pllhfvi3qfi
ภายในชั้นล่างของอุโบสถ
fpqu53oh0pwf
ภายในชั้นบนของอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปสีทอง
bsb7ka3wy6kv
เขตอภัยทาน ไม่แนะนำให้มาปล่อยปลาที่นี่ เพราะประชากรน้องหนาแน่นมาก
iirhwm33qcaf
ช่วยเหลือกันหรือแย่งอาหารกัน

          เดินขึ้นมาอีกประมาณ 100 เมตร จะเป็นวิหารไม้สไตล์อยุธยา นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเดินขึ้นมาเพราะทางค่อนข้างชัน แต่ข้างบนนี้เงียบสงบมาก มักจะมีพระหรือแม่ชีมาปฏิบัติธรรมบริเวณนี้

2rfcxllcettd
หอระฆัง
epp711v1m043
วิหารไม้ สถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา
59iw691lsnbr
ใต้ถุนอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
9181a4ebvmmk
ทางเดินหรือแคทวอล์ก

          ก่อนข้ามไปยังเมียนมา อยากจะชวนให้แวะ วัดไทยวัฒนาราม ทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทาง และเพื่อปรับตัวก่อน เพราะวัดนี้เป็นวัดที่อยู่ไม่ไกลจากชายแดนเท่าไหร่ และเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่า พอข้ามฝั่งไปแล้วจะได้ชินตา

tlapsfglwihx
หงส์ทองสองตัวนี้ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของวัด
bwiidt4q2nwz
วิหารภายในวัด ด้านบนวิหารประกอบด้วยเจดีย์องค์เล็ก ๆ
r1ph5dvj66fc
เจดีย์สีทอง และสิงห์คู่ เป็นเอกลักษณ์ของวัดพม่า
2wnq7db8p7sy
มุมถ่ายรูปยอดนิยม สีทองสะท้องแสงแสบตาสุด ๆ
kzmi57lthn6m
วิหารที่ประดับประดาไปด้วยสีทอง
j6k7h8cws5ii
อากาศก็ร้อน สีทองของน้องก็แสบตา

          นอกจากสีทองที่ระยิบระยับไปทั่วบริเวณวัดแล้ว อีกไฮไลต์หนึ่งของวัดไทยวัฒนาราม คือ พระนอนองค์ใหญ่อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ศิลปะพม่าที่โดดเด่น

1m1fgvueik0g
องค์จริงใหญ่มาก
9kf9lbzghll9
พระพม่าตาหวาน
armolxrarsdd
ก่อนกลับขอโยนเหรียญอธิษฐานเสี่ยงทายสักหน่อย

          เราแวะกันมาหลายที่แล้ว ต่อไปก็เตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศ เริ่มจากการมาทำเอกสารผ่านแดนที่ สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติแม่สอด ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน (ถ้าคนไม่เยอะนะ) ค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาท ถ้าหากจะขับรถข้ามไปเองจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่มีเงื่อนไขว่า รถคันนั้นต้องผ่อนหมดแล้วเท่านั้น บริเวณด้านหน้าสำนักงานจะมีรถนำเที่ยวมารอบริการนักท่องเที่ยวด้วย ต่อรองราคาได้ แต่แพงกว่าในฝั่งเมียนมา ผมก็เลยเลือกที่จะเดินข้ามสะพานไปเช่ารถฝั่งนู้นดีกว่า

sy3wcf0m4v4j
รายละเอียดการทำหนังสือผ่านแดน
jwnkf464rjjq
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการทำหนังสือผ่านแดน

          เงื่อนไขการผ่านแดนคือ จะต้องเข้าและออกผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เท่านั้น และภายในช่วงเวลา 05.30-20.30 น.

yiv3t9eadmyt
บริเวณหน้าด่าน สะพานมิตรภาพฯ ฝั่งไทย
55as8lpa1csq
สะพานมิตรภาพไทย-พม่า
jege9kvh8p8d
สะพานนี้มีรถบรรทุกใช้บริการอย่างหน่าแน่น
gjmlb99qzz43
จุดเปลี่ยนเลนกลางสะพาน (ไทยชิดซ้าย เมียนมาชิดขวา)
jwomn2qe59sv
บรรยากาศแม่น้ำเมย (ภาษาพม่า แม่น้ำต่าวยิ่น) พรมแดนไทย-เมียนมา

          เมื่อเราถึงด่านฝั่งเมียนมา จะมีการประทับตราบนหนังสือ เสียเวลาเล็กน้อย เมื่อพ้นจากตรงนี้ไปแล้วจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมอีกคนละ 20 บาท ถ้าใครไม่อยากเสียเงิน ขอให้เดินผ่านตรงนี้ไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรวดเร็ว (ถ้าไม่ถูกจับได้ซะก่อนนะ)

p5yqvkyjblqk
ฝั่งเมียนมาก็คึกคักไม่แพ้ฝั่งไทย
3epawc0m8vx9
บริเวณหน้าด่าน สะพานมิตรภาพฯ ฝั่งเมียนมา

          เมื่อผ่านพ้นด่านมาแล้ว ยินดีด้วย คุณได้เดินทางมายังต่างประเทศแล้ว! บริเวณนี้จะมีบริการแลกเงินเรียงรายตลอดสองข้างทาง ควรแลกไปใช้แต่พอดี อันที่จริงแล้วเราสามารถใช้เงินบาทได้ แต่แนะนำให้แลกดีกว่า เพื่อความสะดวกและความแนบเนียน จากนั้นผมก็เดินหารถเช่าแถว ๆ นี้แหละ คนขับรถพูดภาษาไทยได้ ต่อรองราคาได้ บริการดี ตามใจลูกค้าสุด ๆ

35rgzj0wyh1b
รถเช่าฝั่งเมียนมาจะเป็นรถประมาณนี้ กว้างขวาง แอร์เย็นฉ่ำ

          โดยปกติผู้ชายชาวเมียนมาจะนุ่งโสร่ง ส่วนผู้หญิงจะนุ่งผ้าถุง ผมก็เลยปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อความแนบเนียนสมจริง ขอแนะนำก่อนว่า ชาวเมียนมาที่ทำมาหากินบริเวณหน้าด่านจะสื่อสารภาษาไทยได้ แต่ถ้าออกไปจากบริเวณนี้ก็ต้องภาษาพม่าเท่านั้น

o4zdx6a8u8cd
เลือกโสร่งและผ้าถุงตามลายที่ถูกใจ
loc2zn7apda1
แต้มทานาคานิดหน่อย เพื่อความแนบเนียน
770dqptsc90v
ทานาคาที่ฝนจากเปลือกไม้ ของแท้แน่นอน

          เมื่อทุกคนปลอมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางได้โดยคนขับรถจะพาเราไปเที่ยวประมาณ 4-5 วัดเป็นอันจบทริป แต่ถ้าใครอยากไปที่ไหนเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามได้ (ภายในรัศมี 10 กม. จากสะพานมิตรภาพฯ)

          วัดแรกที่เราไปถึงคือ วัดชเว-มยิ่นหวุ่น (Shwe Myin Wun Pagoda) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อวัดเจดีย์ทอง เป็นวัดที่มีเจดีย์สีทองอร่ามซึ่งได้จำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองอันเลื่องชื่อ วัดนี้ประกอบด้วยจตุรมุขทั้งสี่ด้าน แต่ละด้านจะประดิษฐานพระประธาน และมีพระพุทธรูปน้อยใหญ่มากมาย ตรงกลางจตุรมุขจะเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทองขนาดใหญ่ พื้นปูด้วยกระเบื้องบวกกับอากาศอันร้อนระอุอาจจะทำให้กลายเป็น ผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดิน ภายในไม่กี่วินาที

v9qp9vijws4j
หนึ่งในสี่จตุรมุขของวัด ประดับด้วยสิงห์คู่อันเป็นเอกลักษณ์ของวัดพม่า
fh05fstoredw
เจดีย์ทองตั้งเด่นเป็นสง่ากลางเมือง
f2reay4m1k2a
เจดีย์สูงใหญ่สไตล์พม่า
zdurhv8d9j2x
พระประธานในจตุรมุขทิศตะวันออก
ic9u6ww31hva
พระประธานในจตุรมุขทิศเหนือ
2n5e3py10tis
พระประธานในจตุรมุขทิศใต้
ees4c4jecln6
วิหารภายในวัดประดับด้วยแผ่นทองลวดลายสวยงาม
7rzyu14ndvbj
วิหารหลังคาเจ็ดชั้น เอกลักษณ์อันโดดเด่นของศิลปะพม่า

          ทุก ๆ สถานที่มักจะมีมุมยอดฮิต วัดนี้ก็เช่นกัน ใครที่ได้มาเยือนมักจะมาถ่ายรูปที่มุมนี้ เพราะว่าจะเห็นเจดีย์เต็มองค์และไม่ย้อนแสง

2n0g2dd8lgno
นางแบบโพสต์ท่าในวัดแหละ
o2wzjw11avmo
นายแบบในกิริยาสำรวม
jchv1r4o95ot
ผิวพม่านัยน์ตาแขก เป็นความงามฉบับสาวเมียนมา (แต่นางแบบเราเป็นคนไทย?)

          ก่อนเดินทางต่อ ผมประหลาดใจกับแตงโมเมียนมาลูกใหญ่ไซส์เบ้อเร่อ จึงขอหอบกลับมาอวดคนที่บ้านสักลูก แตงโมมีหลายขนาด หลายราคา แต่ไม่เกินลูกละ 200 บาท และไม่ต้องคาดหวังกับรสชาติมากนัก เพราะค่อนข้างจืด ซื้อมาถ่ายรูปลงโซเชียลก็พอ

rnfbbkuhit95
แตงโมลูกใหญ่กว่าเด็กทารกซะอีก
opcfsybzk0sx
เขตอภัยทานข้างวัด

          วัดต่อมาชื่อ วัดมิจาวน์โกง (Mi Chaung Gone Pagoda) เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงอีกวัดหนึ่งเนื่องจากมีอุโบสถอยู่บนหลังรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ เราสามารถเดินเข้าชมภายในอุโบสถได้โดยเดินเข้าประตูซึ่งอยู่ปลายหางของจระเข้ นอกจากนี้ยังมีวิหารที่แสดงพุทธประวัติตอนที่พุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ระเบียงโดยรอบมีประติมากรรมแสดงพุทธประวัติที่จัดแสดงภายในตู้กระจก

4y0eomybng1p
อุโบสถบนหลังรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่
27qcyci8fczw
ด้านหน้าของรูปปั้นจระเข้
by5a2r33pp73
อีกมุมหนึ่งของรูปปั้นจระเข้
tdb11mfkt4o3
ประติมากรรมแสดงพุทธประวัติตอนพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
1yjqn9dqxw40
ระเบียงที่จัดแสดงพุทธประประวัติ
pvtqmry1w50s
ตัวอย่างประติมากรรมแสดงพุทธประวัติ
sbt78sq2xort
ตัวอย่างประติมากรรมแสดงพุทธประวัติ
nth4gg6qd5au
ระเบียงวิหารและเสาอโศกทางด้านซ้าย

          อีกวัดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ วัดดี่ตานอ่าว (Di Tan Aung Pagoda) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ วัดอธิษฐาน เป็นวัดที่ตั้งอยู่เนินเขา ไฮไลต์ของวัดนี้คือ ทางด้านทิศตะวันออกมีจุดชมวิวที่มองเห็นทิวเขาฝั่งไทยได้ชัดเจน

4p65fk50p0dm
เจดีย์ขนาดใหญ่ภายในวัด
y29xf95aogrc
ประติมากรรมภายในวัด
q6lvcehwvvvj
จุดชมวิวของวัดที่มองเห็นเทือกเขาฝั่งไทย
66zpg3kfr1r7
ศิลปินหน้าวัด
3cmaqvhn6uip
ผลงานของศิลปิน

          วัดต่อมามีชื่อว่า วัดเจ้าก์โลงจี (Kyout Lone Gyi) แปลเป็นภาษาไทยว่า หินใหญ่ เนื่องจากในบริเวณวัดมีก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานของวัด (จำเรื่องราวไม่ได้) วัดนี้มีความน่าสนใจอีกอย่างคือ หอระฆังที่สูงตระหง่านเคียงคู่เจดีย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด และเราจะได้เห็นวิวเทือกเขาฝั่งเมียนมาอีกด้วย

x6p0vvsw8m59
วิหารของวัดมีเจดีย์ตั้งอยู่ด้านบน
aoce0mca9v9p
บริเวณโดยรอบเจดีย์
hczql8321214
พระประธานในวิหาร
o40oxp5gfvso
พระประธานระยะประชิด
g5h1ccingvga
ขอถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ด้านหลังเป็นบันไดหอระฆัง
g4n29afuecnw
จุดชมวิวบนหอระหัง
pykn40r0wbag
เทือกเขาในฝั่งเมียนมา
6zua00zd4sj6
อีกมุมหนึ่งของจุดชมวิว

          วัดต่อมาคือ วัดมอญ (Mon Monastery/The Great Standing Buddha) หรือในหมู่ชาวไทยรู้จักในชื่อ วัดมอญพระยืน เป็นวัดมอญวัดเดียวในเมียวดี (มอญกับพม่าคนละชนชาติกันนะครับ) จุดเด่นของวัดคือ มีพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่สูงตระหง่าน อีกทั้งยังมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้

ce1ya49cleg1
8wr2zrar19vm
h8qc9i04p7r1
z813792wcqaq

          วัดสุดท้ายชื่อว่า ชเวดาโก่งโป่งดู่ (Shwedagon Pong Du) เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นบนเนินเขา และเป็นอีกวัดหนึ่งที่จำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองเช่นกัน วิหารด้านบนเป็นโถงขนาดใหญ่ เงียบสงบและเย็นสบาย ต่างจากสภาพอากาศภายนอกที่ร้อนอบอ้าว  

sok8bnx42eaa
กว่าจะขึ้นไปถึงสวรรค์ก็ต้องออกแรงเดินนิดนึง
c9gs1s0ewv57
บริเวณหน้าเจดีย์
om6x69o7pizh
โพสท่าได้เล็กน้อย เพื่อความสำรวม
gdpm4xd3x6a7
พระประธานภายในวัด

          หลังจากที่กลับจากวัดสุดท้ายแล้ว พวกเราขอแวะกันที่ตลาดบ่ายิ่นหน่าว หรือที่คุ้นเคยในชื่อ ตลาดบุเรงนอง  (ฺBa Yin Naung market) เป็นตลาดที่น่าจะใหญ่ที่สุดของเมือง ลักษณะคล้ายกับตลาดแผงลอยที่มีทางเดินมืด ๆ แคบ ๆ (ไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศภายในตลาดมาฝาก) และสินค้าก็จะเป็นเหมือนตลาดทั่วไป มีปลาสด ปลาแห้ง เสื้อผ้า และของอุปโภคบริโภคที่เป็นแบรนด์ไทย เช่น เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์ซักผ้า เป็นต้น                    

1powlq90yce5
บริเวณหน้าตลาดบ่ายิ่นหน่าว

          นี่ก็คือทริปต่างประเทศที่ผมอยากแนะนำสำหรับมือใหม่นะครับ ระหว่างทางก็จะมีความประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมไม่ได้กล่าวถึง แต่รับรองว่า ถ้าใครมีโอกาสได้มาเยือนเมืองนี้จะได้รับความประทับใจแน่นอนครับ เรื่องเล่าของผมสำหรับทริปนี้ก็มีเพียงเท่านี้ เมื่อมนุษย์ควบคุมเชื้อโควิดได้แล้ว และเมื่อสถานการณ์ในเมียนมาสงบลงแล้ว ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัส เมียวดีด้วยกันนะครับ รับรองว่าคุณจะต้องหลงไหลเมืองนี้อย่างแน่นอน

1jk0a1vfs7jo


ความคิดเห็น