ขอต้อนรับเข้าสู่ ปุยฝ้ายลูกอ่อนตะลอนทัวร์ วันนี้เสนอตอน
"ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ชิมของอร่อย ณ ตลาดน้ำลาวเวียง จ.สระบุรี"
เป็นอีกทริปที่มาแบบไม่ตั้งตัว(ประจำเล้ยยย) มื้อเที่ยงเรากลับจากโบสถ์วันอาทิตย์ก็บอกกับแม่และแฟนว่าจะพาไปกินมื้อเที่ยง
โดยทีแรกไม่บอกว่าจะไปที่ไหน ก็ไม่มีใครยอมไปกับเราวุ้ย สุดท้ายต้องบอก อะๆๆ ก็ยอมขึ้นรถกันมาแต่โดยดี
~~~~~ ไปค่ะะะะ ออกเดินทางกันโลดดดดด ~~~~~
จากตัวเมือง มุ่งหน้าสู่อ.เสาไห้ ผ่านตัวอำเภอไปเรื่อยๆ จะเจอทางเข้าวัดตะเฆ่อยู่ขวามือ
เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ เจอตลาดน้ำแน่นอนจ้า
ภาพบรรยากาศข้างทางตรงทางเข้าค่ะ ยังมีวิวสวยๆ ธรรมชาติดีๆให้มาสัมผัสอยู่เด้อ
โชคดีที่วันนี้ฟ้าสวยงดงาม แต่มองดีๆ เมฆฝนกำลังเริ่มก่อตัวค่ะ (เย็นวันนั้นฝนตกหนักเสียด้วย)
เอี๊ยดดดดด~~~~เลี้ยวรถเข้ามาเลยจ้าาา ที่จอดรถร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ไม่ต้องกลัวรถร้อนนะคะ ระวังขี้นกเป็นพอ
จอดรถเรียบร้อย พร้อมลุยค่าาา เราคาดหวังมื้อเที่ยงวันนี้ของเรากันมั่กๆ
ลงจากรถมามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวตลาด เราคิดว่ามันต้องใหญ่มากแน่ๆ ป๊าดดดโธ่ ร้านค้ามี2แถว และขอใช้คำว่า"กระหย่อมกระแหย่ม"
เราคาดหวังว่าวันอาทิตย์คึกคักแน่นอน แถมเราหาข้อมูลจากในเว็บมาก่อนว่า เปิด 10.00-20.00 น. เราไปตอนบ่ายโมงน่าจะยังมีอาหาร หรือร้านค้าขายเยอะแยะอยู่ คดีพลิกจ้ะ ร้านค้ากำลังทยอยเก็บ ไหงเป็นงั้นไป สอบถามแม่ค้าว่าปกติปิดกี่โมง บ่ายสามบ่ายสี่ก็เก็บกันแล้ว เอ้า ไหนเว็บบอกปิด 2 ทุ่ม แต่หยวนๆ ช่วงนี้ฝนตก ใครจะมานั่งตบยุงถึง 2 ทุ่มเนอะ
ที่นี่เป็นตลาดสไตล์ชาวบ้านค่ะ มีผักสดที่ปลูกเองมาขาย ยอดอ่อนๆทั้งนั้นเลย ราคามิตรภาพมากนะคะขอบอก กำละ 5 บาท ซื้อเยอะมีแถมด้วย บางร้าน 3 กำ 10 บาท โอ้ย ยอมใจไปเลย ใครชอบกินผักแนะนำติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้จ้า
มีทั้งผัก ทั้งผลไม้ ผลไม้ขึ้นชื่อของแถบเสาไห้หนองแซงก็ต้องเป็น มะม่วงหนองแซงค่ะ
รสชาดมันๆ จิ้มน้ำปลาหวานนะ บอกเลยว่า
แซ่บบบบบบลืมมมม
หน้าตามะม่วงที่ชาวบ้านซอยจากต้นที่บ้าน ปลูกกันเอง ขายกันเอง กินกันเอง ปลอดสารพิษ สไตล์บ้านๆจริงๆ
เนื่องจากเรามาแล้วพบว่าร้านรวงเขาทยอยปิดกันอยู่ เราเลยเดินมาหาเอาอะไรที่มันมีให้เรากินและเรากินได้ โดยเริ่มจากของคาวก่อนค่ะ ขอของหนักท้องก่อนเลย เราเลือกร้านนี้ค่ะ มีไส้กรอกหมูและขนมจีนน้ำยาสูตรลาวเวียง ถามว่าแตกต่างกับสูตรทั่วไปมั้ย บอกเลยว่า "ไม่" ฮ่าๆๆๆๆ แต่ด้วยความหิว อะไรก็อร่อยค่ะ
ขอนำเสนอเลยค่ะ ไส้กรอกหมู แฟนเราถามป้าคนขายว่า แบบไส้กรอกอีสานใช่มั้ย ป้าเงียบแบบสตั้นไป 3 วิ
เราเลยขยายความว่า แบบเป็นวุ้นเส้นหรือข้าวคะ (ไส้กรอกอีสานส่วนมากจะมีข้าวด้วย)
ป้าตอบว่า ไม่มีลูก ไส้หรอกหมู เราก็ อ่ออค่ะๆๆๆ แต่ป้ายืนยันว่าอร่อยนะๆ ไม้ละ 15 เอง ตอนแรกซื้อไม้เดียว ป้าให้มะนาวมาซีกใหญ่มากกกก ด้วยความที่กินเปรี้ยวแบบเว่อๆ ติดใจค่ะ อร่อยมาก 15 บาทเอง สุดท้ายให้แฟนไปถอยมาเพิ่มอีก
(ป้ามีเทคนิค ย่างทีละน้อยๆ เราก็นึกว่าเหลือไม่กี่ไม้เลยช่วยเหมา พอเราเหมาเสร็จ แกหยิบอันใหม่มาบ่างต่อ โธ่ป้า)
ต่อกันที่อีกเมนู ยังคงสไตล์อีสาน ก็ที่นี่ลาวเวียงนี่คะ ก็ต้องกินอาหารอีสานสิเนอะ บอกป้าคนขายว่าเอาไม่เผ็ด เน้นเปรี้ยวหวาน
ป้าก็บอกว่า 2 เม็ดพอนะลูก เราก็ค่ะ (เป็นพริกแห้งค่ะ 2 เม็ดใหญ่ๆ) เออ 2 เม็ดเอง ไม่เผ็ดหรอก คำแรกคำเดียว รู้เรื่องจ้าาาา
จมูกแดงยิ่งกว่ากางเกงในซูปเปอร์แมนอีกค่ะ แต่อร่อยนะ น้ำส้มตำเปรี้ยวๆหวานๆ คือถ้ามีข้าวเหนียวมาจุ่มๆกินหน่อย แซ่บบบ!
ยายกับหลาน ระหว่างรอป๊ากับม๊าหม่ำๆอย่างองค์ลง โดยเฉพาะม๊าค่ะ เผ็ดแค่ไหนก็หมด
โปรดสังเกตของกินบนโต๊ะค่ะ ฟาดเรียบบบบ เห็นน้ำแก้วใหญ่ๆเท่าถังน้อยๆมั้ยคะ
นั่นแก้วละ 25 บาทเองนะ แต่ปริมาณคับกล่องเต็มแก้ว ดื่มได้ดื่มดี ดื่มน้ำกระเจี๊ยบบบบบ 25 บาท (เอ๊ะ ทำนองคุ้นๆ)
อากาศร้อนและหิวมากค่ะ ไม่ได้ถ่ายตอนมันเต็มแก้วสวยๆมา เกรงใจแฟน จะกินจะมัวมาถ่าย ฮ่าๆ เดี๋ยวโดนเขาบ่น
น้ำมีหลากหลายให้เลือกดื่มนะคะ อัญชัน เก๊กฮวย มะพร้าว ฝรั่ง เสาวรส มัลเบอร์รี่ กระเจี๊ยบ นมข้าวโพด ฯลฯ
ระหว่างนั่งกินไป ก็มีเจ้าหน้าที่ประจำตลาดมานั่งคอยอำนวยความสะดวก เก็บกวาดอาหารที่เราทำตกพื้นให้ค่ะ บริการดีจริงๆ
หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเองมาก ฮ่าๆ ทำหน้าเข้ากล้องแบบมุ้งมิ้ง เห็นมั้ยคะ ขยิบตา แลบลิ้น ขาดปากจู๋ๆนะ แบ๊วเลย
มาชมบรรยากาศที่นี่กันจ้า ที่นี่จะมีแพให้บริการนักท่องเที่ยว นั่งทานอาหารริมแม่น้ำป่าสัก ขอบอกว่าบรรยากาศดี ลมโกรกสบาย
แพมีทั้งด้านบนและด้านล่าง เรานั่งด้านบนค่ะ กลัวน้องแบ่งปันซนจนตกน้ำ เผลอแปปเดียววิ่งไปนั่นไปนี่ ไม่รู้อัพ agi มาเท่าไร
ที่นี่ยังมีผักตบชวาที่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นกันแล้ว เพราะเทศบาลเอย หรือตามกทม.เขาเก็บไปหมดละ
ใครอยากมาสัมผัสธรรมชาติ เรียนเชิญนะคะ สระบุรี ไม่ไกลกรุงเทพฯเลย
สาเหตุที่เรียกว่า ลาวเวียง เนื่องจากชุมชนแถวนี้ ดั้งเดิมคือคนลาวจากเวียงจันทร์ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในสระบุรีค่ะ อาณาเขตของชาวลาวเวียง ลาวญวณ กินพื้นที่ในเขต อ.หนองแซง และอ.เสาไห้ เสียส่วนมาก แถบนี้จึงมีลักษณะวัฒนธรรมประเพณีแบบชาวลาวเวียงจันทร์ดั้งเดิม ที่นี่ช่วงเที่ยงมีการแสดงด้วยนะคะ เป็นการแสดงของทางเหนือ พวกรำ ฟ้อนเล็บ ประมาณนั้นค่ะ แต่เรามาไม่ทันหรือวันนี้ไม่มีไม่รู้นะ ดูเงียบเหงา ไม่เท่าตลาดน้ำต้นตาล (ไว้คราวหลังจะพาไปตลาดน้ำต้นตาลจ้า) การแสดงส่วนมากจะเป็นเด็กนักเรียนจากรร.เสาไห้วิมลฯ (รร.ประจำอ.เสาไห้)
อิ่มแล้ว ขอเก็บภาพกันสักหน่อย สาวน้อยให้ความร่วมมือดีมาก
ป๊าบอกมุมเมื่อกี้ย้อนแสง เลยเปลี่ยนมุม มุมดีแต่ถ้านางแบบไม่สวย ภาพก็ไม่สวยนะคะ เฮ้ออออ
อย่างที่บอกค่ะว่าที่นี่ธรรมชาติฝุดๆไปเลย ดูสิคะ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา จิ๋วๆนั่นไง เห็นกันมั้ยเอ่ย ใช่ปลาเสือรึเปล่า
ถ่ายกับป๊าบ้าง ลูกเล็กก็เที่ยวได้ค่ะ อย่าไปกลัว เราขอยืนยัน ดูสิคะ เด็กเขามีความสุข เห็นรอยยิ้มลูกแล้วก็ชื่นใจ
ได้แกล้งป๊า ยิ่งมีความสุขค่ะ ~~~~~~ โธ่ ลูกสาวววววว
ทางเดินภายในตลาดน้ำลาวเวียง เราได้ยินเสียงประกาศจากหัวหน้าชุมชน (เดาเอาว่าเป็นหัวหน้าชุมชน)
แจ้งข่าวเรื่องการทำพิธีเปิดขายอย่างเป็นทางการของตลาดน้ำ พร้อมบอกว่า ปีนี่เราทำพิธีมารอบที่ 3-4 แล้ว คนก็ยังมาน้อย
ยังไงก็ขอความร่วมมือร่วมใจกันของพ่อค้าแม่ค้าทุกคนนะครับ วันงานจะมีรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์มาเปิด บลาๆๆๆ
จากที่ฟังเราจับใจความได้ว่า ที่นี่เขาพยายามผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยชูเอกลักษณ์ความเป็นลาวเวียงขึ้นมา แต่คนไม่ค่อยรู้จัก (เฮ้ย แต่เรารู้จักที่นี่ครั้งแรกจากงานเที่ยวไทยที่เมืองทองธานีเลยนะ ไหงกลับว่าไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว) พอพ่อค้าแม่ค้าเยอะ นักท่องเที่ยวน้อย เขาก็ขายไม่ได้สุดท้ายพ่อค้าแม่ค้าก็หดหาย แต่พอนักท่องเที่ยวมาเยอะ แต่มาแล้วเจอแบบเรา ร้านทยอยปิด ของกินเหลือน้อยนิด นักท่องเที่ยวก็อาจจะไม่ประทับใจ สุดท้ายไม่มาอีก เลยหาจุดพอดีไม่ได้ เลยอยากฝากนะคะ ใครได้หลวมตัวมาอ่านรีวิวนี้ เชิญชวนไปอุดหนุนให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าชาวบ้านที่นี่กัน มีอาชีพ มีรายได้ แถมอนุรักษ์ความเป็นพื้นเมืองของคนแถบนี้ด้วยเนอะ ที่สำคัญ อาหารราคาถูก บรรยากาศดีจริงๆ คอนเฟิร์ม
ที่นี่เขาตกแต่งบรรยากาศแบบพื้นเมือง ชาวบ้าน ชนบทจริงๆ ร่มรื่น ลมโกรกสบาย มีเพลงชิวๆให้ฟัง มีอาหารโบราณ ขนมโบราณด้วยนะคะ ทองม้วนสด ข้าวเม่า สาคู ขนมรังผึ้ง หรือของฝากโอทอปอื่นๆก็มีให้เลือกซื้อจ้า
ที่ตลาดจะมีต้นสาละเยอะมาก เรียกว่าเรียงรายสองข้างทางของบริเวณตลาดเลยทีเดียว ต้นสูงใหญ่อุมดมสมบูรณ์ เดินตลาดไปชมดอกไม้สวยๆไป มีเสียงเพลงชิวๆ นกร้องบ้าง อื้อหือ หนีความวุ่นวายมานั่งโง่ๆที่นี่ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องไปถึงทะลงทะเล อะไรเลย
ขอเก็บภาพดอกสาละสวยๆมาฝากค่ะ เห็นมีผลเป็นลูกกลมๆอย่างกะมะพร้าว ถามแม่ค้าว่ากินได้มั้ย กินไม่ได้นะจ๊ะ แข๊งโป๊กกก
ความสวยงาม ย่อมมีวันโรยรา และกลับสู่พื้นดิน
อิ่มแล้ว ชมตลาดแล้ว ได้เวลามาเที่ยวชมวัดกันค่ะ ลูกสาวเริ่มหมดแรง เหนื่อยจนอยากจะงีบบ่ายละ
ใครอยากมา กลัวมาไม่ถูก จะเสริชในกูเกิลแมพว่า ตลาดน้ำลาวเวียง หรือ วัดตะเฆ่ ก็ได้จ้ะ ไม่หลงแน่นอน
เดินต่อมาอีกนิดเราจะพบกับซุ้มประวัติความเป็นมาของโบราณสถานที่วัดนี้ค่ะ ใครจะไปรู้ว่าที่สระบุรีก็มีโบราณสถานให้ชมนะเออ
จากเอกสารและคำบอกเล่าเชื่อว่าวัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาประมาณปี 2246 มีหลายชื่อเรียกตามความเชื่อค่ะ เช่น เชื่อว่าเชื้อพระวงศ์เป็นผู้สร้าง เลยเรียกชื่อเจย์ดีเก่าแก่ในภาพนี้ว่า ธรรมจินดามเหสี เลยได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดธรรมจินดา
บ้างก็ว่ากันว่าวัดนี้เดิมมมีตะเข้อยู่คู่หนึ่ง ต่อมาเลยเรียกวัดนี้ว่า วัดตะเฆ่ ซึ่ง ตะเข้หรือตะเฆ่ ในที่นี้หมายถึง แม่แรงหรือเครื่องทุ่นแรงชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับลากของหนัก (อ้าววว เรานึกว่าหมายถึงจระเข้ โธ่ ฮ่าๆๆ เชื่อว่าใครที่อ่านอยู่ก็คิดเหมือนเรา)
โบราณสถานในวัดตะเฆ่เป็นเจดีย์ทรงเครื่อง 2 องค์ ตั้งบนฐานไพที องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังที่มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบหก ส่วนอีกองค์เป็นแบบย่อมุมไม้สิบสอง และยังพบเจดีย์บริวารขนาดเล็กอยู่บนฐานไพทีเดียวกันอีก 7 องค์ และมีกำแพงแก้วล้อมรอบฐานไพที พบว่าลักษณะดังกล่าวนิยมสร้างในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยเฉพาะช่วงรัชกาลที่ 3
เจดีย์ธรรมจินดา โบราณสถานที่หาชมได้ในสระบุรี ส่วนตัวที่เป็นคนพื้นที่ ก็ไม่ค่อยรู้ว่าจริงๆแล้วบ้านเราก็มีสถานที่ประวัติศาสตร์ให้ศึกษานะคะ ไม่ได้ต้องไปไกลถึงอยุธยาเลย หากใครอยากศึกษาที่ใหม่ๆ แนะนำมากันได้ค่ะ อยุธยานี่ไปกันจนช้ำแล้ว มาค่ะ มาเที่ยวที่ใหม่ๆ เมืองเล็กๆที่น่าค้นหา เต็มไปด้วยความหลากหลายทางการท่องเที่ยว
หลังจากเที่ยวชมโบราณสถานเสร็จ ก็ขึ้นรถกลับบ้านค่ะ จากบ้านเรา (ตัวเมือง) มาถึงที่นี่ประมาณ 10 กิโลเมตรได้ค่ะ ใช้เวลาไม่นานจากตัวเมืองก็ถึงแล้ว รถไม่ติดให้วุ่นวายด้วย มาเที่ยวกันเยอะๆนะจ้ะ มาอุดหนุนชาวบ้านกันหน้อยเร้ววววว
(นี่รีวิวไป ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรเลย ฮ่าๆ หน่วยงานท้องถิ่นพบเจอ มาให้ค่าโฆษณาหนูที อิอิ)
ขอลาไปด้วยภาพนี้นะคะ แล้วเจอกันทริปหน้า จะพาไปไหนในสระบุรี รอติดตามกันนะจ้ะ
การเดินทาง
จากตัวเมืองมุ่งหน้าสู่อ.เสาไห้ แล้วขับรถตรงไปยาวๆเรื่อยๆ ประมาณ4-5 กิโล จะเจอวัดอยู่ทางขวามือจ้า มีป้ายบอกตลอดทางเมื่อมาถึงอ.เสาไห้เนอะ ไม่หลงแน่นอน หรือใครจะใช้กูเกิลแมพ เปิด GPS มาก็ได้ค่ะ อันนี้จากภาพเราตั้งต้นจุดให้ที่ศาลากลางจังหวัดค่ะ ตรงอย่างเดียวโลดดด (ดูที่เส้นสีฟ้าๆนะ อีเส้นสีเทาๆนั่นไม่เกี่ยว)
ข้อแนะนำ
ที่นี่เปิดเฉพาะ เสาร์- อาทิตย์ นะคะ และแนะนำว่าช่วงสายๆถึงเที่ยงค่ะ ของกินจะมีเยอะอยู่ ช่วงบ่ายต้นๆยังพอมี บ่ายแก่ๆมาช่วยเก็บร้านค่ะ เย็นๆเลยก็มาดูตลาดร้างจ้ะ นี่ก็พูดซะชัดเจนเห็นภาพเชียว เนื่องจากยังมีนักท่องเที่ยวไม่มาก เลยดูซบเซาไปพอสมควร ใครคิดจะมาเที่ยวเลยแนะนำตรงๆแบบไม่เข้าข้าง ไม่ได้ช่วยโปรโมตอะไรทั้งสิ้นว่า "อย่าคาดหวังกับที่นี่ค่ะ" ขอแค่คุณอยากมานั่งชิวๆ โง่ๆ นั่งแพรับลมสบายๆริมน้ำจิบน้ำและทานอาหารไปเรื่อยๆ ชมการแสดงไปด้วย แค่นั้น แนะนำมาที่นี่ค่ะ
ปล. เข้าไปพูดคุยทักทายฝ้ายกันได้ที่ https://www.facebook.com/puifaistudio/ นะคะ แล้วจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีก คอยติดตามกันจ้า
PuiFai Miniiz
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 02.12 น.