สกาด มองไปที่ปลายขอบฟ้า…
เวลาที่ได้นั่งมองไปที่สุดขอบฟ้า มีฉากหน้าเป็นภูเขาหลายลูกวางสลับกันไป ตอนเช้าจะมีหมอกไหลมาไหลไป ไหลมาไหลไป ตามช่องว่างระหว่างเขาชุดหน้าชุดหลัง ส่วนเวลาใกล้ค่ำ ก็รอชมแสงสุดท้ายที่ปลายฟ้า แม้ว่าจะไม่ได้เหลี่ยมมุมที่สามารถมองเห็นอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่แสงสีแสด สีแดง สีส้ม สีม่วง สีน้ำเงินเข้ม ค่อยๆเพิ่มระดับความเข้มจนมืดมิดสนิทใจ ที่ปลายขอบฟ้า ก็มีความงามที่มากมายเหลือเกินแล้ว และที่สุดของสุดจริงๆ คือการนั่งชมดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า นี่แหละเด็ดจริง ที่เล่าความมา เราจะเห็นมันได้ที่หลังบ้านเราเองเลย บ้านหลังนั้นอยู่ที่ สกาด….
ชมบรรยากาศสวยๆ https://youtu.be/gI7qIiDcvgw ก่อนไปกันต่อ….
เรื่องราวที่ สกาด เป็นส่วนๆเพิ่มขยาย จากการเดินทางออกจาก สะปัน เป็นแพลนการท่องเที่ยวของคนบ้าเขา บ้าโค้ง งั้นขอเล่าต่อจากกาลครั้ง สะปัน เลยนะ…เรื่องราวของสะปันย้อนไปอ่านได้ที่นี่…. https://th.readme.me/p/39154
ออกจากสะปันแวะกินข้าวเที่ยงกว่าๆที่อำเภอบ่อเกลือ จากบ่อเกลือ ต้องไปอำเภอปัว จากปัวขึ้นเขาไปอีกนิดก็จะถึง สกาด…
เหมือนเดิม ขึ้นลง ขึ้นลง เลี้ยวโค้งซ้าย เลี้ยวโค้งขวา ขึ้นลง ขึ้นลง สลับกันไป แต่ใช้เวลาน้อยกว่า น่านมาสะปัน ระยะทางน่าจะใกล้กว่า แต่เส้นทางขึ้นสุดลงสุดโค้งสุด ไม่แพ้กันเลยทีเดียว ประมาณบ่ายสามโมงนิดๆ เรามาถึงแล้ว สกาด….
คืนนี้เรานอนที่ น้องธันวาโฮมสเตย์ มาถึงแล้วก็นอนพักแป๊บ อากาศมันยังไม่ได้เท่าไหร่ ยังร้อนอยู่ รอช่วงเย็นจะออกไปเดินเล่น อธิบายความ สกาด นิดนึง จุดดีจุดเด่นของสกาดน่าจะเป็นเรื่องของ การหลงไหลได้ปลื้มกับการชื่นชม อภิมหาวิวภูเขาที่มากมายกับปลายขอบฟ้า พักได้ชั่วโมงไปเดินเที่ยวดีกว่า เค้าบอกสกาดคอฟฟี่วิวดี ไปดูกัน…
welcome drink ชากุหลาบรสชาติดีมากๆ จากบ้านน้องธันวาโฮมสเตย์…
ออกจากบ้านพักเดินลงเนินไปประมาณ หกร้อยเมตรถึงแล้ว สกาดคอฟฟี่ บรรยากาศดีจริงๆ ที่สกาดไม่ว่าจะเป็น บ้านพัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ใช้วิวเดียวกันหมด แล้วแต่ว่าจะจัดให้เข้ามุมไหน และไม่ว่าจะมุมไหน งามหยดสะกดใจทุกมุมมอง
เดินเพลินเพลิน แป๊บเดียวถึงแล้ว สกาดคอฟฟี่…
ห้าโมงคือเวลาร้านปิด เรานั่งเพลินเพลินไปเกือบห้าโมงครึ่ง ยังไม่มีใครมาไล่ออกจากร้าน งั้นออกเองก็ได้ เดินกลับที่พัก อืมมมม ขากลับทำไมมันเหนื่อยน๊อออ…
ถึงบ้านพักก็มีสำหรับอาหารจัดรอไว้แล้ว ดีจริงๆกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศแห่งขุนเขา จัดอาหารเย็นเรียบร้อย อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ได้เวลาเตรียมตัวนอนดูดาว….
เมนูมื้อเย็น อร่อยสุด…
การเที่ยวในแต่ละครั้งมักจะไม่สุขสมหวังไปทุกเรื่อง ค่ำคืนนี้ จากความตั้งใจจะดูดาว ถ่ายภาพดาว จิบชาอุ่นๆ ในอุณหภูมิต่ำๆ ทุ่มก็แล้ว สองทุ่มก็แล้ว จิบจนชาไม่อุ่นแล้ว ดาวมันก็มาแบบแว๊บๆ คือ คืนนี้เมฆเยอะมาก เหมือนฝนจะตกแต่ไม่ตก จบข่าวดาวระยับ เข้านอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาดูหมอกแทน…
ตั้งนาฬิกาปลุกตีห้าครึ่ง แต่ก็ตื่นมาก่อนมองมานอกหน้าต่างยังมืดอยู่เลยนอนต่อดีกว่า เกือบหกโมงเช้า แสงแรกของวันก็มา วันนี้ฟ้าใส มีเมฆบ้างนิดหน่อย อุณหภูมิเย็นสบายตัว อาหารเช้าพร้อมมาก แล้วจะยังไงล่ะ ก็กินมันทั้งมื้อเช้าทั้งบรรยากาศ เอาให้อิ่มให้คุ้มค่า…
เพลิดเพลินเจริญอาหารและสายตากับบรรยากาศตอนเช้า…
เพลินต่อกันไปยาวๆ…..
สายหน่อยก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ สถานีต่อไป จังหวัดน่าน ก่อนเข้าน่าน ขอแวะเที่ยวเมืองปัวก่อน เค้าบอกที่นี่ก็มีหลายสถานที่ที่น่าไปเยือน…
ออกจาก น้องธันวาโฮมสเตย์ ได้ประมาณสองอึดใจ เห็นคาเฟ่อะไรสว่างว๊าบอยู่ริมผา แวะเลยดีกว่า คือ ยังไม่พ้นจากเขตสกาดเลย ม่อนสกาด ชื่อดีน่าสนใจ แต่ที่น่าสนใจกว่ามากคือ ทุกอณูสัมผัสที่นี่บอกเลยว่า โคตรเยี่ยม บรรยายให้ฟังแบบภาคแยก เรื่องม่อนสกาดทีเดียวเลย อย่าลืมตามไปดูกันนะ…
ม่อนสกาดดีงามตามท้องเรื่อง https://th.readme.me/p/39074
บินข้ามมาลงที่ปัวเลย เมืองปัวมีที่เที่ยวน่าสนใจอยู่หลายแห่ง แต่ที่น่าแปลกใจให้สงสัยว่าทำไมวัดนี้มาอยู่ที่ปัวได้ ต้องไปดูให้เห็นกะตา วัดภูเก็ต แต่อยู่ที่น่าน…สรุปว่า วัดนี้เป็นวัดของชุมชนชาวเก็ต แล้วมันอยู่บนภูเขา เลยเป็นการผสมคำ กลายเป็นชื่อวัดภูเก็ต จบความสงสัย จุดต้องชมของวัดภูเก็ต คือระเบียงด้านหลังวัดมีจดชมวิวทุ่งนา เสียดายช่วงเราไปเค้าเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว เลยได้ตามภาพที่เห็น
ออกจากวัดไปแวะกินข้าวซอยที่ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ที่นี่เค้ามีของที่ระลึกขาย พวกเสื้อผ้าทอ เยอะมากๆ มีจุดให้ถ่ายรูปเล่นเยอะมากๆด้วยไปชมกัน…
ต้องกลับเข้าน่านจริงๆแล้ว บ่ายกว่าๆ ออกจากเมืองปัว มุ่งหน้าเข้า จังหวัดน่าน คืนนี้นอนน่าน พักที่ ศรีนวลลอดจ์
ยังไม่จบไว้ไปต่อกันที่ ศรีนวลลอดจ์ ที่พักสุดชิลบรรยากาศเหมือนไปนอนบ้านเพื่อน ตามติดติดตามต่อ ภาคต่อไปเน้อ…
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 21.55 น.