รีวิวทริป 8 วัน 2,000 กิโล อีกแล้วคร้าบบบบบ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาวออฟฟิศก็คือต้องไปเที่ยวช่วงปีใหม่อะเนอะ (ก็วันหยุดยาวมีแค่ช่วงนี้อะ TT แงงง) และธรรมเนียมของเราก็คือทริปต้องยาวมากกว่า 1,500 กิโล เท่านั้น !! ก็ว่าไปนั่น 5555555555 (แต่จริงๆก็ 2,000 โล มาสองปีติดแล้วจ้า ไปเยี่ยมชมรีวิวเก่าๆได้นะคะ)
รอบนี้เป็นคิวของ พะเยา-น่าน นะเจ้า ไม่เคยพ้นภาคเหนือเลยจริงๆ หน้าหนาวก็ต้องเที่ยวเหนือสิเนอะ อิอิ เหตุเกิดจากว่าเราขับรถขึ้นไปถึงดอยเสมอมาแล้วครั้งนึงเมื่อปี 2560 แต่มันไม่มีที่กางเลย เพราะคนเยอะมาก !!! อิชั้นเลยต้องระเห็จตัวเองกลับลงมา ฝันสลายไปพร้อมกับทะเลหมอก TT ปีนี้เลยกลับมาแก้แค้นอีกครั้งค่ะ 555555555 แค้นฝังหุ่นมาก ต้องมานอนให้ได้ ก็เลยเป็นที่มาของทริปด้วยประการฉะนี้แล...เข้าเรื่องกันเถอะ (2 ย่อหน้าผ่านไปมรุงยังไม่เข้าเรื่องอีกหรอฟร๊ะ 55555)
ทริปนี้เราเดินทางทั้งหมด 8 วันค่ะ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.64 ถึง 5 ม.ค.65 โดยเดินทางจากกทม – ศรีเทพ (แวะทำงาน) – แม่เมาะ – กว๊านพะเยา – ภูลังกา – สะปัน – ดอยเสมอดาว หลักๆที่เที่ยวเราประมาณนี้ค่ะ โดยเราแวะทำงานที่ศรีเทพก่อน 2 วันแรก และเริ่มเดินทางเที่ยวจริงๆคือวันที่ 31 ม.ค. 64 ค่ะ เพราะงั้นจะขอตัดแพลนออกมาเป็นแบบนี้จ้า
เริ่มออกเดินทางกันเลยค้า
Day 0 : 30 ธ.ค. 64
เราเสร็จงานออกเดินทางจากศรีเทพประมาณ 16.00 น. ถึงที่พักแม่เมาะประมาณ 22.00 น. ค่ะ เข้านอนรอไปเที่ยวพรุ่งนี้เช้า ^^
Day 1 : 31 ธ.ค. 64
เริ่มเที่ยวที่แรกที่ “การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ” จริงๆตั้งใจจะมาถ่ายรูปกับดอกบัวตอง แต่คือน้องไม่อยู่แล้ว แงง หมดฤดูของน้องแล้วค่ะ เราก็เลยเดินเที่ยวบริเวณสวนพฤกษชาติเหมืองแม่เมาะ (ศาลาชมวิว) ซึ่งมีจุดชมวิวยื่นออกไปแบบนี้เลยค่ะ
จุดที่ 2 เราขับรถมาต่อที่ “เขื่อนแม่ขาม” อยู่บริเวณเดียวกับการไฟฟ้าแม่เมาะเลย บรรยากาศดีม๊ากกกกกก วิวสวยสุดๆค่ะ
ไปต่อกันที่กิจกรรมแอดเวนเจอร์ขึ้นมาหน่อย คือการไปพายเรือที่ “ผาหอบ” จะบอกว่ามันดีเกินคาดมากกกกก Unseen สุดๆค่ะ และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก วันที่ไปคนน้อยมากค่ะ ขนาดว่าเป็นช่วงวันหยุด แต่แอบกระซิบว่าเรือมีน้อยมาก อาจต้องรอคิวนานนิดนึงนะคะ โดยระยะทางที่พายไปไม่ไกลมากค่ะ พายชิลๆในธารน้ำไปเรื่อยๆ ดีมากจริงๆ
ออกจากผาหอบช่วงบ่ายๆ มุ่งหน้าไป “กว๊านพะเยา” ค่ะ โดยคืนแรกจะพักกันที่นี่ และ countdown กันที่ร้านเหล้าสักร้านตามสไตล์คนขี้เมาค่ะ 55555 โดยตอนที่เราไปถึงเป็นเวลาพระอาทิตย์ตกพอดีเลย สวยมากๆค่ะ
ปิดท้ายคืนสุดท้ายของปีด้วยภาพของเหล่าคนขี้เมาค่ะ 555555 สวัสดีปีใหม่เจ้า
Day 2 : 1 ม.ค. 65
วันนี้เราจะไป “ภูลังกา” กันค่ะ โดยวันนี้จะนอนเต๊นท์ที่ลานกางเต๊นท์ภูซัน ค่ากางคนละ 150 บาท มาถึงแล้วก็จัดแจงเลือกพื้นที่กางเต๊นท์กันก่อนค่ะ
หลังจากกางเต๊นท์เสร็จแล้วเราจะออกไปเที่ยว “อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน” กันค่ะ ขับรถไม่ไกลจากลานกางเต๊นท์เลย โดยจุดที่เราไปจะเป็น “น้ำตกผาธาร” แต่ช่วงนี้ไม่มีน้ำเลยค่ะ เลยได้ถ่ายรูปกับหินแทน แหะๆ
เดินลงมาจากน้ำตกไป “ถ้ำทอง” กันค่ะ
ภายในถ้ำคือสวยมากค่ะ มีความระยิบระยับเป็นสีทองๆสมชื่อเลยค่ะ ใครจะมาควรมีไฟฉายหรือแฟลชนะคะ ข้างในมืดมากกกก และอากาศน้อยนิดนึงค่ะ ไม่เหมาะกับคนที่กลัวที่แคบนะคะ
ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ของวันนี้ค่ะ “ยอดภูลังกา” ขึ้นรถได้ที่ “วนอุทยานภูลังกา” นะคะ (คนละที่กับ อช.ถ้ำสะเกินเด้อ) โดยจะเป็นรถกระบะของชาวบ้านค่ะ คนละ 200 หรือ เหมาคันละ 1000 (รถเก๋ง/รถกระบะธรรมดาไม่แนะนำนะคะ เพราะทางชันมาก และคดเคี้ยวค่ะ) พร้อมแล้วก็โดดขึ้นรถกันเล้ยยยย
ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ขึ้นมาถึงค่ะ มันโยกเยกมากกกกก ต้องเกาะดีๆเลย แต่สนุกมากค่ะ 555555555
เราขึ้นมาถึงแค่ “ดอยภูนม” ไม่ได้ขึ้นไปถึงยอดภูลังกานะคะ เพราะว่าเรามาช้าไปหน่อยค่ะ ถ้าเดินไปที่ยอดภูลังกาจะไม่ทันพระอาทิตย์ตก เลยตัดช่องน้อยที่จุดนี้พอค่ะ แหะๆ คือแค่นี้ก็สวยมากแล้วววว ยอดภูลังกาต้องยิ่งสวยมากๆแน่เลย ใครเคยขึ้นไปแล้วเอาภาพมาอวดกันบ้างนะคะ อยากไปบ้าง TT แต่ภูนมก็สวยไม่แพ้กันนะคะ
มันสูงมากกกกกกกก แต่เสียดาย ฝุ่นแอบเยอะไปหน่อยค่ะ ภูเขาเลยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ก็สวยมากๆ ไว้รอบหน้าจะมาแก้ตัวอีกที อิอิ
ได้เวลาลงจากดอยแล้วจ้า
Day 3 : 2 ม.ค. 65
อรุณสวัสดิ์ด้วยวิวของ “ผาช้างน้อย” กันคร้าบ วิวจากเต๊นท์เราเอง สวยมากๆค่ะ แต่วันนี้ไม่ค่อยมีหมอกเท่าไหร่
ออกเดินทางไปสะปันกันค่ะวันนี้ แต่ระหว่างทางขอแวะชักภาพสักหน่อย เพราะวิวถนนมันคูลมากเลยอะ
และเราก็มาถึง “หมู่บ้านสะปัน” อากาศดีมากกกก วิวสวยมากกกกก เป็นหมู่บ้านที่น่ารักมากจริงๆค่ะ ช่วงที่ไปคนไม่เยอะด้วย แต่ก็คึกคัก ไม่เหงาดีค่ะ
ตกเย็นก็ต้องหมูกระทะตามธรรมเนียมสิคร้า แต่เกลี้ยงแล้วนะคะ เพราะหิวมากไม่มีกะจิตกะใจจะถ่ายแล้ว 5555555
**จริงๆวันนี้ตามแพลนคือต้องไปบ้านสะเกี้ยงด้วยค่ะ แต่เนื่องจากว่าคนขับรถข้าพเจ้าประเมินแล้วว่ารถอิชั้นไม่น่าขึ้นไปถึง เลยขอข้ามไปก่อน อดไปตามระเบียบ ไว้รอบหน้าจะมาใหม่ !!
Day 4 : 3 ม.ค. 65
เช้านี้ทานอาหารของโรงแรมกันค่ะ หมอกลงหนามาก วิวจากหน้าห้องติดลำธารเลย น่ารักที่สุด
มาต่อกันที่จุดชมวิว “หยุดเวลา คาเฟ่” จุดนี้จะเห็นหมู่บ้านสะปันจากมุมสูงเลยค่ะ (ของจริงวิว 180 องศา สวยมากค่ะ)
โค้งหมายเลข 3 ยอดฮิตเราก็มาแล้วน้า คนแอบเยอะ ต้องหามุมถ่ายดีๆค่ะ
ปิดท้ายวันนี้ด้วย “วัดภูมินทร์” กับภาพเขียน “กระซิบรักบรรลือโลก” ในตัวเมืองน่านค่ะ
Day 5 : 4 ม.ค. 65
เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ กับจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจจะมาล้างแค้น นั่นก็ครือออ “ดอยเสมอดาว” ความดีงามของการมาท้ายเทศกาลก็คือคนไม่เยอะเลยค่ะ กำลังดีเลย ไม่วุ่นวาย แต่ก็ไม่เหงา วิวดีมากค่ะทุกคน ฮรือออ สมการรอคอยจริงๆ วิวพระอาทิตย์ขึ้นคือสุดดดด เห็นทะเลหมอกข้างล่างนั่นมั้ยคะ สุดจริงง
Day 6 : 5 ม.ค. 65
ได้เวลากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ต้องเดินทางกลับแล้วค่า แงงง ยังไม่อยากกลับเลย เป็นโรคซึมเศร้าหลังเที่ยวทุกปี 55555 แต่ชีวิตก็ต้องเป็นไปค่ะ
ระหว่างทางกลับบ้านผ่านนครสวรรค์ เลยแวะ “พาสาน” สักหน่อยค่ะ เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครสวรรค์เลย อยู่ติดริมแม่น้ำ วิวพระอาทิตย์ตกอีกแล้ววว สวยมากกกก
ปิดท้ายด้วยค่าใช้จ่ายค่ะ
เราเก็บเงินกันมาสำหรับทริปนี้ คนละ 8,000 บาท (เก็บเดือนละ 2,000 มา 4 เดือน) ได้มา 16,000 บาทจ้า มาดูกันว่าหมดค่าอะไรไปบ้าง
- ค่าน้ำมัน 6,500 (2,000 โล)
- ค่าที่พัก 3,000
- ค่าอาหาร & ค่าดริ้งค์ 5,000
เหลือกลับบ้าน 1,500 นะจ๊ะ
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์แต่ละคนด้วยนะค้า มากน้อยแตกต่างกันไปค่ะ เราเป็นพวกสายกิจกรรมอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยเน้นเรื่องโรงแรมกับอาหารเท่าไหร่ คาเฟ่คือไม่มีเลย 55555 กินข้าวแกงบ้าง ก๋วยเตี๋ยวบ้าง ตามแต่จะหาได้ข้างทาง เพราะงั้นค่าใช้จ่ายเลยค่อนข้างถูกค่ะ
กล้องที่ใช้ เราใช้ Samsung S10+ ไม่แต่งสีใดๆค่ะ เราเห็นยังไงทุกคนจะได้เห็นยังงั้นเลย เรียลๆไปอีกจ้า
แถมแพลนการเดินทางอีกนิดค่ะ
เพื่อนๆสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมเลยนะคะ แพลนเราก็จะแน่นๆหน่อย แต่พอถึงหน้างาน เมาบ้าง ตื่นสายบ้าง ก็อาจไม่เป็นไปตามแพลนเป๊ะๆเท่าไหร่ค่ะ 55555555
สุดท้ายนี้ ขอบคุณคนขับรถส่วนตัวเช่นเคย ที่พาไปและพากลับอย่างปลอดภัยหายห่วง และดูแลข้าพเจ้าดีตลอดทริป ฮ่าๆ ไว้โอกาสหน้าจะพาไปเที่ยวไหนอีกติดตามกันได้นะจ๊ะ ทริปนี้ขอลาไปก่อนนนน สวัสดีค่า
GOwithMe_FreeBreakfast
วันพฤหัสที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 12.06 น.