สวัสดีค่ะทุกคนนนน..


หายไปนาน คันไม้คันมืออยากรีวิวทริปเที่ยวมากกก

จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสจัดกระเป๋าเดินทางซะที

ขอประเดิมกระทู้แรกของปี 2565 ปีเสือ โฮ่กๆ ด้วยการไปเที่ยวเจียงใหม่ แบบ 1 day trip ก่อนนะค้า

ที่จริง เรามาที่นี่ 2 วันค่ะ แต่วันแรกต้องเที่ยวคนเดียว เดินทางคนเดียว แบบไม่มีรถ

ทริป Lost in Chiang Mai ก็เลยต้องเริ่มต้นขึ้น เย้!!

คิดอยู่นานมากว่า จะไปไหนดีน้า..

จนในที่สุดก็ปักหมุดปลายทางไว้ที่ ดอยสุเทพค่ะ


ก่อนอื่น ขอเริ่มมื้อเช้าด้วยโจ๊กต้นพยอมก่อนเลยค่ะ

ร้านอยู่ที่กาดต้นพยอม

ตอนแรกกะจะรีบกิน รีบเดินทาง

แต่โจ๊กร้อนมากจ้าาา เป่าๆ ฟู่ๆ อยู่พักใหญ่เลย 555

รสชาตโอเคเลย มีเนื้อสัตว์ให้เลือกหลากหลายดีค่ะ

เสียดายมาคนเดียว กินเยอะไม่ไหว อดกินเต้าหู้ทอด T.T

หลังจากจัดการโจ๊กเสร็จ

เราก็เดินไปวัดสวนดอกกันต่อค่ะ ห่างจากร้านโจ๊กประมาณ 750 เมตร

อากาศดีๆ เดินเพลินมากกกก

เดินเข้ามาในวัด ก็สะดุดตาสวนด้านขวามือของวัดมาก

โทนสีขาว สะอาดตา รู้สึกสบายตา สบายใจมากค่ะ

บริเวณนี้เป็นกู่เจ้านายฝ่ายเหนือค่ะ

ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมพระอัฐิของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และพระประยูรญาติของเจ้าดารารัศมี

ความรู้สึกที่เดินเข้าไป สงบมาก โดยไม่รู้สึกว่าน่ากลัวเลยค่ะ

มองไปด้านหลัง จะเห็นพระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาสีทองสวยอร่าม

ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหาเถระสุมนได้อัญเชิญมาจากสุโขทัย

ถัดไปทางซ้ายมือ เป็นพระวิหารหลวง

มีพระพุทธปฏิมาค่าคิง เป็นพระประธาน

หลังจากที่เราเดินรอบวัดสวนดอก ก็โบกรถแดงไปคิวรถดอยสุเทพที่อยู่หน้าประตูมช. ต่อค่ะ

(คุณลุงรถแดงคิดค่ารถ 40 บาทค่ะ)

นั่งไปซักพักก็ถึงคิวรถแดงดอยสุเทพค่ะ

มีคนมานั่งรอก่อนเรา 1 คนถ้วน...

เลยต้องนั่งรออีกพักใหญ่ๆ จนมีคนมาเพิ่มอีก 6 คน

คุณลุงรถแดงก็พาเรามุ่งหน้าขึ้นไปบนดอยค่ะ

ค่ารถไปกลับ คนละ 200 บาท

โดยแวะเที่ยว 3 จุด คือ บ้านม้งดอยปุย พระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์ และวัดพระธาตุดอยสุเทพ

จุดละ 1 ชั่วโมงค่ะ

จุดที่ 1 บ้านม้งดอยปุย

พอเดินเข้าไป ก็เจอร้านขายของฝาก ของกินเรียงกันยาวๆ ค่ะ

สายของฝาก ช้อปปิ้งเพลินๆ ได้เลย

เดินขึ้นมาตามทางเรื่อยๆ ก็เจอป้ายบอกทางให้มาพิพิธภัณฑ์บ้านม้งดอยปุย

ค่าเข้าคนละ 10 บาท

ข้างใน มีการจัดแสดงของใช้ของชาวม้ง 1 ห้อง 

เดินไปด้านหลัง เป็นสวนดอกไม้ ไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆค่ะ

มีน้องบนดอยมาชวนถ่ายรูปแลกค่าขนม

ก็เลยได้รูปมาแบบไม่ตั้งใจ

มือพี่ชายบังหน้าน้องหมดเลย 555

มีสวนกาแฟอยู่ด้านบนค่ะ

มีลานกว้างๆ ให้นั่ง มองเห็นบรรยากาศมุมกว้าง รับอากาศดีๆ

ชิลไปเลย

ใกล้จะครบ 1 ชั่วโมงก็รีบวิ่งกลับไปขึ้นรถแดง เพื่อไปจุดต่อไปต่อค่ะ


จุดที่ 2 พระตำหนักภูพิงราชนิเวศน์

** ใครเข้าชมที่นี่ ต้องแต่งตัวสุภาพนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจก่อนเข้าซื้อบัตรค่ะ**

ค่าเข้าชม คนละ 20 บาท

ต้องบอกว่า จุดนี้ เป็นจุดที่อยู่นอกแผนของเรา แต่ไหนๆ รถแดงก็พามาแล้ว เลยเดินเที่ยวซะหน่อย

กะว่า เดินแปปๆ ก็ค่อยออกไปหาน้ำเย็นๆ กิน แล้วชาร์จแบตมือถือซะหน่อย

แต่พอเดินจริง ใช้เวลา 1 ชั่วโมงแบบเต็ม max ไปเลยค่ะ

เพลินมาก ชิลมาก ชอบที่นี่มากกกกกกกก


ที่นี่มีสวนดอกไม้สวยๆ ชวนมอง ชวนถ่ายรูปตลอดทาง

มองไปทางไหนก็สดชื่น ชาร์จพลังตัวเองได้ดีเลย

พอเดินออกจากสวนดอกไม้ เจ้าหน้าที่ถามว่า มีเวลาเหลือมั้ย ลองเดินไปที่อ่างเก็บน้ำด้วยสิ

เราก็โอเคคคคคคคคคคคค เดินค่ะ 

เพราะคิดว่า เดินง่ายเหมือนสวนดอกไม้

แต่พอเดินจริง ต้องเดินไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ

เดินไป พักไป 5555

ถึงอ่างเก็บหน้าก็เดินอัดวีดีโอเล่น จนลืมถ่ายรูปค่ะ แหะๆ

แล้วก็เดินลงตามถนนมาอีกทาง ต้นไม้ใหญ่เยอะมากๆ ร่มรื่น อากาศดี จนลืมเหนื่อยไปเลยค่ะ


และแล้วเราก็มาถึงจุดสุดท้ายของทริปนี้ค่ะ

วัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่

โดยตามตำนานได้เล่าไว้ว่า พระเจ้ากือนาธรรมิกราชทรงแยกพระบรมสารีริกธาตุไว้เป็นสองส่วน โดยอัญเชิญสวนหนึ่งบรรจุไว้ที่พระธาตุวัดสวนดอก (ที่เราไปมาก่อนขึ้นดอย) และได้อัญเชิญอีกส่วนหนึ่งขึ้นบนหลังช้างมงคล และพระองค์ทรงตั้งจิตอธิษฐานว่า หากช้างเชือกนั้น หยุดลงที่ใด ก็จะสร้างพระธาตุขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ซึ่งช้างเชือกดังกล่าวได้มาหยุดลงตรงยอดดอยสุเทพนี่เอง

สำหรับทางขึ้นลงมี 2 ทางค่ะ คือ 

เดินขึ้นบันไดนาค (ประมาณ 300 ขั้น) กับรถรางไฟฟ้า แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ 

แป้งขึ้นทางรถราง แล้วเดินลงทางบันไดค่ะ

บนนี้มีมีช่างภาพหลายคน มาคอยถ่ายรูปสวยๆ ให้เราแล้วปริ้นท์ออกมาราคาไม่แพง

ถ้าใครอยากได้ภาพประทับใจ ติดต่อได้เลยนะคะ

แป้งเคยมากับสามีแล้วรอบนึงก่อนหน้านี้ เลยได้รูปมาแล้ว :)

ที่จริง ทริปนี้ต้องไปจบที่ร้านข้าวซอยนิมมานค่ะ

แต่ๆๆๆๆ เที่ยวเพลิน ถ่ายรูปเพลินมากกกก

แบตมือถือ แบตกล้องหมด เลยอดถ่ายรูปมาฝาก ฮืออออ


กระทู้หน้าจะมารีวิวร้านอาหาร/คาเฟ่ที่แม่ริมต่อนะคะ

ไว้เจอกันค่า สวัสดีค่ะ

Happy Go Around

 วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.20 น.

ความคิดเห็น