ยู อินจันทรี กาญจนบุรี เป็นรีสอร์ทขนาด 50 ห้อง ริมแม่น้ำแคว ท่ามกลางสวนสวย และต้นไม้ใหญ่
ความร่มรื่นของแมกไม้ และทำเลที่ตั้งที่อยู่ริมนํ้า ช่วยทำให้บรรยากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน
ความโดดเด่น ของเครือโรงแรม U Hotels & Resorts ที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเครือโรงแรมอื่นๆ คือ
- Breakfast “whenever wherever” : ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารเช้า เวลาใดก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ห้องอาหารของโรงแรม หรือ ในห้องพัก
- 24-hour use of room : ใช้ห้องพักได้ 24 ชม. เช็คอินเวลาใด ก็สามารถเช็คเอาท์ในเวลาเดียวกันได้ในวันรุ่งขึ้น
- U Choose Programme : สามารถเลือกระบุประเภทของ หมอน / สบู่ และ ชา ก่อนการเข้าพัก และ - เมื่อเช็คอิน สามารถเลือกเครื่องดื่มจากมินิบาร์ในห้องพักได้ฟรีคนละ 1 อย่าง ต่อการเข้าพัก
- มีห้องสมุด และ รถจักรยานให้เช่า ฟรี
+ + + + + + + + + + + + + + + +
แผนผังจาก Google Map ทำให้เห็นตำแหน่งของ ยู อินจันทรี ตรงโค้งแม่นํ้าที่เห็นทั้งวิวพระอาทิตย์ตก และทิวเขา ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ประมาณ 400 เมตร สามารถเดินไปเที่ยวเล่น ถ่ายรูปกับสะพานได้ภายในเวลา 5 นาที
ยู อินจันทรี เป็นรีสอร์ทขนาดย่อม อาคารสูง 2 ชั้น มีลานจอดรถประมาณ 20 - 30 คัน พอดีๆกับจำนวนห้องพักเลยครับ
ทางเข้า และ Lobby ขนาดย่อม ที่มีบรรยากาศร่มรื่นอยู่ท่ามกลางแมกไม้
Lobby อย่างเท่ แบ่งเป็น 2 โซน ซ้าย / ขวา
ความประทับใจอย่างแรกเมื่อมาถึง คือ การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะ พี่สงกรานต์ ที่ช่วยขนกระเป๋า และ แนะนำ facilities ต่างๆ ภายในห้องพัก แบบไม่ขาดตกบกพร่อง (y)
* อีกภาพ คือ จักรยานที่แขกสามารถมาเช่าไปขี่เล่นได้ฟรี โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ Lobby
ชอบการวางผังอาคาร เป็นรูปสี่เหลี่ยม ตรงกลางเป็นสนามหญ้าที่แซมด้วยไม้ใหญ่มากครับ
ที่โดดเด่นที่สุดกลางลานกว้างนี้ คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ต้นอินจัน - ไม้ใหญ่ อายุกว่า 200 ปี ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และ นำมาเป็นชื่อของรีสอร์ท
เดาว่า ที่อาคารห้องพักฝั่งนี้ เป็นอาคารชั้นเดียว เพราะเจ้าของรีสอร์ท คงไม่อยากให้ความสูงของอาคาร มารบกวน หรือ บดบังทัศนียภาพที่สวยงามของต้นอินจัน ♥
ตลอดเวลที่อยู่ในรีสอร์ท เราจะได้เห็น ต้นอินจันต้นนี้ อยู่ในสายตาเสมอ
อาคารห้องพักของ ยู อินจันทรี แบ่งเป็น 2 โซนนะครับ ในภาพนี้คือ โซนแรก - ผมชอบสไตล์การออกแบบที่เรียบง่ายในลักษณะ Less is More (น้อยแต่มาก) ของที่นี่จริงๆ ใช้โครงสร้างเหล็ก ที่มีเส้นสายเรียบง่าย โปร่ง เบา เห็นแล้วสบายตา ที่สำคัญ - ดูมีความทันสมัย ไม่ตกยุค
กลุ่มอาคารในโซนนี้ ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ลักษณะการวางผังก็คล้ายๆกัน ความเก๋ อยู่ที่ทางเดินริมรั้ว ( ในภาพซ้ายบน + ขวาล่าง )
ต่อไป จะแนะนำห้องพักประเภทต่างๆของที่นี่กันครับ
type เริ่มต้นของที่นี่ คือห้อง Superior
เป็นห้องพักขนาดย่อม เห็นภาพแล้วอาจจะรู้สึกว่าแคบไปหน่อย แต่ก็มี function ต่างๆ ครบครัน
แม้พื้นที่จะเล็ก แต่ข้าวของต่างๆ ได้รับการจัดวางอย่างลงตัว
ห้องพักประเภทต่อไป คือ Deluxe Room พื้นที่กว้างขวางขึ้นมาก มี day bed ด้วย ♥
ความเท่อีกอย่างของ ยู อินจันทรี คือการเลือกใช้ภาพถ่ายสะพานข้ามแม่นํ้าแคว มาเป็นลวดลายบนผนัง โซนหัวเตียง
โซนตู้เสื้อผ้า และมินิบาร์ ที่ทำหน้าที่เป็นโต๊ะเขียนหนังสือ
ผนังด้านหลังห้อง ที่เป็นโซนห้องนํ้า ออกแบบให้เป็นกระจกใส เพิ่มแสงสว่างภายในห้อง และสร้างบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ โดยใช้มู่ลี่ เป็นเครื่องบังสายตาจากภายนอก
ห้องพักประเภทถัดไป คือ Suite with Bathtub
ห้อง type นี้มีผนังห้องด้านหลังเป็นประตูกระจก และ มีห้องนั่งเล่น แยกเป็นสัดส่วน
ห้องนั่งเล่น เห็นวิวแม่นํ้าแคว
*น่าจะเป็นห้องเดียวของที่นี่ ที่เห็นวิวนี้ครับ
ระเบียงหลังห้อง เป็นโซนนั่งเล่น จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ยามบ่าย
โซนห้องนํ้า - มีให้เลือก ทั้ง อ่างอาบนํ้า และ ห้องอาบนํ้า
ต่อไปเป็น room type ที่ fatreview : CHECK IN ครับ - Suite Room
เป็นห้องที่อยู่ในอาคารชั้นเดียว แนบกับต้นอินจันเลยครับ
*ภาพล่าง คือ ภาพแรก เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา
เป็นห้องนั่งเล่น พร้อม LED ขนาด 55 นิ้ว ข้างๆห้องเป็นระเบียงให้ออกไปนั่งเล่นได้
*โปรดสังเกต ว่า การออกแบบห้องพักของ ยู อินจันทรี จะเน้นแสงสว่างจากธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งผมชอบมาก ทำให้รู้สึกถึง สีเขียว และความร่มรื่นตลอดเวลาที่อยู่ในรีสอร์ท
มี Welcome Fruits ให้ทุกห้อง
แขกสามารถเลือกเครื่องเครื่องดื่มในตู้เย็นได้ 2 อย่าง ต่อการเข้าพัก 1 ครั้ง
มี ตู้นิรภัย และ coffee machine ด้วยนะครับ ( อยู่ในตู้อีกบาน ใต้ TV )
อีกฝั่ง เป็นห้องนอน ขนาดพื้นที่พอๆกับห้อง Superior สไตล์การตกแต่งก็คล้ายกัน คือเน้นแสงสว่างจากธรรมชาติ ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง
มีน้องช้างมาต้อนรับ อยู่บนเตียง
ห้องนํ้าขนาดพอดีๆ ชอบตรงมีที่นั่งในห้องนํ้า เหมาะกับผู้สูงอายุ
Amenities ต่างๆ ครบครัน และ สบู่กลิ่นตะไคร้ เอกลักษณ์อีกอย่างของ U Hotels & Resorts
ตรงนี้ คือ ผนังหลัง Lobby เอาจักรยานเก่ามาแขวน และจัดให้เป็น background สำหรับถ่ายภาพ ท่านที่ชอบเก็บภาพไว้อัพ instagram คงสนุก
ห้อง Massage อยู่ในโซนอาคารใหม่ ให้บริการนวดแผนไทย ทั้งนวดตัว และ นวดฝ่าเท้า
ทำ booking กันได้ที่ Lobby ครับ
โซน fitness ขนาดย่อม อยู่หลังต้นอินจัน
มุมอีกฝั่งของ fitness เป็นห้องสมุด
ประตูกระจกที่มีม่านสีเขียวฟ้า คือ ห้องประชุม หมายความว่าที่นี่สามารถรับแขกกลุ่มประชุม/สัมนา นอกสถานที่ได้ด้วยนะครับ
ไปชมบรรยากาศภายในรีสอร์ทกันต่อครับ
อย่างที่ได้เกริ่นไว้แต่ต้น ว่า ถึงแม้จะเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่ที่นี่มี gimmick เยอะมาก
ใต้ร่มไม้ใหญ่นี้ ถูกตกแต่งให้เป็นบรรยากาศสำหรับการถ่ายภาพ มี propต่างๆ หลากหลายมาก
ศาลากลางสวน จะนั่งชมวิว ชมนกชมไม้ ดื่มกาแฟ ฯลฯ จัดไปได้เลยครับ
แต่ที่ผมชอบที่สุด คือ ระเบียงริมนํ้าในภาพล่าง สำหรับ นั่งเล่น ชมวิว จิบเบียร์ ถ่ายรูป ฯลฯ สุดมาก - เย็นนี้จะชวนมานั่งเล่นตรงนี้อีกครั้ง ♥
โค้งนํ้าที่สวยงาม ในบรรยากาศแสนร่มรื่น ♥
ใกล้ๆกัน เป็นโซนสระว่ายนํ้าขนาดย่อม โดดเด่นมาแต่ไกลด้วยร่มสีแดงสด
ชอบการเลือกใช้กระเบื้องสีดำ ที่ไม่ไปข่มความเป็นธรรมชาติของแม่นํ้า
อย่าลืมมานั่งถ่ายรูปตรงนี้ ♥
เดินกลับไปยัง Lobby ก็จะผ่านโซนสนามหญ้า ที่จัดวางเป็นเต๊นท์ ไว้ให้ถ่ายรูป - ก็อย่างที่เกริ่นไว้ละครับ ที่นี่ gimmick เยอะจริงๆ ♥
บ่ายแก่ๆ . . . ได้เวลาไปเดินเล่นกันที่สะพานข้ามแม่นํ้าแคว
ขอแนะนำให้ลงมาเก็บภาพเต็มๆของสะพานจากมุมนี้กันก่อนนะครับ เท่าที่สังเกต ไม่ค่อยมีใครเดินลงมาเลย
จากนั้น ค่อยขึ้นไปข้างบน ยังตัวสะพาน - บริเวณนั้น มีบันทึกประวัติศาสตร์ให้เราได้อ่านกันด้วย
เรื่องเศร้าของความสูญเสีย ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ฝั่งตรงข้ามของสะพาน เป็นวัดจีน มีรูปประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ขนาดใหญ่ สวยงามมากครับ
ในแม่นํ้า ก็มีหนุ่มสาวพาย sup board กันเป็นที่สนุกสนาน บรรยากาศดีมาก ♥
*ยูอินจันทรี มีบริการ sup board พร้อมไกด์ให้ด้วยนะครับ ติดต่อได้ที่ Lobby
ความยากของการถ่ายรูปแถวนี้ คือ คนเยอะมาก ต้องเลือกจังหวะให้ดี และระหว่างเดินบนสะพาน แนะนำว่าไม่ควรเหยียบบนรางรถไฟ เพราะมันลื่นมากครับ หกล้มได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
ภาพนี้ เป็นภาพที่เดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่ง แล้วมองกลับไป แสงสวยจริงๆครับ ♥
มัวแต่กดชัตเตอร์บนสะพานข้ามแม่นํ้าแควอย่างเพลิดเพลิน จนเกือบมาไม่ทันพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าริมแม่นํ้า แน่นอนครับ เราจะพบกับวิวนี้ได้ที่ ยู อินจันทรี ☻
อย่างที่ได้เกริ่นไว้แล้วว่า บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกของที่นี่ "งดงามจริงๆ " ♥
อย่าลืมจองโต๊ะ สำหรับมื้อเย็น ริมแม่นํ้าแคว
ขอเริ่มต้นด้วย Mocktail 2 ตัวนี้
Healthy Break เป็น Healthy Drink ประกอบด้วย กล้วย สตรอเบอร์รี่ ส้ม และ นํ้าผึ้ง รสชาติดีมาก
ส่วน Lychee Rose Soda ก็เป็น Italian Soda รสดี สีสันสวยงาม
เมนูอาหารริมนํ้า คือ ผัดเห็นออรินจิกุ้ง / ผัดฉ่าปลาคัง / แกงมัสมั่นไก่ / แกงจืดผักรวม และ ทอดมันกุ้ง
รสชาติดีทีเดียวครับ ♥
บรรยากาศดีมาก โรงแรม 5 ดาวในกรุงเต้ปก็สู้ไม่ได้ เพราะที่นี่ธรรมชาติจริงๆ ☻
ปิดท้ายด้วยของหวาน หน้าตาดี แต่ที่ดียิ่งไปกว่า คือ กล้วยชุบเกล็ดขนมปังและงาทอด อร่อยมาก ♥
ถ้าคืนนั้นไม่อิ่มจริงๆ - มีเบิ้ล ☻
* signature อีกอย่างของ ยู อินจันทรี คือ ลูกชุบ นะครับ
นอกจากในจานนี้แล้ว คุณแม่บ้านจะมาวางไว้ให้ในตู้เย็น ในช่วง turn down ด้วยครับ ♥
บรรยากาศยามคํ่า ก็สวยงาม ด้วยการจัดวางตำแหน่งของแสงไฟ ชอบมากๆ (y)
มาพักที่นี่ ควรตื่นแต่เช้านะครับ บรรยากาศดีมากๆ ♥
เดินไปยังริมแม่นํ้า
นอกจากแสงเย็นจะสวยแล้ว แสงเช้า ก็โคตรสวย ♥
มุมโปรดริมนํ้าของใครหลายๆคน ♥
นอกจากบรรยากาศดีๆ และ ความสวยงามของรีสอร์ท ไฮไลท์อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ คือ การใส่บาตรยามเช้าครับ ชุดละ 199.- บาทเท่านั้น สามารถแจ้งไว้ที่ Lobby ได้เลยครับ
โชคดีที่ตื่นเช้า เพราะหลังจากกดชัตเตอร์ไปไม่นาน บริเวณนี้ ก็เต็มไปด้วยแขกของทางโรงแรม
พระสงฆ์ที่มารับบาตร โดยสารมากับเรือหางยาว เป็นบรรยากาศยามเช้าที่สมบูรณ์แบบมากครับ
มาเดินเล่น เก็บบรรยากาศแสงเช้ากันต่อ
ต้นไม้แห่งความรัก ความผูกพัน - อินจัน ทรี ♥
บรรยากาศงามๆ ยามเช้า
แล้วก็ได้เวลาอาหารเช้า - ในภาพคือ น้องโป๊ะ F&B Manager ของทางรีสอร์ทครับ
แม้จะมีพื้นที่ไม่มาก แต่ก็สามารถจัดวางไลน์อาหารเช้าได้หลากหลาย และ ครบเครื่อง ไม่แพ้โรงแรม 5 ดาว
มุม Bakery / Cereals - ที่ชอบมาก คือ มีนํ้าเต้าหู้ด้วยครับ
โซน Cold cut / สลัดบาร์ / ผลไม้ / โยเกิร์ต / Waffles / Pan Cake / นํ้าผลไม้
ไฮไลท์ในวันนั้น คือ เย็นตาโฟ / ข้าวต้มหมูสับ / Egg Benedict / Omlette
แต่ที่ชอบมากที่สุด คือ ข้าวเหนียวหมูปิ้งราดแจ่ว ♥
เป็นเช้าที่งดงามมาก
บรรยากาศดีจริงๆ แทบไม่อยาก check out กันเลยทีเดียว ☻
เมืองกาญจน์ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืนจากกรุงเทพฯ เพราะมีที่เที่ยวเยอะ สายๆของวันรุ่งขึ้น ผมยังได้มีโอกาสแวะเที่ยวร้านอาหาร / ร้านกาแฟ และ สถานที่ท่องเที่ยวอีก 2 -3 แห่งด้วยครับ
แห่งแรกที่พลาดไม่ได้ คือ อนุสรณสถาน สหประชาชาติ ที่เป็นสถานที่เพื่อการระลึกถึงผู้สูญเสียในสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ บรรยากาศเศร้ามาก
จากนั้น แวะไปเดินเล่นที่ย่านตลาดเก่า ถนนปากแพรก - สารภาพว่าเป็นการไปเดินเล่นที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนเลย ได้รับคำแนะนำจากพี่เต้ย ที่ได้คุยกันที่รีสอร์ท ว่าให้มาร้านกาแฟ สิทธิสังข์ ก็เลยดุ่มๆมา
ปกติ fatreview จะชอบถ่ายภาพอาคารโบราณอยู่แล้ว มาเดินเล่นแถวนี้เลยชอบมาก อาคารโบราณของย่านนี้สวยงามเป็นเอกลักษณ์มาก ไว้ว่างๆจะแยกทำรีวิวให้อีกครั้งครับ ♥
ไม่ไกลจาก ถนนปากแพรก เป็นโรงงานกระดาษไทย กาญจนบุรี เป็นกลุ่มอาคารโบราณที่เท่มากๆ เห็นแล้วเกิดไอเดียได้หลายอย่าง
ขอมอบสองภาพนี้เป็นไตเติ้ล เพราะยังไม่ได้เข้าไปเดินข้างใน ไว้ค่อยมาเก็บรายละเอียดคราวหน้า
จุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้ในทริปนี้ คือ ที่นี่ครับ ต้นจามจุรียักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย #กราบ ♥
ขอขอบคุณ ยู อินจันทรี สำหรับ sponser review ในครั้งนี้ครับ ประทับใจมากๆ หากมีโอกาสจะกลับไปอุดหนุนนะครับ ♥
fatreview : CHECK IN
วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 20.10 น.