นั่งเปิดดูรูปเก่าๆแล้ว ก็คิดถึงดอกนางพญาเสือโคร่งขึ้นมา
วันนี้ผมจะมาเล่าถึงการเดินทางเพื่อตามหาดอกไม้ ที่ผมหลงไหลและคิดถึงมันเสมอครับ
ดอกนางพญาเสือโคร่ง (Prunus cerasoides)
ชื่อภาษาอังกฤษ คือ Wild Himalayan Cherry หรือดอกเชอรี่ป่าหิมาลัย
เป็นต้นไม้ในตระกูลเดียวกับต้นซากุระญี่ปุ่น บ๊วย ท้อ เชอรี่ พีช พลัม ล้วนอยู่ในตระกูล Prunus ทั้งหมดครับ
ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งผมจะขอเรียกย่อๆว่าดอกพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่พบในธรรมชาติทั่วไปบนภูเขาสูงของไทย จะเติบโตได้ดีในที่ๆมีอากาศเย็นจัด ความสูง ตั้งแต่ 1,200 - 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลขึ้นไป ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ดอกก็จะยิ่งออกเยอะ
ในประเทศไทยเรา ก็มีแหล่งชมซากุระตามดอยสูงหลายๆที่
ทั้งทางภาคเหนือ และภาคอิสาน เช่นดอยผาตั้ง ภูชี้ฟ้า อ่างขาง อินทนนท์ ขุนแม่ยะ ขุนช่างเคี่ยน
แต่สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุด ที่จะพาท่านไปชมในวันนี้ คือศูนย์วิจัยกล้วยไม้รองเท้านารี
เป็นที่ๆเรียกได้ว่า landscape สวยงาม มีทะเลสาบ คู่กับต้นพญาเสือโคร่งปลูกอยู่รายรอบ แทรกไปด้วยต้นสนสามใบ ดูแล้วสบายตายิ่ง ไปเมื่อไหร่ ก็สวยทุกครั้ง
การเดินทางด้วยรถยนต์ ก็ใช้เวลาราวๆสามชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่
ขับตามถนนหมายเลข 108 แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นมาทางดอยอินทนนท์ พอถึงกลางดอยอินทนนท์แล้วก็เลี้ยวขวาลงไปทางอำเภอแม่วาง
ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ผ่านป่าสนภูเขา และแปลงดอกเบญจมาศ ถ้าเราไปถูกวัน ถูกเวลา เราก็จะได้พบกับดอกพญาเสือโคร่ง บานสะพรั่งอยู่ตลอดข้างทางเป็นระยะๆครับ
เสน่ห์ของการชมดอกพญาเสือโคร่ง คือช่วงเวลาที่ดอกบานสะพรั่งเป็นสีชมพูทั้งต้น จะมีอยู่น้อยนิดเพียงราวๆ 7 - 10 วันเท่านั้น
หลังจากนั้น ดอกก็จะร่วงโรย แตกใบอ่อนสีเขียวๆแซมเข้ามา
และสุดท้ายดอกชมพู ก็จะร่วงไปหมด และกลายเป็นใบไม้สีเขียว แซมเข้ามาทั้งต้น
ดังนั้น มันคือดอกไม้ ที่หาดูได้ยาก ต้องขึ้นเขา ไต่ดอยไป ถึงจะได้พบกัน
และก็มีกรอบเวลา ที่ดอกจะเบ่งบานเต็มที่อยู่แค่ 10 วันเท่านั้น
ความลำบากยากเย็น ในการเดินทาง ต้องคอยติดตามข่าวสาร และคาดเราการเบ่งบานอยู่เรื่อยๆนี่หละครับ
คือเสน่ห์ของการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง
มาชมสถานที่กัน
สวรรค์สีชมพูแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่แสนจะมีเสน่ห์ครับ เป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงต่ำ
ความสูงราวๆ 1500 เมตร จากพื้นราบ มีทางเดิน ลัดเลาะไปรอบๆทะเลสาบ
อากาศเย็นสบาย บางวันก็หนาวจัด จนต้องใส่เสื้อกันหนาว แต่ปกติ จะมีลมเย็นๆโชยพัดมาตลอดเวลา
ภาพที่ตาเห็น คือมีต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสะพรั่ง ปลูกเรียงรายอยู่รอบบริเวณ
ทุกผู้ทุกคนที่มาเยือน ล้วนมีความสุข มีรอยยิ้ม ประทับอยู่บนใบหน้า
สถานที่ๆทำให้ผู้คนมีความสุขเช่นนี้ ย่อมทำให้ผมคิดไปถึงสวรรค์ครับ
สวรรค์ที่มีเทวดานางฟ้าลอยอยู่บนก้อนเมฆนั่นหละ
แต่ที่นี่ สำหรับผม มันคือสวรรค์บนพื้นดิน
ปกติเทวดานางฟ้าบนสวรรค์ เค้าจะอิ่มทิพย์ ไม่ต้องกินข้าวปลา
ส่วนผมนั้น อิ่มใจ รัวชัตเตอร์จนลืมความหิวไปเลยเช่นกัน
มา ผมจะพาเที่ยวเยี่ยมชมสวรรค์ของผมกันครับ
ภาพที่ท่านได้เห็นทั้งหมดนี้ เป็นภาพสถานที่แห่งความทรงจำ ที่ทำให้ผมอิ่มเอมใจ คิดถึงมันทุกครั้งที่เปิดออกมาดู
และก็เฝ้ารอคอยวันที่จะได้มาพบกับดอกไม้สีชมพู ณ สถานที่แห่งนี้อีกครั้ง
อีกหกเดือน เราก็จะได้พบกันหละครับ
ก็ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน มีความสุขเช่นเดียวกับผม
และขอให้ธรรมชาติ จงคืนพลังชีวิต และเติมความชุ่มชื่นให้กับจิตใจของท่านตลอดไป
สวัสดีครับ
tamrong
วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.50 น.