ลำดับแรกขอ เล่ารายละเอียด ของ แพ็คเก็จ การจอง ของอุทยานก่อนนะครับ
แพ็คเกจ
1 คืน 2 วัน
1 คน 3,000 บาท
2-4 คน จ่ายคนละ 2,000 บาท
5-9 คน จ่ายคนละ1,800 บาท
10-20 คน จ่ายคนละ 1,500 บาท
*ราคาสามารถร่วมจอยกับแกงค์อื่นได้ค่ะ
มาร่วมจอยกันเยอะจ่ายน้อย ตามราคาแพ็กเกจ
แพ็คเกจรวม
ค่าเข้าอุทยาน
ค่าตอบแทนนายพราน
น้ำดื่มคนละ 6 ขวด
มือเย็น ข้าวเหนียวห่อใบตอง
ผ้าเย็น
ถุงขยะ
มือเช้า โจ๊ก กาแฟร้อน ,ขนมปัง
(ทั้งหมดนี้ พี่นายพรานแบกขึ้นไปให้ค่ะ)
ถุงมือ
หมวกกันน็อค(ให้ยืม)
ที่พักกางเต็นท์ (แคร่)
เวลาเริ่มปีน
14:00 ช่วงบ่าย
นอนค้างคืน1คืน
09:00 ช่วงเช้าอีกวัน ลงเขา
ใช้เวาลาปีนขึ้น1:30 ชม. ปีนลง 1:30 ชม. โซนหน่อแรด โซนหมูกะทะ + 30-40 นาที
แพ็คเกจแบบปีนเขาอย่างเดียว
1 คน 2,000 บาท
2-4 คน คนละ 1,499 บาท
ราคาโปร 5 คนขึ้นไป คนละ 999 บาท
*ราคาสามารถร่วมจอยกับแกงค์อื่นได้
แพ็คเกจรวม
ค่าเข้าอุทยาน
ค่าตอบแทนนายพรานอาสา
น้ำเปล่า 3 ขวด
อุปกรณ์ให้ยืม หมวกกันน๊อค
ข้าวเหนียวหมูทอดห่อใบตอง 1 ห่อ
ถุงมือ 1 คู่
กาแฟร้อน 1 แก้ว
ขนมปัง 1 ชิ้น
ผ้าเย็น 1 ผืน
เปิดรับวันละ 2 รอบ
รับรอบละ 15 ท่านเท่านั้น
เวลาเริ่มปีน
06:00 ช่วงเช้า
15:00 ช่วงบ่าย
ดูพระอาทิตย์ตก ขาลงเส้นทางจะมืด ค่อนข้างอัตราย มีไฟฉายแบบติดหัวให้
ใช้เวาลาปีน
ขึ้น1:30 ชม.
ลง 1:30 ชม. ชมวิวบนยอด จิบกาแฟ ทานข้าวเหนียวหมูทอดห่อใบตอง รวมระยะเวลา ประมาณ 4-5 ชม.
ราคาแพ็คเกจยังไม่รวมค่าจอดรถ (จ่ายหน้างาน)
รถยนต์ 30 บาท/คัน มอไซค์ 20 บาท/คัน จักรยาน ฟรี
ชาวต่างชาติ ค่าเข้าอุทยานทุ่งแสลงหลวง 500฿Enter
จุดนัดพบ
ถ้ำเดือน-ถ้ำดาว
ติดต่อทีมงาน
ดร 081-552 8595
ฮวย 062-825 5366
ออย (แอดมิน) 064-9860569
ราคาเช่า
- เต็นท์ 150 บาท
- เปล 100 บาท
- ที่รองนอน 50 บาท
-เตียงนอนที่หน่อแรด หลัง 200 ฿
ลูกหาบแบบเหมาจ่าย ขึ้น-ลง 1-10 กก. 600 บาท (เกิน10 ก.ล โลละ 60฿)
กรณีขาลงมีน้ำหนักเกิน กิโลละ 60฿
เรามาเริ่มกันเลย ครับ
ลำดับแรกเราจะต้อง ไปติดต่อ ที่จุด ทำการของทางอุทยาน ได้นัดหมายไว้
จะมีพี่เจ้าหน้าที่ และก็พี่ที่ทำหน้าที่เป็นพรานนำทาง เตรียมอุปกรณ์ให้ และ แนะนำขั้นตอนและข้อควรระวังในการปีนเขาครั้งนี้
ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นิด ๆ ก่อนถึงทางขึ้น
ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที โดยประมาณหลังจากนั้นเมื่อเตรียมถุงมือและหมวก เรียบร้อยแล้วเราก็มาเริ่มกันเลย
พึ่งเริ่มต้น เรี่ยวแรงยังดีอยู่ อากาศถือว่ากำลังดีนะครับ อยู่ในช่วงเช้า
มาถึงจุดพักแรก สามารถนั่งพักได้ ตลอดทางที่ปีนขึ้นมาสามารถ นั่งพักได้ตลอด พี่พรานที่นำทาง จะไม่เร่ง แถมถ่ายรูปให้เรา อีกด้วย ใจดีมากๆ
มองย้อนกลับลงไปทางที่ปีนผ่านมา ยังแอบคิดในใขเลยนะครับว่า โห๋.....เราปีนมาไกลเหมือนกันนะ...
เมื่อพักหายเหนื่อยแล้ว ...จากนั้นเราไปกันต่อเลย
โดยเราจะต้องผ่านบันไดไม้ไผ๋ จำนวน 12 ด่าน 12 ชั้น โอ้วพระเจ้าได้ยินแล้วแทบร้อง ....
แต่จะบอกว่าเมื่อขึ้นมาแล้ว หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว...เมื่อได้เห็น วิวด้านหน้าของเรา
ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ดวงอาทิตย์ก็เริ่ม ขึ้นพ้น จากแนวเขา สาดส่องมายัง พวกเราที่กำลังปีน
อากาศ กำลังเย็นสบาย และเริ่มเพิ่มอุณภูมิความร้อน ในไม่ช้า เราต้องรีบกันแล้ว
ข้อแนะนำ นะครับ ให้ถ่ายภาพตั้งแต่ขาขึ้นไปเลย ไม่ต้องรอขาลงนะครับ เพราะความเหนื่อยล้า อาจจะทำให้เราไม่อยากจะถ่ายรูปแล้วแถมอากาศค่อนข้างร้อน อีกด้วยในเวลา ขาลง
จากนั้นเราได้มาถึง จุดที่เค้าเรียกว่า แคร่ 7-11 เพราะตรงนี้จะเป็นจุดขายของ มีน้ำหวาน น้ำเย็น รองเท้าอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ จำหน่าย
แถวตรงนี้เราจะได้ทาน มื้อเช้า เป็นข้าวเหนียว และก็หมูปิ้ง แจ่วบอง ไข่ต้ม อยากจะบอกว่า อร่อยมากๆ
จากนั้นเราก็เริ่มปีนกันต่อ
สิ่งที่อยากจะ ให้ระวังอีกนิดนึงคือ เราต้องก้าวเท้าในแต่ละก้าวด้วยความระมัดระวังนะครับ เพราะ หินค่อนข้างคม และก็เกาะเท้าพอสมควรเลย
แต่ละจุดมีความยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ จะมีพี่พราน นำทาง คอยซัพพอร์ตให้ตลอด ไม่ต้องห่วงเลย
บางจุดเราต้อเหยียบบนหินคมๆแหลมๆ และไต่เชือกเพียงเส้นเดียว เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังเลยนะครับ
เราสามารถพักดื่มน้ำได้ตลอด การปีนของเรา เลยนะครับ น้ำดื่มสามารถฝากพี่พรานไว้ได้
แต่ละจุด โดยเฉพาะจุดที่มีความยาก ก็จะมีทีมพี่พราน คอยซักพอร์ตเรา
บางจุดแดดจะร้อนมากๆ ไม่ร่มให้เราได้หลบเลย เราต้องอาศัย มุม หินหรือ จุดที่เป็นเงาของหินหลบร่มได้
นี่เป็นห้องน้ำ ด้านบนสำหรับ คนที่จองแพคเก็ต นอนค้างคืนนะครับ สมารถเข้า แบบหนัก เบาได้ ตามสะดวก แต่เมื่อเสร็จภาระกิจแล้วจะต้อง มมัดใส่ถุง ตามภาพเลยนะครับ
หลังจากหายเหนื่อย ชมวิวถ่ายภาพเรียบร้อยแล้ว เราก็ปีนไปกันต่อ
อย่างที่บอกครับ ด้านบนไม่มีร่มให้หลบ แดดค่่อนข้างร้อน ค่อนข้างกระหาย ดังนั้นน้ำดื่มเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
มองย้อนกลับไปยังจุดที่เราเริ่มปีน ขึ้นมา โห๋ๆๆ ร้อง เสียงดังๆเลย เรามาได้ไงเนี่ย.....
และบางจุดอยากจะบอกว่า โห๋....ถอดใจได้มั้ย
ไม่ไปได้มั้ย
ไว้รอบหน้าค่อยมาได้มั้ย
ห้องน้ำ ก็จะมีหลายจุดให้เรา สามารถเลือกเข้าได้ นะครับ แต่จะเป็นลักษณะเดียวกัน คือ เสร็จต้องมัดใส่ถุง
จากนั้นเราได้มีโอกาสได้ไปนั่งพักผ่อน ณ แคร่ 7-11 อีกครั้งก่อนเราจะ เดินทางลงจากยอดเขา ล่องเรือตาหมื่น
ขาลงก็อย่างที่บอก ความเหนื่อยล้า แสงแดด ทำให้เรา เดินลงอย่างเดียวแบบไม่คิดชีวิต อยากจะอาบน้ำอยากจะกระโดด สระ อยากจะเปิดแอร์ เอนหลัง เลยกันทีเดียว
แต่อยากจะบอกว่า ทริปนี้เป็นทริปที่ คุ้มมากๆ สวย ท้าทาย และก้ได้ภาพสวยๆ ถ้ามีโอกาสสัญญาเลยครับ จะมา ทริป แบบ 2วัน1คืน ณ เขาล่องเรือตาหมื่น บ้านมุง เนินมะปราง
ร่ำลากันด้วยภาพสวยๆ ซัก 3-4 ภาพแล้วกันนะครับผม
ครูไทยหัวใจสะพายเป้
วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 02.09 น.