สวัสดีครับ
ทีแรกจะรีวิวเชียงรายที่ค้างอยู่ แต่อากาศร้อนมากเลยขอลงรีวิวทะเลหมู่เกาะสุรินทร์-เกาะตาชัย
ที่ไปมาช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ก่อนนะครับได้ได้เย็นทั้งคนโพสคนอ่าน
ทริปนี้ไปกับเพื่อนครับ เพื่อนจัดการหมดเลยที่พัก เรือ รถ ก็สอบถามข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง พร้อมแล้วไปกันเลยครับ
ปล. ไม่รูปใต้น้ำมาให้ชมนะครับ เพราะส่วนตัวไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำ ได้แต่เก็ฐบรรยากาศมาให้ชมกัน
ถ้าขอจากเพื่อนมาได้แล้วจะเอามาให้ชมกันนะครับ สวยงามทั้งนีโม ปลา หอย หมึก ปะการังมากมายเลยทีเดียว ^^
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ..ที่สุดแห่งป่าปะการังและวิถีชาวเล
ต.คุระ อ. คุระบุรี จ. พังงา 82150
โทรศัพท์ 0 7647 2145-6, 0 7647 2146 โทรสาร 0 7647 2147 อีเมล [email protected]
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 30 เมษายน ของทุกปี
ที่พัก
จองผ่านเว็บ หรือ โทรจอง
ระบบจองเต็นท์และพื้นที่กางเต็นท์ออนไลน์
http://www.dnp.go.th/parkreserve/tent_reservation.asp?lg=1
ปฎิทินการจองเต็นท์/พื้นที่กางเต็นท์ สำหรับดูประกอบการจองเต็นท์/พื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติต่างๆ
ภาคใต้ อช.หมู่เกาะสุรินทร์
ลานอ่าวไม้งาม โซน A - จองเต็นท์ (ไม่มีเครื่องนอน)
ลานอ่าวไม้งาม โซน B - จองพื้นที่กางเต็นท์ (นำเต็นท์ไปเอง)
ลานอ่าวช่องขาด โซน A - จองเต็นท์ (ไม่มีเครื่องนอน)
ลานอ่าวช่องขาด โซน B - จองพื้นที่กางเต็นท์ (นำเต็นท์ไปเอง)
http://www.dnp.go.th/parkreserve/schedule_np_menu_tent.asp?lg=1
เราจองได้ที่ ลานอ่าวช่องขาด โซน A - จองเต็นท์ (ไม่มีเครื่องนอน)
เต็นท์ 2 คน, ไม่มีเครื่องนอน
ราคา 300 บาท/คืน
ห้องน้ำชาย-หญิง 2 จุด ห้องน้ำ ประมาณ 10 ห้อง และห้องอาบน้ำปะมาณ 7-8 ห้อง
ร้านอาหาร บริการอาหารตามสั่ง เริ่มที่จานละ 100 บาท และแบบ set menu
ระบบจองบ้านพัก/ค่ายพักแรมออนไลน์
(สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วัน และจองต่อเนื่องได้ครั้งละ 3 วัน)
http://www.dnp.go.th/parkreserve/reservation.asp?lg=1
ปฎิทินการจองที่พัก-บริการ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/schedule_np_menu.asp?lg=1
วางแผนเที่ยว
วันที่ 1 :
เย็น ออกเดินทางจากขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ - ขนส่ง อ. คุระบุรี จ. พังงา
วันที่ 2 :
เช้า ถึงขนส่ง อ. คุระบุรี จ. พังงา - ท่าเรือคุระบุรี - หมู่เกาะสุรินทร์
สาย-เที่ยง ถึงอ่าวช่องขาด เกาะสุรินทร์ ทานข้าวกล่างวัน
บ่าย ดำน้ำตื้น อ่าวแม่ยาย / หินกอง / อ่าวเต่า
วันที่ 3 :
เช้า ดำน้ำตื้น อ่าวสุเทพ / เกาะมังกร / อ่าวไม้งาม
บ่าย ดำน้ำตื้น เกาะตอรินลา / อ่าวผักกาด
วันที่ 4 :
เช้า ดำน้ำตื้น อ่าวจาก / เกาะสต๊อร์ค
บ่าย เดินป่า - ดำน้ำตื้น อ่าวไม้งาม
วันที่ 5 :
เกาะตาชัย + ดำน้ำตื้น (แพคเกจทัวร์ รับจากอ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์)
วันที่ 6 :
เช้า หมู่บ้านชาวเลหรือมอแกน
บ่าย ขึ้นเรือเดินทางกลับขึ้นฝั่งจากหมู่เกาะสุรินทร์ - ท่าเรือคุระบุรี
เย็น ขนส่ง อ. คุระบุรี จ. พังงา
วันที่ 7 :
เช้ามืด ขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ
การเดินทาง
รถขนส่งประจำทางจาก ขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ - ขนส่ง อ. คุระบุรี จ. พังงา
เวลาออกเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 19.30 น. ถึงคุระบุรี เวลา 06.30 น.
ขาไป ขนส่งจำกัด ..ค่าโดยสารคนละ 840 บาท/คน (กลัวสมาชิกไม่ทันรถเลยจองเที่ยวออก 19.30 น.) ที่นั่งแบบปรับนอนได้ ไม่มีเบาะนวด แต่อาหารมื้อดึก ข้าวต้ม ไข่เค็ม เครื่องเคียงอื่นๆ กินแล้วท้องไม่ค่อยดี เหมือนมีลมในท้องตลอดเป็นกันทั้งกลุ่มเลยครับ
ขากลับ ลิกไนท์ทัวร์ ..ค่าโดยสารคนละ 676 บาท/คน มี่นั่งดีปรับนอนได้ เบาะนวดไฟฟ้า นั่งสบาย อาหารมื้อดึกถือว่าดี มีปลาทอด แกงปลา แกงจืดซี่โครงหมู น้ำพริกปลาทู ผัดผักบุ้ง
จากท่าเรือคุระบุรีไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.0 ชั่วโมง
จองเรือของซาบินาร์ทัวร์ จากท่าเรือคุระบุรี - อ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์ ไป-กลับ 1700 บาท/คน และ
วันเดย์ทริปไป เกาะตาชัย + ดำน้ำตื้น 1 จุด (แพคเกจทัวร์ รับจากอ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์ + อาหารกลางวัน ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว 2200 บาท/คน)
* หมายเหตุ นัดหมายวันดีๆ นะครับ ซาบินาร์ทัวร์ ทำกลุ่มผมหล่นหายทั้งที่จ่ายเงินไปก่อนแล้ว ตกลงวันไปเกาะตาชัยแล้ว
พอใกล้วันจะย้ายวันกลุ่มเราไปวันอื่น จนวันแรกที่เดินทางมาถึงที่คุระบุรี มาติดต่อที่ออฟฟิต ซาบินาร์ ก็ตกลงวันแล้วว่าจะไปเรียบร้อย
พอถึงวันที่จะไปเกาะตาชัย รอเรือตอน 9 โมง ไม่โทรแจ้ง เรือไม่มารับ กลุ่มเราโทรกลับไป ทางซาบินาร์บอกว่าเจ้าหน้าที่ทำรายชื่อตกหล่น จะให้เลื่อนไปวันต่อไป
ทางเราไม่ยอม เพราะวางแผนกลับ จองตั๋ววันกลับแล้ว ถ้าไม่ทันรถต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม สุดท้ายก็มารับกลุ่มเรารวมไปกับกรุปทัวร์ กว่าจะได้ออกก็ 10 โมงกว่าๆ
แต่บริการบนเรือที่ไปเกาะตาชัย จุดดำน้ำ และรับส่งขนส่ง-ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าดี รวมทั้งร้านขายของฝากที่ออฟฟิตก็ยิ่มแย้มแจ่มใสดีครับ
ขากลับคนขับเรือเก่งมากครับ มีพายุเข้าฝนตก คลื่นแรงสูงเกือบ 3 เมตร ก็ขับพามาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย แม้บางช่วงจะรู้สึกว่าเรือลอยเพราะกระเทรกคลื่น - -"
ในอุทยานฯ เรือดำน้ำชมปะการัง ซื้อคูปองของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 150 บาท/คน /ครึ่งวัน มีสองรอบ เช้า 9.00 น. และ บ่าย 14.00 น.
เรือเหมาจากอ่าวไม้งาม - อ่าวช่องขาด 300 บาท/รอบ (ขาไปเดินจากอ่าวช่องขาด)
งบประมาณ
ไปกัน 9 คนเฉลี่ยรวมทั้งทริป 5 วัน 4คืน ที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง อุปกรณ์ดำน้ำ
8300 บาท/คน
ข้อมูลการท่องเที่ยว
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=202
http://thai.tourismthailand.org
เพจรวมภาพถ่ายจากกล้องผมครับ
https://www.facebook.com/WhiteCloudTravel
เริ่มรวมพลกันที่ขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ - ขนส่ง อ. คุระบุรี จ. พังงา
เวลาออกเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 19.30 น. โดย ขนส่งจำกัด ..ค่าโดยสารคนละ 840 บาท/คน (กลัวสมาชิกไม่ทันรถเลยจองเที่ยวออก 19.30 น.)
ที่นั่งแบบปรับนอนได้ ไม่มีเบาะนวด แต่อาหารมื้อดึก ข้าวต้ม ไข่เค็ม เครื่องเคียงอื่นๆ กินแล้วท้องไม่ค่อยดี เหมือนมีลมในท้องตลอดเป็นกันทั้งกลุ่มเลยครับ
ถึงคุระบุรี เวลา 06.30 น.
มีรถของซาบิน่าทัวร์ มารอรับไปที่ออฟฟิตของซาบิน่าทัวร์
มาถึงออฟฟิตอยู่ตรงหน้าทางเข้า เข้าห้องน้ำล้างหน้า แปรงฟัน เก็บของ เตรียมเก็บของ
เตรียมเสบียงมื้อเที่ยง ข้าวเหนียวไก่ทอด ชุดละ 50 บาทครับ
มีรถกะบะขนของไปให้ที่ท่าเรือ ไปรอเรือที่ท่าเรือคุระบุรี เก็บภาพแถวนนั้นมานิดหน่อย ตอนเช้าอากาศดีครับ ออกเย็นๆ
เรือออกประมาณ 7.30 น. คนขึ้นพร้อมก็ไปกันเลยยย
ชมบรรยากาศไปเรือยๆ
นั่งหลับๆ ตื่นๆ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เรือก็มาจอดถ่ายโอนของและคนลงเรือเล็กเพื่อเข้าสู่ฝั่ง
เรือจอดที่อ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์ ไป-กลับ 1700 บาท/คน
ระหว่างนั่งเรือเล้กเข้าฝั่ง น้ำใสมาก อยากโดดลงไปตอนนั้นเลยจริงๆ
ถึงฝั่งแล้วครับ
พระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต (นามเดิมนกยูง วิเศษกุล) เป็นผู้ค้นพบเกาะและตั้งชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อครั้งที่ท่านมาสำรวจ ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2514 กรมป่าไม้จึงได้ประกาศให้พื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันและอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 88,282 ไร่ หรือ 141.25 ตารางกิโลเมตร
ขึ้นฝั่งมาที่สำนักงานของอุทยาน รายละเอียดต่างๆ ตามรูปครับ
รอบดำน้ำของวันนี้ครับ
แผนที่เกาะ และค่าใช้จ่ายในการดำน้ำ
ป้ายบอกทางไปลานกางเต้นท์ มีเจ้าหน้าที่พาไปครับ
ร้านอาหาร
มาที่จุดกางเต้นท์ ลานอ่าวช่องขาด โซน A - จองเต็นท์ (ไม่มีเครื่องนอน)
วิวหน้าเต้นท์ ตอน 10 โมงกว่าๆ
เกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ ตั้งอยู่ชิดกันคล้ายเกาะแฝด โดยมีพื้นน้ำตื้นๆ กว้างประมาณ 200 เมตร กั้นอยู่ ในช่วงน้ำลงสามารถข้ามไปยังอีกเกาะได้ เรียกว่า อ่าวช่องขาด ส่วนเกาะขนาดเล็กอีกสามเกาะเป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็นขึ้นอยู่ไม่หนาแน่นนัก พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น เป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
เก็บของกันเตรียมตัวไปดำน้ำรอบบ่าย ทานข้าวกลางวัน และถ่ายรูปรอเวลาเดินอ้อมมาคนละด้านกับทางขามาเจอวิวนี้ครับ
หินรูปไก่และเต่า แวะถ่ายรูปกันนานเลย
ถ่ายกันไปเรื่อยๆๆ เพลิดเพลินกันไปเลยทั้งคน ทั้งวิว ฟ้าใส ทะเลสวยมากครับ
ได้เวลาก็เคลื่อนพลไปยังด้านหน้าจุดจอดเรือ ซื้อคูปองที่สำนักงานเตรียมตัวไปดำน้ำรอบบ่าย
150 บาท/คน /ครึ่งวัน มีสองรอบ เช้า 9.00 น. และ บ่าย 14.00 น.
เก็บวิวระหว่างรอเรือมารับ
สิ่งมีชีวิตในแนวปะการัง
แนวปะการังที่พบทั่วไปที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นแนวปะการังริมฝั่ง หรือที่เรียกกันว่า fringing reef ปะการังที่พบได้มากได้แก่ ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังเขากวาง ปะการังโขดหรือปะการังนิ้วมือ ปะการังดอกเห็ด ปะการังกาแล็กซี่ ปะการังแผ่นเปลวไฟหรือปะการังดอกจอก ปะการังสมอง ปะการังจาน ปะการังไฟ ดอกไม้ทะเล ปะการังอ่อน กัลปังหา และปากกาทะเล เป็นต้น
นอกจากปะการังแข็งที่พบเห็นโดยทั่วไปแล้ว ยังพบหญ้าทะเลในบริเวณอ่าวของหมู่เกาะสุรินทร์ 3 ชนิด ได้แก่ หญ้าเงาหรืออำพัน หญ้ากุ่ยช่ายเข็ม และหญ้าชะเงาเต่า นอกจากนี้ยังมี ฟองน้ำ หนอนทะเล กุ้งมังกร กุ้ง ปู หอย หมึก ดาวทะเล ดาวเปราะ ดาวขนนก เม่นทะเล ปลิงทะเลเพรียงหัวหอมและกลุ่มปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาสลิดหิน ปลานกขุนทอง ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลากะรังและปลาทอง ปลาขี้ตังเป็ด ปลาสลิดทะเล ปลาผีเสื้อเทวรูป ปลาอมไข่ ปลาตั๊กแตนหิน ปลาบู่ ปลาสิงโต ปลากะรังหัวโขน ปลาหิน ปลากะพง ปลากล้วย ปลาสร้อยนกเขา ปลาทรายขาว ปลาหางแข็ง ปลาโมง ปลาสีกุน ปลาวัว ปลาปักเป้า นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของสัตว์ทะเลหายาก เช่น ฉลามวาฬ วาฬ และเต่าทะเลซึ่งพบ 4 ชนิดด้วยกันได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตนุ เต่ากระ และเต่าหญ้า
เรือมาแล้ววว ขนอุปกรณ์ดำน้ำขึ้นเรือ ออกไปยังจุดดำน้ำ
ถึงจุดก็โดดลง จ๋อมๆ ดำจุดละประมาณ 20-30 นาทีครับ
บ่ายนี้ 3 จุด คือ อ่าวแม่ยาย / หินกอง / อ่าวเต่า
ดำเสร็จแล้ว เรือก็พากลับเข้าฝั่ง
มองจากฝั่งออกไปเห็น หินกอง จุดดำน้ำ ที่เพิ่งดำไป
กลับมายังจุดกางเต็นท์ ทะเลหน้าเต้นท์แสงกำลังระยิบระยับเลยครับ
เก็บภาพนิดหน่อย แล้วไปอาบน้ำ เตรียมตัวมาถ่ายรูปแถวโขดหินยามเย็นครับ
นั่งดูพระอาทิตย์ตกทะเล ลมเย็นสบาย
จากนั้นก็ไปทานมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารของอุทยาน ทานอาหารจานเดียว จานละ 100-120 บาท
ทานเสร็ก็เข้านอน แต่อากาศร้อนอบอ้าวมากๆ ไม่มีลมเลยครับ - -" สงสัยจะหลับเพราะเหนื่อยเดินทาง ดำน้ำมากกว่า 55
เช้าวันที่ 2
วิวจากหน้าเต้นท์ ตื่นมาก็เจอแบบนี้เลยครับ ชอบมาก ^^
ตื่นเช้า อาบน้ำ แปรงฟัน เตรียมตัวทานข้าวกันครับ
ระหว่างนั่งรออาหาร ก็จะพบเห็นลิง บ่าง ตามต้นไม้
มีเตาถ่านปิ้งขนมปังดูคลาสสิคดี
อาหารตามสั่งที่นี่สั่งวนไปวนมาจนครบทุกเมนูใน 5 วัน 555 ถ้าสั่งไข่ดาวก็ ฟองละ 20 บาท
อิ่มแล้วก็เตรียมตัวดำน้ำกันต่อครับ ...โปรแกรมวันนี้
เช้า ดำน้ำตื้น อ่าวสุเทพ / เกาะมังกร / อ่าวไม้งาม
ดำเสร็จกลับมาทานมื้อเที่ยงที่อ่าวช่องขาด
หลังทานข้าวเสร็จระหว่างรอเรือก็เก็บภาพแถวหน้าอ่าวช่องขาดมาฝากครับ
ดำน้ำรอบบ่าย เกาะตอรินลา / อ่าวผักกาด
แล้วกลับมาเขาช่องขาดตอนเย็นๆ
อาบน้ำแล้วมารอดูพระอาทิตย์ตกกันครับ
หลังทานมื้อเย็นก็ชาร์ทแบตกล้อง มือถือ เริ่มให้ชาร์ตประมาณ 5 โมงเย็น -สามทุ่ม
คุยไปโม้กันไปถึงสามทุ่มก็แยกย้ายกันเข้านอน ตอนกลางคืนมีปูเดินไปมามากมาย เจอตัวใหญ่แถวๆเต้นท์ก็มีนะครับ
วันที่3
เช้านี้เรามายืนสงบนิ่ง เฝ้าดูฉลามครีบดำ มีเพื่อนที่ร่วมเรือไปดำน้ำดูปะการังด้วยกันบอกว่าเจอเมื่อวานเลยมาเฝ้ามองสักหน่อย ^^
จากนั้นก็ไปทานข้าวเตรียมตัวดำน้ำ วันนี้โปรแกรมหมือนวันแรกที่เรา แต่พวกเราดำช่วงบ่าย
วันนี้เลยมาเก็บรอบเช้า ..เช้า ดำน้ำตื้น อ่าวจาก / เกาะสต๊อร์ค
กลับมาทานมื่อเที่ยง ที่อ่าวช่องขาด
เมนูแนะนำเป็นผัดพริกแกงกุ้ง เครื่องแกงออกทางใต้สำหรับคนชอบรสจัดอร่อยไปอีกแบบ
แล้วช่วงบ่าย เดินป่า เพื่อไปดำน้ำตื้น อ่าวไม้งาม
วิวระหว่างทางเดิน
ระหว่างทางจะมีหาดให้โดดน้ำเล่น มีเชือก ชิงช้าหนุกหนานเลยครับ
มีประมาณ 3 หาด เราก็แวะเล่น้ำทุกหาด 555 น้ำใส หาดทรายละเอียดสวยครับ
จนเดินทางมาถึงอ่าวไม้งาม
อ่าวไม้งาม อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะสุรินทร์เหนือ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2 กิโลเมตร ด้านตะวันตกของอ่าวเป็นแนวปะการังในอ่าวใหญ่ ขอบแนวปะการังห่างฝั่ง 200 - 500 เมตร การเดินทางไปอ่าวแห่งนี้ ทำได้ 2 แบบ คือ เดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติหาดไม้งาม ความยาว 2,000 เมตร อีกแบบหนึ่งคือนั่งเรือ แต่เรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอ่าวไม้งาม เนื่องจากน้ำตื้นมาก จึงต้องไปจอดเรือที่หาดเล็กๆ ก่อนเดินทางเท้าต่อไปอีก 200 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสเดินชมป่า ก่อนที่จะไปดำน้ำริมหาด บริเวณอ่าวไม้งามเป็นหาดทรายธรรมชาติที่งดงาม มีปูเสฉวนจำนวนมาก
เดินมาตรงหาดหน้าจุดกางเต้นท์ หาดสวยดีครับ ไม่มีโขดหิน
เดินแวะมาฝั่งขวาของหาด
นั่งถ่ายรูปกันสักพัก เพื่อนๆก็ไปดำน้ำ
ดำน้ำกันถึงประมาณ 4 โมงเย็น ตอนแรกจะเดินกลับกัน แต่โชคดีที่มีเรือมาส่งนักท่องเที่ยวที่เหมาเรือไปเที่ยวทั้งวันมา
เลยติดต่อขอให้ไปส่งที่อ่าวช่องขาด ตกลงราคาได้ที่ 300 บาท
พวกเรากลับมาที่อ่าวช่องขาดก็อาบน้ำ แวะเก็บวิวตอนเย็นฝั่งหินรูปไก่ ทานข้าว เข้านอน
วันที่ 4
วันนี้เป็นซื้อทัวร์ของซาบินาร์ แบบวันเดย์ทริป
เกาะตาชัย + ดำน้ำตื้น (แพคเกจทัวร์ รับจากอ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์)
แวะเก็บวิวตอนเช้าฝั่งหินรูปไก่ ก่อนทานมื้อเช้า
ที่สำนักงานอุทยาน มืเสื้อยืด โปสการ์ด แสตมป์ จำหน่ายด้วยนะครับ ส่งโปสการ์ได้ที่นี่
วันนี้ช่วงเช้ามีปัญหาครับ
จองเรือของซาบินาร์ทัวร์ จากท่าเรือคุระบุรี - อ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์ ไป-กลับ 1700 บาท/คน และ
วันเดย์ทริปไป เกาะตาชัย + ดำน้ำตื้น 1 จุด (แพคเกจทัวร์ รับจากอ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์ + อาหารกลางวัน ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว 2200 บาท/คน)
* หมายเหตุ นัดหมายวันดีๆ นะครับ ซาบินาร์ทัวร์ ทำกลุ่มผมหล่นหายทั้งที่จ่ายเงินไปก่อนแล้ว ตกลงวันไปเกาะตาชัยแล้ว
พอใกล้วันจะย้ายวันกลุ่มเราไปวันอื่น จนวันแรกที่เดินทางมาถึงที่คุระบุรี มาติดต่อที่ออฟฟิต ซาบินาร์ ก็ตกลงวันแล้วว่าจะไปเรียบร้อย
พอถึงวันที่จะไปเกาะตาชัย รอเรือตอน 9 โมง ไม่โทรแจ้ง เรือไม่มารับ กลุ่มเราโทรกลับไป ทางซาบินาร์บอกว่าเจ้าหน้าที่ทำรายชื่อตกหล่น จะให้เลื่อนไปวันต่อไป ทางเราไม่ยอม เพราะวางแผนกลับ จองตั๋ววันกลับแล้ว ถ้าไม่ทันรถต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม สุดท้ายก็มารับกลุ่มเรารวมไปกับกรุปทัวร์ กว่าจะได้ออกก็ 10 โมงกว่าๆ
แต่บริการบนเรือที่ไปเกาะตาชัย จุดดำน้ำ และรับส่งขนส่ง-ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าดี รวมทั้งร้านขายของฝากที่ออฟฟิตก็ยิ่มแย้มแจ่มใสดีครับ
ขากลับคนขับเรือเก่งมากครับ มีพายุเข้าฝนตก คลื่นแรงสูงเกือบ 3 เมตร ก็ขับพามาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย แม้บางช่วงจะรู้สึกว่าเรือลอยเพราะกระเทรกคลื่น - -"
เกาะตาชัยถึงประมาณ เกือบ 11 โมง มาถึงก็ถ่ายรูปโดดๆ น้ำใส หาดทรายขาวละเอียดมากครับ
หลังจากทานมื้อเที่ยง กระเพราไก่ ไข่ดาว เรียบร้อย สักพักทัวร์ก็พาไปจุดดำน้ำ 1 จุดก่อนกลับเข้าฝั่ง
วันที่ไป นักท่องเที่ยวมากมายเลยครับ
ขากลับหลังจากดำน้ำเสร็จ มีปลาโลมาว่ายน้ำ คนขับแวะให้ชมน่ารักมากครับ
คนเรือบอกว่าที่จริงแล้วเขามาเตือนว่าจะมีพายุเข้า แล้วเย็นนั้นก็มาครับหน้าอ่าวช่องขาดลมแรงมากก เหมือนฝนจะตกหนัก
แต่อีกด้านที่เราพักไม่มีลมเลย มีเพียงฟ้าครึ้ม เหมือนฝนจกตก แต่ก็ตกเบาๆแล้วก็หายเงียบไปเลย พวกเราก็ออกมาเก็บภาพกันเหมือนเดิม
วันที่ 5
เช้านี้เก็บบรรยากาศยามเช้าวันสุดท้าย แล้วทานข้าว ก่อนจะแยกเป็นสองกลุ่ม คือดำน้ำ และไปหมู่บ้านมอแกน
ผมเลือกมาที่หมู่บ้านมอแกนครับ
นอนเต้นท์ก็โอเคนะครับ เช่าหมอน เบาะรองนอน ได้กับทางอุทยานฯ
ผมเตรียมถุงนอนไปไมไ่ด้ใช้ ร้อนอบอ้าวมากครับ ส่วนธรรมชาตินี่ตื่นมาก็เห็นเลย
กลางคืนก็มีเสียงกรนคนรอบๆ เต้นท์บางคืนก็ดังไปนะ 555
มาต่อกันที่ หมู่บ้านชาวเลหรือมอแกน
ขึ้นฝั่งมาเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พาไปที่ห้องนิทรรศการและเล่าเรื่องเกี่ยวกับชาวมอแกนให้ฟังคร่าวๆ
หมู่บ้านชาวเลหรือมอแกน ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้ชายหาดบริเวณอ่าวไทรเอน เกาะสุรินทร์เหนือ ประมาณ 130-150 คน ชาวเลหรือมอแกนเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะของทะเลอันดามัน ตั้งแต่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย เรื่อยไปจนถึงเกาะสุมาตราในประเทศอินโดนีเซีย มอแกนเป็นชนเผ่าที่มีวิถีการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมหาเลี้ยงชีพโดยการงมหอย แทงปลา
ออกมาจากห้องนิทรรศการ จะเห็นเด็กมานั่งขายของ เลยขอถ่ายรูปเด็กๆ มา
บอกไปว่าจะเอามาโพสกระทู้ชวนคนไปเที่ยว จะได้มีคนมาซื้อของเยอะๆ ^^
เดินเข้าไปในหมู่บ้าน
ชาวมอแกนทุกคนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพ สยามมงกุฎราชกุมารี พระราชทานนามสกุลให้ใช้ว่า “กล้าทะเล”
ในหมู่บ้านก็มีโปสการ์ดและของขาย ซื้อโปสการ์ดเด็กจะรวมสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันด้วยครับ
ที่นี่มีโรงเรียนที่ทางการไทยสร้างให้ แต่พวกเค้าจะเรียนเพียงเพื่อให้อ่านออกเขียนได้เท่านั้น ส่วนในบริเวณพื้นที่ด้านข้างของโรงเรียนก็จะเป็นพื้นที่ทางการเกษตร ที่ชาวมอแกนใช้สำหรับปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินกัน
ตอนเข้าไปโรงเรียน ครูและคณะกำลังทาสีโรงเรียนกันอยู่พอดี
ระวห่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะพาเดินขึ้นไปจุดชมวิว แต่ผมดันโดนไรกัดไม่รู้ปวดๆ ร้อนๆ เลยเดินมาที่ศูนย์สุขภาพ เจ้าหน้าที่ทายาหม่องให้
อาการก็ดีขึ้น เลยนั่งชมวิวรอเพื่อนอยู่ระเบียง
สักพักเพื่อนก็ลงมา รวมกันก็ขึ้นเรือกลับอ่าวช่องขาดครับ
วันนี้แดดดี ฟ้าใส น้ำสวยมาก นั่งเรือชิวๆ เข้าฝั่ง
เข้าฝั่งแล้ว เพื่อนที่ไปดำน้ำก็กลับมาพอดี เก็บของที่เต้นท์ รอเรือมาประมาณบ่าย 2 แต่เลื่อนครับ เพราะมีพายุเข้า
ถ่ายรูปเล่นรอไปเรื่อย ประมาณบ่ายสามเรือก็มา
หลังจากขึ้นเรือเจ้าหน้าที่ซาบิน่า ให้ใส่ชูชีพทุกคน และห้ามนั่งด้านหน้าเรือ รักษาความปลอดภัยดีมากครับ
คนขับเรือเก่งมากครับ มีพายุเข้าฝนตก คลื่นแรงสูงเกือบ 3 เมตร ก็ขับพามาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย แม้บางช่วงจะรู้สึกว่าเรือลอยเพราะกระเทรกคลื่น เด็กๆ นั่งในเรือร้องกรี๊ดๆ เสียงดังเลย.. กว่าจะถึงก็โดนพรมไปด้วยน้ำทะเล ดีที่กล้องไม่เปียกนะครับ - -"
หลังจากขึ้นฝั่งกะว่าจะอาบน้ำที่ออฟฟิตซาบิน่าซะหน่อย แต่น้ำแดงอาบไม่ได้
ที่ออฟฟิตมีขายของฝาก น้ำพริกเผา น้ำพริกกุ้งเสียบ ทานกับข้าวเกรียบปูจั๊กจั่น ชิมแล้วอร่อยติดใจซื้อกลับกันทุกคนเลย
น้ำพริก 3 กระป๋อง 100 บาท ข้าวเกรียบทอดแล้วถุงละ 50 บาท ซื้อกันหลายคนป้าก็ลดให้ครับ
เก็บของเรียบร้อยก็ไปขึ้นรถที่ขนส่ง คุระบุรี ล้างหน้าล้างตาสักพัก
ขากลับ ลิกไนท์ทัวร์ ..ค่าโดยสารคนละ 676 บาท/คน มี่นั่งดีปรับนอนได้ เบาะนวดไฟฟ้า นั่งสบาย
อาหารมื้อดึกถือว่าดี ทานที่ร้านคุณสาหร่าย มีปลาทอด(แอบเหนียว) แกงปลา แกงจืดซี่โครงหมู น้ำพริกปลาทู ผัดผักบุ้ง
ซื้อขนมของฝาก ไข่เค็ม กล้วยเล็บมือนางตาก ขนมอื่นๆมากมายได้ที่นี่
ถึงขนส่งหมอชิตประมาณตี 3 เร็วผิดปกติ 555 จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
สำหรับทริปนี้ขอจบเพียงเท่านี้ ลากันด้วยภาพนี้นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบ
สวัสดีครับ
White_Cloud
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 10.24 น.