เห็นผ่านตาว่ามีรถไฟท่องเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ - ชุมทางแก่งคอย ออกจากกรุงเทพฯ 14:50 กลับ 22:30 ทริปเที่ยวงานวัด ไม่ต้องคิดจองเลย ตั้งใจไว้ว่าจะไปเที่ยววันที่ 1 เมษายน 2565 เพราะคิดว่าวันศุกร์คนน่าจะไม่เยอะมาก ถึงวันเดินทางมาถึงสถานีรถไฟกรุงเทพก่อนเวลานิดหน่อย ได้มีโอกาสมาถ่ายซุ้มที่จัดไว้ด้วย
ขบวนรถที่เราจะโดยสารไปด้วยมาแล้ว มีแค่ 2 คันเท่านั้น
เดินขึ้นมาบนขบวนรถ ที่นั่งเราคันที่ 1 ที่นั่ง 22 รถโล่งมาก นั่งสบาย
ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่มาแนะนำการเดินทางในวันนี้ แจกเอกสารแนะนำการท่องเที่ยว
ทริปนี้เขาจะพามาเที่ยวงาน แก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำบุญที่วัดในรอบหลายปี และได้เข้าเยี่ยมชมโรงรถจักรแก่งคอยด้วย สักพักมีอาหารว่างมาแจกให้ด้วย อิ่มเอมกันไป
ไม่นานก็ถึงแล้วโรงรถจักรแก่งคอย ที่นี่มีการนำชมแนะนำจุดต่างๆ ในโรงรถจักร
ไฮไลท์ของการเยี่ยมชมโรงรถจักรแก่งคอย คือ เสาที่โดนสะเก็ดระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนี้เหลือให้ชม 2 เสา
ออกจากโรงรถจักร รถไฟพาเรามาที่สถานีชุมทางแก่งคอย การต้อนรับนี่เกินความคาดหมายไปไกลมาก ลงรถมามีขบวนต้อนรับยืน 2 แถวให้เดินตรงกลางตั้งแต่ลงรถถึงตัวสถานี (อันนี้ตกใจอยู่เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้) เข้าตัวสถานีก็ได้ของที่ระลึกจากที่นี่ก่อน
ออกมาด้านหน้าสถานีรถไฟ มีการเตรียมรำวงต้อนรับด้วย จุดนี้เราชอบมาก ประทับใจ (จุดแรกตกใจมาก)
จบรำวงต้อนรับก็เดินชมการออกร้านตลอด 2 ข้างทางเพื่อไปวัดแก่งคอย
เดินไปตามทางประมาณ 350 เมตรก็ถึงวัดแก่งคอยแล้ว มาถึงก็เจอไฟแบบงานวัดเลย เริ่มสนุกแล้ว
มีจุดคัดกรองก่อนเข้าวัด เราถามเจ้าหน้าที่ว่า "ระเบิดอยู่ตรงไหนครับ" สนใจมาดูระเบิดที่ไม่ระเบิดก่อนเลย
จากนั้นก็ถึงเวลาทำบุญ ไหว้พระ และถวายสังฆทาน
ถวายสังฆทานเสร็จพระท่านรดน้ำมนต์ให้จนเปียกทั้งตัว ท่านเห็นใครตามเรามาด้วยไหมนะ บ่าหนักๆ อยู่ด้วย จากนั้นเราก็ไปที่ถ้ำนาคา ก่อนเข้าถ้ำเราทำบุญ พระอีกท่านก็พูดว่าเดี๋ยวจัดให้ชุดใหญ่เลย แล้วท่านก็รดน้ำมนต์ให้อีกชุดใหญ่ ตอนนี้ไม่เหลือจุดไหนบนร่างที่แห้งแล้ว ชุ่มฉ่ำมากๆ เราก็สบายใจมากเช่นกัน ไปเข้าถ้ำนาคากันเถอะ
รดน้ำมนต์เห็นผลทันตา เราโยนเหรียญลงบาตรตั้งแต่เหรียญแรกเลย ออกจากถ้ำมาได้เวลาใกล้พิธีเปิดงาน "แก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2" โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ทางการรถไฟได้จัดที่นั่งบริเวณที่มีการกล่าวเปิดงานไว้ให้สำหรับทุกคนที่เดินทางมากับรถไฟ เราไม่ได้ไปนั่งจุดนั้น รู้สึกมันต้องเรียบร้อยตลอดเวลา เราเลยเลือกนั่งด้านล่างหลังพระฤๅษีนี้แทน
นั่งกับพื้นนี่แหละสบายสุดแล้ว พอแสงสุดท้ายริมน้ำป่าสักหมดลง พิธีเปิดก็เริ่มต้นขึ้น กล่าวเปิดงานเสร็จก็มีพลุเปิดงาน
การแสดงสื่อผสมแสงสีเสียงดีมาก ระเบิดลงทีหูดับไปเลย นั่งไกลและเอียง ภาพที่ได้จะเอียงและแตกมาก
พลุจบการแสดงสื่อผสมแสงสีเสียงก็ประทับใจ ระเบิดตู้มต้าม หูดับไปอีกแล้ว
การแสดงที่ถ่ายด้วยมือถือ ขออภัยที่คุณภาพของภาพที่ออกมาแย่มาก ตัดต่อไม่เป็น วิดีโออาจพลิกไปพลิกมาบ้าง
การแสดงจบลง เรารีบพุ่งตัวกลับสถานีรถไฟแก่งคอยก่อนเลย ใครจะเลทก็เรื่องของเขา เราต้องไม่เลท
ขึ้นรถมางงๆ นิดหน่อย เรานั่งผิดคัน ขออภัยเจ้าของที่นั่ง 22 คันที่ 2 ด้วย (เรานั่ง 22 คันที่ 1) คนครบ รถออกก็ได้ของที่ระลึกอีก 2 ชิ้นเป็นตะกร้าเชี่ยนหมากสีแดง (อีกแล้ว หลายทริปแล้วที่ได้สีแดง) และพวงกุญแจน้องทับทิมกรอบ (คุณเซี๊ยะบอกว่าจะได้เฉพาะเที่ยวปฐมฤกษ์เท่านั้น)
ของว่างขากลับเป็น Puff Stick อร่อย
ขากลับรถไฟถึงสถานีกรุงเทพเร็วกว่ากำหนด 15 นาที เป็นอีกทริปที่ประทับใจมาก ขอบคุณการรถไฟแห่งประเทศไทยที่จัดรถไฟท่องเที่ยวเส้นทางใหม่ๆ เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ดูแลตลอดทริป ขอฝากไว้นิดเดียวทุกคนที่ร่วมทริปควรต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่บนขบวนรถไฟ ยกเว้นแค่ช่วงที่รับประทานของว่างเท่านั้น เรายังคงอยู่ในสถานการณ์โควิดที่ไม่เบาลงเลย ผู้ติดเชื้อก็ยังสูง ผู้เสียชีวิตนิวไฮทุกวัน ไม่พร้อมใส่หน้ากากอย่าเพิ่งออกจากบ้านมาเที่ยวเลยครับ
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565 เวลา 23.36 น.