โอ้ยยยย ในที่สุดก็ได้ไปต่างประเทศสักที!! 2 ปี ที่ยาวนานจากโควิด
ต่อสู้ฝ่าฟันจนได้ออกนอกประเทศแล้ว🎉
เราจองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน จองผ่าน airasia มาเลย ค่าตั๋วรวมน้ำหนักกระเป๋า 30 กิโล
4,333 บาท ถ้าใครคิดว่า 7 กิโลพอ ค่าตั๋วก็ 3 พันนิด ๆ
เดินทางมา 1 ชั่วโมงก็ถึง KLIA 2 เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง
เราใช้ AIS เลย เปิดโรมมิ่ง ใช้แพ็คเกจเพื่อนบ้าน ราคา 9ต บาท ใช้ความเร็วเน็ต 2 GB หมดแล้วลดเหลือ 128 kpbs ( อันนี้วันที่ 3 ที่อยู่มาเลเซียกดซื้อไปอีกรอบ เพราะพอความเร็ว 2 GB หมด มันช้ามาก แต่เอาจริง ๆ ก็คุ้มอยู่ 90 กว่าบาทเอง)
เราเลือกเข้าเมืองโดยการนั่ง GRAB เพราะไปกัน 4 คน หารแล้วถูกกว่านั่ง KLIA Express ราคา GRAB แบบ 6 ที่นั่งอยู่ที่ 115 RM (925 บาท) เอาจริง ๆ เรียกแบบ 4 ที่นั่งปกติก็ได้ แต่กระเป๋าเรามีใบใหญ่ 2 อัน
ออกจากสนามบินมาฝากกระเป๋าที่โรงแรมก่อน เราพักกันที่ ibis kuala lumpur city centre เพราะว่าเดินทางสะดวก ใกล้ตึก Petronas เรานอนกัน 2 คืน 3000 บาท ตกคืนละ 1500 บาท ห้องขนาดโอเค มีเตารีดให้ด้วย สุดปัง!
เก็บกระเป๋าเสร็จก็ให้ GRAB คนเดิมไปส่งที่ร้านอาหาร แถวมัสยิดจาเม็กซ์ เค้าคิดเพิ่ม 10 RM เลยไปก็เค้าเพราะคำนวณแล้วเรียกใหม่ก็พอ ๆ กัน ปล. Grab ที่นี่น่ารักทุกคน ยังไม่ได้ลองนั่ง Taxi เลย เพราะเรียก Grab ก็สะดวกดี
ร้านแรกที่มากินคือ Song kee beef noodle เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ซึ่งเนื้อเค้าเด้งมาก เหมือนกินหมูนุ่มเลย ราคา ตกอยู่ที่ชามละ 9 RM
(72 บาท) อร่อย ใช้ได้เลย อยู่ใกล้ มัสยิดจาเม็กซ์ เดินไปถ่ายรูปต่อได้
เดินจากร้านก๋วยเตี๋ยวมาก่อนถึงอาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด Sultan Abdul Samad Building
จากนั้นนั่ง GRAB ไปอีก 12 RM (95 บาท) ไปหาคาเฟ่นั่งแถว China town มีหลายร้านเลย เราเลือกนั่งร้าน Vintage 1988
ราคากาแฟ น้ำ ตกอยู่ที่ 9 - 16 RM ประมาณ 70 - 130 บาท พอ ๆ กับไทยเลย รสชาติอร่อยดี มาตรฐานตามคาเฟ่ทั่วไป
มาอีกร้าน Niko Neko คาเฟ่ สายชาเขียวไม่ควรพลาด ชาเค้าดีมากจริงๆ ต้องมาลอง
เดินต่อมาที่ REXKL อยู่ใน China town เหมือนกัน เป็น Creative space มีทั้ง คาเฟ่ ร้านขายหนังสือ ที่จัดงานนิทรรศการต่างๆ จุดที่พีคเลยคือร้านหนังสือ เค้าตกแต่งรูปแบบเขาวงกต สวยมาก
แวะมาคาเฟ่กรุบ ๆ อีกร้าน ที่ย่าน KWAI CHAI HONG ชื่อร้าน Luckin Kopi อร่อยมาก สั่งไก่ทอดไข่เค็ม กับ Toast ดริป สังขยา เนยถั่ว นูเทลล่ามา คือดี
เสร็จแล้วก็เดินมาถ่ายรูปตรงตรอก KWAI CHAI HONG เป็น street art ชุมชนคนจีนดั้งเดิมที่ย้ายมาที่กัวลาลัมเปอร์ ตรงนี้สวยมากกก ทั้งตึก ร้านคาเฟ่ สีสันคือตัดกัน photogenic สุด ๆ
กลับจาก KWAI CHAI HONG โดยเดินไปขึ้นสถานีรถไฟฟ้า ที่ สถานี Paser sani เพื่อไปลงที่ KLCC กลซึ่งเป็นสถานีของตึก Petronas และอยู่ใกล้ที่พักเรา ตอนนี้ MRT, LRT and KL Monorail ที่มาเลเซีย ขึ้นฟรี ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2022 นี้นะคะ
ถึง KLCC เดินขึ้นมาก็เจอวิว Petronas twin towers เลย สวยมากกก
วันที่ 2
วันนี้เราจะไปสวนสนุก Genting SkyWorlds กัน
ซึ่งเราจองตั๋วรถบัส รอบ 8 โมง 45 ไว้ (แนะนำให้จองออนไลน์นะคะ เพราะถ้าไปซื้อหน้าตู้เคาน์เตอร์จะต่อคิวนาน และอาจจะไม่ได้รอบนั้น ๆ เลย เพราะที่นั่งจะเต็ม และต้องรอรอบถัดไป) เที่ยวละ ราคา 10 RM ประมาณ 80 บาท
ทางไปจอง AeroBus KL Sentral - Genting: กดเพื่อจอง
สามารถกดจองเที่ยวเดียว หรือ ไป - กลับ ได้เลย แต่เราจองขาไปก่อน ขากลับไปกดที่นู้นเพราะไม่รู้ว่าจะเล่นเสร็จเมื่อไหร่
เราเรียก GRAB จากโรงแรมไปที่ KL Sentral ใช้เวลา ประมาณ 20 นาที
ที่ขึ้นรถของ Aero bus อยู่ใช้ใต้ดิน เข้าประตูหน้า สถานี KL Sentral ให้เดินตรงมาสุด แล้วลงบันไดเลื่อนเลย
เดินทางมา 1 ชั่วโมงพอดี ก็ถึง Genting พอลงจากชานชาลา ให้เดินตามป้าย AWANA Skyway เพื่อไปขึ้นกระเช้า ส่วนกระเช้าเราก็จองผ่านออนไลน์ไว้เหมือนกัน ไป - กลับ ไม่ระบุเวลา คนละ 18 RM
ทางไปจอง Awana Skyway: กดเพื่อจอง
วันที่เราไปหมอกหนามาก มองไม่เห็นวิวอะไรเลย อากาศประมาณ 19-22 องศา
เราลงสถานีที่ 3 คือ Sky avenue จะเป็นโวนห้างนะคะ เราถึงประมาณ 10.30 เลยยังไม่มีร้านอาหารเปิด เดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอ Food court คนเยอะมาก อาจจะเพราะยังไม่มีอะไรเปิด ที่นี่ตอนแลกเป็น Card จ่ายนะคะ เค้าจะมีตู้ไว้แลกการ์ด อาหารก็มีหลากหลาย ราคาเริ่มต้นที่ 9 RM
ทานเสร็จเราก็เดินลงมา ชั้นที่เชื่อมกับ Genting SkyWorlds เราซื้อตั๋วผ่าน KLOOK มานะคะ คนละ 1,200 บาท สามารถแสกนเข้าประตูได้เลย ใช้มือถือแสกนได้เลย สะดวกมาก ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วให้วุ่นวาย ที่สำคัญ โหลด App Genting SkyWorlds ไว้เลยนะคะ ใน App สามารถใช้กดจองคิวเครื่องเล่น โหลดรูปที่เราถ่ายตามจุดต่างๆ ได้ฟรี ดีมาก ๆ เลย
เข้ามาแล้วนอกจากอาหารก็ไม่เสียค่าเครื่องเล่นอะไรเพิ่มเลย เล่นได้ทุกอย่าง เครื่องเล่นดีมาก ประทับใจทุกอย่าง สามารถไปมุกรีวิวได้ในคลิป Vlog นะคะ
เราอยู่ในสวนสนุกทั้งวัน จนถึง 5 โมง เราก็เลยเลือกจองรอบรถตอน 2 ทุ่ม จะได้มีเวลาหาอะไรกินก่อน เรากลับเข้ามาในห้างและหาอะไรเล่น ๆ กินก่อนกลับลงไปที่ชานชาลารถ
วันที่ 3
เราออกจากโรงแรมมาคาเฟ่ชื่อ After one ห่างจาก ibis ที่พักเราแค่ 250 เมตร ร้านน่ารักมาก อาหาร กาแฟอร่อย มุมมีถ่ายรูปเยอะ
จากร้าน After one เราเรียก GRAB มาที่ ห้าง Suria KLCC เพื่อที่จะมาถ่ายรูปมุมตึก Petronas ที่ KLCC Park กัน
แล้วเราก็เดินจาก KLCC park ไปที่ สะพาน Pintasan solma ประมาณ 1 กิโลเมตร ข้ามฝั่งถนนไปนะคะ
จากนั้นเราก็เรียก GRAB เพื่อไป Putrajaya กัน โดยไปขึ้นรถไฟที่ KL Sentral นะคะ
ค่ารถไฟจาก KL Sentral ไปลง สถานี Putrajaya & Cyberjaya 14 RM (113 บาท) ใช้เวลานั่งไปประมาณ 20-30 นาที
พอถึงสถานี Putrajaya & Cyberjaya ให้เดินลงบันไดมา จะเจอลานจอดรถบัส ใครที่ไม่รีบสามารถรอรถบัส L 15 ได้เลย บัสจะจอดที่หน้า มัสยิดสีชมพูเลย แต่เรากลัวจะเย็นไป เลยเรียก GRAB เหมือนเดิม ประมาณ 9RM (80 บาท)
วันที่เรามามัสยิดสีชมพูปิดซ่อมแซมจนถึงเดือนสิงหานะคะ แต่ยังเข้าไปถ่ายรูปได้อยู่ และมีเจ้าหน้าที่คอยเล่าประวัติมัสยิด เราใส่ต้องใส่ชุดคลุมด้วยนะคะ สามารถสวมทับได้เลย
เสร็จจาก Putra Mosque เราก็กลับมาที่ สถานี เพื่อขึ้นรถไฟกลับเข้าเมืองมาที่ KL Sentral แพลนวันนี้เราไม่มีอะไรแล้ว เลยไปเดินเล่นที่ River of life ตอนค่ำ ๆ ไฟสวยมาก
เดินออกมาไม่ไกลเราก็เจอ 4fingers สาขาติดกับ สถานี Masjid Jamek เลย ลองแวะมากินซะหน่อย อร่อยดี ไก่กรอบ ซอสหวานเค็ม ๆ เหมือน Bonchon โอเคเลย เราสั่งแบบ ปีกและน่อง 12 ชิ้นมา ราคา 39.9 RM (322 บาท)
เสร็จแล้วเราก็นั่งรถไฟจาก สถานี Masjid Jamek มาลงที่ KLCC ฟรี! เหมือนเดิม ก่อนจะกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมแล้วย้ายไปโรงแรมใหม่ เราก็แวะกินกันอีกรอบที่ร้าน NZ curry house อยู่ตรงข้ามตึก Petronas เลย เค้าเปิด 24 ชั่วโมง นะ อารมณ์เป็นเหมือนฟู้ดคอร์ท อาหารสไตล์อินเดีย อร่อยมาก และคืนวันเสาร์ตรงนี้ คนก็เยอะมาก มีทั้งมาถ่ายรูปกับตึก Petronas มาห้าง ขี่สกุ๊ตเตอร์
คืนสุดท้ายเราพักกันที่ The Establishment (EST) สถานี Bangsar นะคะอันนี้เราจองผ่าน Agoda มานะคะ ถ้าใครมาเป็นกรุ๊ปหรือมากันแบบครอบครัวแนะนำที่นี่เลยมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำตกคืนละประมาณ 2,000 บาท นิดๆที่นี่เป็นแบบอพาร์ทเม้นท์นะคะหรือจะมีเก็บค่าบริการทำความสะอาดสายได้ที่หน้างานนะคะประมาณ 500 บาท ที่นี่เข้ามีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟด้วย สะดวกมาก ๆ
วันที่ 4
วันสุดท้าย เรามาเริ่มวันที่ห้าง Bangsar Shopping Centre (BCS) นะคะ ออกมาจากที่พักประมาณ 10 นาที ก็เป็นห้างที่มีร้านอาหาร มีร้านขนมไร Supermarkets ร้านอาหารน่ารัก ๆ เยอะมาก
เรามาทานร้านชื่อ Dusun Open house กันนะคะ บรรยากาศดีมาก ๆ เหมือนนั่งอยู่บาหลีเลย
ทานข้าวอิ่ม เดินถัดมาก็เจอร้านกาแฟ Burrow KL คนเยอะมากกก ร้านน่ารักมาก เลยลองเข้าไปสั่งดู เราสั่ง Piccalo เย็นมา 11 RM (88 บาท) อร่อยมาก Package ก็น่ารัก
จาก Bangsar Shopping Centre (BCS) เราเรียกรถไปที่ Batu caves ราคาอยู่ที่ 24 RM (194 บาท) แต่เรามีเพื่อนเพิ่มมา เป็น 5 คนเลยเรียกแบบ Van ไป เป็น 49 RM (396 บาท)
ที่เที่ยวที่สุดท้ายของเราก่อนไปขึ้นเครื่อง คือ Batu caves วันที่เราไปเหมือนฝนพึ่งตกไป พื้นเลยแฉะ ๆ แต่บันไดเดินขึ้นง่าย ที่ต้องระวังคือ ลิง และ นก อย่าถืออาหารขึ้นไป เพราะลิงพร้อมแย่งเสมอ
เรากลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรม ก่อนที่จะไปสนามบิน เราลองเรียก GRAB แบบปกติที่ไม่ใช่แบบ VAN เพราะสังเกตุแล้ว รถที่นี่ Grab ปกติเค้าเป็น 5 ประตูส่วนใหญ่ สรุปก็โชคดี เพราะเจอ 5 ประตูขากลับจริงๆ เลยเสียไป 70 RM (565 บาท) ถูกกว่าขามา 40 RM เลย
สรุปทริปมาเลเซียครั้งแรก แถมเป็นช่วงโควิดอยู่ ถึงแม้ว่าจะซา ๆ ไปแล้วเราประทับใจมาก ๆ ไม่มีที่ติเลย ทั้งผู้คน การเดินทาง อาหาร ที่พัก
อ๋อ มีติเรื่องนึงคือน้ำขวดเล็กจะแพง ประมาณ 15 - 16 บาท แนะนำให้ซื้อขวดใหญ่ มีแค่นี้จริง ๆ
บ้านเมืองเค้าสะอาดมาก มีแค่จุดเล็ก ๆ ที่ดูแลไม่ถึง ที่ไปมาเจอแต่ผู้คนน่ารักทุกคน ไม่เจอมาโกง หรือมาป่วนเปี้ยนอะไรเลย
ประทับใจมา สวนสนุก Genting ก็เกินคาด ไม่ได้คิดว่าจะดีขนาดนี้ ระบบจัดการ เครื่องเล่น สนุก ตื่นตาไม่แพ้ค่าย ๆ อื่นๆ ที่สำหรับตั๋วไม่แพงมากด้วย
แนะนำเลย ใครที่อยากออกนอกประเทศแบบงบประหยัด มาเลเซีย ตอบโจทย์คุณแน่นอน!
ติดตามช่องทางอื่นๆ
Instagram: https://www.instagram.com/isna...
Youtube: https://www.youtube.com/ntgoes...
Isnamtarn
วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 20.23 น.