เราได้รับใบประชาสัมพันธ์งาน "เสนาะเสียง เสน่ห์แสง แห่งย่านบางลำพู" ก่อนหน้าการจัดงาน 1 อาทิตย์ หลังจากกลับมาดูรายละเอียดแล้ว มีไฮไลต์ได้ขึ้นชมป้อมพระสุเมรุด้วย ตัดสินใจจองทันที งานจัดวันที่ 25-26 มิถุนายน 2565 ตัดสินใจจองรอบบ่ายของวันแรก การร่วมกิจกรรมมีค่าใช้จ่าย 300 บาท
พอถึงวันที่จองไว้เราลืมไปสนิทเลย จนวันที่ 26 มิ.ย. มีน้องไกด์เด็กบางลำพูโทรมาสอบถามการจัดส่งของชำร่วย เราเลยถามว่าถ้าไปร่วมงานวันสุดท้ายนี้ยังทันไหม น้องแจ้งมีรอบสุดท้าย 18:30 ดูเวลาแล้วทันแน่ น้องเลยจัดการย้ายชื่อมาให้
ไปถึงพิพิธบางลำพู 6 โมงเย็น ลงทะเบียนเสร็จก็มานั่งดูการแสดงที่จัดขึ้นบริเวณลานระหว่างเรือนไทยกับอาคารพิพิธบางลำพู
ถึงเวลานัดหมายมาตรงจุดลงทะเบียนน้องไกด์เด็กบางลำพูแจกริบบินและแท่งเรืองแสงเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มสุดท้ายที่แสงใกล้หมด
ไกด์เด็กบางลำพูอธิบายเส้นทาง และเดินไปจุดแรกที่ตรอกไก่แจ้ จุดนี้มี street art ที่สื่อถึงย่านบางลำพู
กังหันลมรูปไก่แจ้ อีกสัญลักษณ์ของตรอกไก่แจ้
เดินทะลุซอยย่อยย้อนมาที่ซุ้มประตูวัง ปัจจุบันก็เหลือเพียงเท่านี้
เดินต่อมาที่สวนสันติชัยปราการ มานั่งตรงริมน้ำเจ้าพระยาบริเวณต้นลำพู จุดนี้น้องๆ อธิบายรายละเอียด ความเป็นมาเป็นไปของย่านบางลำพูในสมัยก่อนที่มีการสัญจรทางเรือเป็นหลัก เวลามาถึงจุดนี้จะเห็นหิ่งห้อยเยอะจนทุกคนรู้ว่าถึงบางลำพูแล้ว
ระหว่างฟังการเล่าเรื่องราวต่างๆ ทีมไกด์เด็กบางลำพูก็แจกขนมเกสรลำพู ขนมของย่านบางลำพู ทำจากมันม่วงใส่หวานจากนมข้นหวาน อร่อยดี
บริเวณสวนสันติชัยปราการมีการติดตั้งไฟสวยงามตามชื่องาน "เสนาะเสียง เสน่ห์แสง ย่านบางลำพู"
พลับพลาที่ประทับ ภายในสวนสันติชัยปราการ
ระหว่างรอรอบก่อนหน้าลงจากป้อมพระสุเมรุ ไกด์เด็กพามานั่งรอตรงลานแอโรบิก เราเลยได้โอกาสถ่ายรูปสะพานพระราม 8
ถึงเวลาไฮไลต์ของกิจกรรมนี้แล้ว ไกด์เด็กบางลำพูพาขึ้นชมป้อมพระสุเมรุชั้นที่ 1 ก่อนขึ้นเราเดินเลยทางขึ้นเพื่อมาถ่ายรูปจุดที่เราชอบก่อน
ก่อนขึ้นป้อมพระสุเมรุ น้องไกด์เด็กบางลำพูให้โชว์แท่งเรืองแสงที่ข้อมือเป็นสัญลักษณ์ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมรอบสุดท้าย ขึ้นมาด้านบนจนครบมีเจ้าหน้าที่จากพิพิธบางลำพูให้ความรู้และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับป้อมพระสุเมรุ
พาชมรอบๆ พร้อมทั้งบรรยายจุดต่างๆ ไปด้วย
เดินอธิบายจนครบรอบ เราก็ได้รูปยืนตรงบันไดทางขึ้นชั้นที่ 2 ภาพนี้ต้องขอบคุณอาจารย์สอนรำที่เอื้อเฟื้อถ่ายให้
จากนั้นเราเดินอีก 1 รอบเพื่อเก็บภาพเคลื่อนไหว
เดินมาเจอน้องๆ ที่มารำในงานมานั่งถ่ายภาพ เราเลยขอน้องๆ ถ่ายรูปมาด้วย
เราโอเคกับกิจกรรมและการถ่ายรูปแล้วก็ลงมาที่จุดลงทะเบียนน้องให้ทำแบบประเมินความพึงพอใจและให้ของที่ระลึกมา 1 กล่อง พร้อมคูปองอาหาร 50 บาท สามารถซื้ออาหารในงานได้ เราได้น้ำ 1 แก้วและผัดไทย 1 ห่อ (เพิ่มเงินเอง 10 บาท)
ขากลับเราเลือกเดินมาขึ้นรถที่สนามหลวง แต่พอมาถึงฝนตกเลยขึ้นมาหลบฝนบนรถที่รับ-ส่งไปชมโขนที่โรงมหรรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง
จบวันที่มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมดีๆ อีกหนึ่งกิจกรรม
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันพฤหัสที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 02.02 น.