เนื่องจากมีวันหยุดยาวช่วงวันที่ 28-31 ก.ค. 65 เราก็เลยวางแผนจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน คือเราอ่านรีวิวการไปเที่ยวเยอะมากๆ แต่ที่ที่เราสนใจและอยากไปและคิดว่าไปได้นั่นก็คือ สะพานมอญ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้คือคิดปุ๊บจองที่พักปั๊บทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก5555
เริ่มต้นตอน 6 โมงเช้าที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก(สามารถขึ้นรถเมล์ไปลงที่หมอชิตแล้วเดินข้ามสะพานลอยไปเลย) เราเลือกวิธีการเดินทางโดยรถมินิบัสไปลงที่ บขส. กาญจนบุรี ในราคา 130 บาท (เราอ่านรีวิวมาราคา 120 บาทงงนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจว่าราคาน้ำมันขึ้น) เราได้รถเราได้รถรอบ 6.20 น.
*คำเตือน เราพึ่งเคยไปที่ขายตั๋วครั้งแรกเราอึ้งกับการขายตั๋วที่โหดมาก ทุกคนตะโกนถามเราว่าน้องจะไปไหนแล้วเสียงดังก้องมากแต่คนรอบๆคือทำเหมือนนี่คือเรื่องปกติ ถ้าใครไปครั้งแรกอาจจะตกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง*
ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เกือบ 3 ชม. (มีอุบัติเหตุรถเลยติดนิดหน่อย) เราถึงบขส. กาญจนบุรี ประมาณ 9 โมง ก็รีบไปซื้อตั๋วรถตู้ไปต่อที่สังขละบุรี สามารถถามคนแถวนั้นได้เลยเราได้รถรอบ 10 โมงในราคา 190 บาท (ในรีวิวราคา 175 บาทค่ารถขึ้นอีกแล้ว!) จากนั้นเราก็แวะทานข้าวเข้าห้องน้ำเตรียมตัวขึ้นรถเพราะเท่าที่อ่านรีวิวคือเดินทาง 4 ชม.เลย เราก็กังวลว่าถ้าอยากเข้าห้องน้ำจะทำยังไง แต่จากการที่เราไปมาคือรถจะมีแวะให้เข้าห้องน้ำที่ท่ารถทองผาภูมิ ถ้าใครกลัวจะปวดเข้าห้องน้ำสบายใจได้และระยะเวลาเดินทางไม่ได้นานถึง 4 ชม. ประมาณ 3 ชม.กว่าๆ
เมื่อมาถึงสังขละบุรีเราได้จองโฮมสเตย์กับป้าซำมะไว้ราคา 200 บาทต่อคนมาคนเดียวก็ 200 บาทจ้า โฮมสเตย์ป้าอยู่ฝั่งมอญ เลยตัดสินใจขึ้นวินไปในราคา 50 บาทเลย แต่คือไกลนะคุ้มค่ากับค่ารถมากคือเป็นทางขึ้นเขาแบบว่าสุดปังน้ำหูน้ำตาไหลหวาดเสียวแบบรถไฟเหาะ แนะนำว่าให้ขึ้นวินหรือรถซาเล้งคนละประมาณ 20 บาทไปลงสะพานมอญแล้วเดินข้ามไปเพราะโฮมสเตย์ป้าประมาณ 50 เมตรจากสะพาน( 50 เมตรแบบขึ้นเนินเหนื่อยอยู่)
👉🏻 รีวิวโฮมสเตย์ฉบับสั้น คือ ป้าใจดีมากและป้ามีชุดมอญให้ใส่ฟรีและแต่งตัวให้ด้วยมีข้าวต้มตอนเช้าฟรี!
เก็บของเสร็จก็ออกหากินร่าเริงแจ่มใส ตามที่อ่านรีวิวเค้าบอกให้ไปลองน้ำยาหยวกกล้วยราคา 35 บาทคือรสชาติจะจืดๆ คนขายแนะนำปรุงเพิ่มแต่คืออร่อยใช้ได้เลย ร้านจะอยู่ติดกับสะพานมอญเลย
มาถึงสังขละบุรีนอกจากสะพานมอญแล้วก็ต้องไปเมืองบาดาลไม่งั้นเดี๋ยวมาไม่ถึง ซึ่งจะมีเรือให้เหมาเราให้ป้าเจ้าของโฮมสเตย์ช่วยติดต่อให้ได้มาในราคา 500 บาทหาร 3 ก็ตกประมาณคนละ 160 กว่าบาทถ้ามีคนไปด้วยเยอะก็จะถูกลง ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชม.แล้วแต่ว่าเราจะเดินนานขนาดไหน
ธรรมชาติบำบัดสุดๆ
ถึงวัดแรกแล้ว
วัดวังก์วิเวการามเก่า หรือ วัดใต้น้ำ
มีขายดอกไม้ธูปเทียน 20 บาท
มีบางส่วนที่ยังจมน้ำอยู่ด้วย
วิวหน้าต่างสวยเหมือนกรอบรูปวาดเลย
สวยมากกกกกกกกก
ถึงวัดที่สองวิวสวยมากเหมาะกับการทำคอนเทนท์คอนเอยคอนใจมาก
ทางขึ้นเหนื่อยอยู่ที่แปลว่าเหนื่อยมาก
วัดที่สองวัดสมเด็จเก่า
วิวหน้าต่างสวยอีกแล้ว
ชื่อภาพ เปรียบกับพี่เป็นแค่ขอนไม้
วัดที่สามวัดกะเหรี่ยง ลุงขับเรือบอกว่าปีนี้น้ำเยอะ
วิวข้างทางสวยสุดๆ
กลับมาจากนั่งเรือเราก็ไปถ่ายรูปเล่นที่สะพานมอญจะเห็นว่าฝนตั้งเค้ามาแต่ไกลฟ้าแลบไม่หยุด บนสะพานช่วงเย็นคนจะค่อนข้างเยอะมาก(สุดๆ)
มีที่พักแบบแพด้วยน่าเปิดประสบการณ์สุดๆ
และนี่คือสะพานที่พี่วินพาอ้อมไปโฮมสเตย์(คือมองจากสะพานนั้นมาที่สะพานมอญจะสวยมากถ่ายไม่ทันพี่วินซิ่งมาก)
ตกเย็นเราข้ามสะพานกลับมาฝั่งไทยขึ้นรถซาเล้งคนละ 20 บาทเพื่อจะไปถนนคนเดิน ตามล่าหาหมูจุ่มพม่าไม้ละ 1 บาท คือมีหลายร้านเลยและค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบอ่านรีวิวแบบเรา รสชาติจะคล้ายๆพะโล้ แล้วก็มีน้ำจิ้มคือน้ำจิ้มแซ่บมาก ใครไปสังขละบุรีแนะนำให้ลอง แล้วเราก็ลองสั่งยำหมูพม่ามาชิมรสชาติอร่อยใช้ได้เป็นยำใส่แตงกวารสชาติไม่เผ็ดออกหวานนิดๆ จากนั้นเราก็เดินเล่นและกลับที่พัก
ยำหมูพม่าจานละ 50 บาทแซ่บอยู่เด้อ
วิวตอนกลางคืนคือดีฝนตกปรอยๆแต่ฟ้าแลบไม่หยุด
เช้าวันต่อมาคือเมื่อวานเพื่อนบ่นอากาศร้อนมากไหนบอกมีหมอก คือเราบอกเพื่อนว่าอ่านรีวิวมาเค้าบอกมีหมอกนะ แต่พอเช้ามาก็มีหมอกจริงๆตามรีวิวด้วย(เมื่อวานฝนตก) ตอนเช้าที่โฮมสเตย์ป้าจะแต่งชุดมอญให้ฟรีและมีชุดใส่บาตรให้ราคา 100 บาท ตอนเช้าที่สะพานคนเยอะมากและแต่งตัวแบบมอญกัน วิวตอนเช้าสวยมากหมอกเยอะสุดๆ
หมอกจางๆหรือควัน
พระอาทิตย์ขึ้นแป๊บเดียวจากนั้นเมฆบังดีนะที่ถ่ายทัน
สวยมาก
คนรอใส่บาตรเยอะมว๊ากกกกกก
เพื่อนเราอยากขึ้นรถไฟตอนกลับทำให้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า ป้าบอกว่ารถเที่ยวแรกออกประมาณ 6 โมงมีอีกทีตอน 9 โมง เราและเพื่อนเลือกรอบ 9 โมง เพื่อให้ไปทันรถไฟ(รถไฟออกประมาณ 12.55 ) ขึ้นรถตู้มาลงที่น้ำตกไทรโยคน้อยราคาเท่าลงที่บขส.กาญจนบุรีเลย 190 บาท
เดินทางมาถึงที่น้ำตกประมาณ 11.30 น. ตามที่อ่านรีวิวเค้าบอกว่าน้ำตกเดินไม่ไกลประมาณ 200 เมตร เราก็คิดว่ามันจะตรงมั้ยนะเพราะตอนโฮมสเตย์ป้าบอก 50 เมตรมันก็ไกลอยู่ แต่ก็ตัดสินใจไปเพราะว่าไหนๆก็มาละ สรุปคือมันไม่ไกลเลยจริงๆใกล้มากแนะนำเลยเยี่ยมยอด!
ระวังลื่นนะฮะ
เปียกกันตามระเบียบ
หลังจากถ่ายรูปเล่นเสร็จแล้วก็เดินทางไปสถานีรถไฟ ตรงด้านหน้าทางเข้าน้ำตกจะมีรถรับส่งจ่ายคนละ 20 บาทจากน้ำตกไทรโยคน้อยไปสถานีรถไฟน้ำตก ตั๋วรถไฟจะเปิดขายประมาณ 12.30 น. ที่สถานีรถไฟมีร้านข้าวร้านน้ำขายด้วย
ประมาณ 12.50 รถไฟก็มาถึงสามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจเลยราคาตั๋วประมาณ 39 บาท ป้าร้านขายของบอกว่าให้นั่งฝั่งขวาวิวจะสวยฝั่งซ้ายจะไม่ค่อยเห็นอะไร เราก็นั่งตามที่ป้าบอกเลย(แดดจะส่องหน่อยสุดท้ายย้ายมานั่งฝั่งซ้าย) รถไฟขบวนนี้สามารถเที่ยวแบบวันเดย์ทริปได้ด้วยจะขับผ่านทางรถไฟมรณะ ถ้ำกระแซ สะพานข้ามแม่น้ำแคว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก
วิวข้างทาง
ทุกคนต่างโผล่หัวออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย
หวาดเสียวอยู่น้าาาาา
แล้วก็มาถึงสถานีปลายทางธนบุรีตามตารางบอกถึง 17.40 น. ตามความเป็นจริงก็เลทเล็กน้อยถึงปานกลางตามสไตล์รถไฟไทย
ในที่สุดก็จบทริปเที่ยวสังขละบุรีตามรีวิวประสบการณ์ที่เราเจอบอกเลยว่ามีทั้งตรงและไม่ตรงตามรีวิวโดยเฉพาะราคาค่ารถ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างราคามันขึ้นและบางทีตอนที่ผู้อ่านไปเที่ยวราคาก็อาจไม่ได้ตรงตามที่เรารีวิวไว้ สุดท้ายนี้นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของเราเลยเราอยากลองทำอะไรใหม่ๆยังไงก็ฝากติดตามเพจเราด้วยนะคะ ทริปหน้าเราจะไปเที่ยวไหนจะมารีวิวอีกนะคะ (ตอนนี้นั่งอ่านรีวิวอยู่)
เพจ : Lapo's journeys (https://web.facebook.com/Lapos...)
สรุปค่าใช้จ่าย
- ที่พัก 200
- ค่ารถไปบขสกาญจนบุรี 130
- ค่ารถตู้ไปกลับสังขละบุรี 190 x 2
- ค่าเรือ 166 (เหมาลำละ 500)
- ค่าวินมอไซต์ประมาณ 130
- ค่ารถไฟ 39
- ค่ากินประมาณ 400
Opalishappy
วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.47 น.