วันนี้จะมาแนะนำ ที่พักริมทะเลแห่งหนึ่งที่ ที่พักที่เหมาะสำหรับแวะกิน!! แวะเดินเล่นชายหาด และก็พักผ่อนนอนค้าง

ที่นาจอมเทียนครับ ขับรถเลยพัทยาไปหน่อย ตรงข้ามโรงละครไทยอลังการปุ๊บ ก่อนถึง รร.แอมบาสเดอร์ 800 เมตร กลับลงแล้วเลี้ยวเข้าซอยนี้ ซอยนาจอมเทียน 10 ไป ซอยสั้นๆ ปลายซอยจรดทะเล .... หาดทรายทอง แห่งนาจอมเทียน พัทยา คุณจะเจอกับร้านอาหารน่านั่งร้าน ร้านที่มีที่พักเก๋ๆ ด้วยบรรยากาศดีๆ ริมชายหาด

The Journey Beach Resort and The Glass House Beachfront Restaurant & Bar

gps: 12.849209, 100.902793 https://goo.gl/9xWE9J

กับบรรยากาศหาดทรายทอง หาดส่วนตัวกับมุมรับประทานอาหารหน้าหาด The Glass House

อาคารเรือนกระจกหลังเด่น The Glass House หลังนี้ล่ะมั้งที่เป็นที่มาของชื่อ ที่นี่จะเรียกว่าร้านอาหารของที่พักก็ไม่ถนัด รู้สึกว่าร้านอาหารนี้มีมานานละ และก็เป็นที่นิยมรู้จักกันดี ส่วนที่พักหน่ะดูเหมือนจะเพิ่งเปิดได้ไม่นานเท่าไหร่ และสำคัญตรงที่คนไม่ค่อยรู้ว่าที่นี่ก็มีที่พัก

กิน

มาดูทางร้านอาหารก่อน

The Glass House Beachfront Restaurant & Bar

บรรยากาศโซนด้านล่าง ร้านน่านั่งมาก สวยเรียบหรูดูดี ติดชายหาดกว้างราบ ยาวเป็นกิโล ตัวร้านมีทั้งห้องแอร์ ห้องโอเพ่นแอร์ โซนใต้ชายคา และก็โซนบนพื้นทราย

บรรยากาศโซนชั้นบน ร้านนี้มีสองชั้น (จริงๆ มีชั้นใต้ดินด้วยนะ ไว้เก็บไวน์) บนชั้นสองเล่นระดับลดหลั่นเป็นอัฒจรรย์น้อยๆ มองเห็นวิวทะเลผ่านทิวสน ออกแบบอย่างนี้ทำให้โต๊ะนอกโต๊ะในมองเห็นวิวเท่าๆกันหมด เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ในโรงภาพยนต์ขนาดใหญ่ที่มีเก้าอี้นั่งโอ่โถงแบบ sweet seat ชอบชั้นล่างหรือชั้นบนก็เลือกกันตามอัธยาศัย แต่ส่วนใหญ่ผมเห็นนั่งกันอยู่ชั้นล่างโซนใต้ชายคากับโซนบนชายพื้นทรายซะมากกว่า

เป็นร้านอาหารริมทะเลเสริฟเมนูเป็นอาหารไทยและซีฟู้ด ซึ่งเมนูเยอะมาก

เอาเป็นว่าที่กินมาก็บางเมนูเท่านั้นและก็เลือกเฉพาะที่โปรดๆ และอยู่ในกลุ่มเมนูแนะนำ อย่างเช่น กรรเชียงปู ต้มยำกุ้งน้ำข้น หมึกไข่ทอดกระเทียม เมี่ยงปลากะพง

ของหวานโปรดๆ ก็มีช็อคโกแลตฟองดอง

อร่อยหรือไม่อร่อยแค่ไหนมีโอกาสลองมาพิสูจน์กันได้ สำหรับผมรสชาติที่ลิ้มลองคือไม่ผิดหวัง เป็นร้านน่านั่งมากๆ อีกแห่งหนึ่ง อีกอย่างที่คอนเฟริมรสชาติอาหารได้คือจำนวนลูกค้า คือมาทีไรช่วงแดดร่มลมตกจะเห็นลูกค้าทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ ผมเองก็มากินที่นี่สองสามหนละ

เดินเล่นชายหาด

อิ่มอร่อยแล้วก็ต้องพักผ่อนเดินย่อย ที่นี่หน่ะเหมาะเลยสำหรับคนชอบเดินเล่นชายหาดและชอบหาร้านนั่งริมทะเล กินเสร็จเช็คบิลเดินลงชายหาดเดินเล่นต่อได้เลย หรือจะกินไปลุกเดินเล่นไปก็ได้ เลือกโซนที่นั่งริมหาดสุดเป็นใช้ได้ ทิศที่หันหน้าออกทะเลเป็นทิศตะวันตก แดดร่มลมตกกินไปเรื่อยๆ ตะวันบ่ายคอยอ่อนแสงก็เดินเล่นเก็บตะวันต่อได้เลย ถ้าอากาศใสๆ ไม่มีฝนไม่มีเมฆกวนตาล่ะก็ได้ชมตะวันตกน้ำลับขอบฟ้าชัวร์

นั่งแอ๊คก่อนออกเดิน

ตะโกนบอกน้ำบอกฟ้า ชั้นมายืนอยู่ตรงนี้แล้ว

บรรยากาศยิ่งเย็นย่ำก็ยิ่งโรแมนติก

นี่คือเดินอยู่หน้าร้านเลย

เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามาเก็บไว้ในใจ ♪ ♩ ♭ ♪

มาที่นี่ทีไรผมไม่พลาดจิบเบียร์ครับ โดยส่วนตัวคือเป็นคนโปรดเบียร์มาก โดยเฉพาะที่นี่นอกจากบรรยากาศหน้านั่งจิบแล้ว เบียร์ที่เสริฟยังเป็นแบบแก้วใหญ่มาก มีเพียงสองยี่ห้อเป็นเบียร์นอก และเสริฟมาในแก้วที่ตรงยี่ห้อ เป็นแก้วชนิดรินทีเดียวหมดขวดใหญ่

ที่ชอบที่สุดคือจิบได้เต็มที่ เมาไม่ขับหลับแถวร้านนี่เลย The Glass House นอกจากบริการอาหารแล้วเดี๋ยวนี้ได้เปิดโซนบริการที่พักขึ้นด้วย

นอน
The Journey Beach Resort
เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ตั้งอยู่ก่อนถึงหน้าร้านเลย

เป็นที่พักสไตล์ pool villa มีให้บริการเพียง 8 หลัง (โดยหลังที่ 1และ 2 มัดรวมกันเป็น connection room)

ไม่มีกำแพงกั้นระหว่างบ้านแต่ละหลัง ดีไซน์ให้ทุกหลังโอบล้อมด้วยสระน้ำผืนเดียวกัน เปิดประตูรั้วบ้านเข้าไปจะพบกับสะพานเล็กๆ ทอดข้ามเข้าสู่บ้านใครบ้านมัน

ทั้ง 8 หลังตั้งเรียงรายแบบเลื่อมลดหลั่นกันไปหน้าบ้านไม่ตรงแนวกันให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว

ที่มาของชื่อเท่ๆ ที่มีความหมายถึงการเดินทาง The Journey! น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหล่านักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเหล่านี้

โดยดูเหมือนว่าจะเอามาตั้งเป็นชื่อบ้านทั้งแปดหลัง กับชื่อเหล่านักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด (หลังที่ 1+2 เอาชื่อ Marco Polo มาแยกเป็น Marco + Polo ผู้พิชิตเส้นทางสายไหมนั่นเอง ที่เหลือก็ได้แก่

Tom Sawyer นักผจญภัยในนิยายชื่อดังของมาร์ก ทเวน

Lemuel Galliver หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ กัลลิเวอร์ผจญภัย ที่เดินทางไปผจญกับดินแดนคนแคระ

James Cook นักสำรวจผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลีย เกาะนิวซีแลนด์ และหมู่เกาะฮาวาย

Christopher Columbus นักสำรวจ นักเดินเรือ ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา

Robinson Crusoe นักผจญภัยแดนมหัศจรรย์ นวนิยายชื่อดังของแดเนียล เดโฟ

Indiana Jones นักผจญภัยแสวงโชคจากมหากาพขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าของยอร์จ ลูคัส

7 บุคคลในที่นี้เป็นบุคคลคนมีตัวตนจริง 3 คน เป็นนวนิยายเรื่องแต่งอีก 4 คน ใครเป็นใครบ้างผมทำภาพประกอบจากภาพจากภาพยนต์จะได้ดูตื่นเต้นเร้าใจตามความชอบส่วนตัวนะครัช อิอิ ส่วนหลังไหนได้ชื่ออะไรไปไม่ลงรายละเอียดนะครับ

ซึ่งก็จะได้แก่ชื่อ Marco, Polo, Sawyer, Galliver, Cook, Columbus, Crusoe, Indiana จะเรียงไปตามลำดับนี้ทั้งหมดหรือเปล่าไม่แน่ใจ

\แผนผัง The Journey และ The Glass House มาให้ดูกันเล่นๆ เป็นภาพประกอบ

หลังคามุมจาก เปิดพื้นที่เพดานภายในห้องให้สูงโปร่งโล่ง

หลังบ้านเป็นลานอาบน้ำโอเพ่นแอร์โรยพื้นด้วยหินน้ำตก

ฝักตกขนาดใหญ่ อาบซะใจ แต่ว่าเสียดายไม่มีฝักแบบเล็ก อย่างนี้เวลาอาบแบบไม่อยากสระผม ไม่อยากผมเปียกก็เลยต้องคลุมผม ก็เลยไปบ่นกะพนง.ซะหน่อย ปรากฏว่าเค้าบอกว่ากำลังเตรียมติดตั้งแล้ว มาคราวหน้ารับรองมีทั้งฝักตก ฝักบัว

โซนห้องน้ำโอเพ่นแอร์เรียกได้ว่ากว้างมาก หลายตร.ม. ลานอาบน้ำปิดม่านได้ถ้าใครขี้อาย

ทั้งรีสอร์ทปลูกต้นไม้คลุมจนเขียวครึ้มไปหมด ที่ชอบเป็นพิเศษเวลาแหงนมองทองฟ้าคือสังเกตเห็นใบไม้ขึ้นเป็นวงๆ แบบในภาพ สวยดี ชอบมาก ไม่รู้เรียกว่าต้นอะไร

สะพานที่ทอดข้ามจากรั้วประตูสู่บ้าน เป็นไม้กระดานเรียงแบบขอบไม่เสมอ ดูสบายตาเป็นธรรมชาติ

พอรับกุญแจ พนง.พามาเปิดบ้านก็เข้ามาแนะนำวิธีใช้ห้อง แล้วก็อธิบายรายการในมินิบาร์

ตู้เย็นเปิดมามีน้ำดื่ม 4 ขวด .. ฟรี

น้ำผลไม้ 2 กล่อง .. ฟรี

ชา กาแฟ .. ฟรี

ขนมขบเคี้ยวมี 4-5 ถุง .. ฟรี

นอกนั้นคิดเงิน แต่ มีแต่! ชาร์ตราคาเดียวกับเซเว่นครับ วิเศษ ตรงนี้ผมชอบมากๆ บอกตรง เบียร์ในตู้ทั้งหมดก็เสร็จสิ ปกติจะต้องซื้อจากเซเว่นเข้ามาอีก มาที่นี่ไม่ต้องหิ้วละ

ไฟห้องหรี่แสงได้ ตู้เสื้อผ้าเปิดมามีร่มกันฝน มีรองเท้าแตะ แล้วก็มีหมอนเสริม 2 ใบ

ภายในห้องสูงโปร่งมากอย่างที่บอกตอนแรก เพดานผ้าระบายจับจีบ ห้องไฟระย้าดีไซน์เขาสัตว์

และ แอร์คอนดิชั่นตัวใหญ่มาก

ภาพนี้ยืนอยู่หน้าบ้านหลังหมายเลข 4 มองย้อนไปที่บ้านหลังหมายเลข 3 (ซึ่งติดกับหลังที่1 แบบ connection room

หน้าบ้านแต่ละหลังเป็นชานกว้าง มีชุดเก้าอี้นั่งเล่นและม่านระบายสีขาวนวลตา

ภาพนี้ยืนอยู่หน้าบ้านหลังเดิม หมายเลข 4 มองเลยไปหลังหมายเลข 5 6 7 8 ซึ่งอยู่ถัดๆ กับไปแบบเหลื่อมๆ

แต่ละหลังเนื้อที่เท่ากันหมด ยกเว้นหลังที่ 1+2 นอกนั้นที่แตกต่างคือหลังที่ 2 กับ 3 ห่างกันมากกว่าหลังอื่น เพิ่มพื้นที่สระน้ำจนกว้างขวาง

ภาพนี้ยืนอยู่หน้าบ้านหลังที่ 3 มองไปหาหลังที่ 4 นับว่าทั้ง 3 และ 4 ได้วิวดีที่สุด สระน้ำกว้างสุด

pool ที่นี่ไม่ได้ออกแบบให้เป็น swimming pool ว่ายไม่ได้ ตื้น แต่จะลงไปแช่เล่นก็ได้ ส่วนเด็กเล็กๆ ถ้าอยากลงไปแหวกว่ายเล่นก็ลงได้ และก็ดูน่าสนุก และเด็กๆ คงชอบ

ทั้ง 8 หลังแบ่งเป็นห้องแบบเตียงใหญ่ king size 4 หลัง และแบบ twin bed 4 หลัง

ราคาค่าห้องปกติ 8,250 บาท ช่วงนี้โปรโมชั่นเหลือ 3500 บาท ศ ส 3950 บาท(ราคานี้สำหรับห้อง 3-8)

สำหรับห้อง 1+2 2 bed room พักได้ผู้ใหญ่ 4 ท่าน ราคาปกติ 12000บาท ช่วงนี้เหลือ 5000 บาท ศ ส เหลือ 5450 บาท

ลาไปด้วยกับข้าวตอนเช้า เมนูข้าวต้มกุ๊ย โทรสั่งให้มาเสริฟที่บ้าน โดยส่วนตัวผมโตมากับข้าวต้มแบบนี้ฝีมือคุณแม่ล่ะ ได้มาเจอที่นี่มีบริการนับว่าถูกใจเป็นพิเศษ

บทสรุป
หลายคนตั้งใจเดินทางมา The Glass House เพื่อแวะหาร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศชายหาดดีดีของกินอร่อยๆ และยังมีอีกหลายคนไม่ทันสังเกตว่าที่เดียวกันนี้มีรีสอร์ทเก๋ๆ กะทัดรัด น่ารักน่าพัก The Journey Beach Resort คือรีสอร์ทเล็กๆ สไตล์ Pool villa กินของอร่อยๆ ร้านยอดนิยม เดินเล่นทอดน่องบนชายหาด และปล่อยปลายทางของสิ้นสุดวันนั้น หยุดพักการเดินทางด้วยที่พักปักหลักกิน

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันใหม่รีวิวหน้าครับ

Go Travel by น้ำฟ้าป่าเขา Page: https://www.facebook.com/Namfapakhao

The Journey Page: www.facebook.com/TheJourneyPattaya