เสียงนาฬิกาปลุกดังตอนตี 5 งัวเงียตื่นขึ้นมาเพื่อวันนี้จะออกเดินทางไป Fussen เมืองปราสาทแห่งเทพนิยาย โดยนั่งรถไฟจากสถานี Munchen Hbf ไปยังสถานี Fussen ตอน 7 โมงเช้า โดยเราเลือกจองตั๋วผ่านเวปของ OBB Bahn เลือกตั๋วเดินทางแบบ Bayern Ticket เป็นตั๋วที่ใช้เดินทางได้ทั้งวันทั้งคืน จะขึ้นรถไฟ ใต้ดิน รถบัส รถเมล์ ได้หมดภายใน 24 ชั่วโมง ในราคา 14 ยูโร
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bahn.com/i/view/USA/en/index.shtml
ชานชาลาที่ 27-36 คือชานชาลาที่จะไปขึ้นรถไฟไปเที่ยวเมืองฟุตเซ่น ขบวนรถไป Fussen นี้แทบจะไม่มีคนเลยแอบบสงสัยในใจว่า "ฉันมาผิดวันป่าววะ" ทำไมไม่มีคนมาเลย หรือ ว่าฉันมาผิดที่ หรือมันเช้าไป แต่ช่างมันเถอะเพราะซื้อตั๋วแล้ว ต้องลุยแล้วหล่ะ ใครไม่ไปตรูปายยยยย พร้อม!!!
ระหว่างทางของการเดินทางไป Fussen เราตื่นตาตื่นใจมาก เนื่องจากที่เลือกมาช่วงนี้เพราะอยากสัมผัสหิมะที่ยุโรป (ประเด็นคือหาเรื่องเที่ยว ข้ออ้างร้อยแปดมักจะตามมาเสมอ) เพราะตอนอยู่มิวนิค กับ แฟรงเฟิร์ต นั้นแทบจะไม่มีหิมะให้เห็นเลย
ขบวนรถไฟแล่นไปเรื่อยๆ จนใกล้เข้าสู่เมือง Fussen จะเห็นได้ว่าสองข้างทางรายล้อมไปด้วยหิมะ บรรยากาศช่างแสนโรแมนติก สวยงาม นี่สินะหิมะที่ฉันอยากสัมผัส
ลองเอามือแตะหน้าต่างบานใสดู "แมร่ง เย็นชิป" ความง่วงแทบไม่มี แม้จะตื่นเช้า นี่ถ้าเป็นตอนทำงานคงนั่งสัปหงกไปแล้ว ในขบวนมีแต่คนบ้าสองคนนั่งถ่ายรูปและ อัดวีดีโอ สองข้างทาง สับกันไปมา เพราะอยากจะเก็บโมเม้นนี้ไว้ เอาไว้ให้ลูกหลานดู (จินตนาการไกลไปมะ) จริงๆ เราว่ามาครั้งหน้าอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ เน้นถ่ายรูป สวยไม่สวยไม่รู้ รู้แต่ 100 รูปมันต้องมีซักรูปที่สวยแหละ
ถึงแล้ววววววววววว เมื่อประตูรถไฟเปิดออก ก็สัมผัสถึงความหนาวในทันที ลมเย็นซู่ แทรกผ่านเข้ามา โอ๊ย!!! หนาว -2 องศา เป็นไงสมใจมะอยากสัมผัสหิมะที่ยุโรป 555 นี่ช้านว่าฉันใส่หนาแล้วนะ แทบจะยกแขนไม่ขึ้น เอ่อ!!! คนลงจากขบวนเยอะแยะ มาจากไหนกัน ตะกี้ไม่เห็นมี
ทุกคนรีบจ้ำเท้าไปยังที่หมาย เดินมา จะมีป้ายบอกเวลารถไฟออก แวะดูป้ายก่อนจะได้ไม่ตกรถ เราเลือกรอบ 6 โมงเย็น เพราะ ไปถึง Munich ตอน 2 ทุ่มนิดๆ ก็เดินเล่นต่อได้ จากนั้นเดินตามเส้นทางมาเลย จะมีรถบัสสีแดงจอดอยู่ด้านขวา เพื่อขึ้นรถบัสไปชมปราสาท โดยขึ้นรถบัสสาย 73 หรือ 78 ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็ถึงที่หมาย
"เห็นอะไรอยู่บนยอดเขามั๊ย" นั่นๆไง Neuschwanstein Castle ไปกันเถอะ หนาวมั๊ยหนาว แต่สู้มั๊ย "มากกกกกกกก" ด้วยความเห่อแม้ปราสาทจะอยู่ไกลแต่ฉันก็ถ่ายอยู่ประมาณสิบนาทีได้ จนตระหนักได้ว่าเดี๋ยวตรูก็ต้องขึ้นไปด้านบนนี่นา เห็นเต็มตากว่าด้วย คนเค้าไปกันเกือบหมดแล้ว รีบแจ้นไปซื้อตั๋วก่อนเลย เพราะ เค้าบอกว่าต้องใช้เวลานานในการเยี่ยมชม เราเลือกซื้อ ชม 2 ปราสาทคือ Neuschwanstein Castle และ Hohenschwangau Castle ราคา 23 ยูโร ได้รอบเข้าชม 10.45 น. ณ เวลา นี้ 10 โมง แล้ว ต้องรีบกินข้าวและรีบขึ้นไปเดี๋ยวไม่ทัน
เดินหาร้านกินข้าวไม่รู้จะเอาร้านไหน ตอนแรกกะจะเอาร้านที่เปิดฮีตเอตอร์แรงๆ เพื่อต่อสู้กับความหนาวร่างจะได้ไม่ทนกับความหนาวมาก แต่คนเต็มร้าน และ แต่ละโต๊ะอาหารก็ยังไม่ได้ เอาวะ เบอร์เกอร์กับ Hotdog ละกัน ง่ายดี 3.5 ยูโร ยืนกินหน้าร้านหนาวๆนี่แหละ ช่างแม่ง เราสั่งโค้กกับน้ำเปล่า ขวดละ 3 ยูโรเน้อ แพงมาก แต่อากาศหนาวทำให้คอแห้ง จำใจต้องซื้อ หมดไปกับค่าน้ำเยอะมากทริปนี้ (เบอร์เกอร์กับน้ำราคาเกือบเท่ากัน บร๊ะ!!!)
ตั้งใจกะว่าจะเดินไปทะเล Alpsee เพราะไม่ต้องเสียค่าเข้า แต่หมอกหนา และ หิมะเริ่มตกแล้ว ถ่ายรูปก็ไม่ค่อยเห็น เลยตัดสินใจขึ้นไปปราสาท Hohenschwangau Castle ก่อน ค่อยมาแวะละกัน ซึ่งระหว่างทางเดินคุณจะได้ก่อนขี้ม้าตลอดทาง หอมหวนโชยมาเตะจมูกเป็นระรอกๆ เข้ากับบรยากาศสินะ
วิวรอบๆปราสาท
ยังเข้าไปในตัวปราสาทไม่ได้นะ ต้องรอเวลาก่อน พอถึงเวลา ก็ใช้ตั๋วที่ซื้อมาแตะที่เครื่องสแกนเพื่อเปิดประตูเข้าชมปราสาท แต่ด้านในปราสาทเค้าห้ามถ่ายรูปนะ ไกด์ก็จะเล่าประวัติ บลาๆๆๆๆ
ทะเล Alpsee ระยะไกล
เจ้าหน้าที่บอกว่าระยะเวลาในการเดินไปยัง Neuschwanstein Castle นั้นกินเวลาไป 40 นาที หรือ จะนั่งรถม้าสวยๆไปก็ได้ ต้องจ่ายเพิ่ม 3 ยูโร เราเลือกเดินค่ะ เพราะอยากเห็นวิวระหว่างทาง สองข้างทางมีแต่หิมะ ก็แวะถ่ายรูปกันไปหนุกหนานมาก ไม่เหนื่อยเลย ด้วยความที่หิมะตกทำให้สะพาน Marienbuck ปิด อิชั้นจึงอดเข้าไปเลย เซงมาก แต่เห็นมีคนแอบเข้าไปด้วยแหละ มิกล้าตาม กลัวหิมะถล่มเพราะเป็นป่าสองข้างทางเลย
เดินขึ้นมาบน Neuschwanstein Castle อากาศหนาวกว่าข้างล่างอีก ลมแรงมาก ดีนะที่ฐานแน่นไม่ปลิวง่ายๆ มือชา หน้าชามาก ฝนตกปรอยๆ โอ๊ย!!!! หนาวมาก ไม่อยากจะเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อเลย แต่ต้องถ่ายรูปเพราะวิวดีงามพระราม 9 มาก ถ่ายจนมือเย็น ชา ซีดจนเลือดจะแข็งตัว อยากจะเอาอากาศประเทศไทยมาซัก 10 องศาน่าจะกำลังดี
ได้ฤกษ์เข้าชม Neuschwanstein Castle ซึ่งด้านในก็ห้ามถ่ายรูปเช่นกัน ☹ เป็นปราสาทที่สวยงามเหมาะแก่การมาชมยิ่งนัก ประทับใจ อิชั้นเหมือนได้กลับเข้าวังอีกครั้ง (งานมโนก็มา) ท่านแม่คะหญิงกลับมาแล้วววววว
เฮียแกอยากถ่ายรูปด้วยก็ไม่บอก
สะพาน Marienbrucke ระยะ 500 เมตร
ขากลับตอนแรกกะจะเดินชมวิวถ่ายรูปอีกรอบ แต่ฝนเริ่มตก ยิ่งทำให้หนาว เราเลยตัดสินใจนั่งรถม้า สะพงสะพาน Alp See เหรอ ไม่ดูแล้ว หนาว จุดนี้ 3 ยูโรยอมจ่ายแบบไม่ต้องคิด
มาต่อคิวขึ้นรถบัสท่ามกลางสายฝน ซึ่งจะมีคนบางกลุ่มไม่ยอมต่อคิว ยืนอยู่ในร่ม พอรถมาจอดแค่นั้นแหละ เดินมาแทรกเบียดคนที่เขาเข้าแถว แต่ไม่ใช่เบียดด้านหลังนะคะ คือเข้ามาเบียดคิวแรกเลย เอ่อคือ มารยาทมีมั๊ย คนต่อคิวหนาวจะแย่ ยืนตากฝนอีกต่างหาก นิสัย!!!! (สำเนียงนางร้าย จิกด้วยหางตา นี่คิดนะไม่ได้พูออกไป 555)
สรุปจบปทริป Fussen เดินทางกลับ Munich ด้วยความปรีติ พร้อมกับเสียงฟุต ฟิต ฟอ ไฟ หวัดแดกค่าาาาา
"ไม่ว่าระหว่างจะเหนื่อยแค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องเที่ยวฉันยอมได้เสมอ"
ไปคุยกันนะ:
Facebook: https://www.facebook.com/atravelerblog/
IG: A_Traveler_Blog
Twitter: A Traveler Blog
ATravelerBlog
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.05 น.