เมื่อพูดถึงอาหารอร่อยรสขึ้นชื่อของไทย ก็ต้องมีตำรับปักษ์ใต้รวมอยู่ด้วยแน่นอน และเมื่อนึกถึงที่พักท่ามกลางบรรยากาศแสนสบาย ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ก็ต้องไม่พลาดเช็กอินที่ อัปสรา บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า (Apsara Beachfront Resort and Villa) สถานที่พักผ่อนระดับ 4 ดาว ริมชายหาดอันสงบเงียบ สวยงาม และร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพรรณ
ดังนั้น หากผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ความสมบูรณ์แบบทั้งการพักผ่อนและความอิ่มเอมจึงเกิดขึ้นที่นี่ เนื่องจากห้องอาหารกินรี ภายในอัปสรา บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า มีอาหารอร่อยรส ต้นตำรับปักษ์ใต้ ให้สัมผัสอย่างเต็มที่นั่นเอง ที่สำคัญ ยังปรุงด้วยวัตถุดิบจากสวนผักปลูกเองอีกด้วย
แต่ก่อนจะไปอิ่มเอมกับมื้ออาหารของรีสอร์ทแห่งนี้ ขอแนะนำให้ทอดน่องท่องชมบรรยากาศโดยรอบให้เพลินใจ เพื่อวอร์มอัปความสุขกันสักเล็กน้อยก่อน เนื่องจากที่นี่ สายลม แสงแดด ระลอกคลื่น และชายหาดขาวสะอาดที่ทอดยาวไกลสุดสายตา เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างอย่างเลอค่า จนทำให้อัปสรา บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า ดูราวกับสวรรค์บนผืนทรายจริงๆ
+++ บรรยากาศแสนสบายริมชายหาดที่สวยงาม และสงบเงียบเป็นส่วนตัวของรีสอร์ท
+++ ที่นี่ไม่เพียงอาหารอร่อยรส แต่ยังเหมาะสำหรับเล่นเซิร์ฟด้วย
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแวดล้อมแล้ว ที่นี่ยังพรั่งพร้อมด้วยห้องพักหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก Superior Room ที่มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัวที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์อันเขียวชอุ่มของรีสอร์ท ห้องพัก Deluxe Room ที่ตกแต่งเน้นความเป็นธรรมชาติและมองเห็นวิวภายนอกอันกว้างขวาง ห้องพัก Pool Access ที่มีระเบียงเชื่อมบันไดลงสระว่ายน้ำได้อย่างสะดวกสบาย หรือห้องพัก Suite ที่มีขนาดห้องใหญ่และมองออกไปเห็นทัศนียภาพของชายหาดถนัดตา โดยมีการจัดแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนบีชฟร้อนท์ รีสอร์ท กับโซนวิลล่า ซึ่งโซนบีชฟร้อนท์ รีสอร์ท จะเน้นการพักผ่อนอันแสนสบาย ส่วนโซนวิลล่าจะเน้นการพักผ่อนที่สงบเงียบ ตามชื่อของโซนเลย
หลังจากเพลินใจกับบรรยากาศของรีสอร์ทอย่างมีความสุข ก็ถึงเวลาอาหารอันโอชะที่ห้องอาหารกินรี ซึ่งตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย ในบรรยากาศสดชื่นและผ่อนคลาย เพราะด้านนอกห้องอาหารมีเทอเรซเปิดโล่ง ที่สามารถมองเห็นวิวของทะเลและหาดทรายได้อย่างชัดแจ๋ว เรียกว่า รับประทานอาหารไปพร้อมๆ กับการเสพซับทิวทัศน์ตระการตาได้ นี่เองที่ส่งให้ที่นี่พิเศษกว่าสถานที่พักผ่อนอื่นใด
+++ จากเทอเรซของห้องอาหารกินรี มองออกไปจะเห็นวิวทะเลและหาดทรายสวยตระการตา
+++ บรรยากาศอันรื่นรมย์ภายในห้องอาหารกินรี
สำหรับห้องอาหารกินรีนี้ เน้นเสิร์ฟทั้งอาหารสไตล์ปักษ์ใต้และอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์นานาชาติ แต่มาถึงถิ่นปักษ์ใต้ทั้งที ก็ต้องเลือกสัมผัสกับอาหารใต้ต้นตำรับของที่นี่ ไม่อย่างนั้น ถือว่ายังมาไม่ถึงแดนดินถิ่นใต้จริง โดยเมนูอาหารใต้จะเป็นเมนูแนว Wellness หรือเพื่อสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะปรุงด้วยวัตถุดิบจากสวนผักปลอดสารพิษที่ปลูกเองภายในรีสอร์ท ดังเกริ่นไว้แต่ตอนต้น ทำให้อาหารมีความสดใหม่ สะอาด ปลอดภัย และเพิ่มรสอร่อยยิ่งขึ้น ทว่ายังคงจัดจ้านตามแบบฉบับชาวใต้ดั้งเดิม
โดยไม่รอช้า เมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร เชฟได้นำเสิร์ฟด้วยออร์เดิร์ฟอย่างเกี่ยมโก้ยและเบือทอด อันเป็นอาหารต้นตำรับชาวใต้ที่ใครๆ ก็หลงใหลทันที สำหรับเกี่ยมโก้ยนั้น ถือเป็นเมนูท้องถิ่นยอดฮิตติดอันดับต้นๆ และเป็นวัฒนธรรมอาหารยามเช้าที่ส่งผ่านจากจีนไหหลำสู่ปักษ์ใต้บ้านเรา แต่ปัจจุบันรับประทานกันได้ทุกมื้อ มีลักษณะคล้ายขนมถ้วยกะทิหรือจุ๋ยก้วยใส่ในถ้วยตะไลเล็กๆ ขนาดพอดีคำ บ้างจึงเรียกว่า ขนมถ้วยเค็ม ซึ่งส่วนผสมหลักจะทำจากแป้งข้าวเจ้า แล้วโรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอดบด หอมเจียว และต้นหอมซอย พร้อมราดด้วยน้ำซอสสามรส เปรี้ยวหวานนำและเผ็ดตามเล็กน้อย เหมาะรับประทานเรียกน้ำย่อยคู่กับเบือทอด หรือใบเล็บครุฑชุบแป้งสาลีโรยหน้าด้วยกุ้งแล้วทอดอย่างประณีต โดยใบเล็บครุฑนำมาจากสวนผักปลูกเอง รสชาติจึงสดอร่อย รับประทานเข้ากันกับน้ำจิ้มรสหวานกลมกล่อม
+++ เบือทอดที่อร่อยครบรส อีกหนึ่งต้นตำรับอาหารปักษ์ใต้
+++ เกี่ยมโก้ย ของว่างเรียกน้ำย่อยแสนอร่อยที่ชาวใต้ภาคภูมิใจ
จากนั้นก็ตามด้วยเมนูหลัก ประกอบด้วย แกงส้มปลากะพงกับกล้วยน้ำว้าดิบ น้ำพริกปลาฉิ้งฉาง แกงกะทิปลาใบชะพลู ผัดสะตอกะปิกุ้งสด ผัดมะละกอใส่ไข่และใบเหลียง แล้วก็แกงจืดฟักเขียวกับหมูสามชั้น เริ่มจากแกงส้มปลากะพงกับกล้วยน้ำว้าดิบจะใช้เครื่องแกงใต้ รสชาติจึงร้อนแรงแต่มีฤทธิ์เย็น ช่วยปรับระบบสมดุลในร่างกาย ต่อด้วยน้ำพริกปลาฉิ้งฉาง หรือปลากะตักตัวเล็กๆ เรียวๆ รับประทานแกล้มกับสารพัดผักสดจากสวนปลูกเองเช่นกัน ก็รสเด็ดเผ็ดแรงจนหยุดไม่ได้ แล้วตัดด้วยแกงกะทิปลาใบชะพลู แสนอร่อยย่อยง่าย สำหรับผัดสะตอกะปิกุ้งสด แทบไม่ต้องบรรยายมาก เพราะทั้งแซ่บเวอร์ตามสไตล์อาหารใต้และกรอบอร่อยด้วยสะตอที่สดใหม่จากสวน ส่วนผัดมะละกอใส่ไข่และใบเหลียง เชฟเติมมะละกอลงไปในสูตรดั้งเดิมของทางใต้ จากผัดไข่ใบเหลียงเป็นเมนูนี้ขึ้นมา จึงอร่อยและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น ก่อนตบท้ายด้วยแกงจืดฟักเขียวกับหมูสามชั้นเนื้อนุ่ม ที่ช่วยให้มื้ออาหารปักษ์ใต้คล่องคอและไม่เผ็ดร้อนจนเกินไป
+++ แกงส้มปลากะพงกับกล้วยน้ำว้าดิบ และแกงกะทิปลาใบชะพลู อร่อยล้ำทีเดียว
+++ เมนูน้ำพริกปลาฉิ้งฉาง รสเด็ดเผ็ดแรง รับประทานกับผักสดๆ จากสวนปลอดสารพิษปลูกเองภายในรีสอร์ท เช่น ดอกกะหล่ำ แตงกวา มะเขือยาว ยอดมะกรูด ฯลฯ
+++ สวนผักปลอดสารพิษปลูกเองภายในรีสอร์ท
+++ ภายในสวนผักเต็มไปด้วยแปลงผักมากมาย ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบหลักในห้องอาหารกินรี
เมื่ออิ่มหนำกับเมนูหลักแล้ว ก็ต้องลองลิ้มชิมของหวานให้ครบคอร์ส ที่นี่จัดเป็นขนมไทยๆ อย่างเปียกปูนรูปดอกกุหลาบกับข้าวเหนียวดำราดน้ำกะทิ และเมนูฟิวชั่นอย่างเค้กกล้วยหอมมาบรรณาการ พร้อมด้วยเครื่องดื่มสมุนไพรอย่างน้ำอัญชันมะนาวและน้ำตะไคร้ ดังนั้น แม้อิ่มหนำสำราญแค่ไหน แต่ใครจะไปอดใจกับความหวานหอมละมุนลิ้นและสดชื่นได้ไหว มื้ออาหารนี้จึงอิ่มเอมกันอย่างแท้จริง
นับเป็นความอิ่มเอมในบรรยากาศแสนสบายของอัปสรา บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า ที่ทุกคนไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนเขาหลัก โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป ยิ่งห้ามพลาด เพราะสามารถเล่นเซิร์ฟหรือเรียนเซิร์ฟที่กำลังเป็นที่นิยมได้อย่างสนุกสนานเต็มที่ไปด้วย
+++ Apsara Beachfront Resort and Villa เขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โทรศัพท์ 076 584 444, FB : APSARA Beachfront Resort and Villa, http://www.apsarakhaolak.com/
สุพัตรา
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 10.56 น.