ครั้งแรกของการเดินทางไปไต้หวันและเป็นทริปครอบครัวครั้งแรกเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน... ซึ่งเป็นการเดินทางด้วยตัวเองแบบฉบับคนอ่านภาษาจีนไม่ออก
เมื่อมาถึงสนามบินคนต่อคิวเคาร์เตอร์ยาวมากกกกก็เลยตัดสินใจ self-checkin แทน (จริงๆอยากต่อเคาร์เตอร์เพราะอยากได้บัตรแข็ง แต่ก็ยอมเพราะจะได้ไม่ต้องยืนต่อแถว แล้วก็จะได้เดินเล่นข้างในชิวๆ)
เราเลือกเดินทางกับการบินไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่พาพ่อแม่ไปด้วย พวกเค้าจะได้กังวลน้อยหน่อย อย่างน้อยก็จะได้พูดกับลูกเรือรู้เรื่อง เพราะพอถึงไต้หวันเราจะต้องนำทีมแล้ว ฮึบ!!
อาหารเช้า เราเลือกเป็นผัดหมี่กุ้ง อร่อยมากกกก แต่ถ้าลดเค็มอีกหน่อยจะเริศกว่านี้อีก ส่วนครัวซองรสชาติดี แต่ตัวแป้งเริ่มจะนิ่มแล้ว ตัวด้านนอกจะไม่เหมือนตอนอบเสร็จใหม่ๆ โยเกิร์ตก็อร่อยเหมือนกัน ผลไม้ก็มีมะละกอ แก้วมังกร สับปะรด
ส่วนเมนูนี้ของป้า เป็นออมเล็ท เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันจืดๆ แต่เค้าก็มีเกลือกับพริกไทยมาให้นะ ซึ่งมาเห็นตอนกินหมดแล้ว55555
ถึงแล้วไต้หวัน... ตม.ไม่ถามอะไรเลย ถ่ายรูป แสกนนิ้ว ผ่านฉลุยย รับกระเป๋าเสร็จก็ไปรับ pocket wifi ที่จองไว้ผ่าน klook แล้วก็นั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองกัน
รถไฟฟ้าที่ไปกลับสนามบินจะมีแบบหยุดทุกสถานีและหยุดบางสถานี จะมาตามรอบเวลา เราได้นั่งแบบหยุดบางสถานีก็เลยได้ชมวิวเพลินๆ ที่นั่งจะเป็นแบบสี่คนหันหน้าเข้าหากัน และข้างหน้าเราก็มีพื้นที่ให้วางกระเป๋าได้ แล้วก็ยังมีชั้นวางกระเป๋าให้ด้วยเหมือนกัน
จากสนามบินไป Ximending ราคา 150 TWD/คน เราพักที่ Rainbow Hotel ทำเลดี ห้องก็ดี อยู่ใกล้สถานีและอยู่ในย่านท่องเที่ยวเลย ไม่อดแน่นอน ลงมาก็มีของกิน บรรยากาศครึกครื้น แต่ตอนอยู่ในห้องก็ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากข้างล่างนะ
ได้สัมผัสอากาศจริงๆก็ตอนขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้านี่แหละ อุณหภูมิประมาณ 20 องศา เรามาถึงประมาณบ่าย2 ความรู้สึกแรกเลยคือที่นี่คึกคักมากแต่หัววัน(อาจเพราะเป็นวันเสาร์ด้วย) เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยก็มาหาของกินต่อ
มื้อแรกในไต้หวัน... ตอนแรกแพลนว่าจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้ออีกร้านนึงซึ่งเดินทางต่อไปอีก แต่ทุกคนก็หิวกันไม่ไหวแล้ว เลยเดินหาแถวใกล้ๆที่พักโดยใช้วิธีการสุ่ม เพราะอ่านไม่ออกเน้นดูรูป ร้านนี้เค้ามีเมนูภาษาอังกฤษและที่สำคัญพูดไทยได้
รสชาติอธิบายไม่ถูกแต่มันเป็นรสไต้หวันเลยอ่ะ คำแรกอาจจะแปลกลิ้น แต่กินไปเรื่อยๆก็อร่อยดี หมูสามชั้นคือเด็ดจริง นุ่มละลาย~ ส่วนบะหมี่แห้งก็อร่อย แบบน้ำก็อร่อย น้ำซุปดี และลูกชิ้นก็ดีมากกกก เป็นลูกชิ้นเนื้อ
ร้านอาหารที่ไต้หวันไม่ค่อยมีน้ำเสิร์ฟแบบที่ไทย(ดีนะเห็นมาจากในทวิตมาบ้าง เลยไม่งงเท่าไหร่) ก็เลยมาซื้อน้ำร้านใกล้ๆกัน ร้านจะอยู่ติดกับร้านไก่ทอดชิ้นใหญ่เจ้าดัง เราซื้อชานมไข่มุก มาถึงถิ่นก็ต้องลองกันหน่อย... ร้านนี้จะไข่มุกเม็ดเล็ก รสชาติชานมคล้ายกับที่ไทยเลยแต่จะหวานน้อยกว่า ราคา 70 TWD
หลังจากกินเสร็จเราก็มาที่ Huashan1914 Creative Park อยู่สถานี Zhongxiao Xinsheng เป็นสถานที่พักผ่อนนั่งชิว มีขายของนิดๆหน่อยๆ วันนั้นเหมือนจะมีจัดแสดงดนตรีด้วย ส่วนข้างในก็จะมีช็อปขายของ ถ่ายรูป
ระหว่างทางกลับสถานีจะไปที่ต่อไปก็แวะซื้อขนมสักหน่อย เห็นตั้งแต่ขาไป กลิ่นหอมมากกกชวนน่ากินสุด พ่อค้าก็น่ารักนะ55555
มีเป็นรูปกระดูกกับเท้าน้องหมา ตัวแป้งจะคล้ายๆแป้งเค้ก กินตอนร้อนๆอร่อยดีเหมือนกัน ราคา 5ชิ้น 50 TWD
ต่อไปจะเป็นไฮไลท์ของวันนั่นคือการมาดูเทศกาลโคมไฟนั่นเอง เค้าบอกว่าปกติจะเวียนจัดตามที่ต่างๆในไต้หวัน แต่ครั้งนี้มาจัดที่ไทเปในรอบหลายสิบปี เค้าจะมีตั้งโชว์หลายจุดยาวไปเลย จัดถึงวันที่ 19/02 เรามาลงที่สถานี Sun Yat Sen Memorial Hall อยู่ใกล้กับ Taipei101 พอมาถึงแล้วบริเวณนี้คนเยอะมากกกก ซึ่งวันที่เราไปเป็นวันก่อนวันสุดท้ายพอดี
พอถึงรอบโชว์โคมไฟก็จะขยับและมีเสียงดนตรีประกอบ
หลังจากนั้นเราก็ไปตามหาบูทที่เพจ Taiwan Tourism Bureau TH ลงไว้ เพียงแค่โชว์พาสปอร์ตคนไทยก็ได้รับของเป็นตั๋วเข้าชมการแสดงที่เวทีใหญ่ คูปองแลกผลไม้ และตุ๊กตาโคมไฟกระดาษ
คูปองผลไม้สามารถเอาไปแลกได้ฟรีที่ Family Mart ส่วนน้องกระต่ายกลับมาลองพับที่บ้าน โซคิ้วท์~
วันแรกในไต้หวันจบวันไปกับเทศกาลโคมไฟ สวยมากๆๆ ยิ่งใหญ่อลังการ เสียดายที่ได้ไปแค่จุดเดียว
เดี๋ยว Ep.ต่อไป เราจะออกไปนอกเมืองกัน เย้
ปุยสีขาว | Puisikhao
วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.19 น.