ในยามท้องฟ้าครึ้ม และฝนเริ่มโปรยปราย สองสาวออกจากสถานีสามยอด สถานีรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน เดินลัดเลาะไปตามถนนในย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ทริปครึ่งวันนี้ นำทางโดยพี่ปุ๊ก ขาประจำสายท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เที่ยวจนปรุ อธิบายได้หมดว่าตรงนี้มีความเป็นมายังไง เส้นทางนี้ไปไหน ร้านไหนอร่อย ส่วนเรา เดินตามต้อยๆ และทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะพี่ปุ๊กชวนเดอะแก้งค์ลงชื่อร่วมกิจกรรม Cultural District 2022 ของ มิวเซียมสยาม สุดท้ายมีเราคนเดียวที่ไปได้

เวลาก็ใกล้เที่ยงแล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ได้แต่เดินไปเรื่อยๆ แวะพักไม่ได้ เพราะวันนี้เรามีนัดชมโฮมสเตย์ ที่เปลี่ยนอาคารเก่าสมัครรัชกาลที่ 5 เป็นโฮมสเตย์สวย โดยมี คุณชุติมน วิจิตรทฤษฎี หรือ คุณมน อดีตนักร้อง Room 39 เจ้าของ The Knight House Bangkok พาเยี่ยมชมบ้านที่มีความหมายกับเธอมากหลังนี้

The Knight House Bangkok ตั้งอยู่บนถนนบำรุงเมือง ตรงข้ามกระทรวงมหาดไทย ปากซอยแพร่งภูธร อาคารเป็นอาคารขนาดเล็กน่ารัก แตกต่างจากอาคารรอบๆ หาง่ายมาก ไม่ต้องกลัวหลง ด้านหน้าเว้นระยะจากริมถนนเข้าไปนิดหนึ่ง เป็นพื้นที่สวนขนาดมินิน่ารัก กำแพงข้างๆ มีข้อความเพิ่มลูกเล่น ดูไม่น่าเบื่อ แวบแรกมองเห็นถึงความเป็นตะวันตก แวบที่สอง มองเลยเข้าไปยังตัวตึก ฉลุลายแบบอาคารไทยสมัยก่อน แวบที่สามรู้สึกแปลกตา แต่ลงตัว

ชั้นหนึ่งของบ้านจัดเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่โต๊ะนั่งได้ 5-6 โต๊ะ ประดับด้วยรูปถ่ายสมัยก่อนบนผนัง ตอนนี้พี่ๆ สื่อมวลชนมานั่งรอสัมภาษณ์คุณมน และเพื่อนๆ ที่ลงชื่อมาร่วมทริปในครั้งนี้ยึดพื้นที่ทั้งชั้น รวมถึงรอบๆ อาคารด้วย เรามาถึงก่อนเวลานิดหน่อย มีเวลาหาอะไรรองท้อง ลองสั่งเซ็ทครัวซองท์กับชาไทยมา ครัวซองท์อร่อย กรอบ นุ่ม หอม ชาไทยก็หอม ไม่หวานมาก มีแรงแล้ว ลุยต่อได้

คุณมนและคุณปู ผู้จัดการโฮมสเตย์ พาพวกเราขึ้นมาตามบันไดไม้ ประดับด้วยวอลเปเปอร์ลายน่ารัก ไปยังชั้นสามชั้นสูงสุดของอาคารเป็นห้องนอนเตียงขนาดคิงไซต์ และห้องน้ำสุดหรู ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนใหม่และเก่าตั้งแต่สมัยเปิดร้านทำผมมาจัดวางอย่างลงตัว และประดับด้วยดอกบัวหลายๆ จุด เช่น วอลเปเปอร์ ลายฉลุซุ้มหน้าต่างด้านนอก รวมทั้งสั่งทำแชมพู สบู่ ครีม โฟมล้างหน้าภายในโรงแรม เป็นกลิ่นดอกบัว เพื่อระลึกถึงคุณแม่ ส่วนห้องนอนชั้นสองจะแตกต่างไปเพียงมีระเบียงเล็กๆ ให้นั่งดูวิถีชีวิตของชุมชมแพร่งภูธรได้ แล้วอธิบายความเป็นมาของอาคารหลังนี้

ที่ดินตรงนี้เคยเป็นที่ตั้งของอาคารสมบัติของ เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 5 ก่อนเปลี่ยนมาเป็นร้านทำผมของคุณแม่ฮวงไน้ คุณแม่ของคุณมน จนมาถึงปัจจุบันที่คุณมนขอทุบสถานที่ที่เธอผูกพันเพื่อทำเป็นโฮมสเตย์ โดนมีคุณอิงอรประจันนวล สถาปนิกจาก IDEALIST STUDIO เป็นผู้ช่วยเนรมิตบ้านหลังปัจจุบันนี้ขึ้นมา โดยได้ไอเดีย ‘ตึกหญิงไทยแต่แหม่ม’ มาจากสตรีผู้เป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ 3 รุ่น เริ่มจากเจ้าจอมมารดาชุ่ม ผู้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน คุณแม่ฮวงไน้ ผู้บินไปหัดทำผมคนเดียวที่อังกฤษ และคุณมน ผู้ไม่รับช่วงร้านต่อแต่ออกไปทำมาหากินด้วยการร้องเพลง ซึ่งทุกคนเป็นคนหัวสมัยใหม่ในยุคสมัยของตัวเอง กลายเป็นตึกหลังคาจั่วลายฉลุแบบไทย ขณะเดียวกันก็แฝงกลิ่นอายของบ้านช่องแบบโคโลเนียลฝรั่งตามสีสันลวดลาย ประหนึ่งว่าบ้านหลังนี้เป็นสตรีชาววังลุกขึ้นมาแต่งตัวตามแบบฝรั่ง ใช้ชื่อ The Knight House ตามชื่อของคุณแม่ฮวงไน้ ชื่อที่ได้จากการไปอยู่ที่อังกฤษ

เจ้าบ้านเล่าเรื่องอย่างสนุกสนาน จนพวกเราเกิดความสนใจมาก ที่พักแห่งนี้รอบรับแขกได้เพียง 4 คนต่อคืน จึงเหมาะกับการ staycation ไว้หลบความวุ่นวาย ใช้ชีวิตสโลไลฟ์ ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไกล เพียงแต่ว่าปกติคนในแก้งค์เรามีจำนวนมากกว่าปริมาณที่โฮมสเตย์สามารถรองรับได้ เลยปรารภกับคุณปู ผู้จัดการโรงแรมไป คุณปูและคุณมนจึงแจ้งว่า หากมาเกินจำนวน 4 คน ทางโฮมสเตย์จะประสานให้เข้าพักกับที่พักใกล้ๆ ทางโฮมสเตย์สนับสนุนให้เกิดรายได้ในชุมชนอยู่แล้ว

ปกติห้องพักจะอยู่ที่ 4,500 บาท/คืน พร้อมอาหารเช้า เวลคัมดริ้งค์ และฟรีไวไฟ มีกิจกรรมพาผู้เข้าพักเดินสำรวจชุมชนและบริเวณรอบๆ ที่พัก หรือหากผู้เข้าอยากได้ทัวร์ก็ประสานงานติดต่อจัดหาให้ได้ เมื่อเพื่อนๆ คลิกที่จองผ่าน booking.com, agoda.com หรือ Airbnb จะได้ส่วนลดจากราคาจริง เพื่อนๆ คลิกลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

คุณมนทิ้งท้ายด้วยว่าเตียงหลังนี้หนูลงทุนไปเยอะนะคะ นอนสบายมาก อยากให้ได้มาพักกัน

โลเคชั่นApple Map | Google Map

Introvert walker

 วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 14.37 น.

ความคิดเห็น