เริ่มแรกทริปนี้วางแผนมาตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศ พายุ ทำให้เราเลื่อนอยู่หลายรอบมาก ประมาณ 3 รอบได้ เราเลยรู้สึกว่ามันจะไม่ได้ไปนะ ถ้าเราสามคนยังตกลงวันกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราเลยหาทางออกอื่น โดยการทักไปถามเพื่อนอีกกลุ่ม คือตั้งใจแล้วว่าวันที่ 11-13 พ.ย.65 นี้ยังไงก็ต้องได้ไป ตั้งใจเลยว่าไม่มีใครไปฉันก็จะไป สุดท้ายแล้ว พี่ที่ทำงานของเราก็ไปด้วยหนึ่งคน ไปรวมกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง 3 คน รวมแล้วทริปนี้ เราเดินทางจากมุกดาหาร 2 คน ขอนแก่น 1 ศรีสะเกษ 1 ร้อยเอ็ด 1 รวมแล้ว 5 คน จากหลากหลายพื้นที่ 555 ตกลงกันแล้วเราก็จองอุทยานผ่านแอป QueQ กันเลย จากนั้นตามด้วยจองเต็นท์+ถุงนอน+หมอน +แผ่นรองนอน
ค่าใช้จ่าย
เช่าเต็นท์ 225/คืน
หมอน 10 บาท/คืน
ถุงนอน 30 บาท/คืน
ที่รองนอน 20 บาท/คืน
จองผ่านแอปนี้เลยนะ https://nps.dnp.go.th
เราเดินทางช่วงบ่ายของววันที่ 10 เพราะระยะทางค่อนข้างจะไกล เราใช้เส้นทาง มุกดาหาร-ขอนแก่น-ชุมแพ น้ำหนาว มุ่งตรงสู่อำเภอชาติตระการ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อหาที่พักในคืนนี้ เราได้ที่พักชื่อ ชาติตระการเพลส คืนละ 450 บาท ห้องก็ค่อนข้างพอใช้ ที่พักอยู่ใกล้ตลาด โรงพยาบาล โลตัส
11/11/65
เช้าของวันที่ 11 เรานัดกันเดินทางเวลา 06.30 เนื่องจากต้องเดินทางไปยังอุทยานอีกเป็นระยะทาง 70 กิโลเมตร(กิโลเมตร คดเคี้ยว) ก่อนเดินทางเราก็ไปซื้อของกินที่ตลาดสดป่าแดงกันก่อน
ข้าวเหนียวหมูปิ้งเพิ่มพลัง 5555
จากนั้นก็ออกเดินทางได้ เส้นทางค่อนข้างที่จะคดเคี้ยว แรกๆเราก็ตื่นเต้น หลังๆ เราอยากอ้วก ดีที่กินไปไม่เยอะ นอนหลับตาไป ใช้เเวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชม.กับระยะทาง 70 กิโลเมตร เราก็มาถึงที่ทำการอุทยานแล้ววววววว เย้
เราถึงอุทยานประมาณ 09.00 ทำการลงทะเบียนเข้าอุทยาน ติดต่อเรื่องเช่าของและลูกหาบ ชำระค่าขึ้นพิชิตยอดภูสอยดาว 2102 (500/คน)
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว คิดค่าลูกหาบ กิโลกรัมละ 30 บาท เต็นท์+ถุงนอน +แก๊ส เช่าจากด้านล่าง แล้วจ้างลูกหาบแบกขึ้นไปให้อีกทีหนึ่ง ซึ่งค่าลูกหาบของกรุ๊ปเราบานปลายมาก555 เห็นว่าประมาณ 2,000++ จำราคาไม่ได้ เพราะไม่ได้จ่าย อิอิ
พอเสร็จสับแล้วเราก็เตรียมตัว ออกเดินทางได้ เว้าแล้วกะไป๊......
การเดินทางไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จนท.อุทยานจะมีรถบริการเราเป็นรอบๆ ระยะทางไม่ไกลมาก นั่งรถประมาณ 5 นาที ก็ถึงทางเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอุทนยานแห่งชาติภูสอยดาว 6.5 Km
เราให้ชื่อการเดินขึ้นลานสนภูสอยดาวนี้ว่า "พักทุกแคร่ แช่ทุนเนิน" เพราะเรานั่งทุกที่ พักทุกเนิน จริง ๆ 555
พักก่อน เดินเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง
ฮีสใจดีจริงๆ
ไอ้ต้าว เนินมรณะ ใช้เวลาเดินนานเหมือนกัน ด้วยอากาศที่ร้อน และทางค่อนข้างชัน เป็นเสมือนภูเขาหัวโล้น ไม่มีต้นไม้ หาที่พักยากมาก
ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร อยู่แล้ว ในที่สุดเราก็ทำได้
หลังจากนี้ก็วุ่นวายมาก 555 ไปรับของ-กางเต็นท์-ทำกับข้าว-เช่าถัง-อาบน้ำ แล้วรีบเข้านอน
12/11/2565
06.00 มีเสียงจาก จนท.อุทยาน นัดหมาย นทท.ที่จะไปขึ้น พิชิตยอดภูสอยดาว 2102 ให้มารวมตัวกันไม่เกิน 07.00 น. และนำกับข้าวขึ้นไปกินด้วย ส่วนเรานั้นได้ยินเสียงก็รีบไปทำภาระกิจส่วนตัว จากนั้นวิ่งไปซื้อไข่ ( 4 ลูก 50 บาท ) จากนั้นได้ข้าวเหนียวจากเจ้าหน้าที่มาฟรีๆ อีก 2 ห่อ อิอิ หลังจากวุ่นวายการเตรียมอาหาร ( ไข่ต้ม+หมูหวาน+ขนมหวาน) ก็หันไปมองหลังเต็นท์แล้วภาพที่เห็นคือ หมอกไหลหยอกล้อกับขุนเขา จนแบบ เราต้องรีบเดินไปถ่ายรูป เพราะเราไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอ
สดชื่นมากๆ สวยมากด้วย จากนั้น จนท.ประกาศอีกครั้งให้ไปเตรียมตัว เราก็ไปเตรียมตัว โดยใส่อุปกรณ์ความปลอดดภัย แล้วก็เริ่มออกเดินทาง พิชิตยอดภูสอยดาว 2102 เป็นกลุ่มแรก พร้อมกับน้องๆวัยรุ่น ที่ได้ ฉายาว่า กลุ่มดีด 55 เพราะไม่ยอมหยุดพักกันเลย พี่แก่ๆอย่างเราก็เหนื่อยหน่อย กรุ๊ปเรามีทั้งหมดน่าจะ 10 คน มีน้องกลุ่มดีด และพี่จากหลากหลายที่ เส้นทางก็เริ่มจากลานสน เดินไปเรื่อยๆ 10 สถานี ส่วนมากทางเดินเป็นภูเขาก็จะชันหน่อย
เป็น 2 กม.ที่ยาวนานมาก ใช้เวลา ประมาณ 4-6 ชม. อันนี้แล้วแต่คน
พักเหนื่อย ดูดดื่มธรรมชาติ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเพราะว่ากลัวโทรศัพท์ตกเหว 5555
สุดท้ายเราก็พิชิตยอด หลังจากนั้นกินข้าว ถ่ายรูป เล่นเน็ต หลังจากไม่มีสัญญาณมาตั้งแต่เมื่อวาน ได้ตอบแชท อัพเดตสถานะ ว่ายังสบายดีนะ 555
หลังจากนั้นก็เดินลง รู้สึกว่าตัวเองเดินเร็วมาก ขาสั่นไปหมด ถึงเร็วเวอร์ ตอนขาลงได้ชมดอกไม้ ต้นไม้ บ้างเล็กน้อย
หลังลงมาถึงที่พัก จัดการอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวหนาว เพราะเมื่อคืน จนท.บอก อุณหภูมิ 7 องศา ไม่น่าละถึงนอนไม่หลับ หนาวมาก มีประสบการณ์จากเมื่อวาน วันนี้เลยตั้งใจจะก่อไฟผิงแก้หนาวก่อนนอน เราเลยไปหาฟืนกันแต่ไม่ได้ฟืนได้แต่รูป หลังจากนั้นก็เตรียมตัวดูพระอาทิตย์ตก
แสงยามเย็นทำให้รู้สึกสบายตา สบายใจ จริงๆ บวกกับลมพัดเย็นๆ ฮื้ออออ โคตรดี
ตกเย็นเริ่มก่อไฟ ทำอาหาร กินมาม่า ก๋วยจั๊บมา 2 วันละ ทนอีกสองมื้อนะ 5555
พูดคุยเรื่องราวต่างๆ อัพเดทชีวิตช่วงนี้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไม่ได้เจอกันนาน นั่งดูดาว ผิงไฟ ฟังเพลง ที่มีไม่กี่เพลง แต่โคตรดีเลย มีแต่เสียงหัวเราะ ที่เราก็ไม่รู้ว่าจะได้มีความรู้สึกอีกเมื่อไหร่ ได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ ไม่จางหาย ก่อนวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว
13/11/65
ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน
เอาจริงๆคือพระอาทิตย์ไม่ยอมขึ้น รอนานมาก สุดท้ายก็ไม่พ้นเขาสักที รีบไปกินข้าวเถอะ หิวววว
ถึงเวลาเดินทางกลับวันนี้ ตอนเช้าเราก็นั่งทำกับข้าว ชงกาแฟ เก็บของพร้อมออกเดินทาง วันนี้อากาศดีมาก สดชื่นมาก เดินชมวิวไปตลอดทาง เพราะตอนขึ้นไม่ได้ดู เหนื่อย 555 แล้วก็จำไม่ได้ด้วยว่าเดินผ่านตรงนี้ สุดท้ายแล้ว ไว้เราไปเก็บดอยอื่นก่อนนะ ถ้ามีเวลาจะกลับมาอีกครั้ง มาครั้งนี้ก็ประทับใจมากๆ ออกมาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆเพิ่ม คุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ก็รู้สึกดีเหมือนกัน ถึงคนอื่นจะพูดว่าไปลำบาก แต่สำหรับเรา ก็ลำบาก แต่มีความสุข แค่เรามีความสุขเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
กลับแล้วนะภูสอยดาวววววว
นานนานเที่ยวที
วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 11.39 น.