ฉันไม่รู้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้มากางเต๊นท์กับเธอนานแค่ไหนแล้วนะ…แต่มันนานมากมากพอที่จะทำให้เราคิดถึง
วันเก่า ๆ ในตอนนั้นเลยแหละ

1.push stat

          น้องปลาวาฬ ชื่อพาหนะที่จะพาเราเดินทางกระโดดโลดแล่นจากทางด่วนบูรพาวิถี ไปตามแรงเท้าที่เหยียบคันเร่งพุ่งมุ่งตรงไปสู่หมุดหมาย ชลบุรีบ่อทอง บนถนนสาย 344 จากถนนคอนกรีตที่รถราวิ่งกันกวักไกว เลี้ยวตัดเข้าสู่ถนน Rural roads 4082 พร้อมกับเปิดเพลง country road คลอไปกับสีเขียวของธรรมชาติช่างลงตัวแบบพอได้อินเลยทีเดียว ขณะที่กำลังเหม่อใจลอยเพลิดเพลินดื่มด่ำกับความสุขของ 2 ข้างทางนั้น เราก็ต้องมาพบกับหลุ่มบ่อของดาวอังคาร ที่งบประมาณทำไมมาไม่ถึงในบางจุด (ทำไมนะ)

          แต่จะหัวเสียสักแค่ไหนเราก็มีเวลามากพอจะแวะเก็บ หมู เห็ด ผักไข่ เนื้อสไลด์ และอื่น ๆ กันก่อนที่ห้างดอกบัวแถวบ้านบึง ซึ่งเป็นทางผ่านพอดี ทริปนี้เราจะพาทุกท่านและตัวเราเองด้วย ไปแคมป์ปิ้ง&ดริ้งเบียร์ หาที่สงบ เพื่อพักยกสมอง หยุดความคิดปล่อยใจที่ฟุ้งซ่านให้ได้หยุดพักเสียหน่อย

แวะเติมพลัง ด้วยอาหารใต้ ที่ปั๊มแห่งหนึ่ง
ข้างทางก็สำคัญ

2.ฟ้าเป็นใจ (ใจร้าย)

            ผ่านแนวสนโค้งไปบนถนนตาม GPS ก็มาถึงที่หมาย "บ้านแม่หญิงสุภากาญจน์" ดรอปของพร้อมเสบียงเตรียมกางอาณาเขต ตามล็อคที่ได้จองมาก่อนแล้ว แหงนหน้ามองที่ขอบฟ้าตามเสียงที่ลั่นดังสนั่นแหวกอากาศมาแต่ไกล ปากพร่ำบอกเราก็ลูกพระพิรุณจะขอต่อเวลาเพื่อลดความชุลมุนก่อนที่น้ำจากฝากฟ้านั้นจะมาเยือน มือนั้นพัลวันกางผ้าใบตอกสมอลากเชือกผูกเงื่อนรถบรรทุกยังไม่ทันจะแล้วเสร็จ เจ้ากรรมสิ่งที่ลูกขอไปนั้นท่านมิอาจได้ยินหรืออย่างไรสงสัยเราคงจะขอเบาไป ยิ้มรับและทำใจ หมดกันความชิค ๆ ของตรู

ท้องฟ้าสดใส
รอก่อนนะพ่อนะ
มันจะไม่ทันเอานะ
ท่านคงไม่ได้ยิน

3.นอร์ม็องดี

          โซนพื้นที่แต่ละล็อคมีเชือกขึงตีเส้นเป็น area ที่นี่มีพาเรท 4 แผ่นให้สำหรับรองพื้นกางเต๊นท์เผื่อที่จะได้ไม่นอนเปียกไปบนพื้นดิน ราคาค่าเช่าพื้นที่อาศัยอยู่ที่หัวละ 200 บาท (ดีนะไม่ใช่คน 2 หัว) แต่เรามา 2 คนเลยเสียไปแค่ 400

          หลังจากฝนหยุดความแห้งบนร่างกายทุกอณู (เน้นย้ำว่าทุกอณู) ได้ถูกพรากไปจากเรานานแล้ว ตัดสินใจวางแผนจัดแจงแสดงกำลัง เราต้องทำที่พำนักพักใหม่ ให้แข็งแรงและไฉไลกว่าเดิม พื้นที่โซน C หัวแหลมแห่งนี้วันนี้ถูกยึดเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว

4. อึดใจ

          อาบน้ำผลัดผ้า กางตำราวิชา กพอ. จุดเตาแก๊สวางหม้อสนาม จัดแจงซาวข้าวลงหม้อวิเศษที่เป็นทั้งกาต้มน้ำและสำหรับต้มสุกี้น้ำดำ เนื้อสไลด์ลายสวยถูกฉีกจากซองส่งเสียงร้องฉ่าทันใดเมื่อสัมผัสกับกระทะเทฟลอนที่ดอยแม่มา มื้อสำคัญที่พอจะปลอบประโลมหัวใจจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี แต่ไม่เป็นไรทุกอย่างมันได้ผ่านไปแล้ว 

          ก็อกน้ำปะปาอยู่ในโซนละแวกใกล้ ๆ พร้อมแท่นปลั๊กไฟฟ้าและโคมไฟส่องสว่างตามจุด ให้เราลากสายพ่วงมาจั๊มไปใช้ได้สะดวกสบาย อาหารมื้อเรียบง่ายลุล่วงไปพร้อมกับพื้นน้ำและท้องฟ้าที่ราบเรียบเช่นกัน แสงสีทองของดวงอาทิตย์จับขอบสีเขียวของยอดสนที่ปลายขอบฟ้าตรงนั้น หลังจากฝนตก

5. หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ( 1% )

          ลมกำลังเปลี่ยนทิศก่อนที่ท้องฟ้ายามราตรีจะย่างกายเข้ามาครอบคลุมในไม่ช้า เก้าอี้สนามที่ทำจากผ้าใบถูกสร้างมาให้รองรับน้ำหนักตัว เช่นเดียวกับสมองและหัวใจที่มีไว้แบกรับความวุ่นวายต่าง ๆ เอาไว้

          เสียงของแมลงตีปีกกระทบกันค่อย ๆ เริ่มดังระงมขึ้นเหมือนกำลังเปิดฟลอร์เต้นรำอย่างกับเสียงโอเปร่า (แต่เราว่ามันดูออกน่ารำคาญมากกว่า) กิ่งของสนพัดโยกไหวเอนเบา ๆ ตามแรงลมไกล ๆ คลื่นผิวน้ำที่กระเพื่อมสั่นเป็นวงกระจายเข้ามากระทบฝั่งตรงหน้า และก็กลับไปราบเรียบ ก่อนจะเป็นวงใหม่สลับกลับไปมาเหมือนเดิม

          หิ่งห้อยคู่นั่นเริ่มส่งแสงวิบวับเป็นเหมือนไฟเทคต้อนรับแขกอย่างเรา ก่อนที่จะเข้ายามนิทราพวกมันคงจะมาบอกว่าถึงเวลาเข้านอนได้แล้ว เมื่อเบียร์ในขวดหยดสุดท้ายที่ได้กลืนลงคอไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับบทสนทนาที่ได้จบลง เฝ้าถามตัวเองว่านี่เราเอาร่างกายมาเหนื่อยกว่าตอนที่ทำงานเสียอีกทำไม แต่ใครจะไปรู้ว่าแบตเตอรี่ของหัวใจมันได้ถูกชาร์ตขึ้นมาบ้างแล้ว แม้จะสว่างน้อยนิด พอ ๆ กับดาวดวงแวป ๆ ดวงนั้น ก่อนที่ฉันจะหลับตาลง

5. เจ้าตัวแสบ

          ความชื้นของน้ำค้างที่เกาะเปียกและแอบขังอยู่บนผ้าใบ ความชื้นเห็นได้ชัดจากยอดหญ้าที่เขียวชุ่มเปียกจากความชื่นของน้ำค้างยามค่ำคืน นิทราถูกปลุกให้ต้องลุกแหกขี้ตา (ก็ไม่ขนาดนั้นเอาเป็นแค่ลืมตาพอ) การพักผ่อนที่ตั้งใจว่าจะไม่สนใจพระอาทิตย์ว่าขึ้นสวยแบบในทริปไหนที่เคยไปมาก่อนหน้า ต้องดับฝันเพราะเสียงบางสิ่งที่หยอกล้อเล่นแหวกว่ายกันที่ผิวน้ำ นกเป็ดน้ำตัวน้อย 2 ตัวเจ้าช่างมีความสุขนัก แต่ไม่เป็นไรให้อภัยน้อน… เพราะวิวด้านหน้าหลังจากที่ถูกปลุกลุกขึ้นมา มันช่างคุ้มค่ากับขี้ตาที่ได้เสียไป

6. แบ่งงาน

          หลังจากอาบน้ำในห้องน้ำที่ถือว่าโอเคเลยมีที่วางของให้เยอะแบบไม่งก เราก็เริ่มแบ่งหน้าที่ ทยอยเก็บของขึ้นรถและจัดเตรียมมื้อเช้า เต็นท์ยังคงกางไว้รอรับแสงอาทิตย์ที่จะสาดส่องลงมาให้พอหมาด เก้าอี้ตัวเดิมกับวิวเดิม ๆ แต่ในความรู้สึกใหม่ ความสุขนั้นผ่านไปไวเสมอ

           กาแฟดำถูกละลายส่งกลิ่นหอมกรุ่นกับอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างไข่กะทะ และเมนูน้ำแกงจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อซดน้ำร้อน ๆ อย่างที่บอก เราเน้นให้ทุกอย่างเรียบง่ายเข้าไว้ เพราะชีวิตที่ผ่านมามันไม่ค่อยง่ายนักอยู่แล้ว ทำให้ดีทำให้ไว แต่ถ้าแxกไม่ได้ก็ไม่ต้องแxกมัน แต่ถึงอย่างไรเราก็จะปล่อยให้กาแฟนั้นเย็นก่อนไม่ได้ (เสียงซดกาแฟ) อืม…ความรู้สึกและบรรยากาศแบบนี้แหละฉันอยากซื้อเอากลับไปด้วยจัง

7. Activity

          ก็ถ้าจะมากินแล้วนอนเฉย ๆ เดี่ยวจะกลายเป็นหมู (ซึ่งเป็นอยู่แล้ว) แต่เดี๋ยวจะหนักกว่าเดิม เรือแคนนูถูกปลดเชือกออกจากที่คล้อง บึงน้ำขนาดพายรอบแล้วได้ 1 เหงื่อชื้น ๆ ทำให้เรามีอะไรมากว่ามากางเต๊นท์กลางสายฝน กินแล้วก็นอนได้อย่างดี วิวสนที่เราพร่ำมองจากไกล ๆ พอมีเรือทำให้เราได้เห็นจุดหมายได้ใกล้มากยิ่งขึ้น แต่พอได้ฉุกคิดหลังจากยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายภาพใกล้ ๆ นั้น เราพบว่าบางสิ่งการที่ได้เห็นได้ชมจากไกล ๆ บางทีอาจจะดีกว่าก็ได้นะ

8. ส่งท้ายเลยแล้วกัน

           ที่แห่งนี้เป็นอีกที่ที่เรายกกล้องขึ้นถ่ายแล้วรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก ตอนแรก มีแวปนึงว่าไม่อยากเขียนรีวิวและลงภาพ (เราว่าภาพเราก็สวยประมาณนึง) เพราะที่นี่เป็นของเอกชน เราไม่ได้อะไรจากการช่วยเขาโปรโมท แต่มานั่งคิดอีกทีหากใครอ่านมาถึงตรงนี้ เรามีอีกความคิดนึงว่ามันคงจะดีนะ ถ้าหากการรีวิวที่แห่งนี้อาจจะเป็นที่ให้ใครอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน เลือกที่จะมาชาร์ตแบตเหมือนกับเรา แต่ถ้าจะให้ดีถ้าเจ้าของที่มาเห็น จะใจดีให้คูปองพักฟรี เอ่ย…น้ำอัดลมฟรีก็ยังดีหากไปครั้งหน้า อิอิ

สวัสดี

เสือซ่อนยิ้ม

เสือซ่อนยิ้ม

 วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.12 น.

ความคิดเห็น