Star Hostel Taipei Main Station จากชื่อก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าอยู่ใกล้สถานี Taipei Main ซึ่งเรื่องการเดินทางจะเป็นอะไรที่แสนจะง่าย และใกล้เอามากๆเลยทีเดียว โรงแรมนี้จะมีเป็นแบบห้องพักเดี่ยวตามสไตล์โรงแรมทั่วไป รวมถึงแบบพักรวม (Hostel) ก็มีเช่นกัน แต่เนื่องด้วยนโยบายของทางไตัหวัน เราจึงยังไม่สามารถพักแบบรวมได้ จนกว่าจะอยู่ครบ 7 วัน โดยที่ไม่มีเชื้อโควิด (ซึ่งบางคนอาจจะอยู่ไม่ถึง) ใครที่ยังไม่รู้ขั้นตอนการเข้าประเทศไต้หวัน สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ คลิกที่นี่
เมื่อเรามาถึงที่หน้าฟอร์นก็นำพาสปอตและใบจองให้น้องพนักงาน เพื่อทำการเข้าเช็คอินได้เลย
Boarding Pass ใบนี้เป็นที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักที่โรงแรมแห่งนี้
เมื่อเรามาเช็คอิน เราจะได้คูปองที่เป็นส่วนลดสำหรับใช้ครั้งถัดไปด้วย มูลค่า 500 NT
ได้คีย์การ์ดแล้ว เราจะไปสำรวจกันว่าระหว่างทาง จนไปถึงห้องโถงว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เจอแล้วด่านแรก เครื่องดื่ม ขนม มาม่า ของที่ระลึก สามารถช็อปได้ตามใจชอบ
ลืมบอกไปเลย ตอนที่เราเช็คอินนั้นทางน้องพนักงานก็จะให้รองเท้าเพื่อมาเปลี่ยนใช้ใส่ระหว่างที่อยู่ที่นี่ด้วยนะ ส่วนนี่จะเป็นล็อคเกอร์ ให้เรานำรองเท้าของเราใส่ในช่องหมายเลขห้องของตัวเอง
เวลาเช็คเอ้าท์เอารองเท้ามาคืนในนี้ได้เลย
โซนเปลี่ยนรองเท้า มีแอลกอฮอล์ด้วย ใส่ใจสุด
เลขที่ออก คือ 516 ไม่ได้ชี้นำน้า เอาคีย์การ์ดเพื่อแตะเข้าตรงโซนที่พักกัน
สำหรับคนที่ได้ห้องหมายเลข 5XX ก็จะอยู่ชั้น 5 ส่วนใครที่เป็นเลข 4 ก็เลี้ยวขวาข้างบันได แต่เราจะเดินไปสำรวจก่อนว่า ตรงห้องโถงมันเป็นยังไง
บรรยากาศดีมากเลยทุกคน เหมาะแก่การนั่งชิล นั่งทำงานมากๆ
พูดไม่ทันขาดคำ หันขวามาเจอคนนั่งทำงานกันอยู่
เลี้ยวเข้ามาอีกทางจะเจอกับโซนครัวส่วนกลาง ซึ่งใครมาใช้ก็ได้ แต่ก็ต้องรักษาความสะอาดนิดนึง
ซิงค์ที่เป็นโซนล้าง ซึ่งน้ำในก็อกก็จะมีน้ำอุ่นด้วย สามารถกินได้
ในส่วนตรงเค้าท์เตอร์กลางโซนครัวกลางก็จะเป็นส่วนที่เราสามารถจะหยิบอะไรไปกินก็ได้ไม่มีใครว่านะจ๊ะ
สายชอบลูกอม ชอบอะไรหวานก็ฉก เอ้ยหยิบไปกินได้เลย
เตาไฟฟ้าก็มี ใครอยากทำอาหารกินเองก็สามารถซื้อวัตถุดิบมาทำ
ไมโครเวฟ ตู้อบก็มีบริการด้วย ปล.ตู้เย็นที่อยู่ภาพข้างบน ก็สามารถใช้ได้ด้วยเช่นกัน
ในแต่ละวันทางโรงแรมก็จะมีกิจกรรม ใครสนใจเข้าร่วมก็ดูจากตารางนี้ได้
แว๊บเข้ามาดูโซนที่นั่งสำหรับอาหารเช้ากันหน่อย
ดูสะอาดสะอ้าน
มุมนี้ก็น่านั่งนะ
ขึ้นไปห้องดีกว่า แต่แปปเดียวคนมาจากไหนไม่รู้เต็มเลย
ถึงแล้วห้อง 516 ของเรา เข้าห้องกัน (แอบชวนแบบเนียนๆ)
เมื่อเข้ามาแล้วสิ่งแรกที่เจอคือซิงค์ล้างหน้า ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกัน
ทุกอย่างพร้อม
มีโซนอาบน้ำ แยกโซนเปียกแห้ง
ที่นอนสำหรับคนเดียว ถือว่านุ่มใช้ได้ หาเพื่อนมานอนด้วยก็ได้เหมือนกันนะ
ไดร์พร้อม สายไฟพร้อม
ไม้แขวนเสื้อก็มีนะจ๊ะ
ไฟที่โต๊ะทำงานสว่างใช้ได้ ที่เสียบปลั๊กเพียบ
ก่อนออกจากห้อง ถ้าเราไปเที่ยวข้างนอกแล้วไม่ต้องการให้แม่บ้านมาจัดห้อง ก็ให้เอาแผ่นแม่เหล็กนี้ที่ประตูด้านนอก
หิวแล้ว ไปหาไรกินดีกว่า ไม่รู้โชคชะตาหรือฟ้าลิขิตอันใด ฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหารวีแก้น มันช่างวิเศษซะยิ่งกะไร
บรรยากาศดูบ้านๆ แต่เราเชื่อว่ามันจะอร่อย
อะไรก็ไม่รู้ น่ากินไปหมด
ฟองเต้าหู้ที่เรารัก
อารมณ์ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ก็มี
ข้าวหมูพะโล้จากพืชอร๊อยอร่อย
เช้าแล้ว เวลาช่างผ่านไปไวจัง กินอีกแล้วหรอเนี่ย
ตารางอาหารเช้าแต่ละวันจะไม่เหมือนกัน โดยออเดอร์จะรับถึงเวลา 9.45 น.
เครื่องดื่มมีตั้งแต่กาแฟ ชา และน้ำผลไม้
สำหรับสายวีแก้นอย่างเราก็แค่แจ้งว่าเราเป็นวีแก้น เขาก็จะใหัหมายเลขมา รอกินได้เลย
มาแล้ว อาหารเช้าของเรา
ไม่อิ่มก็มีขนมปังปิ้งให้กินน้าาา
กรอบนอกนุ่มใน (ได้ข่าวว่ามีแผ่นเดียว)
ขนมปังคู่กับน้ำชาก็ไม่เลว ที่แปลว่าดีอ่า
ทะยอยกันมาเรื่อยๆเลย หิวกันแล้วสินะ
น้ำส้วม เอ้ย น้ำส้มตบท้ายกันหน่อย
กินเสร็จแล้วก็เก็บให้เรียบร้อย
เรื่องการเดินทาง เมื่อเรามาถึงสถานี Taipei Main ก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาสองชั้น จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ป้ายบอกทางไปทางโซน Y
หาทางออก Y13
ขึ้นมาแล้วให้เดินไปทางฝั่งซ้ายของรูป
เดินไปจนถึงปากทางนี้ให้เลี้ยวซ้ายและเดินตรงไปที่ทางแยกแรก
ตรงแยกนี้ให้ข้ามไปฝั่งขวา
ข้ามมาแล้วให้เดินตรงไปจะเจอทางเข้าอยู่ขวามือ
กดลิฟต์มาที่ชั้น4
เมื่อประตูลิฟต์เปิดจะเจอกับกระท่อมน้อยกลอยใจ
ใครที่สนใจไปพักแล้วกลัวไปถูกให้ ตามพิกัดนี้ไปนะ Google Maps
ตรวจสอบราคาและทำการจองคลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลย https://www.starhostel.com.tw/
Vegan Trip
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.17 น.