Readme before you journey
>> บางกะเจ้า <<
ผมได้ยินชื่อนี้มานานพอสมควร
เพื่อนแชร์ เพจแชร์ โอ๊ยยยสารพัด
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที ทั้งๆที่ใกล้แค่นี้
พอมีเวลาว่าง ผมไม่รีรอที่จะไปลองเที่ยวดู
อยากจะรู้นักว่ามันมีอะไร
ถึงชอบไปกันจัง
>> อยากเที่ยวตามมา <<
https://www.facebook.com/yaktieowtamma/
เช้าวันเสาร์ ในวันที่อากาศค่อนข้างดี
ผมออกเดินทางเริ่มต้นจาก BTS อนุสาวรีย์ฯ ตอน 10.30 น.
โดยทริปนี้ผมกับแฟนมีแพลนจะไปเที่ยวที่บางกะเจ้าและ Naiipa Art Complex
เรานั่ง BTS ไปลงที่สถานีบางนา โดยวันนี้ผมซื้อตั๋ว BTS แบบ One Day 140 บาท
เพราะจะต้องไปแวะที่ Naiipa Art Complex ตอนขากลับด้วย (ขี้เกียจหยอดบ่อย 5555)
ถึง BTS บางนา เราลงทางออก 2 และเรียก Taxi ไปลงที่วัดบางนานอก ประมาณ 10 นาทีถึง
สนนราคาค่า Taxi ก็ 60 บาท แลกกับความสะดวกสบาย
ลงรถปุ๊บเราไม่รอช้า นี่ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงละ ท้องเริ่มร้องเลยวิ่งเข้าร้านอาหารโดยพลัน
ข้าวหมูแดงจานนึง รองท้องไปก่อน
กินอิ่มท้องเราก็พร้อมเดินทาง
เดินต่อมาประมาณ 20 เมตรก็จะเจอท่าเรือวัดบางนานอก
ซึ่งเราจะนั่งเรือข้ามฟากไปลงที่วัดบางน้ำผึ้งนอก
ค่าโดยสารสุดถูกคนละ 4 บาท ไปกลับ 8 บาท
ท่าเรือนี้สามารถเอารถมอเตอร์ไซต์และจักรยานข้ามได้
ใครมีจักรยานก็ปั่นมาลงท่านี้ได้เลยไม่ต้องไปเช่า
นั่งเรือมาประมาณ 10 นาทีก็ถึงท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก
ซึ่งจะเก็บค่าโดยสารที่ท่าเรือนี้ทั้งไปและกลับ
พอขึ้นมาปุ๊บ ไม่ต้องทำหน้างง เลี้ยวขวาวนไปครับ
จะเจอร้านจักรยานมากมายให้เลือกเช่าตามใจชอบ
หรือถ้าใครไม่อยากปั่นไกล ก็แนะนำให้นั่งวินตรงท่าเรือ
ไปลงตลาดบางน้ำผึ้งก็ได้ แถวนั้นมีร้านจักรยานให้เช่าเหมือนกัน
แต่เราเช่าจากท่าเรือ ซึ่งร้านนี้เราเช่ามาคันละ 50 บาททั้งวัน
พร้อมแผนที่และน้ำดื่ม 1 ขวด
ร้านนี้เดินเลยวินมอไซต์มานิดนึง
พอได้ยานพาหนะคู่ใจ เราก็ลุยกันเลยสิครับ จะรออะไร
เริ่มต้นจากดูแผนที่ก่อนเลยจะได้ไม่หลง (เหรอออออออ)
หลังจากดูแผนที่เเล้วเราทั้งคู่ก็งงทันที ช่างมันละ ปั่นไปตามใจละกัน 5555
ปั่นตามป้ายมาเรื่อยๆ ก็เจอตลาดบางน้ำผึ้งอยู่ขวามือ
แต่เราไม่ได้แวะ เพราะผมเคยมารอบนึงแล้ว
เลยตลาดมานิดนึงก็ไปสะดุดกับร้านขนมจีนเข้าให้
เดี๋ยวนะ ๆ เพิ่งกินข้าวมาตะกี๊ จะกินอีกแล้วเหรอ
เราขับเลยไปประมาณ 10 เมตร และ ....
วนกลับมาจอดจนได้ แหม ก็น่ากินซะขนาดนี้ 5555
จัดไปคนละ 1 จาน มื้อนี้หมดไป 70 บาท ถูกมากกกก
แถมป้าเจ้าของก็บริการดุจลูกหลาน ไม่อิ่มเติมได้ฟรี เส้นไม่พอเติมได้ฟรี
เเต่เราไม่ได้เติมนะ เก็บท้องไว้กินอย่างอื่นอีก อิอิ
พออิ่มจากร้านขนมจีน เราก็ปั่นต่อไป
แล้วก็ไปเจอป้าย เส้นทางจักรยานเลยลองเข้าไปดู
ปรากฎว่า ... หลงสิครับ เข้าไปเจอทางตัน 5555+
เลยต้องวนออกมาทางเดิม ....
หลังจากกลับมาทางหลัก เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์
ซึ่งเส้นทางที่ปั่นไปก็ตามป้ายไปเรื่อย ๆ ถามชาวบ้านบ้าง ถามวินมอเตอร์ไซต์บ้าง
เส้นทางนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นถนนที่มีรถสัญจรเยอะมาก
ปั่นมาสักพักเราก็ถึงทางเข้าสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์
ระยะทางที่ปั่นมาจากตลาดบางน้ำผึ้งก็ประมาณ 3 กิโล
ในสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์แห่งนี้ เป็นสวนที่มีความร่มรื่นอย่างมาก
มีนักท่องเที่ยวมาปั่นจักรยานกันเยอะแยะมากมาย
เราก็ปั่นไปรอบๆ สวนกินบรรยากาศไป
โชคดีที่วันนี้อากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก เลยสบายตัวหน่อย
ปั่นไปเรื่อยจ้า
และก็มาถึงจุดไฮไลต์ของที่นี่
จะบอกว่าไฮไลต์ก็ไม่เชิงนักเพราะที่นี่เป็นหอดูนก
ซึ่งในป้ายมีบอกข้อมูลของนกหลากหลายชนิด
แต่ผมเชื่อได้เลยว่าคุณไม่ได้จะมาส่องนกกันหรอก
เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวที่มา ตั้งใจมาถ่ายรูปนี่แหละ
มุมนี้แหละ สุดฮิต รอนายแบบนางแบบแปป
นั่นไงท่าฮิตที่ใครๆก็มาถ่ายกัน นอนไปจ้ะนอนไป (แต่ผมไม่ได้ถ่าย 5555)
จริงๆวิวข้างบนก็สวยอยู่นะ
ผมยืนดูอยู่สักพักเพราะกลุ่มที่มาตลกกันมากๆ โพสท่าถ่ายรูปกันสนุกมากๆ
ฝรั่งที่ขึ้นมาด้านบนแล้วหวังจะดูนก คงจะงงๆ ว่าคนไทยมันทำอะไรกัน
แหม ก็เสียงดังกันขนาดนี้ นกที่ไหนจะมาบินให้ดูใกล้ๆล่ะ 5555
ออกจากหอดูนกมาผมก็ขับวนเล่นอีก 1 รอบแล้วก็ออกมาทางเดิม
เจอน้องหมาเดินงงๆอยู่ด้วย 555
ผมใช้เวลาอยู่ในสวนนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็ปั่นกลับ
โดยเป้าหมายต่อไปของเราคือ หาของหวานกิน
ซึ่งเราตั้งใจไปกินกันที่ร้าน Bangkok Tree House
แต่พอไปถึงหน้าร้านก็เจอกับสภาพนี้
ใช่ครับ คนเนืองแน่นมากๆ แต่เราก็เข้าไปอยู่ดี 555
เข้าไปสั่งข้าวเหนียวมะม่วงกิน ซึ่ง....รอนานมากกกกกก
จริงๆผมสั่งอาหารอย่างอื่นไปด้วย แต่พอกินข้าวเหนียวมะม่วงเสร็จ
ก็เลยเช็คบิลและยกเลิกอย่างอื่นไป เพราะรอไม่ไหวววววว
เข้าใจนะครับว่าคนเยอะ แต่พนักงานดูแลไม่ทั่วถึงจริงๆ
เราเลยออกจากร้าน Bangkok Tree House ไปร้าน พบรัก ณ บางน้ำผึ้งแทน
ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตรเท่านั้น
เข้าไปถึงก็ไม่รีรอ สั่งเค้กลูกจากมากิน อร่อยมากกกกก
ซึ่งร้าน พบรัก ณ บางน้ำผึ้งนี้ คนค่อนข้างน้อยและบรรยากาศดีแบบไทยๆมากๆ
ใครมาก็แนะนำอย่ามองข้ามร้านนี้นะครับ อาหารก็อร่อยใช้ได้
แถมยังมีสะพานสวยๆให้ถ่ายรูปอีกด้วย
กินเสร็จก็ขึ้นท่าเรือเดิม กลับไปฝั่งวัดบางนานอก
จากท่าเรือวัดบางนานอก เราขึ้น Taxi ที่เดิม แล้วนั่งไปลงสถานีอุดมสุข
เพราะพอออกจากเส้นถนนหลักนี้เลี้ยวซ้ายจะใกล้กว่าไป BTS บางนาครับ
และเป้าหมายต่อไปของเราก็คือ Naiipa Art Complex ที่กำลังฮิตนั่นเอง
เรานั่ง BTS มาลงที่สถานีพระโขนง แล้วออกทางออก 4
เดินเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตรก็จะเจอกับที่นี่
Naiipa Art Complex
ที่นี่เราตั้งใจมากิน วาฟเฟิ่ลร้าน Library ซึ่งแฟนผมบอกว่าอร่อยมากกกก
ก็แหงล่ะ แฟนบอกขนาดนี้ ไม่มามีหวังโดนตีหัว อิอิ
สั่งช๊อกโกแล็ตเย็นมากินรอก่อน
จากนั้นก็นั่งรอ และ ดูเค้าทำวาฟเฟิ่ลไปพลางๆ
และแล้ววววววววว มันก็มาาาา...
กินไม่ถึง 5 นาที หมดจ้า 5555+ สนนราคาทั้งน้ำทั้งวาฟเฟิ่ลก็ประมาณ 200 บาท
รสชาติวาฟเฟิ่ลอร่อยดี เหมือนกินขนมครกสิงคโปร์ในเวอร์ชั่นกรอบๆ อิอิ
กินอิ่มก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ
ที่ Naiipa Art Complex นี้ ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์
ซึ่งตอนผมไปมีพื้นที่บางส่วนที่ยังห้ามเข้าอยู่เพราะยังไม่เสร็จ
ทำให้เดินถ่ายรูปเล่นบนชั้น 2 ได้แค่นิดๆหน่อยๆเท่านั้น
.
.
และแล้วก็หมดวันสบายๆ ไป 1 วัน
กับการปั่นไปกินจนพุงยื่น และ สดชื่นจนเต็มปอดของผม
ถ้าเพื่อนๆ มีวันว่างๆสักวัน ลองออกไปเที่ยวเล่นชิลๆดูนะครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
- ตั๋ว BTS One Day 2 คน 280 บาท
- ค่าเรือไปกลับ 2 คน 16 บาท
- ค่าแท็กซี่ไปกลับ 120 บาท
- ค่ากินมื้อแรก ข้าวหมูแดง+ก๋วยเตี๋ยวเรือ 100 บาท
- ค่าเช่าจักรยาน 2 คัน 100 บาท
- ค่ากินร้านขนมจีน 2 คน 70 บาท
- ค่ากินข้าวเหนียวมะม่วงร้าน Bangkok Tree House 110 บาท
- ค่าเค้ก+น้ำมะพร้าวปั่น+ลูกจากลอยแก้ว ร้าน พบรัก ณ บางน้ำผึ้ง 195 บาท
- ค่าวาฟเฟิ่ลและช๊อกโกแล็ตเย็นที่ Library 200 บาท
ทั้งทริป 1191 หาร 2 ตกคนละ 595 บาท
อุปกรณ์ถ่ายภาพ
Fujifilm XT10
Lens Samyang 12 mm
รีวิวอื่นๆ ของม่อนจุก
>ผาหินกูบ< |.. บุกป่า ฝ่าดงทาก ลากสังขารไปนอนบนหินใหญ่ ..|
ทิ้งความวุ่นวาย . . . ไป Slow Life ใกล้เมืองกรุงที่ . . > อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง <
> บ้านสวนจันทิตา < . . . สัมผัสธรรมชาติง่ายๆที่อุทัยฯ ทริปสบายๆไม่ต้องการวันลา
| เวียงจันทร์-วังเวียง | 5 วัน 4 คืน เที่ยวสุดฟิน กินสุดเพลิน จนไม่มีตังค์เหลือ
ม่อนจุก
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.59 น.
