เปิดรีวิวแรกด้วยที่นี้เลยครับ วังเวียง เมืองแห่งธรรมชาติ ทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของทิวเขา จากที่หาข้อมูลมา รีวิววังเวียงก็มีเยอะมาก แต่ละรีวิวสไตล์ก็จะต่างกันไป ทั้งแบบประหยัด แบบชิลๆหรือแบบกินอยู่เที่ยวสบายๆไปเลย ขอฝากรีวิวในสไตล์ของผมไว้บ้างละกันครับ


#หนังสือเดินทาง

เนื่องจากประเทศลาวไม่ต้องใช้วีซ่า ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ใช้เพียง passport หรือใบผ่านแดนชั่วคราวก็ได้แล้ว แต่ใบผ่านแดนชั่วคราวจะไปได้แค่เวียงจันทน์ครับ ถ้าจะไปวังเวียงต้องใช้ passport ครับ


#การเดินทาง

มีให้เลือกหลายพาหนะแต่ที่นิยมกันส่วนใหญ่คือ

เครื่องบิน ดอนเมือง - อุดรธานี และต่อรถบขส. อุดรธานี - หนองคาย - วังเวียง

รถบขส. กรุงเทพ - อุดรธานี และต่อรถบขส. อุดรธานี - หนองคาย - วังเวียง


#การเงิน

หากต้องการจะแลกเงินก็แลกที่ด่านประเทศลาวได้เลยครับ เรทจะดีกว่าไปแลกที่วังเวียง หรือจะใช้เงินไทยก็ได้ครับ


#Social Network

ไม่ต้องห่วงครับ จะซื้อซิมที่ด่านประเทศลาวไปเลยก็ได้ หรือจะไปซื้อที่วังเวียงก็ได้ ถ้าซื้อที่ด่าน ก็จะสามารถเล่นระหว่างทางไปวังเวียงได้ครับ แต่สำหรับเครือของประเทศไทย AIS DTAC พอผ่านด่านประเทศลาวมาแล้วสัญญาณหายเลยครับ ส่วน TRUE สัญญาณไปได้ไกลกว่าเยอะ หลังจากผ่านด่านมาแล้ว


#ภาษาท้องถิ่น

การสื่อสารภาษาไทย ภาษาลาว ไม่ต้องกังวลครับ พูดไม่ต่างกันเท่าไรเลย รับรองรู้เรื่องทุกประโยค


แพลนแต่ละวันที่วางไว้ ตามนี้ครับ

18 มิ.ย. 59

ดอนเมือง - อุดรธานี บิน 2 ทุ่ม

พักโรงแรมเจริญ โฮเต็ล อุดรธานี

19 มิ.ย. 59

อุดรธานี - หนองคาย - วังเวียง โดย บขส

พักโรงแรม Silver naga hotel 3 คืน อยู่ติดแม่น้ำซอง

20 มิ.ย. 59

daytrip ถ้ำน้ำ,ถ้ำช้าง,คายัค (join group)

21 มิ.ย. 59

daytrip ถ้ำจัง,ผาเงิน,บลูลากูน,หมู่บ้านชาวเขา (private)

ขึ้น balloon

22 มิ.ย. 59

วังเวียง - หนองคาย - อุดรธานี โดย บขส

อุดรธานี - ดอนเมือง บิน 4 ทุ่ม


ค่าใช้จ่ายทั้งหมด(ต่อคน)

เครื่องบิน ดอนเมือง - อุดรธานี รวมซื้อน้ำหนักเพิ่ม (โปรโมชัน)ไปกลับประมาณ = 600 บาท

ค่าที่พักโรงเรียนเจริญ โฮเต็ล 1 คืน = 465 บาท

ค่าที่พักโรงแรม Silver naga hotel 3 คืน = 2050 บาท

ค่ารถอุดรธานี - วังเวียง ไปกลับ คนละ ประมาณ = 700 บาท

บัตร one way ticket(เฉพาะขาไปเพราะไปวันเสาร์ วันธรรมดาไม่มีค่าใช้จ่ายครับ) = 55 บาท

Daytrip ถ้ำน้ำ,ถ้ำช้าง,คายัค ประมาณ 150000 กีบ = 600 บาท

Daytrip ถ้ำจัง,ผาเงิน,บลูลากูน,หมู่บ้านชาวเขา ประมาณ 150000 กีบ = 600 บาท

Balloon คนละ 78 us หรือประมาณ = 2900 บาท

ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปโรงเรียนเจริญ โฮเต็ล คนละ = 50 บาท

ค่าแท็กซี่จากเซ็นทรัลอุดรธานีไปสนามบิน คนละ = 35 บาท

ค่ากินและใช้จ่ายอื่นๆที่วังเวียง = 2400 บาท


รวมทั้งหมด 10455 บาท

ตะลึง!!! ไปแค่ลาวประเทศเพื่อนบ้าน จ่ายอะไรไปเยอะครับเนี่ยย ยังงงตัวเองเหมือนกัน 55+

จะใช้งบเยอะ งบน้อยก็ได้เที่ยว ได้สนุกเหมือนกัน ถ้าได้เที่ยวแล้วอย่าขี้งกเรื่องเงินเลยครับ แฮะๆ


#อุปกรณ์ถ่ายภาพ

Canon 60D

Gopro Hero4


ทริปนี้เดินทางด้วยกันทั้งหมด 4 คน ชาย 2 หญิง 2 ฟังดูไม่เยอะเลยใช่ปะ ถามว่าไปน้อยคนแล้วสนุกไหม ตอบเลยว่าสนุกมากเพราะถ้าคนเยอะเรื่องก็เยอะตามไปด้วย ไปน้อยๆนี่แหละดีสุด ไปลุยกันเลยครับ....


[ DAY 1 : 18. มิ.ย. 59 ]

ไม่ต้องรีบตื่นเพราะบินไฟลท์ 2 ทุ่มโน่นน 55+ แต่ก็ไปถึงสนามบินประมาณ 6 โมงเย็น ไม่ค่อยรีบเลย55+ จัดการเช็คอิน โหลดกระเป๋า เดินตัวปลิวหาของกินเบาๆ น้ำเปล่า 1 ขวด เอิ่ม- - ก็กินกันมาแล้วเลยไปนั่งใน gate รอขึ้นเครื่อง

ส่วนอันนี้สัมภาระผู้ชาย 2 คน เยอะมั้ยล่ะ 55+

ไม่มีไรทำก็หยิบกล้องมาถ่ายไปเรื่อย

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว go go go

ประมาณสี่ทุ่ม บินลงสู่อุดรธานี

พอออกมาก็ใช้บริการแท็กซี่สนามบินคนละ 50 บาท ไปโรงแรมที่จองไว้ก็คือ โรงแรมเจริญ โฮเต็ล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก สถานีขนส่งเท่าไร ระหว่างทางพี่คนขับก็ชวนคุยไปเรื่อย ถามว่ามาจากไหน แล้วจะไปไหน แล้วพี่เขาก็ว่าทำไมพักโรงแรมเจริญ มางานแต่งเหรอ? พวกผมก็เลยบอกว่าเห็นมันใกล้สถานีขนส่ง พี่คนขับเลยบอกว่าปกติคนพักที่นี้ จะมางานแต่งกัน ไอ้เราก็เออ ออ ตามพี่เขาไปอะนะ ถึงโรงแรมแล้วก็เช็คอิน เก็บสัมภาระ แล้วออกมากินชายสี่หมี่เกี๊ยว ฝั่งตรงข้ามโรงแรม

จากนั้นก็กลับโรงแรมรีบนอน พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นไปจองตั๋ว บขส



[ DAY 2 : 19 มิ.ย. 59 ]

ก็ตื่นเช้ากันจริงๆครับ รีบไปจองตั๋วตอน 6.30 มีรถไปรอบเดียวคือ 8.30 ตั๋วราคา 350 บาท ตั๋วเหลือเพียบเลยครับ คงเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดยาว คนเลยไม่เยอะ 55+

หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยก็เดินชมบรรยากาศตัวเมืองอุดรธานี

และเดินกลับไปโรงแรมทานมื้อเช้าพร้อมเช็คเอ้าท์

จากที่สังเกตคนในโรงแรมส่วนใหญ่รุ่นแม่ๆป้าๆทั้งนั้น สงสัยคงมางานแต่งเหมือนพี่แท็กซี่บอกจริงๆครับ - -

8.30 ก็พร้อมขึ้นรถ แต่ช้าก่อนเรายังไม่ถ่ายรูปรวมกันเลย ขอสัก shot

รถบขส.ที่เราได้นั่งเป็นรถของไทยครับซึ่งจะสลับกันบางทีก็เป็นรถของลาว

คนไม่เยอะอย่างที่คิดไว้เลยที่นั่งเหลือเต็ม

ระหว่างรอเวลารถออกพนักงานจะแจกใบ ตม. ทั้งของไทยและของลาว ก็จัดการเขียนให้เรียบร้อย

ใช้เวลาเกือบชั่งโมงมาถึงสถานีขนส่งหนองคาย รับผู้โดยสาร แต่ถ้ารถเต็มจากอุดรแล้วก็อาจจะไม่แวะ ต่อจากนั้นก็ถึงด่านไทยทุกคนต้องลงและนำ passport ไปปั้ม

ส่วนรถบขส. จะขับไปรอหลังด่านตรวจเสร็จแล้วก็ขึ้นรถไปยังด่านลาว ทีนี้ที่ด่านลาวต้องซื้อบัตร one way ticket คนละใบ ใช้สำหรับเข้าออกประเทศลาว ถ้ามาวันธรรมดาไม่ต้องเสียค่าบัตรนี้ ถ้าวันเสาร์อาทิตย์ต้องเสียคนละ 55 บาท ส่วนใครจะแลกเงินก็สามารถแลกที่ด่านได้เลย เลทดีกว่าไปแลกที่วังเวียง เลยแลกไปคนละ 2000 บาท ได้เป็นกีบประมาณล้านแปดดดดด รวยๆ

ซิม internet ก็เช่นกันจัดการซื้อที่ด่านได้เลย แต่พวกเราไม่ได้ซื้อครับ เลยไม่มีเล่นระหว่างทาง หลับอย่างเดียว 55+ ตรงด่านตรวจทั้งไทยและลาวห้ามถ่ายรูปนะครับ

ระหว่างทาง ที่นี้คืออะไรไม่รู้ ถ่ายมาเฉยๆ

ประมาณเที่ยงก็ถึงครึ่งทาง รถจะจอดพัก 30 นาที ที่นี่มีห้องน้ำให้บริการ

ร้านขายของ

ร้านอาหารตามสั่ง ด้วยความหิวโหยก็จัดข้าวไปคนละจาน เป็นการจ่ายเงินกีบครั้งแรก นับผิดนับถูกกันเลยทีเดียว 55

เดินทางกันต่อจากนี้ไปจะเป็นทางขึ้นเขา ใครที่เมารถก็เตรียมถุงพลาสติกไว้ด้วยหรือกินยาแก้เมารถก็ได้ครับ แต่ถ้าอ๊วกจริงๆก็เป็นข้าวที่เพิ่งกินเมื่อกี้นี้แหละ ฮ่าๆ แต่ถ้าไม่หลับนั่งชมวิวข้างทางก็เพลินดีครับ

เวลาสามโมง ก็ถึงสถานีขนส่งวังเวียง

จากนั้นก็ติดต่อซื้อตั๋วขากลับไว้เลย วังเวียง - อุดรธานี รอบ 9.00 คนละ 90000 กีบ หรือ 300 กว่าบาท ตอนนั้นก็ใช้เงินกีบจ่ายเลยครับ พนักงานบอกว่า จะมีรถมารับที่โรงแรมที่พวกเราพักไปสถานีขนส่งวังเวียง ตอน 8.30

จากสถานีขนส่งวังเวียงไปยังตัวเมืองไม่ต้องเสียเงินค่ารถนะครับ เพราะเขามีรถรับส่ง จากสถานีขนส่งไปตัวเมืองฟรี เป็นรถสองแถว ก็นั่งรอรถกัน

รถมาแล้ววิ่งๆๆ….. เดินก็ได้ฮ่าๆ

ไม่ค่อยรีบเลยเธอคนนี้

หลังจากลงรถสองแถวก็เดินหาที่พักที่จองไว้

โรงแรม silver naga hotel ป้ายโรงแรมไม่ใหญ่มากต้องสังเกตดีๆ

อยู่ถนนขนานกับแม่น้ำซองส่วนตัวโรงแรมอยู่ติดแม่น้ำเลยครับ วิวสวย บรรยากาศดี จัดการเช็คอิน พักผ่อนสักชั่วโมง

สี่โมงเย็น ก็ออกมาหาร้านน้ำทิพย์ทัวร์(อยู่สามแยก) ซื้อ daytrip แบบ join group ถ้ำน้ำ ถ้ำช้าง คายัค คนละ 120000 กีบ เจ้าของนัดเวลา พรุ่งนี้ 8.30 ให้มาพร้อมกันที่นี่

และติดต่อจองขึ้น balloon ที่ร้านเวียงวิไล(ข้างๆกัน) เพราะร้านน้ำทิพย์ไม่มี balloon เลยต้องหาร้านอื่นแทนครับ

นั่งรอเจ้เจ้าของร้าน กำลังติดลูกค้าคนอื่น นี่เจ้เจ้าของร้าน

ค่าขึ้นคนละ 78 us จ่ายสด รูดบัตรได้ครับ บอลลูนจะมี 2 ช่วง เช้าและเย็น จองไว้รอบเช้า มีเพื่อนอีกคนไม่กล้าขึ้นกล่อมยังไงก็ไม่ยอม เลยขึ้น 3 คน ก็นัดแนะเวลาเรียบร้อยวันที่ 21 เวลา 5.40 รถจะมารับที่โรงแรม เป็นอันเสร็จภารกิจเดินหา daytrip และ balloon

ได้เวลาหาของกิน มาแล้วก็ต้องจัดโรตี เบอเกอ ตรงสามแยกพอดีเลย มีร้านเยอะ

และก็เดินหาซิม internet จำราคาไม่ได้ครับ แต่ใช้งานได้ 1.5 gb/7 วัน ไปได้ซิมที่ร้าน M mart

มือบังซิมซะงั้น

จากนั้นก็กลับที่พัก ไปถ่ายรูปบรรยกาศรอบโรงแรมมาฝากครับ

ภาพคนสักหน่อย

ส่วนมุมสวยๆ เล่นกับแสงอาทิตย์ก็มีนะครับ สามารถหาแบบสวยๆมาถ่ายได้เลย

สักทุ่มกว่าๆก็ออกไปหาข้าวกิน ร้านอาหารตามสั่งซอยเดียวกับซากุระบาร์

และนี่คือบิล…. ไม่แพงเท่าไรเนอะ

พวกเรา 4 คนไม่ได้ไปซากุระบาร์ เนื่องจากคนนำทีมหรือสาย L ไม่ได้มาด้วย ก็เสียดายอยู่ แต่ก็ทดแทนด้วยการซื้อเบียร์ลาวมาดื่มคนละป๋อง 55



[ DAY 3 : 20 มิ.ย. 59 ]

กินอาหารเช้าที่โรงแรมและเดินไปรอที่น้ำทิพย์ทัวร์

ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้นต้องมี Group shot

(ทากันแดดด้วยนะครับ พายคายัคตอนบ่าย แดดกำลังดีเลย เป็นห่วงสีผิวของทุกคนนะครับ 55+)


ในกรุ๊ปทัวร์วันนี้มีแต่เกาหลี มีสาวเกาหลีมากันสองคนด้วยน่ารัก อิอิ

ส่วนไกด์ของกรุ๊ปเราชื่อ กุย ครับคอยแนะนำสถานที่ต่างๆ เป็นกันเองดีครับ พร้อมแล้วล้อหมุนนนนน

เริ่มด้วยที่แรกถ้ำน้ำ ซึ่งหลังจากลงรถแล้วต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 300 เมตร


ผ่านมาเจอน้องวัว ตอนเดินต้องระวังด้วยนะครับมีกับระเบิด 55+

ลอยตัวบนห่วงยางเข้าไปในถ้ำ(ตามจริงเดินก็ได้นะ ไม่ลึกเลย)

มีไฟฉายคาดหัวคนละอัน เกาะเชือก สาวเชือกตามๆกันไปในถ้ำ เมื่อยสุดๆบอกเลย ไม่ได้พกกล้องเข้าไปครับ เลยไม่ได้รูปมา- -


เสร็จจากถ้ำน้ำ ก็ขึ้นมากินข้าวเที่ยงที่ทัวร์จัดไว้ให้ ข้าวผัด ขนมปังอันใหญ่และก็กล้วย

สองสาวเกาหลีที่ว่า (ซ้ายล่าง) อิอิ

จากนั้นก็เดินมาถ้ำช้าง

ไกด์บอกว่ามีหินลักษณะคล้ายช้าง(อยู่ข้างหลังเพื่อนผู้หญิงคนสุดท้าย) เลยเรียกว่าถ้ำช้าง

ระหว่างนั้นพวกเราก็คุยกันว่าพรุ่งนี้จะไปผาเงินและบลูลากูน โดยเช่ารถมอไซค์ขับไปกันเอง ไกด์ได้ยินเราพูดกันก็เข้ามาแนะนำว่าติดต่อเขาได้นะเขาจะพาไปหมด(รับเองไม่ผ่านทัวร์) ถ้ำจัง ผาเงิน บลูลากูนและหมู่บ้านชาวเขา เป็นแบบ private เลย 150000 กีบ อยากไปไหนก็ไป ไปตอนไหนก็ได้ พวกเราก็เริ่มสนใจนะเพราะมาคิดดูแล้วถ้าเช่าไปกันเอง ทางไม่ค่อยดีแล้วถ้ารถล่มหรือเกิดอุบัติเหตุ บลาๆๆ จะทำไง ก็เลยตัดสินใจตกลงกับไกด์ไป(ตามจริงถ้าไม่คิดมากลองขับไปกันเองก็ได้ครับ)

เดินกลับไปที่รถเพื่อเตรียมไปพายคายัค (เดินตามสองสาวเกาหลี)

นั่งรถมาถึงจุดลงเรือ

ก่อนจะลงเรือ ไกด์ก็จะแนะนำวิธีการพายและถ้าเกิดการเกิดอุบัติเหตุต้องทำอย่างไร

ชายเกาหลีทางขวาก็มาคนเดียว เที่ยวคนเดียวผมยังไม่กล้าเลย ฮ่าๆ

พายเรือคายัค แม่น้ำซอง ระยะทาง 8 กิโลเมตร ลุยกันไปเลยยยยย


ลำละ 2-3 คน คนที่พายเป็นหรือพายแข็งๆ ให้นั่งหลังครับ

ระหว่างพาย ควักน้ำสาดใส่กันก็สนุกดีนะ

ระยะทาง 8 กิโลเมตร มีเหรอจะไม่เมื่อย พายกันจนแขนล้าาาา

ส่วนวิวสองข้างทางสวยสุดยอดเลย

ประมาณบ่ายสาม เราพายมาถึงที่พักพอดี เลยบอกไกด์ว่าขอขึ้นตรงโรงแรมเลยละกัน 55+ เป็นอันจบ daytrip

และก็จ่ายมัดจำกับไกด์ไว้ 200000 กีบสำหรับ daytrip private พรุ่งนี้ 9.30

กลับเข้าห้องพักผ่อน Zz..


ประมาณสี่โมงครึ่งก็เดินไปเก็บภาพบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำซอง

และก็เดินไปฝั่งตรงข้าม

วิวจากกลางสะพาน


เห็นมีร้านอาหารตั้งโต๊ะให้นั่งบนแม่น้ำซอง น่านั่งดีนะ

วิวและบรรยากาศดีมากครับ จะบอกว่าตั้งแต่มาวังเวียง ไม่มีฝนสักเม็ดเลย ดีจริงๆ เลยได้ภาพเซตนี้พร้อมนางแบบ(เพื่อนที่ไปด้วยกันนั่นเอง) 55

ระหว่างนั้นก็มีฝรั่งเดินมา ท่าจะเมามาขอเพื่อนถ่ายรูปเลยจัดให้ 1 shot และก็ถามว่ากี่โมงแล้ว - -

เสร็จแล้วก็ไปกินชายสี่หมี่เกี๊ยว อีกแล้ว 55+ วันแรกกินของไทย วันนี้กินของลาวบ้าง


พอมานั่งนับเงินกีบ คิดว่าไม่พอแน่นอน เพราะต้องจ่ายค่า daytrip พรุ่งนี้อีก 400000 กีบ เลยไปแลกเงินเพิ่มแลกคนละ 500 บาท ได้เรท 1 บาท = 228 กีบ ได้มาทั้งหมด 456000 กีบ

จากนั้นกลับที่พัก พรุ่งนี้ 3 คน จะต้องขึ้นบอลลูน ซึ่งนัดไว้ 5.40 จะตื่นไหมเอ่ยย



[ DAY 4 : 21 มิ.ย. 59 ]

แหกขี้ตาตื่นอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมารอที่ล็อบบี้ มีคนมารับตรงเวลาเป๊ะเลย 5.40 และรถก็ตระเวนรับอีก 5-6 คน สำหรับบอลลูนถ้าขึ้นตอนเช้าเหมือนจะพาเลียบแม่น้ำซองนะ

และก็มาถึงจุดขึ้นบอลลูน

เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ารอลมหมดก่อน เพราะถ้าลมแรงไม่สามารถเอาบอลลูนขึ้นได้ เลยถ่ายรูปเล่นไปก่อน

รอกันเกือบจะชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็มาบอกว่าเอาบอลลูนขึ้นไม่ได้ อ้าวววววว!!!! แล้วยังไงล่ะเนี่ย ต้องเปลี่ยนเป็นตอนเย็น เขาก็นัดเวลาใหม่ คือ 16.40 แล้วคือ….ที่แหกขี้ตาตื่นมารอแล้วไม่ได้ขึ้นคืออะไรครับบ เซง 555+ ส่วนเพื่อนที่ไม่ได้ขึ้นบอลลูน นอนรออยู่ที่โรงแรมหลับสบายเลย


กลับมาโรงแรมกินอาหารเช้าและเตรียมไป daytrip ที่นัดไว้ 9.30 ก็ตรงเวลาเป๊ะเลย

สถานที่แรกที่ไปก็ถือถ้ำจัง ทางเข้าไปก็ฝุ่นตลบ

มันคืออะไร ก็คือสะพานสีส้ม ที่คนชอบไปถ่ายกันไง

เดินต่อไปข้างในก็คือถ้ำจัง บริเวณทางขึ้นถ้ำจังจะมีน้ำตก น้ำใสมาก น่าเล่น


นั่นบันไดขึ้นถ้ำจัง ไม่เท่าไหร่เอง สบายๆ

แต่ก็เรียกเหงื่อได้เหมือนกันนะ 55+

ขึ้นมาสุดบันไดจะพบกับวิวแบบนี้

เข้าไปชมถ้ำกันเลย

เดินในถ้ำไปจนถึงที่ชมวิว

จากนั้นกลับลงมา นั่งรถไปผาเงินกันต่อ


ถึงผาเงินมีป้ายบอก 20 นาทีถึงจุดชมวิว แต่จะ20นาทีจริงหรือ?

เพื่อนผู้หญิง 2 คน บอกว่าไม่ขึ้นตั้งแต่แรก ผมกับเพื่อนอีกคนเลยพยายามบอกให้ขึ้น เดินไม่นาน ไม่เหนื่อยหรอก มั้งงงง 55+ สุดท้ายก็ยอมเดินขึ้นมา ระหว่างนั้นก็มีเด็กชาวเขา ชาวม้งหรือชาวอะไรนี่แหละ เดินตามมาด้วยพวกเราก็ให้เงินเด็กๆ ให้ของกิน

แต่มาได้ประมาณ 200 เมตรหยุดชะงักเพื่อนผู้หญิง 2 คนขอถอนตัว 55+ คือทางมันชันตลอด ผมกับเพื่อนก็เลยให้เพื่อนกลับไปรอที่รถ ดูแล้วน่าไม่ไหวจริงๆ ผมกับเพื่อนยังเหนื่อยเลย เหงื่อท่วมตัว

นี้เลยทางปีนตลอดอันนี้แค่แรกๆ

เจอป้ายบอกอีก 400 เมตร จะดีใจดีไหม

อ้าวมีบันไดด้วย

จนมาถึงจุดพัก วิวดีเชียว

และก็เดินต่อไปอีก จนมาถึงยอดผาเงิน มีศาลาพักหลังนึงหลบแดด


วิวอลังการมากครับ

ถือว่าคุ้มค่ากับวิวที่ได้เห็น

นั่งให้หายเหนื่อยสักพัก ก็เดินกลับลงไป พอไปถึงเลยบอกเพื่อนที่รออยู่ว่า ดีแล้วที่ไม่ขึ้นไป ไม่งั้นตายแน่ 55+


เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวเที่ยงที่บลูลากูน ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว โอ้ววแซ่บ!!!

แล้วจะพลาดได้อย่างไรกับการเล่นน้ำ ไปโดดน้ำสัก ตูม 2 ตูม พอ 55+

หน้าฝน น้ำก็ยังใสอยู่นะ เพราะฝนไม่ตก ถ้าตกนี่ไม่ได้เห็นสีแบบนี้แน่ๆ

ถือว่ามาช่วงโลว์ซีซัน มันก็ดีจริงๆ คนน้อย

เสียดายไม่ได้ไปถ้ำปูคำแต่ไม่เป็นไร ถ้ำก็น่าจะเหมือนๆกันหมด 55+ จากนั้นก็เดินทางกลับเผื่อไปขึ้นบอลลูนให้ทันสี่โมงสี่สิบ แต่ใช้เส้นทางกลับที่ผ่านหมู่บ้านชาวเขา วิวอันนเวิ้งว้าง สวยดีครับ เก็บภาพมาได้บางส่วน

นั่งรถก็นานยังไม่เห็นชาวเขาสักคนเห็นแต่น้องวัว และทางก็นะเด้งบ้าง ตกหลุมบ้าง 55+

ถึงโรงแรมสามโมงกว่า ยังมีเวลาเลยไปกระโดดน้ำสระที่โรงแรมก่อน


วิวสระว่ายน้ำไม่ใช่เล่นๆเลยนะ


ใกล้ได้เวลาก็ไปอาบน้ำแต่งตัวพร้อมไปขึ้นบอลลูน และรถก็มารับที่โรงแรมตรงเวลาเป๊ะเลย


ถึงจุดขึ้นบอลลูน ซึ่งเป็นคนละที่กับตอนเช้า

กำลังเตรียมบอลลูนกันเลย เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน บอกไว้ก่อนครับ ไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้หรือประกันใดๆทั้งสิ้น มีแต่ใจเท่านั้นกล้าหรือเปล่า 55+

ในกระเช้าจะมีถังแก๊สวางอยู่และที่จุดไฟอยู่ด้านบน เวลาเจ้าหน้าที่เร่งไฟให้กับบอลลูน

ใครที่อยู่ใกล้ๆกับที่จุด จะร้อนมาก(ตามจริงก็ร้อนทุกคนนะ) เหมือนโดนเผา

ไปชมบรรยากาศข้างบนกัน

สาวฝรั่งข้างๆ

และมุมมอง Bird eye view

และข้างล่างคือจุดที่พวกเราขึ้นบอลลูน

ทางที่นั่งรถบขส.มา มองเห็นไปไกลโน่นนนนนน


นั่นแม่น้ำซองที่พายคายัคกันมา ดูแล้วพายกันมาได้ยังไงงให้ตายเถอะ

บางช่วงก็จะลอยต่ำลง เกือบจะโดนหลังคาบ้าน 55+

พอถึงจุดหมายเจ้าหน้าที่จะโยนเชือกลงไปข้างล่างให้คนคอยดึงให้บอลลูนลงมา และเวลาออกจากกระเช้าจะต้องออกทีละคน แล้วให้คนที่จะขึ้นบอลลูนรอบต่อไปเข้ามาแทน สลับกันแบบนี้จนครบทุกคน เพื่อรักษาสมดุลของบอลลูน

และถ่ายรูปรวมเป็นระลึกสักหน่อยครับ

หลังจากบอลลูนรอบใหม่ขึ้นไปแล้วประกอบกับมุมที่พระอาทิตย์กำลังจะตก เป็นภาพที่สวยงามมากเลยครับ

จากนั้นก็นั่งรถกลับโรงแรม หาของกินและสลบบนเตียง Zz...


[ DAY 5 : 22 มิ.ย. 59 ]

ตื่นตามปกติวันนี้ไม่ภารกิจเร่งรีบอะไร กินอาหารเช้า(กินมา 3 วันล่ะ มีเหมือนเดิมทุกวัน 55+) เช็คเอ้าท์และรอรถมารับไป สถานีขนส่งวังเวียง อย่างที่บอกครับอยู่วังเวียงมาหลายวันฝนไม่ตก มาตกวันจะกลับ ตากฝนไปขึ้นรถสิครับ 55+

รอเวลารถออกแล้วเดินทางกลับสู่ประเทศไทยครับ

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ อาจจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังแพลนไปเที่ยวไม่มากก็น้อย

รูปสวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่งคนละโทนบ้างก็ชั่งมันเถอะเนอะ 55+


ฝากติดตามเพจน้องใหม่ "เที่ยว ออก เดิน" by Fun_O ด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/TiewOkDern/

https://th.readme.me/id/funotravel

http://pantip.com/profile/2443477

http://chillblog.chillpainai.com/index.php?c=home&...

ความคิดเห็น