สวัสดีจ้า กลับมาพบกับพวกเราอีกแล้วครอบครัวตะลอนเที่ยว ทริปนี้ทริปใหญ่ประจำปี 2022 เลยก็ว่าได้ และที่สำคัญตรงกะวันครบรอบแต่งงาน 4 ปีพอดีทริปนี้ เราจะขึ้นเหนือไปฉลองกัน 5 วันไปเลย หนาวแรกของปี ต้นเดือน พฤษจิกายน แต่กว่าจะได้เขียนจะหมดหน้าหนาวอยู่แล้ว งานมันยุ่ง 555 ว่าแล้วก็เชิญไปรับชมกันได้เลย รูปเยอะมากกว่า 400 ใบดูให้ตาแฉะ โปรดเชื่อมต่อ Wi-Fi แถมรีวิวยางชุดใหม่ท้ายทริป
พาไปชมออเดิฟสักหน่อย
ไร่ชาวังพุดตาล
ไร่ชา101
บัวตองบนดอยกาดผี
น้องแกะดอยช้าง
ทางช้างเผือกที่ลานกางเต็นท์ชมตะวันดอยช้าง
ทะเลหมอกภูชี้ฟ้า
แสงแรกบนภูชี้ฟ้า
ทะเลหมอกภูชี้เดือน
ถนนลอยฟ้าพะเยา1148
ปิดท้ายอีกคืนที่บ้านมุงพิษณุโลก
ภูเขาสวยๆเนินมะปราง
มาดูตารางทริปนี้ 7-11/11/65
วันที่ 1 เช้าแรกดอยช้างมูบ บ้านผาฮี้ ผาฮี้วัลเล่ สวนคุณปู่บ้านผาหมี ไร่ชาฉุยฟง นอนที่ไร่ชาวังพุดตาล
วันที่2 เที่ยวดอยแม่สลองไร่ชา 101 พระธาตุดอยแม่สลอง เลาะไปดอยกาดผี เที่ยวดอยช้างคาเฟ่ U garden ต่อด้วย akha ฟาร์มวิว และกางเต็นท์ที่ ลานชมตะวันดอยช้าง
วันที่3 ลงจากดอยช้างเข้าเมืองจุดชมวิวแม่สรวย ไร่สิงห์ปาร์ค วัดร่องขุ่น วัดร่องเสือเต้น นอนที่หลงฮักเขาภูชี้ฟ้า
วันที่ 4 ขึ้นไปชมแสงแรกทะเลหมอภูชี้ฟ้า ลงมาไม่สายไปต่ออีกที่ภูชี้เดือน วิวสวยมาก เดินทางกลับแวะภูลังกาพะเยา และยิงยาวมากางเต็นท์ที่ นัชชานามุงโฮมสเตย์ บ้านมุงพิษณุโลก เนินมะปราง
วันที่ 5 เที่ยวรอบๆบ้านมุง เนินมะปราง ออกเที่ยงๆแวะสวนส้มโอชัยนาทและกลับ กทม
รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 fix35 Tamron70-300 Tokina11-20 และคลิปจาก Iphone 12
มาดูคลิปกันก่อนได้ ฝากกดไลค์ติดตามช่องได้นะครับ
เริ่มออกเดินทางรับสมาชิกพี่สาวจากนนทบุรีล้อหมุนประมาณ 2 ทุ่มตรง วันนี้วันอาทิตย์รถน้อยมากขาขึ้นเหนือสายเอเชียขับทำเวลาได้ดี หวดรวดเดียวแวะปั้ม สองสามรอบ
ทริปนี้ประเดิมยางใหม่ ด้วยเจ้า MT ชุดเก่าใช้งานมา 6หมื่นโลแล้ว เสียงดังและแดกน้ำมันแบบดุดันไม่เกรงใจใคร รอบนี้เลยขอขยับลงมาซักเบอร์กับยาง Cooper AT3 4s 265/75 r16 ตัวเก่า 285/75 เดี่ยวรีวิวท้ายทริปอีกที
แล้วก็เข้าตัวเชียงรายตี5 กว่า ขับต่อมาแม่สายเป้าหมายแรกดอยช้างมูบ
ระหว่างทางขึ้นดอยช้างมูบพระอาทิตย์มาทักทายแล้ว
เป็นจุดชมวิวข้างทางพอดี ไม่รู้ชื่อจุดชมวิวว่าอะไร วิวสวยไม่เบาครับเหมาะกับชมพระอาทิตย์ขึ้นเลย
ขับมาต่ออีกไม่นานเราก็มาถึงดอยช้างมูบ เวลา 6.30 ได้ ใช้เวลาได้ตรงตามเป้าหมาย มีทะเลหมอกมาเสริฟด้วยเช้านี้
อากาศเช้านี้หนาวๆประมาณ 18องศา ไปชมภาพกันเลย
ดอยช้างมูบเป็นฐานปฎิบัติการ ที่อยู่แม่สายติดกับบ้านผาฮี้นะครับ ไม่ใช่ดอยช้าง แม่สรวยนะ เผื่อหลายคนยังไม่รู้เห็นชื่อดอยช้างเหมือนกัน อันนี้เรียกว่า ดอยช้างมูบ
แสงแดดเริ่มออกมาพอดี
ทะเลหมอกที่เราเห็นนั้นคือฝั่งของพม่าครับ
ไอลูกสาวตื่นแล้ววมาๆๆ
หลับตั้งแต่นครสวรรค์ตื่นมาก็เจอเชียงรายเลยนะ
วิวสวยเด็ดดวงมากๆๆ
ชมกันยาวๆไปเลย
เปิดทริปได้สวยงามไปต่อกันได้เลย
ขับต่อมาไม่ถึง 5 นาทีเราก็มาถึงบ้านผาฮี้ปีนี้ให้จอดรถด้านบนแล้วเดินลงมาเที่ยวนะครับยกเว้นถ้าพักที่พักเอารถลงมาได้
จุดโล้ชิงช้าตอนเทศกาล
เดินลงยาวๆ ขาขึ้นนี้เล่นเอาหอบเหมือนกันนะ
เดินถ่ายตามมุมต่างๆ
แล้วก็มาหาอะไรกินมือเช้าเบาๆที่ผาฮี้วัลเล่
วิวดีมากครับชมวิวเพลินๆ
ไม่นานอาการของเราก็มา พิซซ่าอร่อยมากคอนเฟิมมาแล้วต้องทานนะ
พ่อๆหนูขอกินเฟรนฟรายหน่อยค่ะ
รสชาติดีอร่อยแจ่มครับร้านนี้
ออกจากผาฮี้ไปต่อบ้านผาหมี คาเฟ่สวนคุณปู่
แวะถ่ายรูปตรงจุดชมวิว
จอดรถและเดินสัก 200 เมตร
ชมวิวสวยๆอากาศยังเย็นๆในร่ม
สั่งน้ำแล้วก็นั้งพักสักหน่อยแล้งลงไปข้างล่าง
นั้งชมวิวกับสาวน้อยกลางแดด อากาศยังเย็นๆ แต่กลางแดดก็เริ่มร้อนอยู่เหมือนกันครับ
มุมยอดฮิต
วิวดีสวยงามตรงปกมาเที่ยวกันครับ
ออกจากสวยคุณปู่วิ่งทะลุหมูบ้านผาหมี และลงมายังถนนหลัก
มาต่อกันที่ไร่ชาฉุยฟง เวลานี้ 11 โมงกว่า ผมเริ่มไม่ไหวแล้วขอนอนสักตื่นเอาแรง สลบสไหลกันเลยทีเดียว
อากาศตอนอยู่ในร่มถือว่าเย็นดีเลยครับจอดหลบใต้ต้นไม้เปิดกระจกนอนกลับสบายเลย นอนได้ไม่ถึงชั่วโมงเมียก็ปลุกมาถ่ายรูป
แดดดีสวยงามชมวิวกันก่อน
ข้าวปลาไม่กิน เช็คอินแต่คาเฟ่ 555 เค้กชาเขียวอร่อยๆครับ
พ่อๆหนูน้ำลายสอแล้วว
มาถ่ายรูปสู้แดดข้างบบนกัน
แดดดีถ่ายรูปสวยอยู่
ออกจากฉุยฟงแวะกินเตี๋ยวร้านริมทางในหมู่บ้านแถวๆไร่ชาครับ
ร้านแถวๆทางเข้าฉุยฟงครับน้ำเงี้ยวอร่อย
จากนั้นมาต่อกันที่ ที่พักของเราคืนนี้ ไร่ชาวังพุดตาล มาถึงประมาณเกือบบ่ายสามเวลากำลังดี
มาดูที่พังสุดปังของเรากัน ชอบมากๆที่นี้
วิวดีงามพระราม 8 ราคาหลังละ 2700 ที่นี้มีเพียง 5 หลัง
ทรงเป็นบ้านปต่ข้างในเป็นเต็นท์นะได้ฟิลแคมปปิ้งแต่อยู่สบายห้องน้ำในตัว เต็นท์แบบสองห้อง และยังมีพื้นที่ข้างหน้าอีกกว้างขวาง
หนูขอเดินสำรวจหน่อยค่ะ
ถ่ายจากในเต็นท์วิวดี้ดี ฟินมาก อากาศก็เริ่มเย็นๆแล้วบ่ายสามกว่า
Welcome drink สะหน่อย
มีเปลให้นอนเล่นอีก
พื้นที่มีหลายมุมให้ถ่ายรูปครับ
ถูกใจแม่บ้านสุดๆ
สวยจริงที่นี้ชอบมากๆบอกตรงๆแนะนำเลยครับ
เปลี่ยนชุดไปหาถ่ายรูปรอบๆไร่ชาวังพุดตาล
ที่นี้เปHนร้านอาหารและคาเฟ่นะที่จริงแวะมาเที่ยวถ่ายรูปไม่ต้องพักก็ได้
แสงแดดยามเย็น
พอฟ้าเริ่มมืดแค่ 6 โมงกว่าก็หนาวแล้วตอนนี้ต้องใส่เสื้อกันหนาว ลมแรงอากาศลงไป ต่ำกว่า 20 แล้ว
ฟินมากคืนแรก นอนหนาวมากๆ กลางคืนอากาศลงไป 13องศา สุดๆครับหลับสบาย
อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน มื้อเช้าก่อนอาหารมาเสริฟเขาให้เลือกน้ำไว้ก่อนมีเสริฟน้ำชากาแฟแต่เช้า
วิวดีมากน่านอนอีกคืน
อาหารเช้าก็อร่อยอีกแล้วครับพูดจริงๆไม่ได้อวย ให้เต็ม 10เลยที่นี้
ซูมไปดูรอบๆที่พักอันนี้พระธาตุดอยแม่สลองเดี่ยวเราจะไปข้างบนยอดกัน
กว่าจะออกกันเกือบ 11 โมงใช้เวลาให้คุ้มหน่อยที่พักดีมากจริงๆครับ
ออกจากที่พักขับย้อนกลับมาหน่อยมาถ่ายรูปที่ไร่ชา 101
วิวสวยงาม
ไทรทันลูกพ่อ ยางใหม่บอกตรงๆความหล่อหายไปเยอะแต่ก็มีข้อดีหลายอย่าง
แม่ๆหนูไม่เดินไปนะ
อยู่ดีๆก็ร้องอะไรโดนขาไม่รุ้วิ่งมาหาพ่อใหญ่ 5555
ไปรอในรถเลยพ่อถ่ายแม่แปป
ไปต่อจ้า
ขับย้อนผ่านหมู่บ้าน เป็นแนวจีนมาข้างเยอะมากเลยครับ
ถ้าไม่มีสายไฟน่าจะเป็นอีกมุมที่สวยไม่เบา
มาถึงยอดแล้ว
พระบรมธาตุเจดีย์ ศรีนครินทร์สถิตมหาสันติคีรี ดอยแม่สลอง
ชมวิวกันก่อน
ที่พักของเราอยู่ไหนน้า ใครหาเจอบ้าง
นู้นไงเจอแล้วซูมกันสุดกระบอก
ดูมุมนี้แล้วไร่ชาเขาใหญ่มากเลยนะของ ไร่ชาวังพุดตาล
ไปไหว้พระกัน
ไหว้พระเสร็จก็ออกเดินทางต่อ
จุดหมายต่อไปดอยช้าง เรากด GPS นำทาง มันก็มีสองทางนะจากแม่สลอง ทางแรกคือไปทางเชียงรายผ่านเมือง หรือทางสองลงแม่อายเหยียบเชียงใหม่นิดๆแล้วตบเข้าห้วยชมภูทะลุดอยช้าง
ผมเลือกเส้นที่สองเพราะในแมบว่าระยะทางสั้นกว่าหน่อย
และก็ได้เจอวิวแจ่มๆด้วยสวยไม่เบา
ระหว่างทางไปดอยช้างช่วงผ่านบ้านห้วยชมภูนั้นผมเจอป้าย วนอุทยานดอยกาดผี อันที่จริงเคยเล็งไว้ แต่กดดูแผนที่มันบอกต้องเข้าไปอีก 30 โล ผมเลยตัดไปเพราะเดี่ยวเวลาไม่พอ แต่พอวิ่งมาเส้นนี้จริงๆ เจอป้ายจากปากทางว่า 5 กิโล แต่ใน google maps บอกอีก เกือบ 30 โลเลยนะถ้าเลี้ยวซ้ายไป
แต่ก็ตัดสินใจเลี้ยวเชื่อป้ายข้างทาง
สรุปแล้วป้ายไม่หลอก แต่ GPS หลอกเราถ้าเชื่อ gps คงไม่ได้เข้าน่าเสียดายเป็นแน่แท้
จากเส้นหลักนั้นเข้ามาไม่นาน 5-6 โลตามที่ป้ายว่า ก็จะมาเจอแยกป้ายนี้ที่หมดถนนคอนกรีต เป็นทางดินแดง
แต่ว่าเขาปรับเกลี่ยแล้วและฝนไม่ตกรถอะไรก็มาได้หน้าหนาวแบบนี้ระยะทางดินสั้นๆประมาณ 2 กิโล
เราก็มาถึงดอยกาดผี วิวดีมาก อากาศอย่างเย็น
ที่นี้สามารถกางเต็นท์ได้ ฟรีด้วยแล้วแต่จะช่วยค่าบำรุง
งามแต้ๆ
เซอร์ไพร์ไปกว่านั้น เจอดอกบัวตองนั้นบานอยู่บนยอดดอยพอดี ที่นี้ดอยกาดผี เยี่ยมมากๆ ในตอนแรกเราจะไปดูดอกบัวตองที่ดอยหัวแม่คำแต่โทรถามแล้ววันนั้นยังไม่บานต้องอีกอาทิตย์นึง โชคดีมากได้บัวตองที่นี้แทน
Very Good
สวยงามถูกใจครับที่นี้ ไว้มีโอกาศน่ามานอนนะครับดอยกาดผีนี้ ไปกันต่อ
เส้นทางประมาณนี้
จากนั้นก็เลาะไปตามเขาเรื่อยๆ เส้นทางถนนหนทางดีนะครับเรียบกริ้บเส้นหลักอ่านะ ขับมาตาม GPS ก็มาทะลุดอยช้างเรียบร้อย ค่าเฟ่ต้องเข้าจังหวะนี้ ที่แรก U garden
เล่นกะน้องแมวหน่อย
ถ่ายออกมาสวยงามเหมือนตุรกีใช่ป่ะ
อ่านหนังสือหน่อย ดูเป็นคนรักการอ่าน
ยิ้มให้นกให้ไม้ที่ไหนก็ไม่รู้ 555 แซวเมียอีกแล้ว
รูปหมู่สักภาพน่ะ ถ่ายรูปสวยอยู่ครับมาแวะกันได้
ต่ออีกที่อยู่ตรงข้าม U garden เลยขับขึ้นมานิดเดียวก็ถึง Abonzo
มุมสูงสวยงาม เวลาเริ่มใกล้เย็นแล้วนะครับ เลยแวะไม่นานนะครับสองที่นี้
มาถึงดอยช้างต้องไม่พลาดจะมาหาน้องแกะที่ Akha ฟาร์มวิว ที่นี้บอกตรงสวยมากๆ อยู่กันจนเย็นเลย
วิวคือแบบโคตรดีจริงๆ มันสวยมากจริงๆครับจุดนี้ ไม่ได้โม้ ค่าเข้า100 แลกน้ำได้แก้วนึงครับ
น้องแกะน่ารักไปดูเลยดีกว่า
ถ้ามาหน้าฝนตก ก็จะมีหมอกลอยได้อีกฟิว ฟินๆ
พ่อๆหนูกลัว เอ้ามะกี้ยังชอบอยู่เลย
ขนแกะมันนุ่มจังเลยค่ะพ่อ
วิวก็ดีไม่ต้องเล่นกะน้องแกะมาถ่ายรุปสวยๆก็ได้
รอยยิ้มของหนูช่างสดใสเพราะไม่อยากให้หนูรีบโตเลยย
เดินกันเหนื่อยแล้วก็เอาคูปองไปแลกน้ำชื่นใจๆ
แสงแดดยามเย็นสวยงาม
อยู่ที่นี้กันนานมากครับ เป็นชั่วโมงกว่าจนเย็นยังไม่ยอมไปกางเต็นท์อากาศมันดี้ดี ชมวิวเพลินๆ
บายน้องแกะ จะ 6 โมงแล้ว เราไปกันดีกว่า ชอบมากๆครับไม่แปลกใจทำไมคนแน่นมากๆขนาดวันธรรมดายังเยอะ เสาทิตไม่ต้องพูดดด
โอ้เอ้กันนานไปหน่อย หน้าหนาวมันมืดไว มาถึงลานกางเต็นท์ชมตะวัน อยู่ห่างจากฟาร์มแกะไม่ถึงกิโลครับ 6โมงหน่อยๆ แสงเริ่มจะหมดแล้ว
เลือกมุมได้ก็มากางเต็นท์กัน
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว สมชื่อลานกางเต็นท์ชมตะวัน ที่นี้มีให้ชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกครับ มีสองฝั่งเลือกกางได้เลย
กางเสร็จมืดพอดีครับ
ที่นี้มีอาหารตามสั่งง่ายๆสั่งได้ เช่นไข่เจียว ส้มตำลูกชิ้นทอด เราก็จัดเอาตามที่มีเลยวันนี้มืดแล้วไม่ได้แวะซ้ำอะไรมาหาที่นี้หมดเลย รสชาติก็อร่อยเยี่ยมมากครับ
โบนัสของวันนี้
ที่จริงวันนี้คือวันลอยกระทงพระจันทรเต็มดวง แต่วันนั้น วันที่เราไปโชคดีมากเพราะมีจันทรุปราคา ทำให้พระจันทรอยู่หลังโลกเป็นเงามืด เราเลยได้เห็นทางช้างเผือกเลยรีบถ่าย จนลืมมาถ่าย จันทรุปราคา 555
มีดาวตกด้วย ครบรสเลย
สวยงามมาก
ประมาณ ไม่ถึงชั่วโมงได้พระจันทรก็ออกมาเฉิดฉาย
ถ่ายไว้ใบนึง อาบแสงจันทรกันสนุกสนานคืนนั้นฝั่งเราไม่มีคนมากางเลย อากาศก็หนาวแต่ไม่เท่าเมื่อคืนที่แม่สลองที่นี้กำลังดีสบายๆ
อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่สาม เราก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งของลานก็จะได้ ชมตะวันขึ้นยามเช้า
เช้านี้ไม่มีหมอกให้ชมไม่เป็นไร อากาศหนาวสะใจมาสองคืนแล้ว นอนหลับเย็นสบาย แต่ที่ดอยช้างหนาวน้อยกว่าแม่สลองคืนแรก
พาไปดูบรรยากาศยามเช้าที่ลานกางเต็นท์ชมตะวัน ค่าบริการคนละ 120 จองล่วงหน้า ไฟฟ้าไม่มี มีห้องน้ำอาบน้ำได้
อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเก็บเต็นท์เดินทางต่อ
เหมือนแม่ฟางรู้อ่ะ ถ่ายตอนพ่อหลับตามั้ง 55
ขับออกผ่าน ฟาร์มแกะ ลงเนินมาจะเจอโค้ง ทางขวาจะมีจุดกางเต็นท์ใหม่กำลังทำและมีศาลาวิวสวยมากที่นี้
กางเต็นท์ได้ด้วยยังไม่มีชื่อนะ ใครผ่านไปลองดูที่นี้ได้วิวดีครับ
ลงทางจุดชมวิวแม่สรวย
เราแวะเติมพลังมื้อเช้ากันที่ ร้านกุ๊กเจ เจอโดยบังเอินระหว่างทางจากดอยช้างจากแม่สรวยจะไปสิงห์ปาร์ค
กระเพราถาดอย่างอิ่ม อาหารก็อร่อยทุกเนู ต้องลองเลยร้านนี้
ขอถ่ายรูปกับกระทงหน่อยค่ะ เมื่อคืนหนูอยู่บนดอยเลยอดลอยเลยค่ะปีนี้
โปรแกรมวันนี้ตะลุยในเมืองบ้าง แวะสักสองสามที่ จุดแรกสิงห์ปาร์ค เอาแค่ข้างหน้าพอ ไว้จะมาตรงเทศกาลบอลลูนคงได้มาดูสักปีนึง
ขยับเข้ามาอีกนิดวันร่องขุ่น อบอุ่นไปด้วยนักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะแบบมากๆๆๆๆ แน่นวัดครับขนาดวันธรรมดา เสาทิตเจอคนไทยไปด้วยอีกแน่นแน่นอน
สวัสดีครับอาจารย์ มาไม่เคยเจอสักทีสงสัยไปขี่มอไซต์อีกแล้ววันนี้
เราไม่เมาแล้วเข้าได้
สวยจริงสวยจังตามฉบับวัดร่องขุ่น แต่เราถ่ายแบบหลบๆ นทท นะที่จริงคนเพียบ
ไปต่อวัดร่องเสือเต้น
มุมนี้ต้อง 0.5 กลับหัวไอโฟน
แวะในเมืองพอใจแล้วก็ไปต่อ สถานีต่อไปที่นอนคืนนี้ภูชี้ฟ้า
จากตัวเมืองถ้ากด gps มันก้จะพามาทางภูหลงถัง เส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้าที่สั้นที่สุด ประดุจตัดตรงขึ้นไปเลย ใครขับไม่แข็งแนะนำไปขึ้นทางเทิงนะครับ เพราะอะไรไปดู
ผ่านประตูนี้ปุ้บก็เตรียมรับความหรรษาได้เลย
แค่เข้ามาประมาณโลคุณก็จะเจอทางขึ้นเขาแบบต่อเนื่องยาวๆ ไม่แน่ใจว่ากี่โลแต่เป็นแค่ออเดิฟให้วอมเครื่อง
สามารถจอดพักชมวิวกันก่อนได้ที่จุดชมวิว พญาพิภักดิ์
จากนั้นเราก็จะมาถึงภูหลงถังสระมังก่อน มาถึงจุดนี้ก็ครึ่งทางและ
แวะพักชมวิวกันก่อนได้
เพราะหลังจากผ่านหมู่บ้านนี้ไป
คุณจะเจอกับเส้นทางแบบนี้ ทั้งสวยทั้งเสียว ทางมันจะชันไปไหน
ชันมากๆ แบบชั้นต่อเนื่อง ถ้าขาที่เราไปตอนนี้คือเป็นช่วงลงเขาลงแบบยาวมาก ใครมือใหม่นี้อันตรายมากครับ แนะนำขั้นตอนลงเขาง่ายๆ ใช้เกียร์ต่ำที่สุดครับ อาจจะเป็นเกียร์ 1-2 ตามระดับความชัน ถ้ารถเกียร์ออโต้ ก็ใส่เกียร์ L บางรุ่นก็ปุ่มไม่เหมือนกันอาจจะเลข 1 2 ก็ใส่ 1 หรือ 2 ให้เลือกเกียร์ต่ำที่สุดของรถเราครับ
ให้เครื่องหน่วงแทนเบรค เบรคห้ามกดแช่ ให้กดแล้วปล่อย วิธีของผมคือเบรคให้ความเร็วอยู่ในระดับที่ปลอดภัย แล้วปล่อยให้รถไหลแต่ใส่เกียร์ต่ำอยู่ตลอดนะ พอรถไหลแรงขึ้นจนรอบเครื่องตีไปจนใกล้ถึงเรดไลน์ ผมก็จะเบรคช่วยให้ความเร็วลดมาระดับที่ปลอดภัยและปล่อยเบรค ทำสลับกันแบบนี้ไปตลอดจนหมดเนินชัน ปลอดภัยแน่นอน
เอาคลิปไปดูช่วงที่ชันที่สุด
แต่เอาจริงๆรถทุกรุ่นทุกคันมาได้นะครับเส้นนี้ แต่ต้องอยู่กับคนขับต้องมีความชำนาญหรือผ่านเส้นทางภูเขามาบ้างก็จะไปได้ครับ แต่ถ้ามีฝนตกก็อาจจะอันตรายไปอีก ไม่แนะนำครับ ส่วนตัวผมมาสองรอบแล้วทางนี้ เพราะ GPS มันนำมาทางาสั้นสุด ทางเดิมเลยที่มารอบวีออสหลายปีแล้ว ข้อที่เห็นชัดเลยคือกำลังรถดีเซลนี้มันเหมาะกับไต่เขาดีจริงๆ ไปแบบสบายๆ แต่ตอนวีออสนี้ต้องเค้นพอสมควร ก็ตามรูปแบบเครื่องยนต์มันเทียบกันไม่ได้ แค่พูดให้ฟังเฉยๆนะครับ
งามจัดเลยวิว
ถนนลอยฟ้าเลย
สวยจริงๆอย่าชมวิวเพลินจนลืมดูทางนะ
แล้วก้มาถึงที่พักเราคืนนี้ หลงฮักเขาแคมปปิ้งภูชี้ฟ้า อยู่ห่างตัวยอดประมาณ 2 โล
เต็นท์กระโจมหลังละ 1350
วิวงามมะ
เรามาถึงบ่าย 3 ได้ แดดยังแรงมีความร้อนนิดๆ แต่ลมเย็นสบาย
วิวดีสวยงาม
ระหว่างนั้งเล่นก้มีน้องๆมาทำการแสดงแลกค่าขนมแล้วแต่เราจะให้น้องๆครับ เพลงม้งเกี่ยวข้าวรับฟังในคลิปได้ครับ
เพลินดีจริงๆอากาศเย็นหนาวอีกแล้ว
พอตกเย้นก็เริ่มหนาว เราก้มาตั้งชาบูกันวันนี้
ชาบูร้อนๆแก้หนาว
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว วันนนี้อากาศหนาวเย็นเยือก กว่าทุกวันแต่ยังดีที่ลมสงบนิ่งเลยทำให้นั้งดื่มด่ำกันได้ฟินมากๆ คืนนั้นอยู่กันไม่ดึกเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตี 5.30 ไปภูชี้ฟ้ากัน
คืนนั้นกลางดึกโคตรหนาว อากาศเย็นเยือกมากๆ สิบต้นๆเท่านั้น เราตื่นกัน ตี5.30 ขับมา 5 นาทีก็มาถึงจุดจอดรถ และต้องเดินอีก 700 เมตร
เริ่มเดินน้องเกลยังงัวเงีย ก็สลับกันอุ้มกับแม่ฟาง เดินประมาณ 15 นาที ได้ เราก็ต้องร้องว้าววววว
แสงเช้ากำลังมาในยาม 6 โมงหน่อยๆ กับทะเลหมอกแสนสวยงาม ปิดจ็อบทะเลหมอกภูชี้ฟ้า
คือแบบหายเหนื่อยจริงๆ ของจริงมองด้วยตามันสวยมากๆ ไปชมกัน
ถ่ายได้สักพักน้องเกลก็เดินมาถึงแล้ว ตอนเดินขึ้นมาครึ่งทางน้องเกลขอลงเดินเอง พ่อเลยรีบจ้ำมาถ่ายแสงแรกก่อน
เป็นลูกพ่อต้องอดทน น่าสงสารหนูจังเลยปลุกมาตั้งแต่ตี 5 กว่า เอาน่าฝึกไว้ลูก 555 เดี่ยวเข้าเรียนก็ต้องตื่นเช้าแบบนี้แหละ
ตะวันยามเช้ามาแล้วไปดูกันต่อ
ไข่แดงง
เย้ๆ ครบรอบแต่งงานสี่ปีวันนี้พอดี เอาทะเลหมอกมาเป็นของขวัญให้เมียละกัน
จุใจเลยไหม
เดินขึ้นมาที่ยอดข้างบนอีดนิด
สันเขาอีกด้าน
จุใจมากๆครับเช้านี้ เดี่ยวเดินลงกัน เวลา 7 โมง
ขอเต้นกับพี่ๆหน่อยค่ะ
เราลงมาเวลา 7 โมงกว่า ได้เวลาลุยต่ออีกดอยครับเช้านี้ อีกที่นั้นที่เราเลือกคือ ภูชี้เดือน อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 8 โล
ขับมาถึงปากทางขึ้นเส้นทางจะขึ้นภูชี้เดือนนั้นจะเป็นทางวิบาก ประมาณ 3 โลครับ ถ้าวันธรรมดาหรือวันที่ นทท น้อย อย่างวันนี้คือไม่มีคนเลย ผมสอบถามกับพี่รถกระบะชาวบ้านที่รอบริการ เขาก็เลยให้เราเอารถส่วนตัวขึ้นได้ แต่ต้อง 4*4 นะครับ เส้นทางมันไม่ได้โหดแบบมีร่องลึกอะไร แต่มันเป็นหินลอย โดดเด้งตลอดทาง และทางแคบมากสวนไม่ได้หลายจุด ในวันที่มี นททเยอะ ต้องใช้รถบริการชาวบ้านนะครับเขาจะมีวอคุยกันตอนรถสวน ยังไงก็สอบถามหน้างานกันอีกทีตอนมาถึงนะครับ
เส้นทางประมาณนี้ครับ
ส่วนเราวันนี้ขับขึ้นมาดูเส้นทางจากในคลิปเอานะครับไม่ทันได้ถ่าย แต่ใช้เวลาไม่นาน เพียง 10-15 นาทีเราก็มาถึง จุดจอดรถ อันนี้ถ่ายลงมาจากข้างบน ที่ภูชี้เดือนนี้มีดอกบัวตองด้วยนะสวยงาม
จากลานจอดรถเราต้องเดินอีกนิดเดียว 100 เมตรเท่านั้นเราก็เห็นทะเลหมอกแล้วว ว้าวววอีกแล้ว เส้นนี้ถ้าวันมีทะเลหมอก หมอกจะหนานุ่นมอยู่ให้คุณดูถึง 10-11 โมงเลยล่ะ ถ้าคุณฟิตๆ คุณสามารถเก็บได้ 3 ดอยเลยนะเช้าเดียว แต่ถ้าหลวมๆหน่อยชิลๆก็สักสองที่กำลังดี
อันนี้เราสามารถเดินไปยอดสุดที่มีหลักกี่โลได้อีกนะ เดินอีก 2-300 เมตรได้ แต่ผมพอละ วันนี้สองดอยมันก็เมื่อยนะ 5555 แค่นี้ก้สวยงามถูกใจ
งามจริงๆ โอ้ยฟิน
สำหรับทะเลหมอกฝั่งนี้ ผมมาเก็บรอบที่แล้ว ผาตั้งกับ ภูชี้ดาวไปแล้ว รอบนี้เลยมาเก็บชี้เดือน ชีฟ้า เป็นอันปิดจ็อบทะเลหมอกฝั่งนี้ครับ
ดอกบัวตองบนยอดดอยแต่ยังบานไม่เต็มที่ครับวันนั้น โอเคสวยงามถูกใจมากๆลงกลับกัน
ไหนๆก็พามาดูทะเลหมอกแล้ว ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆเป็นข้อมูลสำหรับคนที่จะมาดูทะเลหมอกฝั่งนี้ครับ
ทะเลหมอกเชียงราย ฝั่ง ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน ผาตั้ง
พาไปชมความงามของทะเลหมอกทั้ง 3 ภู 1ผา ผาตั้งและชี้ดาว ไปมาเมื่อ 6 ปีที่แล้วภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน คือทริปล่าสุดปีนี้
ทั้ง 4 จุดอยู่เรียงกันเลยในระยะทางไม่ไกลกัน คุณสามารถเที่ยววันเดียวได้ทั้ง 4 ที่ถ้าไหว แต่ถ้าจะดูทะเลหมอกทุกจุดอาจจะต้องสองคืนครับ เลือกเอาที่ชอบได้เลยข้อมูลคร่าวๆ
ภูชี้ฟ้า รถส่วนตัวถึงจุดเดิน เดินต่อประมาณ 800เมตรทางชันนิดนึง พื้นที่กว้างขวางข้างบน
ภูชี้ดาว ต้องนั้งกระบะ4*4ขึ้นไปเท่านั้น ระยะทางประมาณ 3 โล แล้วเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร พื้นที่แคบหน่อยข้างบน
ภูชี้เดือนต้องนั้งกระบะ4*4ขึ้นไป (ถ้ารถส่วนตัวเป็น4*4ขึ้นได้ในบางวันที่ไม่มี นทท หรือเทศกาลสอบถามหน้างาน) เดินต่อ 50-200 เมตร มีจุดให้ถ่ายกว้างกว่าภูชี้ดาว มีดอกบัวตองด้วยข้างบน
ผาตั้ง รถส่วนตัวถึงจุดเริ่มเดิน เดินต่อมีหลายระยะตั้งแต่ 100เมตร ไปยันโลกว่า มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะสุดส่วนเรื่องความงามบอกเลยว่ากินกันไม่ลงแต่ละที่ก็มีความงามในแบบของเขาถ้าจะให้ดี ควรมาเห็นด้วยตาตัวเองทุกที่ครับ แต่หากคุณมาครั้งแรกต้องเลือกแนะนำให้ไปผาตั้งก่อนครับ มีหลายมุมให้ถ่ายมาก และหากเช้าวันนั้น ถ่ายผาตั้งครบแล้วคุณสามารถเลือกอีกสักที่ได้เพราะระยะทางไม่ไกลกัน และทะเลหมอกที่นี้อยู่ทนอยู่นานมากยัน 10-11โมง
ใครสนใจอ่านรีวิวเชียงรายรอบผาตั้งไปดูได้จากลิงค์นี้ครับ 6 ปีแล้วรีวิวนั้น
เชียงราย 2วัน1คืน 4ดอย1ไร่ชา พญาเสื่อโคร่ง จัดเต็มทะเลหมอกทุกตารางนิ้ว
โอเคกลับมารีวิวเรากันต่อ ลงจากชี้เดือนก็กลับที่พักกินมื้อเช้าของที่พักข้าวต้ม แล้วออกเดินทางกันต่อ ประมาณ 10 โมงกว่า โปรแกรมวันนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่ อันที่จริงจะกลับ กทมเลยก็ได้วันนี้แต่วันลามันเหลือ ก็เลยขอต่อีกสักคืนแต่เอาใกล้ๆ กทม หน่อยพรุ่งนี้ได้ชิลๆ ก็เลยจะมุ่งหน้าไปนอนบ้านมุง พิษณุโลก ครึ่งทาง กทม
ขาลงเราลงทางเชียงคำ ผ่านน้ำตกภูซาง แต่ไม่ได้แวะ เดี่ยวเราจะไปแฉล่บเขาพะเยาสักหน่อย
ขับเลาะเขาไปแล้วเราก็ตบมาพะเยาถึงภูลังกาผาช้างน้อย ประมาณบ่ายโมงกว่า
แวะคาเฟ่อีกแล้วตามฉบับมากับสาวๆ เมจิค เมาท์เท่น
วิวสวยงามเช่นเคยที่นี้มากี่ทีก็ไม่เบื่อ
โอ้ววันนี้วันครบรอบแต่งงาน 4 ปี ขอหอมคุณภรรยาสักฟอดนะ อิอิ
พ่อๆตอนพ่อแม่แต่งงานกันหนูอยู่ที่ไหนคะ 555
มาดูกันต่อ
ออกจากคาเฟ่ เวลายังพอมี เราขับไปถ่ายรูปตรงจุดชมวิวถนนลอยฟ้า 1148
สวยงามตามท้องร่องนะ
โอ้เอ้กันไปมาดูเวลาบ่ายสองโมงกว่า ไอหย่า ระยะทางอีก 430 โล กับเส้นทางภูเขา
เราก็เลยทำเวลายิงยาว ไม่ได้แวะไหนแล้ว แล้วก็มาถึง บ้านมุง 19.30 แหมผิดแผนไปสักนิดกะถึง สัก 6 โมง แต่ออกจากเชียงรายแต่แรกช้าไปหน่อย
ยังดีที่กางเต็นท์เรามีไฟสว่างสไหว และมีร้านอาหารติดลานเลยสั่งอาหารไว้รอ มากางเต็นท์เสร็จ อาหารก็มาพอดี
วันนั้นเลยได้กินมื้อเย็นกันตอนสองทุ่ม ช้าไปนิดไม่เป็นไรเดี่ยวค่อยทดเวลาบาดเจ็บคืนนี้ เพราะพรุ่งนี้ระยะทางสั้นมาก
กินข้าวเสร็จอาบน้ำตัวเย็นๆ อากาศก็เริ่มอุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ เอาจริงๆก็ถือว่ามาไม่ผิดมากนัก เพราะตอนที่มาถึง อากาศยังอบๆอ้าวๆนิดๆ แต่พอหลังสองทุ่มไป อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นๆ ถ้ามาถึงไวมากก็อาจจะร้อนได้
ครบรอบสี่ปี ปีหน้าขอมา 4 คนได้ไหม อิอิ
อาเกลบอกถ่ายรูปอยู่ได้ คนจะกินนมนอน
ที่นัชชานามุงโฮมสเตย์ค่ากางคนละ 100 บาท แต่ถ้าใช้ไฟจะคนละ 120-130 มั้งผมลืม แต่ผมไม่ได้ใช้เลยจ่ายแค่ 100 แต่ไฟที่เห็นนี้ของจุดที่พักอยู่แล้ว มีที่กางข้างในด้วย แต่เรากางข้างหน้านี้เพราะมันใกล้ห้องน้ำ ห้องน้ำดีสะอาดมากๆครับ พอใจมากที่นี้แจ่วเลย
นี้คือวิวของที่พัก ตรงข้างในนี้เราสามารถเลือกกางเต็นท์ได้เลยตามสบายแต่อย่างที่บอกห้องน้ำอยู่ข้างหน้าอาจจะไกลหน่อยถ้ากางลึกก
คืนนั้นฉลองกันไปหลายดื่ม อาเกลหลับคาอกคุณแม่เลย ตกกลางคืนอากาศเย็นหนาวอีกแล้วครับ ทริปนี้หนาวทุกวัน กลางคืนนี้เกือบจะเท่าบนดอยช้างเลยที่บ้านมุง
Good morning เช้าที่ 5 ของทริป คุณแม่คุณลูกตื่นแล้ว แต่พ่อไม่ไหวขอนอนต่ออีกหน่อย
หลับแสนสบาย แต่อย่าตื่นสาย เพราะร้อนไวมากๆ ที่นี้ตอนกลางคืนก็หนาวมาก พอกลางวันก็ร้อนมากๆ ยิ่งแดดนี้แรงสุดๆ ประมาณ 7 โมงกว่า พระอาทิตย์ทำงานแบบเต็มกำลังอากาศจากเย็นๆ ก็เริ่มร้อน 555
หนูขอเดินสำรวจที่พักหน่อยค่ะ
เอ้ยจรเข้ที่ไหนวะนั้น ไปอาบน้ำได้แล้วสาวน้อย
เป็นจุดกางเต็นทิที่วิวสวยดีนะครับ ที่บ้านมุงนี้มีลานกางเต็นท์เยอะมากๆ อยู่ใกล้ๆกันนี้แหละ แต่ละที่ก็จะได้วิวภูเขาหินปูนแบบนี้แตกต่างกันคนละมุมเลือกที่ชอบกันได้เลย
เอ้ยมันเดินจ๊าบว่ะ
อาบน้ำเก็บเต็นทฺ์เรียบร้อย 10 โมงกว่า ขอเอารถไปถ่ายเท่ๆหน่อย
ออกจากลานกางเต็ฯท์ก็ขับเข้าไปต่อในหมู่บ้าน หาข้าวเช้ากิน เป้นเช้าควบเที่ยงเลยจะ 11 โมงแล้ว
กินข้าวอิ่มแล้วก็ได้เวลาสำรวจำรอบๆหมู่บ้านหามุมสวยๆถ่าย ไปชมเลย
ทุ่งนาสีทอง
โอมเพี้ยงงงง ฉันจึงเป่าคาถาเพื่อให้เธอหลงไหล
วนไปมาอยู่เป็นชั่วโมงครับ ก้ยังไม่ทั่วนะมีมุมลับๆอีกไว้ว่างๆมาเที่ยวใหม่ครับ
ออกจากพิดโลก เที่ยงกว่าจะบ่าย แวะผ่านพิจิตร ดูจรเข้ยักษ์ บึงสีไฟ
พิจิตรนี้ไม่เคยได้แวะเที่ยวสักที คือเป็นจังหวัดเดียวของภาคเหนือที่ไม่ได้เที่ยวเพราะไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ถ้างั้นรอบนี้ถือว่าได้เที่ยวพิจิตรแล้วนะ บึงสีไฟนี้แหละ
มันใหญ่มากๆพี่จรเข้
ลมเย็นอากาศดีนะครับบึงสีไฟ สงสัยเย็นๆคนพิจิตรน่าจะมาเที่ยวกันพักผ่อนกันครับ
ปิดท้ายท่ายสุดทริปนี้ แวะสวนส้มโอชัยนาท ไม่ใช่ของใครที่ไหนบ้านพี่สาวที่ไปกับเรานี้เอง
แวะฝากท้องอีกสักมื้อก่อนกลับ
ส้มโอสักลูกไหมคร้าาา
เอาคันนี้กลับบ้านได้ไหมคะพ่อ
แล้วก็เดินทางกลับกันถึงบ้าน 3 ทุ่ม เป็นอันจบทริปอย่างสวยงาม ทริปนี้ช้คำว่าสวยได้เปลืองมากๆเพราะมันสวยจริงๆไม่ได้โม้ ทุกวันมีจุดไฮไลท์สวยๆทั้งนั้น ทะเลหมอกสุดปัง
ในส่วนค่าใช้จ่ายทริปนี้
เอาไปแต่ค่าน้ำมันละกัน ค่าที่พักกางเต็นท์ก็เขียนไว้แล้ว ค่าอาหารการกินก็ทั่วไป
ค่าน้ำมันทริปเชียงรายนี้
วิ่งไป 2256 โล(รวมไมล์เพี้ยนแล้ว)
ใช้น้ำมันไป 240ลิตร 8460บาท ตก 9.4โล/ลิตร โลละ 3.75บาท(น้ำมันลิตรละแพงโคตร)
กับความเร็ว 120-160 ตามสภาพถนนและความเร็วตามบนดอยปกติ มีขากลับจากพิดโลกวิ่งไม่เกิน120
มารีวิวยาง Cooper AT3 4s
เบอร์ 265/75R16 นี้
ในส่วนอัตราบริโภคน้ำมันค่าน้ำมันทริปเชียงรายนี้
วิ่งไป 2256 โล(รวมไมล์เพี้ยนแล้ว)
ใช้น้ำมันไป 240ลิตร 8460บาท ตก 9.4โล/ลิตร โลละ 3.75บาท ถ้าเป็นยางชุดเก่าจากรีวิวก่อนๆ จะอยู่ประมาณ 8-9นิดๆ กับสภาพความเร็วใกล้เคียงกัน ยางชุดนี้ประหยัดขึ้นมาอีกหน่อย
และหลังจากใช้มา 10000 โลละตอนที่เขียนรีวิวนี้
สัมผัสแรกนุ่มนิ่มเงียบสุดจริงนึกว่ายาง HT
และน้ำหนักยางที่เบา ทำให้รถมีอัตราเร่งดีมากๆ แตะนิดเดียวพุ่ง รถลอยตัวไวอัตราเร่งตอนแซงต่างๆมาไวขึ้นเยอะ และความเร็วปลายกลับมาถึง170แล้วแบบไม่ต้องแช่นาน(ตอน285มันตัน160แล้วไมล์ไม่วิ่งต่อคงเพราะไมล์แข็งด้วย) ในส่วนทางดำทำได้ดีแบบทางเรียบๆนะ
และกินน้ำมันน้อยลง ตจว อาจไม่ต่างมากเพราะเหยียบซิ่ง120+ มันก็จะยังกินอยู่ดีแต่น้อยกว่าทริปก่อนๆกับความเร็วนี้ แต่ถ้าขับในเมืองประหยัดขึ้นเยอะแบบรถติดๆทั้งวันผมวิ่งงานในเมืองตลอด เป็น 10-12โลลิตร จากเดิมได้แค่9-10โลลิตร ออกตัวง่ายไม่อืด
ต่อไปข้อเสีย
มันไม่หล่อบอกตรงๆสู้ BFกะmtชุดเดิม ไม่ได้ เห็นแล้วยังไม่ค่อยถูกใจนัก555
ด้วยความที่ยางมันเบาหรือเพราะเบอร์มันเล็กลง หน้ายางเลยแคบ การเข้าโค้ง มันไม่รู้สึกหนึบแน่นแบบตอนใส่ mt 285/75R16 ตอน285ดูจะมั่นใจกว่าแม้จะเป็นยาง MT
และอีกข้อเวลาเจอหลุมลูดระนาดเวลารูดทางออฟโรด ด้วยความที่แก้มยางมันเตี้ยกว่า285 มันทำให้กระเด้งกระด้างต่างจากตอน285ชัดเจนถึงจะเปนยางat ก็เถอะ(ข้อนี้มันอยู่ที่ช่วงล่างด้วยรถผมช่วงล่างเดิมๆรองก้อนหัวโช็คยกสองนิ้วมันเลยอาจทำให้เด้งกว่าได้) แต่ตอนใส่285เหมือนยางมันรับหน้าที่ซับแรงกระแทกแทนช่วงล่างได้เยอะ เลยกระด้างน้อยกว่า
และว่าด้วยเรื่องการลุยทางออฟโรด พึ่งจะได้ใช้จริงๆก็ตอนขึ้นภูชี้เดือน อย่างที่บอกมันเด้งๆกว่า285 ทางหินทำได้ดีเลยนะไม่มีปัญหาล้อไม่ฟรีทิ้งไต่ขึ้นเบาๆไปได้สบาย แต่ทางโคลนยังไม่มีโอกาศได้ลองนะ
สรุปสั้นๆ เงียบนุ่มประหยัด แต่ยังไม่ถูกใจเท่าตอนใส่mt 285 แต่เหตุผลหลักคือประหยัดค่าน้ำมันช่วงนี้มันแพงเหลือเกิน เอาสบายกระเป๋าก่อนช่วงนี้
แนะนำอีกนิดใครไม่มีปัญหาค่าน้ำมันแนะนำไปใส่เบอร์ 285/75R16 หรือเบอร์โตๆไปเลยคับได้หล่อเต็มซุ้มซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโค้งดีกว่าเพราะหน้ายางกว้าง แต่อืดหน่อยใครงบไม่อั้นก็ไปรีแมพใส่กล่องอะไรเพิ่มก็ตามสะดวกนะ จะได้แรงๆ
สุดท้ายถ้าให้เทียบกับ BF ko2คู่ปรับกัน ยาง AT เหมือนกัน
จากที่เคยใช้BFชุดแรกมา7หมื่นโล
พูดตรงๆว่าถนนดำCooper ทำได้ดีกว่าทั้งความนุ่ม ประหยัด แต่BF ก็ไม่ได้แย่นะ และBF เขายังมีข้อดีกว่าCooper คือหล่อจริงหล่อจัง ใช้ได้ทนทานมาก ราคาขายต่อก็ดี เอาเป็นว่าถ้าใครยังไม่เคยใช้ทั้ง BF และ Cooper ก็แนะนำให้ลองกันสักรอบ มันมีดีเสียคนละอย่าง ต้องลองเองครับจะได้หายคาใจ อิอิ ส่วนชุดหน้าจะใส่ตัวไหนไว้รอดูเงินในกระเป๋าก่อน555
ก่อนจะลากันไปวันนี้ขอแจ้งข่าวดี ปีหน้าเราจะเดินทางกัน 4 คนแล้ว อาเกลมีน้องแล้วจ้า เตรียมรับชมความหรรษาอีกระดับได้เลยปีหน้า 555
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่รับชมไหนใครดูรูปทุกใบครบบ้าง 555
แล้วพบกันใหม่กับครอบครัวตะลอนเที่ยว วันนี้สวัสดีครับ
เที่ยวทั่วไทยไปกับไทรทัน
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 01.29 น.