ปกติทุกอาทิตย์ต้องมาทำงานที่โคราชอยู่แล้ว แต่อาทิตย์นี้พิเศษหน่อยที่ต้องมาวันศุกร์ เลิกงานตอนเย็นก็ไม่อยากขับรถกลับสักเท่าไร พอนึกขึ้นได้ว่า เข้าหน้าฝน ดอกกระเจียวก็เริ่มบานละ เปิด GPS แค่ร้อยกว่าโลเองนี่หว่า ไปนอนเล่นสักคืน น่าจะเวิร์ค
เสร็จงานก็ไม่รอช้า ขับรถแล่นกันไปเลย ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมามากเพราะหลังรถก็มีเต๊นท์ มีที่นอน อุปกรณ์ติดไว้เสมออยู่แล้ว ถนนระหว่างทางมักจะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีเพราะฝนตกในช่วงนี้บ่อยๆ
ท้องฟ้าก็สวยงามตัดกับท่องทุ่งนา ต้นไม้ แสงแดด จนรู้สึกอยากจะอยู่กับช่วงเวลานี้ไปนานๆ
ไม่นานนักก็มาถึงทางเข้า อช.ไทรทอง ที่จะไปกางเต๊นทืนอนคืนนี้ ทางเลี้ยวเข้าจะมีตลาดนัด ก็ไปจัดแจงหาอาหารค่ำไว้พร้อม จากนั้นก็ขับไปอีกสักหน่อย ก็จะเจอเจ้าหน้าที่ ติดต่อขอกางเต๊นท์ แต่เต๊นท์ที่พกติดรถไว้ ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เพราะที่นี่มีเต๊นท์ไว้ให้เช่าพร้อมเครื่องนอน แถม ณ ตอนนั้น มีผมไปเพียงคนเดียว เลือกเต๊นท์ได้สบายๆ เลย
ริมน้ำ นี่ละ น่าจะเหมาะเผื่อจะได้มองดาวตอนกลางคืนด้วย วันที่ไปมีแข่งวอลเล่ย์บอลหญิงพอดี ก็เลยไปขอเจ้าหน้าที่ดูด้วย จนท. ก็เป็นกันเองมาก ชวนคุยนั่นนี่ อธิบายต่างๆนาๆ ว่าพรุ่งนี้จะขึ้นรถกระบะชาวบ้าน เพื่อได้ด้านบนภูเขา ตอน 6 โมงเช้า
อาบน้ำ อาบท่าเรียบร้อย ดูดาวได้นิดหน่อย ฝนก็ตกลงมา คงถึงเวลานอนแล้ว แต่อากาศมันไม่ค่อยจะเย็นสักเท่าไร ก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ จนตกดึกค่อยมีหนาวๆ บ้าง ออกมาเข้าห้องน้ำ เงียบสงัด มีเพียงครอบครัวนึงที่มากางเต๊นท์ใกล้ๆ ผมเท่านั้น
จริงๆ แล้วที่นี่มีบ้านพักให้เช่า ซึ่งมารู้ตอนเช้าว่าคนส่วนใหญ่เค้าไปพักในบ้านพัก หรือ รีสอร์ทด้านนอกกัน เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครมากางเต๊นท์
ตื่นแต่เช้าขึ้นมา ไม่ได้เตรียมอาหารไว้ ก็ต้องอดทนไปตามระเบียบ นั่งรอรถชาวบ้าน มากันหลายคัน มีทัวร์มาลงด้วย พอถึงเวลาก็กระโดดขึ้นกระบะกันเลย พอรถเต็มคัน 8 - 12 คน เค้าก็จะออกทีนึง
ขับผ่านทางลาดชันขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดจอดรถ จากนี้ไปต้องเดินเท้าต่อ ไปกลับก็ประมาณ 4 กิโล ถึงทุ่ง 1 ที่เค้าบอกกันว่ามีดอกกระเจียวกว้างกว้างทุ่งอื่นๆ
บันไดนี้ คือ จุดเริ่มต้นของการเดินเท้า ลุยๆๆ
ตอนเช้านี้อากาศดีมาก เพราะฝนเพิ่งตกไป ทำให้ หมอก หมอก หมอก มาเต็มพื้นที่เลยยยย โคตรชื่นใจ
เดินมาไม่นานก็มาถึง สถานที่ที่กล่าวขานกัน "ผาหำหด"
หมอกลงเยอะมาก มองแทบไม่เห็นวิวอะไรเลย แต่ได้ฟิลลิ่งมากๆ ไปต่อก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาถ่ายใหม่ขากลับ
ทางเดินเต็มไปด้วยหมอก เดินแบบชิลๆ กันไปเลย จนมาเจอแล้วดอกกระเจียว เพิ่งได้เห็นนี่ละ ถ้าบานเต็มทุ่งจะขนาดไหน เริ่มมีความคาดหวังละ
เดินตามทางมาเรื่อยๆ จนถึง ทุ่ง 1 ที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุด แต่วันนี้มีดอกกระเจียวอาจจะน้อยไปหน่อย เพราะคงยังไม่ได้เวลาที่ดีพอ T_T แต่อย่างน้อยก็มีบางมุมที่ทำให้เราได้รู้สึกสดชื่นกับมันนะ
ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ มันเด่นเป็นสง่าท่ามกลางดงกระเจียว ถ้ามันบานเต็มทุ่งคงจะเด่นกว่านี้เป็นแน่แท้
เอาละพักถ่ายรูปกันตรงนี้สักพักนึงละ เดินทางกลับอีกเส้นทางนึง จะเป็นการย้อนน้ำตกเล็กๆ ไป รองเท้านี่แฉะไปหมด
กล้วยไม้ระหว่างทาง มั้ง!! เรียกไม่ถูก
ดอกกระเจียวสีขาวก็มีนะที่ทุ่ง 4 แต่เหมือนจะดูยังไม่ค่อยโตนะ แหะๆ
ย้อนกลับมาดูผาหำหดกันอีกที คราวนี้หมอกหมดแล้ว เห็นวิวอันไกลโพ้น สวยงามมากกก
แค่นี้ หำไม่หดนะคร้าบบบ 55
กลับมาถึงที่จอดรถที่เดิม เพื่อนั่งรถกลับ การขึ้นมาที่นี่ ถ้านำรถกระบะมา ก็อาจจะขึ้นมาได้เองนะ แต่รถเก๋งต้องขอลา เพราะว่าทางขึ้นนั้น ต้องขับผ่านน้ำตกที่มีความสูงระดับนึง เป็นไปได้ก็นั่งรถชาวบ้านนี่ละครับ 60 บาทเอง จ่ายที่ จนท. ได้เลย
ลงมาถึงที่พักเพื่อเก็บข้าวของไปต่อ เพราะมีคนแนะนำว่าไปที่ อช.ป่านหินงามดู ดอกบานเยอะกว่าที่นี่ แถมมีหินสวยงามให้ดูด้วย และเป็นทางผ่านกลับ กทม. ได้อีก
ขับมาได้ประมาณ ชั่วโมงกว่า ก็ถึงแล้ว คนมหาศาล ณ จุด จุด นี้
ขับรถเข้าไปต่ออีก 10 กว่าโลก็จะถึง อช.ป่าหินงาม ซึ่งผู้คนเยอะมาก แทบไม่มีที่จอดรถ
นั่งเปิดอ่านเนต ว่าที่นี่มีอะไรที่ต้องมาให้ถึงบ้าง ก็พบว่า ต้องไปผาสุดแผ่นดินกับดูหินต่างๆ ที่มอหำตั้ง ป้ะ
เดินผ่านร้านขายของต่างๆ มาสักหน่อยก็จะมาเจอกับซุ้ม จนท. และรถโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยว เพราะการจะไปผาสุดแผ่นดิน ก็ค่อนข้างไกล ห่างไปสัก 2 กิโล พร้อมมีน้องๆ มัคคุเทศก์มาให้ความรู้ประจำตามรถด้วย ส่วนตัวผมก็ลองขึ้นรถไปดู เพราะตอนนั้นแดดค่อนข้างร้อนละ แต่ขากลับคงเดินกลับเพราะอยากชมวิว รอบๆ
แล้วผมก็มาถึง ผาสุดแผ่นดิน ที่มีคนล้านแปด กับ ลมแรง แปดสิบน๊อต กว่าจะถ่ายรูปไม่ให้ติดคนได้ รอจนเหงือกแห้ง แต่ความสวยงามของภูเขาก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอ มองไปเห็นประเทศเพื่อนบ้านกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็เดินลัดเลาะไปตามภูเขาและทุ่งดอกกระเจียว
ด้วยความที่มาครั้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวมา ทำให้แบตกล้องหมด จากนี้คงต้องพึ่ง Iphone แล้วว
ไปดูหินกันต่อ มาถึงจุดนี้ก็ไม่ได้อยู่นานเท่าไร เพราะอากาศมันร้อนมาก แค่ไปจินตนาการตามชื่อของแต่ละหิน ว่ามันเหมือนจริงรึป่าว
เสียดายที่แบตหมดซะก่อน ไม่งั้นคงเก็บภาพมาได้เยอะกว่านี้
จบไปอีกหนึ่งทริปกับการเที่ยวคนเดียวแบบไม่ได้วางแผน แค่ทำตามใจอยากเท่านั้นพอ 2 วันหนึ่งคืนก่อนกลับ กทม
แม้ดอกไม้มันจะไม่บานเต็มทุ่งเหมือนที่คาดหวัง แต่เราก็ยังสามารถมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ได้ แค่เพียงเดินหน้าไป ยิ้มให้กับสิ่งรอบๆ ตัว ก็อาจเพียงพอแล้ว ในการพักผ่อน
https://www.facebook.com/maxzpacker/
MaxzPacker
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.28 น.