" ສະບາຍດີ ຫຼວງພຣະບາງ "

การเดินทางครั้งแรกต้อนรับปี 2023 
ชวนเก็บกระเป๋าไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านกัน
เที่ยวลาวครั้งแรก ก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ
แต่รับรองว่าสนุกมากแน่นอน :) 


ทริปนี้เราเดินทางช่วง 20-22 มกราคม 2023
เริ่มต้นจาก ขอนแก่น ขับรถตรงไปถึง หนองคาย
แล้วต่อรถไฟEMUจากเวียงจันทร์ไป
หลวงพระบาง


PREFACE การเตรียมตัวก่อนเดินทาง 
มาค่ะทุกคนมามุงกันตรงนี้ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ทริปลาวครั้งแรก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เราเริ่มหาข้อมูลทุกอย่างด้วยตัวเอง แพลนคือเราจะไปหลวงพระบาง                                                                      
ด้วยรถไฟความเร็วสูง EMU ลาว-จีน กันนนนนนน

จองตั๋วยังไง?

เราโชคดีได้คอนแทคพี่คนลาวที่รับจองตั๋ว  
ไม่มีมัดจำ จ่ายเงินหน้าสถานี มีตั๋วจริงค่ะ
ชื่อ งอซื้อปี้รถไฟ
Whatsapp +856 20 95 394 945  

ตั๋วเวียงจันทร์-หลวงพระบาง 
ราคารวมทุกอย่าง
ชั้น 1 = 900 บาท ชั้น2 = 600 บาท 
ถ้าราคาเกินกว่านี้คือโดนหลอกแล้ว ตั๋วจริงถูกมากๆ

* Update ตอนนี้จองตั๋วผ่านแอปได้แล้วค่ะ*

แอพพลิเคชั่นที่จำเป็น 

  • Whatsapp โหลดติดเครื่องไว้เลยค่ะ คนลาวใช้เยอะ ( คล้ายกับ Line บ้านเรา )
  • Currency Plus แอพคำนวณเรทเงิน ใช้แบบ Offline ได้ด้วย โหลดเลยค่า
    เงินกีบใช้กันเป็นหมื่นเป็นแสน ไม่ต้องคิดให้ปวดหัวค่ะ โหลดๆๆๆ 
  • In Drive แอพเรียกรถ( คล้ายกับ Grab บ้านเรา ) ในแอพต่อรองราคากับคนขับได้ด้วย
    ใช้แล้วดีจริง ถ้าเราโดนให้เหมารถลองกดเปรียบเทียบราคามาตรฐานจากแอพนี้ได้เลยนะ 


ควรจองที่พักล่วงหน้ามั้ย ?

ถ้าถามเรา เพื่อความสบายใจก็จองก่อนเลยดีกว่าค่ะ ราคาที่พักหลวงพระบางจองเองกับเจ้าของ มาตรฐานโรงแรม 3 ดาว ไม่ควรเกิน 600 บาท เดี๋ยวจะทำรายชื่อที่พักไว้ให้ตอนท้ายน้า เพราะว่าส่วนตัวหาข้อมูลมาเยอะมาก + ตอนไปเที่ยวเราแว๊นมอไซค์ไปดูของจริงมาให้แล้วค่ะทุกคน 555

อ่ะ เตรียมตัวพร้อมแล้ว
ก็ลุยกันเลยยยยยยยยยยยยย
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในทริปนี้
เราจะคำนวณเป็นเงินบาทให้นะคะ :) 


DAY  1 
ขอนแก่น - หลวงพระบาง


ขับรถกันเพลินๆ ออกจากขอนแก่นช่วงเช้า
ตรงไปตามถนนมิตรภาพเล่ย
ไม่นานก็มาถึงด่านพรมแดน จ.หนองคาย
เราฝากรถกันที่นี่( ราคา 100 บาท/ วันค่ะ )
แล้วก็สะพายเป้คู่ใจเดินตรงไปที่หน้าด่าน

แล้วพอถึงหน้าด่าน ต้องทำอะไรบ้าง?

01.
เตรียมพาสปอร์ตเพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยสแตมป์ค่ะ ถอดหมวก ถอดแมส แล้วสแกนลายนิ้วมือ 
02.
เดินออกมารอรถโดยสารเพื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 
 ( ค่าตั๋ว 30 บาท/คน ) รถจะจอดรออยู่แล้ว

03. ลงรถมาก็เดินๆตามทุกคนไป แล้วก็เข้าแถวที่ตม.ฝั่งลาวค่ะ ตรวจพาสปอร์ตอีกรอบและจ่ายค่าธรรมเนียม ( ราคา 20 บาท/คน )** เราจะได้ใบยาวๆไว้กรอกตอนกลับไทยด้วยนะคะ เก็บไว้ดีๆน้า **
04.
 แลกเงิน + ซื้อซิมโทรศัพท์

  • จุดแลกเงิน เดินเลือกได้เลย เราได้เรท 510 กีบ แลกกับธนาคารพงสะหวันสีเขียวๆนะคะ
  • จุดซื้อซิม อยู่ติดกับธนาคารเลยค่ะซุ้มสีแดง ค่าย Lao Telecom ค่ะ ใช้เน็ทได้อย่างเดียว 10 GB ( ราคา 80 บาท ) โทรออกไม่ได้น้า ซื้อแล้วใส่มือถือเลย เล่นเน็ทได้ทันที ความเร็วลื่นปื๊ด เริดมากๆ

หลังจากน้านนนน เราต้องตั้งสติค่ะ
ต้องไปกันต่อ 5555 เวลาตอนนั้นประมาณ 13.00 น.
เราจองรถไฟรอบ 15.05 น. ไว้แล้ว
พี่งอส่งข้อความมาบอกว่าให้ไปถึงสถานี
ก่อนรถออก อย่างน้อย 1 ชม.
เราเลยตัดสินใจเหมารถจากด่านไปที่สถานีรถไฟเล่ย 

จากหน้าด่านไปสถานีรถไฟยังไง ?

สำหรับใครที่มีเวลา ไม่รีบมาก
สามารถขึ้นรถเมล์สีเขียวไปลงตลาดเช้า 
แล้วต่อรถไปสถานีรถไฟ
ได้ค่ะ
( ราคาเฉลี่ยประมาณ 60 บาท/คน )
 
ตารางเดินรถดูได้ที่ FB : Vientiane City 2 Bus Service - ລົດເມນະຄອນຫຼວງວຽງຈັນ

สำหรับใครที่อยากเหมารถ
ให้ลองเช็คราคาในแอพ InDrive ก่อน 
แล้วเลือกเลยว่าจะรอรถจากแอพ
หรืออยากท้าทายกว่านั้นนนนนน
ให้เดินไปต่อราคากับพี่ๆลุงๆ ที่มารุมๆๆๆเราจ้า
และใช่ค่ะเราเลือกความท้าทาย 555
แต่เจอคุณลุงใจดีเป็นคนไทย ลุงคุยเก่งตลอดทางเลย
สำหรับเราเรทมาตรฐานคือ 300 บาท / เที่ยว นะคะ
ไม่ควรเกินนี้น้า จากด่านใช้เวลาประมาณครึ่งชม.
ก็ถึงสถานีนครหลวงเวียงจันทร์แล้วค่ะ

มาถึงแล้วก็เซลฟี่กันไป 1 กรุบ
แล้วก็เข้าแถวเพื่อสแกนกระเป๋ากันค่ะ
เหมือนไปสนามบินเลย มีเครื่อง X-rays กระเป๋า
และสแกนร่างกายต่อ แล้วก็เข้ามานั่งรอรถไฟกัน
ในสถานีที่กว้างขวางมากกกกกกกกก แบบมากจริงๆ
มีห้องน้ำสะอาด มีจุดให้กดน้ำดื่มได้ด้วย
ถือว่าสะดวกสบายมากๆเลย
พอถึงเวลารถไฟจอดเทียบ
เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้เข้าแถวและเช็คขบวนรถไฟตามตั๋ว
เราก็ดูได้เลยว่าต้องเดินไปทางซ้ายหรือขวา
ตามหาโบกี้ของตัวเองได้เล่ยยย


ที่นั่งบนรถไฟมีกี่แบบ? ต่างกันยังไงบ้าง?
ที่นั่งแบ่งเป็น 3 แบบหลักๆคือ

  • Second-Class ที่นั่งชั้น 2 เบาะจะแบ่งเป็น 3-2 ค่ะ ใครมากันสองคนให้จองฝั่งเบาะคู่น้า**
  • First-Class ที่นั่งชั้น1 เบาะที่นั่งจะแบ่งเป็น 2-2 เบาะกว้างขึ้นนิดหน่อย
  • Business Class พิเศษที่เบาะสามารถปรับนอนได้ค่ะ

ขอบคุณรูปภาพจาก Website : Discoverlaos ค่ะ

สำหรับเราได้ลองนั่งทั้ง 2 แบบเลย
สบายทุกแบบค่ะ ไม่ต่างกันมาก


- ขาไป เวียงจันทร์ - หลวงพระบาง ลองนั่งชั้น 1  
( ราคารวมค่าบริการ 900 บาท )
- ขากลับ หลวงพระบาง - เวียงจันทร์ ลองนั่งชั้น 2
  ( ราคารวมค่าบริการ 600 บาท )


NEXT STATION 
" หลวงพระบางงงงงงงงงงงง " 
ถึงแล้วค่าทุกคน ถึงหลวงพระบางแล้ว
ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 2 ชม. 
รถไฟรอบนี้จะถึงประมาณ 17.10 น.
อากาศช่วงนี้เย็นสบายมาก

จากสถานีรถไฟเข้าเมืองหลวงพระบางยังไง?
คิวรถตู้จะอยู่ด้านขวามือตามรูป ซื้อตั๋วแล้วบอกจุดลงรถกับคนขับได้เลยนะคะ ( ราคา 70 บาท/คน ) แล้วก็อย่าลืมขอคอนแทคคุณลุงไว้ด้วยน้า ขากลับมาสถานีรถไฟคุณลุงจะไปรับถึงหน้าที่พักเล่ยยยยยยย

เราเลือกลงที่ร้านเช่ามอไซค์กันก่อนค่ะ เราทัก Whatsapp จองรถไว้ก่อนตั้งแต่อยู่ไทย เพราะช่วงนี้เป็นเทศกาลตรุษจีน พี่เจ้าของใจดีมากๆ ยอมกันรถไว้ให้ไม่มีมัดจำอะไรเลย คิดถูกมากที่จองก่อนเพราะตอนมาถึง มีฝรั่ง Walk-in มาเต็มเลย แต่รถหมดไปแล้วค่ะ ( ราคาประมาณ 350 บาท/ วัน ) มีหมวกกันน็อค+ตัวล็อคล้อให้ฟรี 

ชื่อร้าน Anousay Motorbike
Whatsapp +856 20 77555000  

ได้รถแล้วก็แว้นไปที่พักกันจ้าคืนแรกขออนุญาตนอนหรู อยู่สบายหน่อยน้าขอฉลองวันเกิดให้ตัวเอง เราเขียนรีวิวแยกไว้ที่นี่ค่ะ https://th.readme.me/p/44217 ชื่อโรงแรม Souphattra Hotel Luang Prabang เช็คอินเสร็จ เก็บกระเป๋าก็ได้เวลาหาอะไรกินกันแล้วววววว 

จุดเช็คอินที่ 1 
ร้านเย็นสบาย
 
Dyen Sabai Restaurant )

ตอนนี้หิวมากๆ และอาหารมื้อแรกของเราก็คือ
หมูกระทะจ้าาาาา 555555 หนีไม่พ้นจริงๆ
ร้านนี้บอกเลยว่าฟีลกู้ดมาก แนะนำให้มา!
เพราะจะได้กินหมูกระทะ + จิบเบียร์ ริมแม่น้ำคานจ้า
ปังสุดๆ หมูกระทะสามารถสั่งเป็น Set ได้เล่ยย
เราเลือกเป็นเนื้อหมูกับเนื้อควายค่ะ
ร้านจะมีตะกร้าผักมาให้แล้ว จัดเต็มมาก
ที่นี่ทานเนื้อควายกันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
แรกๆอาจจะไม่ชินแต่รสชาติคล้ายเนื้อวัวเลย
อาจจะมีกลิ่นสาปนิดหน่อย
กินไปจิบๆไป มันดีมากเล่ย
รีบเติมพลังรอเที่ยวพรุ่งนี้จ้า


DAY 2  
เที่ยวหลวงพระบางฉบับเต็มวัน


เช้านี้ตื่นมาเจออากาศ 15 องศา
อั้ยยยยย เย็นสบายมากๆ
เรารีบกินข้าวเช้าที่โรงแรม
แล้วฝากกระเป๋าไว้ก่อน
จากนั้นก็ได้เวลาไปน้ำตกตาดกวางสีกัน ! 
เปิด Map แล้วขับรถจากตัวเมือง
ไปประมาณ 45 นาที ทางไม่แย่น้า ขับกันเพลินๆ

จุดเช็คอินที่ 2
น้ำตกตาดกวางสี 
Kuang Si Waterfall ) 

ใครมาเที่ยวหลวงพระบางต้องไม่พลาดมาที่นี่นะ
เพราะว่าน้ำตกสวยมากกกกกก 
มาถึงแล้วก็หาที่จอดรถกันก่อนเลยน้า
แล้วก็มีค่าเข้าอุทธยาน ( ราคา 50 บาท/คน )
ราคานี้รวมรถกอล์ฟคอยรับ-ส่ง
จากจุดจอดรถไปน้ำตก ในอุทธยาน
จะมีเขตอนุรักษ์น้องหมีหรือว่า Bear Rescue
เดินผ่านก็แวะถ่ายรูปได้

แล้วก็เดินต่อมาเรื่อยๆจะเจอน้ำตกแบ่งเป็นชั้นๆ
มีจุดให้ลงเล่นน้ำได้ด้วย แนะนำว่า
อย่าลืมเตรียมชุดมาเปลี่ยนนะ
เพราะว่าสนุกมากกก น้ำสีฟ้าใสมากเลย
แนะนำให้มาช่วงเช้า 09.00-11.00 น.
คนยังน้อยอยู่ถ่ายรูปง่าย ไม่ติดคน
ถ้าช่วงบ่ายทัวร์ลงค่ะ จากแก๊งค์ฝรั่งเล่นน้ำชิลๆ
จะกลายเป็นสวนน้ำเด็กทันที 555
เดินตามเส้นทางมาเรื่อยๆเลย
เราจะเจอกับจุดไฮไลท์ค่ะทุกคน สวยมากๆ

ที่เที่ยวแนะนำอื่นๆ ระหว่างทางไปน้ำตกนะคะ

  • Buffalo Ice Cream 
  • ร้านอาหารน้ำตกตาดแก้วมงคล

เราออกจากน้ำตกกันช่วงเที่ยง ขับรถกลับเข้าเมืองกัน
หาอะไรกินง่ายๆเป็นมื้อเที่ยง แล้วก็ย้ายโรงแรมกันค่ะ 
คืนที่สองเราเลือกพักกันที่ โรงแรมชื่อว่า 
Luang Prabang Residence 
โรงแรมเริดมากอยู่กลางเมือง
ติดNight Market เลยค่ะ 
( ราคา 600 บาท/คืน ) 
** ลิสรายชื่อโรงแรมจะรวมให้ตอนท้ายนะคะ
เราไป Survey มาให้ทุกคนแล้ว อิอิ **

ช่วงบ่ายก็พักผ่อนหย่อนใจ จอดรถไว้ที่โรงแรมแล้วลองเดินเล่นในเมืองกันค่ะ แนะนำให้ลองน้ำผลไม้ปั่นในซอยติดกับ Indigo Hotel นะคะทุกคน เด็ดมาก!! กินหมดเร็วมากจนลืมถ่ายรูปมา 55555

จุดเช็คอินที่ 3 
พระธาตุพูสี
( Mount Phousi )

17.00 น. ได้เวลาเดินขึ้นพระธาตุพูสีกันค่ะ
ที่นี่จะเป็นจุดชมวิวหลวงพระบาง
แบบ 360 องศาเลยจ้า
ทางขึ้นก็ชันๆได้ออกกำลังกาย 1 กรุบ 
เดินขึ้นบันไดไปเล่ย จะมีจุดซื้อตั๋ว
( ราคาประมาณ 40 บาท/คน 
)
ขึ้นไปก็จะพบกับวิวนี้จ้าาาาาา

แต่แอบบอกก่อนว่าพื้นที่ด้านบนค่อนข้างจำกัด
ใครขึ้นมาก่อนก็รีบจองพื้นที่เลยค่ะ
เพราะยิ่งช่วงพีค 18.00 น.
คนจะขึ้นมาออกันเต็มไปหมด
อีกฝั่งของพระธาตุเราจะเห็น
พระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำโขงแบบนี้เล่ย

Mission Completed !!
จากนั้นทุกคนก็จะทยอยลงมาเดินเล่นที่
Night Market กันค่ะ 

จุดเช็คอินที่ 4
ตลาดกลางคืน
( LUANG PRABANG NIGHT MARKET )

เดินลงบันไดพระธาตุพูสี
ลงมาช่วงเย็นๆก็จะเจอกับภาพนี้เลยค่ะ
ตลาดกลางคืน ให้ฟีลแบบถนนคนเดินท่าแพ
สินค้าส่วนมากจะเป็นผ้าซิ่นลาว ผ้าพันคอ
และผ้าปักมือของชาวเขา
ใครอยากช้อปปิ้งซื้อของฝากก็เลือกซื้อกันได้เลย 


จุดเช็คอินที่ 5 
ร้านอาหาร 
Joy's Restaurant

เราเดินผ่านตลาดแล้วกลับไปเอารถมอไซค์ที่โรงแรม
วันนี้จะพาไปชิมร้านลับหลวงพระบาง ที่ยังไม่แมส
บรรยากาศเหมือนได้มากินข้าวที่บ้านเพื่อน
ฟีลแบบกับข้าวฝีมือแม่ 5555
ใครมีโอกาสอย่าลืมมาลองนะคะ
อร่อยมากกกกกก! เมนูห้ามพลาดคือ 
ไก่ทอดตะไคร้ มัสมั่นไก่ กับลาบหมูค่ะ
ลองสั่งกันดูน้า 

กินข้าวกันจนอิ่มก็ได้เวลาขับรถเล่นแล้วค่ะ
ไปทัวร์หลวงพระบางกัน
ขับรถวนดูเมืองรอบๆเลย
ตอนกลางคืนบรรยากาศดีมากๆๆๆ
บางคนก็ปั่นจักรยานค่ะ ชิลสุดๆ
เราจะไปจุดชมวิวสะพานไม้ไผ่กัน
แต่ขอแอบไปแวะร้าน MEKONG MINIMART
ซื้อขนมกับเครื่องดื่มกรุบกริบกันก่อน

จุดเช็คอินที่ 6
จุดชมวิวสะพานไม้ไผ่

สะพานไม้ไผ่ใช้เป็นทางข้ามแม่น้ำคานค่ะ
อยู่ตรงร้านหมูกระทะเย็นสบาย
ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วบรรยากาศดีมากๆ
สามารถลงไปเดินเล่นได้ 
บรรยากาศดีๆ อย่าลืมจิบเครื่องดื่มที่นี่น้า
ผลิตกันพิเศษเฉพาะที่หลวงพระบาง
ราคาก็น่ารักมากกก ขวดละ 24 บาท จ้าาาา

ขากลับมาที่พักก็ออกมาเดินเล่น
ที่ Night Market กันอีกค่า
อากาศเย็นสบายมาก มีดนตรีให้ฟัง
นักท่องเที่ยวก็มารวมกันที่นี่เต็มเลย
ของกินเล่น ในตลาดมีเยอะเลยค่ะ
เราลองชิมหมาล่า กับปลาหมึกย่าง
แล้วก็ขนมครก จะบอกว่าอร่อยมาก
ขนมครกเป็นแบบไม่มีท็อปปิ้งนะคะ
ซื้อจากซอยข้างโรงแรม Indigo อีกแล้ว
( ถ้วยละ 10 บาทเองงง )
นั่งเล่นกันซักพักก็ได้เวลาพักผ่อนกันค่า
วันนี้เต็มที่มากเล่ย 


DAY 3
หลวงพระบาง - เวียงจันทร์


เช้าวันสุดท้ายของทริปแล้วววว เร็วมากเลย 
และใช่ค่ะ ไม่ต้องมองหารีวิวใส่บาตร
เพราะเราไม่เคยตื่นทันเลย 55555
ใครอยากใส่บาตรให้แจ้งที่โรงแรมน้า
พี่เค้าจะจัด Set ให้ราคา 100 บาทค่ะ
วันนี้เราเริ่มจากทัวร์ตลาดเช้าก่อนเลย
เพราะว่าอยู่หน้าประตูโรงแรมเลยจ้า 
ใกล้สุดแบบ Exclusive ตื่นมาเจอเลย
ไม่เชื่อดูรูปจ้าา อิอิ

บอกแล้วว่าใกล้มากกกกกกกก
ช่วงเช้าเราไม่สามารถเอารถมอไซค์ออกได้นะคะ
ก็เดินเล่นกันไปก่อน ในตลาดมีน้ำส้มคั้นอร่อย
คั้นกันสดๆแก้วต่อแก้ว
ใครมาต้องห้ามพลาดนะ
( ราคาประมาณ 25 บาท/แก้ว )
จากที่พักเราจะเดินไปร้านอาหารเช้าสุดฮิตกันค่ะ
เดินแค่ 2-3 นาทีเอง


จุดเช็คอินที่ 7
อาหารเช้าร้านประชานิยม

ร้านอาหารเช้ายอดฮิต ที่ทุกคนต้องมาแวะ
ฟีลแบบสภากาแฟ
เมนูแนะนำในร้านมีโจ๊ก
เฝอหรือก๋วยเตี๋ยว แล้วก็ไข่กระทะค่ะ
ใครอยากกินปาท่องโก๋ก็จะมีวางไว้บนโต๊ะหยิบได้เลย
แล้วค่อยคิดราคาทีเดียวค่ะ
( ราคาอาหารเฉลี่ย 30-40 บาท/ จาน )


จุดเช็คอินที่ 8 
JOMA BAKERY CAFE

กินคาวแล้วก็ต้องตามด้วยของหวานนะค้าาาา 
มาหลวงพระบางต้องห้ามพลาดร้านนี้ JOMA
มีสองสาขา สาขาแรกออริจินอลอยู่ใกล้ๆ
Night Market เลยค่ะ แต่คนจะเยอะมาก
เราก็เลยเดินเล่นกัน และกระจายรายได้
มาที่สาขาที่สองแทน
มาที่นี่ต้องชิม Cheese Cake นะคะทุกคน
เพราะมันนุ่มละมุนลิ้นมากก
สามารถกินแบบ Plain
หรือจะเลือก Topping ก็ได้ตามชอบเล่ย
( ราคาเฉลี่ยชิ้นละ 70-80 บาท )

หลังจากนั้นก็เดินย่อยกันค่ะทุกคน
เดินชมเมืองกันชิลๆ
ที่นี่มีร้านงาน Craft งานทำมือเยอะมากๆ
เพราะในเขตลาวเหนือ
เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์ค่ะ
ทำให้มีงานฝีมือน่าสนใจหลายแบบเลย
ร้านอาหาร ร้านค้าก็ตกแต่งน่ารักมาก
ลองเดินเล่นถ่ายรูปได้เล่ย


จุดเช็คอินที่ 9 
วัดเชียงทอง 
( Xieng Thong Temple )

ไปค่ะไปกันต่อ เราจะไม่หยุดแค่นี้
เพราะว่าทุกอย่างอยู่ใกล้กันหมดเลย 
ขับมอไซค์ไปต่อที่วัดเชียงทอง วัดเก่าแก่ของที่นี่ 
สำหรับผู้หญิงห้ามใส่กางเกงขาสั้นนะคะ
ทางวัดจะมีผ้าซิ่นให้ใส่ทับ
เพื่อความสุภาพและให้เกียรติสถานที่
( ค่าเข้าชม 40 บาท/คน )

ใครมีโอกาสแวะไป
อย่าลืมแวะถ่ายรูปตรงหน้าต่างวิหารหลังเล็กนะคะ 
มุมยอดฮิตของหลวงพระบางเล่ยยย


จุดเช็คอินที่ 10
ร้านส้มตำป้าติ๋ม

มื้อเที่ยงขอแวะฝากท้องไว้ที่ร้านส้มตำใกล้ๆวัดค่ะ
ร้านส้มตำเจ้าเด็ด
ที่คิวยาวมากจนต้องแจกบัตรคิว 
แนะนำให้มาก่อนเที่ยงนะคะทุกคน 
ความพิเศษคือวันนี้วันเกิดป้าติ๋มจ้า 555
มีพี่เค้ามาจอดรถหน้าร้าน
แล้วตะโกนว่า Happy BirthDay ป้าติ๋ม 
เมนูเด็ดสุดขอยกให้เมนู " ตำหลวงพระบาง "
ส้มตำที่ทำเส้นมะละกอเป็นแผ่น
และใส่กะปิเข้าไปด้วยค่ะทุกคน แซ่บนัวถูกใจแน่นอน
เมนูอื่นๆที่เราสั่งมีไก่ย่าง
ปลาน้ำโขงทอด แผ่นเทา(สาหร่ายน้ำจืด)ทอดกรอบ
เราว่าเริดทุกจานค่ะ 
( ราคาเฉลี่ย 70-80บาท/จาน )

  • มีอีกร้านที่คนรีวิวในกรุ๊ปบอกว่าเด็ดมากๆ คือส้มตำร้านเอื้อยเดือน
    ในตลาดดาราค่ะ ใครมีเวลาฝากแวะไปชิมให้หน่อยค่าาา อิอิ

จุดเช็คอินที่ 11
ร้าน Namkhan Sunset 

ส่วนตัวเราชอบร้านนี้มากกกกกกกก
เป็นร้านอาหาร+คาเฟ่สุดชิล
แต่จริงๆควรมาตอนเย็น
ประมาณ 17.00-18.00 น. นะคะ 
เพราะร้านอยู่ริมแม่น้ำคานเลย
บรรยากาศดีมาก อาหารไม่แพง
เราแว้บมากันช่วงบ่าย 
สั่งน้ำมะม่วงปั่นดับร้อน และนั่งเล่นกันแปปนึง
จะบอกว่า "มะม่วงปั่นที่นี่ อร่อยมากกกกกกกก"
ต้องสั่งนะคะได้เนื้อมะม่วงหวานๆเต็มๆ
ไม่มีน้ำเชื่อมผสมเลย ( ราคา 50 บาท/แก้ว )

Cr. ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : Namkhan Sunset ค่ะ

แล้วก็ได้เวลากลับเวียงจันทร์กันแล้วค่า
จากร้านเราแว้นมอไซค์กลับไปที่พัก
สะพายเป้คนละใบแล้วก็เอารถมาคืนค่ะ
จากนั้นก็ทักไปบอกคุณลุงรถตู้ ให้มารับ
อย่าลืมนะคะทุกคนนน
พยายามขอคอนแทคคุณลุงไว้
เพราะถ้าเหมารถไปสถานีเอง
จะโดนฟันราคากันไม่ต่ำกว่า 400 บาท/เที่ยว!
แต่คุณลุงคิดราคาเราแค่คนละ 70 บาทค่ะ 
ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาทีก็มาถึงสถานีแล้วว


รายชื่อที่พักน่าสนใจในหลวงพระบาง
** ลิสนี้หาเองไม่มีสปอนนะจ้ะ **


ตามที่สัญญาเอาไว้
เราจะรวมที่พักหลวงพระบางให้ทุกคนเองค่าาาา 
จากการหาข้อมูลเอง + ขับรถไปดู
สถานที่จริงมาให้แล้ว
 เริ่มเลยยย
 

1. Luang Prabang Residence ประมาณ 600 บาท/คืน  
- Location ดีมากๆ กลางคืนเดินมาเจอถนนคนเดิน
- ตอนเช้ามีตลาดเช้าหน้าที่พักเลยค่ะ
- ห้องกว้างมากกกก
- ทักจองใน Facebook ได้เลย
- ไม่มีมัดจำ ไม่หลอก จ่ายเงินตอนเช็คอินจ้า


2. 
Riverside Guesthouse LuangPrabang
ເຮືອນພັກແຄມຄານ ประมาณ  600 บาท/คืน

- ที่พักอยู่ริมน้ำคาน ห่างจากโซนตลาดค่ะ
แต่ได้วิวแม่น้ำและความสงบ
- คนไทยไปพักเยอะ น่าจะรวมอาหารเช้าด้วย
- ที่นี่เต็มเร็วมากๆๆๆ ช่วงเราไปก็เต็ม :( 
แนะนำให้จองล่วงหน้า
- ทักจองใน Facebook ได้เลย
แอดมินตอบไวมากค่ะ


3. เฮือนพัก 
Anisa Riverside Guesthouse
ราคา 600 บาท/คืน

- ที่พักอยู่ริมน้ำคาน ห่างจากโซนตลาดค่ะ
แต่ได้วิวแม่น้ำและความสงบ
- ไม่รวมอาหารเช้า แต่มีชากาแฟบริการ
นั่งดื่มชมวิวตอนเช้า
- ทักจองใน Facebook ได้เลย
แอดมินตอบไวมากค่ะ

4. Saynamkhan river view
ราคา 1,200 บาท/คืน

-  ที่พักอยู่ริมน้ำคาน ห่างจากโซนตลาดค่ะ
แต่ได้วิวแม่น้ำและความสงบ
- ไฮไลท์ของที่นี่คืออยู่ตรงกับสะพานไม้ไผ่พอดีเป๊ะ
เดินข้ามไปร้านเย็นสบายได้
- พี่เจ้าของใจดีมาก
ตอบแชทไวแนะนำดีมากๆค่ะ
- พี่เจ้าของคือคนที่ให้คอนแทคพี่งอ
จองตั๋วรถไฟให้ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
- ทักจองใน Facebook ได้เลย หรือ 
Whatsapp 
+856 20 56 362 219

5. Phounsab Guesthouse
ເຮືອນພັກພູນຊັບ ຫລວງພະບາງ ราคา 600 บาท/คืน

- ที่พักใกล้โซนตลาดค่ะ ใกล้ทางขึ้นพระธาตุพูสีค่ะ
- Location ดีงาม ตอนกลางคืนมีร้านอาหาร มีบาร์เดินไปได้
- ตอนเช้าเป็นถนนหลักที่พระท่านเดินมาบิณฑบาตรค่ะ
- ทักจองใน Facebook ได้เลย แอดมินตอบไวมาก


ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ
ประสบการณ์เที่ยวลาวครั้งแรกของเราสนุกมาก
ลาวเที่ยวง่าย และเที่ยวด้วยตัวเองได้แน่นอน
ไม่ต้องง้อทัวร์เลย ค่าครองชีพถูก อาหารอร่อย
คนลาวน่ารัก อัธยาศัยดีค่ะ 
ขอให้สนุกกับการไปเที่ยวลาวกันนะค้าาาาาาา

.....

#เที่ยวลาวด้วยตัวเอง
#เที่ยวหลวงพระบางเมืองมรดกโลก
#Storyfromsomewhere.

story from somewhere.

 วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 17.34 น.

ความคิดเห็น