BKK-CNX รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ทั้งครอบครัว 3 วัน 2 คืน ฉบับนั่งรถแดงเที่ยว

แปะทริปรีวิวเชียงใหม่เมื่อปลายปี ฉบับไปแบบฟีลแฟน https://th.readme.me/p/43527 รอบนี้มาเชียงใหม่อีกครั้ง โดยทริปนี้เรามากันแบบครอบครัว ใครที่แพลนไปกับครอบครัวตามรอยอันนี้ได้นะคะ ทริปนี้ด้วยความว่ามาเป็นครอบครัว ก็จะเน้นไปทางไหว้พระซะส่วนใหญ่ค่ะ

ติดตามเพจ : https://www.facebook.com/puifaikamonblog


การเดินทางในเชียงใหม่ จากสนามบินดอนเมืองมาสนามบินเชียงใหม่ ไฟท์ถึงประมาณ 9 โมงเช้า โดยสายการบินแอร์เอเชีย พอมาถึงเชียงใหม่ทริปนี้เราเลือกที่จะไม่เช่ารถขับเอง แต่เลือกเป็นเช่ารถแดงนั่งชิว ๆ เอาค่ะ เพราะแพลนมีไปสวนส้ม ทางค่อนข้างไม่ชิน ทางเราขับรถไม่เป็น แฟนก็ไม่ได้มาด้วยรอบนี้ จะให้พ่อขับก็กังวล เลยเลือกที่จะเช่ารถแดง ราคารวมค่านํ้ามันเรียบร้อย แถมสบายใจมาก เพราะพี่คนขับ ขับรถดี นั่งสบาย ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องทาง เรื่องที่จอด แถมช่วยเป็นตากล้องให้ด้วย คิดถูกมากที่เช่าแบบนี้ เราเช่าทั้งหมด 3 วันเลย ราคารวม 3,500฿ เช่าที่เพจ ช้างรถแดงแบกกล้องเที่ยวเชียงใหม่ Tour ChiangMai (พี่คนขับที่ขับให้เราชื่อพี่สันติ) ใครมาเชียงใหม่แนะนำเลยค่ะ


ที่แรกที่เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยคำ วัดดังเชียงใหม่ที่ใครก็ต้องมา และมาหลายรอบ รอบนี้ก็พาที่บ้านมาอีกครั้ง เริ่มต้นพี่คนขับแนะนำให้มาไหว้ ปู่แสะย่าแสะ ก่อนทางขึ้นค่ะ คนขายดอกไม้บอกให้ไหว้เพื่อเปิดทางก่อนขึ้นไปไหว้ด้านบน

ไหว้เสร็จก็นั่งรถต่อขึ้นมาอีกนิดก็ถึงแล้ว วัดพระธาตุดอยคำ ก็ไหว้ตามจุดต่าง ๆ สุดท้ายเข้าไปข้างในก็จะไปไหว้หลวงพ่อทันใจ

มารอบนี้คนไม่ได้เยอะมากเท่าหลายปีก่อนที่มา แต่ก็ถือว่ายังเยอะอยู่ คนไหว้ไม่ขาดสาย โชคร้ายหน่อยที่วันไปมองไม่เห็นวิวเมืองเชียงใหม่เลย เพราะค่าฝุ่นเยอะมากวันที่ไป มืดไปหมด อากาศก็ไม่ค่อยดี แถมถ่ายรูปออกมาไม่สวยเลย แต่ใดๆก็คือดีใจที่ได้กลับมาไหว้หลวงพ่อทันใจอีกครั้ง เราเลือกที่จะไหว้โดยไม่จุดธูปเพราะฝุ่นเยอะแล้ว 🙏


เสร็จจากไหว้พระ เราแวะพักกินข้าวกันก่อน เรามากินร้านอาหารเหนือที่ชื่อว่าคุ้มเวียงยอง เห็นคนในทวิตรีวิวว่าอร่อย ก็เลยตามรอย แถมร้านนี้ยังไม่เคยกินเลยอยากลองค่ะ

สรุปคืออร่อยทุกอย่างเลย ชอบมาก โดยเฉพาะจิ้นส้มหมก อร่อยไม่อร่อยสั่งเพิ่มสองรอบ ไส้อั่วร้านนี้ก็อร่อย ดีงามมาก ส่วนตัวถูกจริตกับไส้อั่วแบบนี้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ผักเชียงดาผัดไข่ก็อร่อย เป็นอีกหนึ่งร้านที่ชอบค่ะ กินเกลี้ยงทุกอย่างแบบไม่เหลือเลยจริงๆ ข้าว 1 โถยังไม่พอ 4 คน แนะนำเลยใครมาเชียงใหม่ ราคาค่าเสียหาย สั่งเยอะเหมือนกัน ราคาทั้งหมด 960฿


จากนั้นไปกันต่อ ไปวัดพระธาตุดอยคำแล้ว ก็ต้องไปวัดพระธาตุดอยสุเทพ แต่ก่อนจะขึ้นไป เราแวะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ที่ตั้งอยู่ตรงทางขึ้นดอยสุเทพ กราบไหว้ก่อนสักนิด

ใช้เวลาสักพักก็ถึงแล้ววัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งแน่นอนว่าพ่อกับแม่เดินขึ้นไม่ไหวแล้ว (พ่อบอกตอนอายุน้อยกว่านี้เคยเดินขึ้นได้ แต่จริงๆเราอายุไม่มากเราก็ไม่เดินแล้ว แหะๆๆ) ขึ้นลิฟต์เอาคนละ 20 บาท ไปกลับ แต่ขาลงพ่อกับแม่พอจะลงเดินไหวก็เลยกลายเป็นขึ้นอย่างเดียวแทน ช่วงที่ไปคนไม่ได้เยอะมากค่ะ ไหว้พระได้สบาย ๆ ไม่อึดอัด


เสร็จแล้วเราก็ไปคาเฟ่ที่ชื่อว่า Forest Bake คาเฟ่นี้ก็เป็นคาเฟ่เชียงใหม่ที่เราชอบมาก เคยมากินเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ชอบทุกอย่างของที่นี่เลย ขนมหน้าตาดีทุกชิ้นแถมขนมอร่อย อยากกินมันทุกอย่าง เป็นคาเฟ่ที่มาแล้วมาซํ้าได้อีก ถือเป็นคาเฟ่เชียงใหม่ร้านดังร้านนึงที่ขนมอร่อยเลย แนะนำเลยค่ะ


จากคาเฟ่ก็ถึงเวลาเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน เราพักกันที่ Maplewood Hotel Chiangmai เป็นที่พักเชียงใหม่ที่เปิดใหม่ มินิมอลมาก ตอนจองตกคืนละประมาณ 700฿ ถือว่าราคาดีงาม

ข้อดีคือห้องใหม่มากเพราะเพิ่งเปิด ด้านล่างมีคาเฟ่ (แต่ไม่ได้นั่งกินเลย) ใกล้ประตูท่าแพ ใกล้ถนนช้างม่อยเก่า เดินไปได้เลยค่ะ ทำเลถือว่าดีมาก แต่ข้อเสียคือ ถ้าใครเช่ารถที่จอดรถอาจจะน้อย ส่วนเรามีรถแดงมารับเลยไม่ได้มีปัญหาตรงนี้ แต่ที่มีปัญหาคือห้องไม่เก็บเสียงเลย ทั้งคืนคือจะได้ยินเสียงรถ เสียงคนเสียงคุยค่อนข้างชัด ถ้าใครนอนหลับยากอันนี้น่าจะเป็นปัญหาอยู่ แต่โชคดีบ้านเราหลับง่าย

ด้วยความที่มากับผู้สูงวัย พ่อกับแม่ก็อาจจะเที่ยวได้ไม่เต็มวัน ไปไม่กี่ที่ก็เหนื่อยแล้ว เน้นไหว้พระทำบุญ ก็จะไม่ได้ไปไหนมาก ค่ะ เข้าที่พักแล้วก็พากันนอนหลับสักตื่น ตกเย็นเราก็เดินไปหาอะไรกินใกล้ๆ ซึ่งที่พักใกล้กับตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง เชียงใหม่ เดินไปก็ไปสะดุดตากับสตรอเบอร์รี่ คือหวานฉ่ำมาก ถังละ 200฿ แต่คือดีงามทุกลูก สีแดงสดหวานเปรี้ยวนิดๆ คือร้านที่ซื้อเป็นชาวบ้านธรรมดาเลย วางขายอยู่ ไม่ใช่ร้านใหญ่ แต่ดีงามมาก ฟินสุด ส่วนข้าวเย็นเรานั่งกินร้านขนมจีน กับข้าวซอย ในตลาดเลย (ลืมชื่อร้าน) โดยรวมรสชาติเฉยๆ

เสร็จจากตลาดวโรรส ก็กลับที่พัก พักผ่อน จบทริปเชียงใหม่ในวันแรก


DAY 2

เช้านี้เรานัดรถแดงมารับ 08.00 เริ่มต้นวันเราไปกันที่ ตลาดจริงใจมาร์เก็ตเชียงใหม่ เพื่อหาอะไรกินที่นี่ก่อนใครที่มาเชียงใหม่และยังไม่เคยมาที่นี่อยากให้มาเลย ที่นี่มีทั้งโซนอาหาร ของทำมือ งานศิลปะ คือมาเช้าๆ อากาศไม่ร้อน คือเดินเพลินเลย

เป็นตลาดที่น่ารักมากๆ ส่วนของกินก็มีเยอะพอสมควร ซื้อและก็มานั่งกินได้ค่ะ โดยรวมคืออร่อยแทบทุกอย่างที่ซื้อมา โดยเฉพาะข้าวเหนียวหมูกระเทียม ร้านนี้ฮิตมาก คนต่อคิวเยอะมาก

ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ตเชียงใหม่ จะเปิดแค่เสาร์และอาทิตย์เท่านั้นนะคะ ใครมาเชียงใหม่แนะนำต้องมาอันนี้เลยค่ะ


เสร็จจากข้าวเช้า วันนี้เราจะไปเที่ยวสวนส้มจินจู เป็นสวนส้มที่อยากไปตั้งแต่รอบที่แล้ว แต่เวลาไม่พอ รอบนี้ก็เลยตั้งใจว่าต้องไป เพราะจะหมดหน้าส้มแล้วด้วยสวนส้มจินจูจะอยู่ทางโซนม่อนแจ่มค่ะ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ข้อดีการนั่งรถแดงไปเรารู้สึกว่าไม่ค่อยเมารถเลย นั่งสบายชิวกว่าที่คิด อาจจะเพราะมันเป็นลมธรรมชาติช่วย หลายปีก่อนเคยขึ้นม่อนแจ่มด้วยรถตู้ โห้ เมารถเวียนหัวสุดๆ

นั่งชมวิวเพลินๆก็ถึงแล้วค่ะ ทางขึ้นสวนส้มแอบน่ากลัว แต่พี่คนขับโปรมาก ระหว่างทางมีสวนส้มหลายที่เลย มีสวนดอกไม้ด้วย แต่เราชอบที่นี่ที่สุด บรรยากาศน่ารัก สวนส้มจินจูเก็บค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ 70฿ ค่ะ ข้างในสามารถเก็บส้มได้ กิโลละ 80฿

สวนส้มจินจูคือถูกใจแม่มาก แม่เราชอบที่นี่มาก เพราะเค้าชอบกินส้ม คนอื่นอาจจะมาเพื่อถ่ายรูป แต่แม่เราคือตั้งใจมาเก็บส้มกินจริงจัง ส้มเค้าคือเนื้อแน่นดี อร่อย นํ้าส้มที่นี่ก็สดชื่นดี เอาไปกินนะหว่างทางลงม่อนแจ่มเพลินๆ

ใครจะมาทางสวนส้มเค้าแนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือธันวาค่ะ ช่วงนั้นส้มจะเยอะมาก เสียดายตอนมาธันวาไม่ได้แวะมา แต่แค่นี้ก็ถือว่าประทับใจแล้ว ใครมาเชียงใหม่อยากให้ลองมาสวนส้มจินจูเชียงใหม่เลยค่ะ


เราใช้เวลากับสวนส้มนานพอสมควร จากนั้นก็ไปกันต่อที่ร้านคาเฟ่ชื่อว่า Banyakat บรรยากาศ ม่อนแจ่ม เป็นร้านคาเฟ่น่ารักๆ ระหว่างทาง ชาเขียวที่นี่อร่อยมาก ใครมาม่อนแจ่มควรแวะเลยค่ะ ถ่ายรูปน่ารักด้วย


จากนั้นเราก็แวะกินข้าวกันต่อที่ร้านฟักแก้วริมนํ้า แม่ริม ร้านนี้พี่คนขับรถพามาค่ะ พี่เค้าแนะนำว่าเป็นทางผ่านลงมาพอดี และก็อาหารอร่อย บรรยากาศก็ถือว่าดีเลยค่ะ ริมนํ้าตก นั่งเย็น ๆ ชิวๆ ส่วนอาหารโดยรวมถือว่าหลายอย่างอร่อยค่ะ โดยเฉพาะส้มตำ แซ่บถึงใจ แต่มีปลานึ่งมะนาวค่อนข้างผิดหวัง แต่โดยรวมก็ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ อร่อย บรรยากาศดี ราคาไม่แพงมาก


ตอนแรกว่าจะแวะอีกสักคาเฟ่แต่ผู้สูงวัยได้หมดแรงแล้วก็เลยยิงยาวกลับที่พัก ตกเย็นเราก็ไปกันที่ถนนคนเดินวัวลายค่ะ จะเปิดเฉพาะวันเสาร์ ใครมาเชียงใหม่ก็น่าจะเคยมาเดิน วันไปฝรั่งกลับมาเยอะแล้วรอบนี้ เราก็เดินหาของกินไม่ได้นั่งกินเป็นชิ้นเป็นอัน กินนู้นนี้อย่างละนิดก็อิ่มแล้ว พ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยอยากกินอะไรแล้ว ก็เลยเน้นเดินเล่น โดยรวมที่นี่ก็ของขายเหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ก็เดินได้เพลินๆดี ตอนเดินตลาดผ่านวัดศรีสุพรรณด้วย ภายในวัดมีอุโบสถเงิน สร้างด้วยโลหะเงินและดีบุก ทรงแบบล้านนา คือถ้ามาตอนกลางวันคงสวยมากๆ แต่เห็นตอนกลางคืนก็สวยงามไปอีกแบบ

จบทริปเชียงใหม่คืนวันที่สอง Zzzz


DAY3
เช้าวันที่ 3 เริ่มต้นวันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น พ่อยังกินกาแฟโบราณกับไข่ลวกมาก และโชคดีที่ ที่พักกับร้านอาหารเช้าไม่ไกล เดินไปได้เลย ร้านที่เราจะไปมีชื่อว่า ร้านใต้ถุนบ้าน ถือเป็นร้านอาหารเช้าอีกร้านดังในเชียงใหม่เลย แต่รอบก่อนเราไม่ได้กิน รอบนี้ก็เลยลอง ร้านเปิด 06.30 เรามาตั้งแต่ 06.20 กันไปเลย

สั่งมาแทบจะทุกอย่างเพราะบ้านเรากินอาหารเช้าเยอะ โดยรวมชอบโจ๊กนะคะ เนื้อเนียนนุ่มดี ส่วนอย่างอื่นก็รสชาติอาหารเช้าทั่วไป ไข่กระทะไข่ลวก สังขยาก็อร่อยดีแต่ถ้าเทียบกับร้านโกเผือกโกดำชอบสังขยาร้านนั้นมากกว่า (เพิ่มเติมร้านนี้ไม่รับโอนนะคะ เงินสดอย่างเดียว)

กินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เดินกลับที่พัก ไปพักผ่อนต่อ เพราะนัดรถแดงให้มารับ 11 โมง แพลนวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากชิวๆค่ะ


ได้เวลาก็ Check Out ออกจากที่พัก รถแดงก็มารับพอดี เราแพลนไปคาเฟ่ที่ชื่อว่า Bar Cha - Matcha and Bakery バーチャ ซึ่งคาเฟ่นี้อยู่ตรงตลาดจริงใจมาร์เก็ตเชียงใหม่เลย แต่เมื่อวานเรารีบไปสวนส้มเลยไม่ได้แวะ

เห็นร้านนี้โดยบังเอิญในเฟสคืออยากกินมาก พอได้กินก็คือชอบมาก ดีงามทุกอย่าง ถูกใจชาเขียวเลิฟเวอร์มาก ฟินสุด

ร้านเป็นร้านเล็กๆไม่ใหญ่นะคะ แต่มู้ดดีมาก ตอนไปคนไม่มีเลย อาจจะยังไม่ได้แมสมาก แต่จะบอกว่าดีงามมาก ใครสายคาเฟ่ ใครชอบชาเขียว มาเชียงใหม่ควรมาร้านนี้เลย


เสร็จจากคาเฟ่ก็ไปของคาวต่อ กินของหวานของคาวมั่วไปหมดแล้วแหะๆ ซึ่งทางบ้านก็รีเควชอาหารเหนืออีก ตอนแรกจะไปร้านเฮือนเพ็ญ เพราะเราเคยไปกินมาแล้ว แต่พี่คนขับแนะนำให้ไปเฮือนม่วนใจ๋ ซึ่งมากี่ครั้งก็ยังไม่เคยลองเหมือนกันก็เลยลองดู

ร้านก็สั่งเมนูคล้ายๆเดิม โดยรวมถือว่าอร่อย ถ้าเทียบกับร้านเฮือนเพ็ญ นี้ว่าเฮือนม่วนใจ๋อร่อยกว่า แต่ถ้าเทียบกับร้านคุ้มเวียงยอง เราชอบร้านนั้นมากกว่า แต่แม่บอกชอบไส้อั่วร้านนี้มากกว่า ซึ่งความอร่อยก็แล้วแต่คนชอบค่ะ ค่าเสียหายหมดไป 1,095฿


ตรงข้ามร้านเฮือนม่วนใจ๋ มีคาเฟ่ชื่อว่า บ้านเลขที่สามสาม เคยได้ยินชื่อมานานมาก แอบกดติดตามเพจเค้าด้วย แต่ก็ยังไม่เคยมาเหมือนกัน เป็นร้านคาเฟ่ในเชียงใหม่เล็กๆน่ารัก เราสั่งนํ้าชาพีชมากินชื่นใจอร่อยดี ไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะนะคะ พอดีร้านคนเยอะ เราแวะข้ามมาซื้อนํ้าระหว่างรอคิวร้านเฮือนม่วนใจ๋ด้วย


ถัดมาตอนแรกเราจะไปวัดป่าแดด แต่มันต้องออกนอกเมืองไปหน่อยเลยเปลี่ยนใจไปวัดอุโมงค์แทน ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก วัดนี้เราเคยมาแล้วแต่ที่บ้านยังไม่มีใครเคยมา ก็เลยแวะพามา เพราะก็จะไปเดินบ้านข้างวัดต่อ ซึ่งบ้านข้างวัดก็อยู่ไม่ไกลจาก วัดอุโมงค์


จากวัดอุโมงค์ เราก็ไปกันที่บ้านข้างวัดต่อ มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ยังไม่ได้มาที่เลย พอจะมาก็เวลาหมดทุกทีเลยไม่ได้แวะเลย พอมีเวลาชิวๆก็เลยถือโอกาสมา ทีบ้านข้างวัดเชียงใหม่ ภายในจะเป็นพวกงาน art มีการทำ workshop ใครสายศิลปะก็น่าจะชอบค่ะ น่ารักมากๆเลย


เดินเล่นใช้เวลาไม่นานยังมีเวลาเหลือนิดหน่อย ตรงข้ามมีร้านคาเฟ่ก็เลยแวะเข้าไปจิบนํ้าเย็น ๆ หน่อย คาเฟ่มีชื่อว่า Lamour Cafe อยู่ตรงข้างกับบ้านข้างวัดเลย ภายในคือมีต้นไม้ร่มรื่นนั่งได้ชิวๆ เลย ขนมนํ้าก็ถือว่าอร่อยเลยค่ะ


นั่งชิวสักพัก จากนั้นก็ได้เวลาไปสนามบินเชียงใหม่กันแล้วค่ะ ก็ถือว่าเป็นอันจบทริปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ก็เป็นการมาใช้เวลาอยู่กับครอบครัว พาพ่อแม่มาทำบุญไหว้พระ กินอาหารเหนืออร่อย ๆ ได้ใช้เวลาด้วยกันแค่นี้ก็แฮปปี้แล้วค่ะ หวังว่าทริปนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับใครมาเที่ยวเชียงใหม่แบบครอบครัว : )

ติดตามเพจ : https://www.facebook.com/puifaikamonblog

Puifaikamon

 วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 15.04 น.

ความคิดเห็น