ไม่นานมานี้อ่านเจอแคปชั่น "ไปเที่ยวทั้งที ก็ไปเที่ยวแบบสบายๆ ถ้าไปแบบลำบากเขาเรียกเข้าค่าย" ได้แต่อ่านแล้วก็นึกขำ มันก็จริงของเขาอะเนาะ แต่บางทีความลำบากระหว่างทางมันก็เป็นความทรงจำดีๆของช่วงเวลานั้นเลยก็ได้
เพิ่งว่างจากงาน ก็แอบมาเขียนBlog คลายเครียดในคืนวันศุกร์ที่วันเสาร์ต้องทำงานTT
ทริปนี้อาจจะเหมาะกับคนที่เวลาน้อย แต่ก็อยากไปสัมผัสธรรมชาติเพื่อชาจแบตชีวิตสักหน่อย หน่อยจริงๆนั่นแหละ
เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน 2023 เริ่มเลอะ
แค่เริ่มก็สู้ชีวิตกันแล้วแม่ แหกขี้ตาตื่นเพื่อไปขึ้นเครื่องตอนตี 5 ครึ่งเกร๋ๆ
ก่อนแลนด์เมาขี้ตาตื่นขึ้นมา ได้ยินกัปตันพูดว่าอุณหภูมิที่เชียงใหม่ 15 องศา
แม๊!!!!!!! ฉันผู้เอาเสื้อกันหนาวออกจากกระเป๋าหมดแล้ว เป็นไงละ สู้ชีวิตรอบ 2
เริ่มต้นเช้าที่สดใส ผสมกับฝุ่น pm2.5 หน่อยๆด้วย " โจ๊กนายโต " อร่อยตามรีวิ๊ววววววววววว
ไปค่ะ กินข้าวอิ่ม ความสู้ชีวิตก็เริ่มอีกครั้ง
แต่ทริปรอบนี้มีผู้ร่วมสู้ชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งคน เพื่อนพาผลประกอบการของพระธาตุดอยสุเทพมาไหว้รายงาน
ฉันผู้ซึ่งเกิดคำถามว่าเพื่อนไหว้อย่างไร ท่องคาถาบทไหน ถึงได้ผู้กลับมาไหว้ จุดนี้ฉันงงมาก
ฉันก็ไหว้พร้อมเพื่อนเมื่อหลายปีก่อน ได้กลับมาแต่ง๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
แต่ก็ยินดีกับเพื่อนมากๆเลยนะ
มารอบนี้หวังว่าท่านจะรักหนูบ้างนะ ไม่อยากถูกเลือกให้เป็นผู้ผิดหวังบ่อยๆเลย
ตัวMum ตัวมารดา ตัวแม่ เอ้ยยย ตัวมอม
ระหว่างทางขึ้น ก็เกิดบทสนทนาที่ว่า ทำไมต้องมาสร้างที่สูงๆเนาะ คนเมาโค้งแบบเรามันท้อ เนี่ยยยย แล้วเราจะได้บุญกันบ้างไหม
หามุมถ่ายรูปใหม่ๆบ้างเนาะ
ลงจากดอย พร้อมสภาพไม่สู้ดีเพราะเมาโค้ง ก็ต้องมาเพิ่มพลังกันหน่อย
ที่ Stay Wild feel good มากกกกกกกกกกก ก ไก่ล้านตัว ความสโลวไลฟ์เริ่มก่อตัว
กินข้าวอิ่มๆ เอนตัวนั่งฟังเสียงน้ำไหล เอื่อยๆคือดีย์
หมดเวลาสโลวไลฟ์แล้วละ โหมดสู้ชีวิตกลับมาอีกครั้ง เริ่มด้วยการหลงทางนิดนึงแหละ
หาจุดขึ้นบ้านกุ๊บกั๊บไม่เจอ รูปจากนี้คือเจอกันบนดอยเลยนะ เพราะกำลังสู้ชีวิตอยู่
ไม่กล้าแม้กระทั่งเอามือถือขึ้นมาถ่าย ฉันกลัวตกรถ
Say hiiiii from ห้วยกุ๊บกั๊บจ้า เราขึ้นรถประมาณบ่ายสามกว่าๆใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
ก็มาถึงแล้ว ระหว่างทางก็คิดเสมอว่า มาทำอะไรวะเนี่ย แอบๆเห็นคลิปในติ๊กต๊อกของความโหดในการขึ้นดอยมาบ้าง แต่พอมาสัมผัสเองก็เออลำบากจริงๆนั่นแหละ ที่พักบนดอยทุกที่จะมีบริการขับรถรับ-ส่ง โดยคนในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทางนะ เพราะฉะนั้นสบายใจได้ เส้นทางจะยากลำบากขนาดไหน แต่เราก็จะรอดไปเห็นวิวสวยๆแน่นอน
เอาจริงๆ เราเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ทำการบ้านเรื่องที่เที่ยวมาก อยากจะมาสัมผัสแบบเรียลไทม์ไปเลย
ไม่อยากคาดหวังสิ่งตรงหน้ามาก แต่กุ๊บกั๊บก็คืออออออ ตอบคำถามระหว่างทางได้แล้วว่ามาทำไม
โลกสโลวไลฟ์เราเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้วละ ความสงบมันเป็นแบบนี้ซินะ นั่งปล่อยใจลอยๆ ดูวิวภูเขาข้างหน้า
พร้อมพระอาทิตย์เต็มดวง ที่กำลังจะตกดิน มู้ดโครตจะดีย์
ดื่มด่ำกับบรรยากาศตรงหน้า อีกสักหน่อย ก็ต้องรีบไปอาบน้ำแล้ว เพราะที่นี่ใช้โซล่าเซลในการปั๊มน้ำ ขึ้นมาบนบ้านที่พัก
มันดี จนอยากให้ทุกคนมานั่งมองวิวด้วยตาตัวเองนะ แฮปปี้สุดๆ
ตกเย็น ปาร์ตี้ที่บ้านก็เริ่มขึ้นแล้ว บ้านหลายๆหลังก็จะมารวมตัวกินข้าวกันที่ ลานกินข้าว กับข้าวก็ง่ายๆแหละ ไข่เจียว ต้มไก่มั้งนะลืมไปแล้ว เด็ดสุดก็คือ น้ำพริก อนาล่าหู อร่อยไม่ซ้ำจำสูตรไม่ได้ ขึ้นอยู่กับคนเล่าส่วนผสม ถ้าเป็นแม่ก็จะบอกว่ามีอะไรก็ใส่ๆรวมๆกันไป ถ้าเป็นพ่อก็จะมีสตอรี่เพิ่มความอร่อย น่ารักมากๆเลย
ที่พักจะมีชุดหมูกระทะให้สั่งด้วยนะ ไม่ต้องเหนื่อยหอบขึ้นไป ที่สำคัญได้เยอะมาก ไม่ต้องกลัวไม่อิ่ม
ตกดึกก็มีหนุ่มน้อย มาเปิดคอนเสิร์ตให้ป้าๆฟัง ดนตรีบนดอยมันก็ดีไปอีกแบบ แอบขึ้นไปบนบ้านก็เจอ
เจ้าถิ่นเขามาสำรวจบ้านไปอี๊กกกก ที่นี่จะงดใช้เสียงและกิจกรรมตอน 4 ทุ่ม เพราะบนดอยก็ยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่ สำหรับค่ำคืนนี้ก็จบด้วยการไปยืนดูดาวบนระเบียงหน้าบ้านเป็นนางเอกเอ็มวีไปอีก 1 แมท
Morning จ้าาาาาา อะ อะ คาดหวังจะเห็นผาสามเหลี่ยมอะดิ แนะนำให้ไปดูBlog อื่น ฉันตื่นไม่ไหวจริงๆ
ตามจริงที่พักจะมีบริการไกด์นำเดินไปผาสามเหลี่ยมนะ มีค่าไกด์นำเดินทาง เริ่มเดินทางประมาณตี 4 เพื่อนเฟิมว่าสวยมาก เราก็ได้แต่ยินดีกับการตื่นเช้าของเพื่อนมากๆ
อากาศเช้าๆที่ห้วยกุ๊บกั๊บต้นเดือนกุมภา ก็ยังเย็นๆอยู่นะ เย็นเพราะลมแรง แต่ไม่ได้เย็นจนทนไม่ไหว แอบผิดหวังตรงลมแรงมากกกกกก จนไม่ได้เจอหมอก แต่ถามว่าคุ้มไหมก็คุ้มอยู่ดี
ขอสาดรูปบรรยากาศรัวๆๆ แปะพิกัดที่พัก https://web.facebook.com/searc...
" Anarahooม่อนกุ๊บกั๊บ " ทุกคนน่ารักมากๆเลย ที่พักดี วิวหลักล้านของจริง
เช้าๆ ก็จะมีสุดหล่อมานั่งต้อนรับ พร้อมกับอาหารเช้าเป็นข้าวต้ม กับ เครื่องดื่มร้อนๆสู้กับความเย็นบนดอย
เป็นแมวบนดอยนี่มันน่าอิจฉาจริงๆเลยนะ
ข้าวต้มร้อนๆกับวิวหลักล้านตรงหน้า ก็คือที่สุดละ อยากตื่นเช้ามาเห็นวิวนี้ทุกวันจริงๆ
ก่อนลงดอยแอบมารีวิวบ้านที่พักให้ดูหน่อย ก็จะเป็นที่พักแบบเรียลๆเหมือนชาวบ้านที่เขาอยู่เลยละ
เป็นไม้ไผ่ซี่ๆที่เอามาต่อกัน ช่องว่างเยอะๆกลางคืนนี่นอนหนาวตัวสั่นเลย พ่อแกบอกว่าก่อนโควิดจะมา
รับแค่ชาวต่างชาติเพราะว่าเขาไม่เรื่องมาก ในการมาเที่ยว มาพัก ถ้าเทียบกับคนไทยแต่พอโควิดทุกอย่างก็ต้องปรับเปลี่ยน แต่ใดใดที่พักไม่ได้แย่นะ น้ำมีใช้ตลอด ห้องน้ำปิดแน่นหนา พื้นปูนมั่นคง มาพักได้ขึ้นดอยทั้งทีก็ต้องมาสัมผัสการใช้ชีวิตแบบคนดอยสิเนาะถึงจะถูก
สายๆนั่งรถลงจากดอย สู้ชีวิตอีกครั้ง เราลงมาจุดพักรถแล้วต่อด้วยการ ไปล่องแก่งกันต่อยาวๆเลยลูกพี่ !!!!!! โซนที่เราไปล่องจะเป็นโซน "แก่งกึ๊ดแม่แตง " ล่องแก่งเสร็จ ก็แวะกินข้าวร้านแถวๆนั้นเลย
ไม่ต้องคาดหวังกับรสชาติมาก แต่ว้าวทุกร้าน อร่อยมากๆ
เป็นฟีลล่องแก่ง ล่องใจ ปล่อยใจจอยๆ ไม่ได้สมบุกสมบันมาก เน้นเก็บวิวข้างทาง น้ำใสม๊ากก็ไก่ล้านตัว
แอบแวะเช็คอิน สถานที่สุดฮิต กับสวนสน แม่แตงสักหน่อย
คืนที่ 2 แอบมาแนะนำโฮสเทลน่ารักๆในตัวเมืองเชียงใหม่
" Kame Chiang Mai คาเมะเชียงใหม่ " https://www.facebook.com/kamec...
ห้องพักสไตล์มินิมอล ที่ด้านล่างยังมีคาเฟ่น่ารักๆ ให้เราได้มานั่งชิลได้ ราคาหลักร้อย ความน่ารักหลักพัน
คืนนี้ฝากท้องไว้กับ "HIDELAND.cnx" รูฟทอฟกลางใจเมือง เน้นอาหารสไตล์ญี่ปุ่น รสชาติอร่อยถูกจริตมากแม่
ต่อด้วยเดินนิมมาน หาเบียร์กินชิลๆกันต่อ แล้วก็แยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย
ถึงเวลา Say good bye CNX แล้วซินะ เชียงใหม่ก็ยังเป็นที่ที่ทำให้ตกหลุมรักได้เรื่อยๆเลยซินะ Blog อาจจะไม่มีสาระมาก แต่ก็อยากให้ทุกคนวางงานตรงหน้า แล้วกดจองตั๋วออกไปหาความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างweekenบ้างนะ เบื่อหน้าจอคอม ลองไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกบนดอยบ้างก็ดี
ขออภัยรูปอาจไม่ชัดมากนะ เพราะเน้นถ่ายจากโทรศัพท์อย่างเดียวจ้า
storyofyuiji
วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 19.12 น.