ไหว้พระ 9วัดดัง จ.สิงห์บุรี
1.วัดพระปรางค์
2.วัดม่วงชุม
3.วัดบุดดา
4.วัดยวด
5.วัดสว่างอารมณ์
6.วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
7.วัดหน้าพระธาตุ
8.วัดโพธิ์เก้าต้น
9.วัดพิกุลทอง
วัดพระปรางค์
ต.เชิงกลัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ภายในบริเวณวัดมีพระปรางค์ศิลปะอยุธยาตอนต้น สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังมีวิหารเก่าแก่แบบอยุธยา หน้าบันเป็นลายแกะสลักไม้รูปตัวสิงห์และคันทวยต่างๆ อุโบสถมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย นอกจากนั้นยังปรากฏร่องรอยของเตาเผาแม่น้ำน้อยประมาณ 3–4 เตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผลิตภัณฑ์ที่พบมากคือ ไหสี่หู อ่าง ครก กระปุก ขวด ช่อฟ้า กาน้ำ ประติมากรรมลอยตัวรูปสัตว์ต่างๆ และกระสุนปืนใหญ่ เป็นต้น
วัดม่วงชุม
ต.ไม้ดัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 400 ปีมาแล้ว สร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยา ปัจจุบันวัดม่วงชุมถือเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ทำให้ประชาชนต่างก็เดินทางเข้ามาทำบุญ ปฏิบัติธรรมในวันสำคัญและผู้คนนิยมมากราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อขาว หลวงพ่อดำ พระสิงห์ใหญ่ พระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคล และพระมหาเจดีย์บางระจัน เพื่อเสริมสิริมงคลกันอีกด้วย
วัดบุดดา
ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ภายในวัดมีสิ่งสำคัญ เช่น พระอุโบสถกลางน้ำ เป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมในวันสำคัญทางศาสนา อุทยานเจ้าแม่กวนอิม ศาลเจ้า และมีพิพิธภัณฑ์สโตนมิวเซียมเป็นที่เก็บรวบรวมลูกปัดหินโบราณ ซึ่งจัดแสดงลูกปัดหินหลากหลายสัญชาติ พร้อมทั้งได้เรียนรู้ธาตุของตนเองจากลูกปัดและศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างคลื่นความถี่ของมนุษย์กับสีและอัญมณี
วัดยวด
ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ขึ้นชื่อเรื่องพุทธคุณเมตตามหานิยม ก็คงต้องนึกถึงหลวงพ่อสองพี่น้อง พระพุทธรูปเก่าแก่คู่เมืองสิงห์บุรี สร้างมาตั้งแต่กรุงเก่าอยุธยา ผู้คนแวะเวียนมากราบไหว้สักการะอยู่เสมอ เพราะเชื่อกันแบบปากต่อปากว่าหลวงพ่อสองพี่น้องเด่นมากเรื่องขอโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เมตตามหานิยมผู้คนรักใคร่ ครอบครัวพี่น้องกลมเกลียว ดุจพระทั้ง 2 องค์ที่อยู่คู่กันมาโดยตลอด
วัดสว่างอารมณ์
ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย สร้างเมื่อ พ.ศ. 2399 โดยพระครูสิงหมุนี (หลวงพ่อเรือง) อดีตเจ้าอาวาส บริเวณวัดเป็นแหล่งปั้นพระพุทธรูปที่สืบทอดวิชาปั้นมาจากตระกูลช่างบ้านช่างหล่อธนบุรี และยังเป็นแหล่งเก็บรวบรวมและจัดแสดงตัวหนังใหญ่โดยมีครูเปียนายหนังเร่จากพระนครศรีอยุธยาเข้ามาบุกเบิกการเชิดหนังใหญ่ขึ้นที่วัดสว่างอารมณ์เป็นคนแรก ภายหลังวัดได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่โดยใช้พื้นที่ชั้นบนของศาลาการเปรียญจัดแสดงตัวหนังใหญ่
วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และมีพุทธลักษณะตามแบบศิลปะสุโขทัยที่งดงาม สันนิษฐานว่าท้าวอู่ทองเป็นผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมา เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสิงห์บุรี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ทำให้วัดพระนอนจักรสีห์กลายเป็นปูชนียสถานอันล้ำค่าทางพุทธศาสนาที่ควรได้รับการอนุรักษ์ นอกจากจะได้ชมพระพุทธไสยาสน์อันตระการตาแล้ว ยังมีพระกาฬ พระพุทธรูปศิลาลงรักปิดทอง และพระแก้วอันเป็นพระหล่อนั่งขัดสมาธิเพชรที่มีพุทธศิลป์งดงาม
วัดหน้าพระธาตุ
ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสถานที่บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของเมืองสิงห์บุรีเก่า สิ่งที่สำคัญของวัดนี้คือองค์พระปรางค์สูง 8 วา ทำเป็นรูปครุฑ อสูรถือกระบองประดับอยู่เหนือชั้นเชิงบาตร ภายหลังมีการเสริมแต่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะอยุธยาตอนต้น โดยการก่ออิฐเพิ่มเติมเป็นซุ้มจรนัมทั้งสี่ด้าน และกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478
วัดโพธิ์เก้าต้น
ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นวัดสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไหว้พระทำบุญไม่ขาดสาย และสิ่งที่ทุกท่านจะพบเห็นเมื่อมาที่นี่ก็คือ จะเห็นผู้คนมากมายที่สมหวังดังปรารถนาตามที่ได้บนบานไว้เดินหาบน้ำมาเติมในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์กันทั้งวัน
วัดพิกุลทอง
ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านเพราะความเสื่อมใสในหลวงพ่อแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี) อดีตเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่งที่ทำประโยชน์ต่อพุทธศาสนามากมาย ทั้งยังมีส่วนทำให้วัดพิกุลทองแห่งนี้สวยงามอยู่ตลอดเวลาจนชาวบ้านพากันเรียกวัดนี้ว่า "วัดหลวงพ่อแพ" ภายในวัดจัดแสดงเรื่องราวประวัติของหลวงพ่อแพและเครื่องอัฐบริขารของท่านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ไม่ควรพลาดชมพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24K
-รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้รีวิวเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
สุดท้ายนี้... ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมรีวิวนี้ด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/bell.diiz.39
Tara
วันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 12.00 น.