ทริปลพบุรีทริปนี้ ขอตั้งชื่อว่า 'ลพบุรีน่ารักนะเนี่ยยย' เพราะเราจะชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับลพบุรีในมุมน่ารัก ๆ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ลิง (จั๊ก ๆ ) แต่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลากสไตล์ให้สายชิลล์ได้ลองไปเยือนย่ำ หากดูจากรูปที่เราถ่ายมานั้น ล้วนแล้วแต่มีความคาวาอี้เดสเนะยังกับไปถ่ายที่ญี่ปุ่น (ปรับแต่งภาพแนวฟิล์มเพื่อเพิ่มอารมณ์) แต่จริง ๆ เดินทางใกล้แสนใกล้ระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลยเพียง 2 - 3 ชม. เท่านั้น

ประเดิมที่แรกของวันกันที่ 'ทางรถไฟโคกสลุง' หรือ 'รถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์' หนึ่งในแลนด์มาร์กสุดฮิปที่เหล่าคนชิคไปถ่ายรูปกัน ทางรถไฟที่มีรางทอดยาวสุดลูกหูลูกตานี้ คือเส้นทางเดินรถไฟจากกรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือจากสระบุรี / แก่งคอย - โคกสลุง แต่จะมีวิ่งเฉพาะรอบพิเศษเท่านั้น หากใครต้องการโดยสารรถไฟต้องเช็กรอบจากการรถไฟแห่งประเทศไทยก่อน พร้อมซื้อตั๋วโดยสาร ส่วนใครที่ขับรถมาเอง (อย่างเรา) ก็สามารถจอดรถได้ตรงลานจอดรถอันกว้างขวาง ก่อนลงจากรถอย่าลืมพกร่มติดไม้ติดมือกันไปด้วยละ เพราะแดดที่นี่เรียกว่าร้อนแรงไม่ปราณีใครแน่นอน T T

แต่ก่อนจะเดินไปถึงรางรถไฟจะพบกับร้านค้าเล็ก ๆ สองถึงสามร้าน ที่จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม ร่ม และไอติมมะพร้าว ที่สามารถช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราลองกินไอติมมะพร้าวไปก็อร่อยดีนะ


จุดถ่ายรูปเจแปนนิสสไตล์คือตรงที่เป็นไฟแดง และไม้กั้นรถไฟ ตรงนี้ถ่ายแล้วเอาไปแต่งโทนสีจัด ๆ หน่อย หรือโทนหม่น ๆ แนวกล้องฟิล์มก็จะได้ฟีลเหมือนเราไปถ่ายกับรถไฟที่ญี่ปุ่นเลย ส่วนจุดถัดมาคือบริเวณที่มีแบล็คกราวเป็นรางรถไฟทอดยาวอยู่เบื้องหลัง ด้านข้างโอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้า น้ำในเขื่อนป่าสักฯ ที่ไม่ได้มีเยอะเท่าไรนัก และฝูงวัวที่ออกมาเดินเตร็ดเตร่อยู่กลางทุ่ง ถ้ามาเย็น ๆ หน่อยก็ให้ฟีลเหมือนกับอยู่เมืองนอกย่านชนบทอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเก็บภาพกันหนำใจแล้ว สถานีถัดไปขอพาไปเช็กอินกันสักหน่อย ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เราจำได้ว่าเคยมาเมื่อนานมาแล้ว สมัยเด็ก ๆ เลย ถ้างั้นก็ขอถือโอกาสย้อนวันวานอีกครั้ง นั่งรถรางเพื่อชมบรรยากาศรอบ ๆ เขื่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ระยะทางไป - กลับ เห็นจะสัก 40 นาทีได้

หมุดหมายถัดไป คือ 'ภูซับเหล็ก' ตอนมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแก่ ๆ แล้ว เราเริ่มเดินสำรวจบริเวณอ่างเก็บน้ำที่เป็นเหมือนสวนสาธารณะของผู้คนที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก ภาพที่เห็นคือหลายคนมานั่งปิกนิก บ้างก็มาออกกำลังกาย บ้างก็มาตกปลา เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาสูดอากาศเย็น ๆ สบาย ๆ กันเข้าไปเต็มปอด หลังจากนั้นเราก็ถามทางคนแถวนี้เพื่อจะขึ้นไปยังยอดภูซับเหล็กกัน เพื่อจะไปดูวิวเมืองลพบุรีแบบ 360 องศา การเดินทางเข้าไปเส้นทางค่อนข้างเล็กและแคบ เป็นถนนแบบ One Way เมื่อจอดรถเสร็จแล้ว ภารกิจเดินขึ้นภูก็เริ่มต้นขึ้น

ลักษณะของทางเดินขึ้นเขาเป็นแบบบันไดดิน เดินวนรอบ เส้นทางค่อนข้างชัน ต้องระมัดระวังกันสักหน่อย และช่วงที่เราเดินขึ้นไป พระอาทิตย์เริ่มจะตกดินแล้วด้วยก็เลยเดินยากนิดหนึ่งเพราะไม่มีไฟทาง ส่วนระยะทางไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไรเพราะมัวแต่เดินกันตาตั้ง หอบกันแฮ่ก ๆ เท่าที่พอจำได้น่าจะใช้เวลาไปประมาณ 30 นาทีได้ค่ะ เมื่อเราพิชิตถึงยอดภูแล้ว ต้องบอกเลยว่าวิวเมืองสวยจริง ๆ เห็นอ่างเก็บน้ำมุมสูงอันกว้างใหญ่ แม้ว่าวันนี้จะไม่ค่อยมีคนขึ้นมามากเท่าไร (ตอนแรกก็แอบเปล่าเปลี่ยวใจ คนหายไปไหนกันหมดดด) แต่เราได้เจอนักวิ่ง 2 คน ขึ้นมาซ้อมวิ่งเทรลกันพอดิบพอดี เลยพออุ่นใจอยู่บ้าง ซึ่งทุกคนดูชิลล์ต่างจากเรามาก T T

หลังจากนั่งพักกันสักครู่ใหญ่ เราก็ฮึดสู้เดินลงกันมาสู่เบื้องล่าง ซึ่งเล่นเอาเหงื่อท่วมตัวกันเลยทีเดียว มืดค่ำพอดีก็เดินทางกลับไปยังที่พัก นอนเอาแรงแล้วเดินทางกลับสู่จุดเริ่มต้นของทริปในเช้าวันรุ่งขึ้น

จบลงไปแล้วสำหรับทริปลพบุรีสั้น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง เริ่มเห็นมุมน่ารัก ๆ ของเมืองลพบุรีกันบ้างหรือยัง หากใครมีเวลาไม่มากนักแต่อยากเที่ยว แนะนำลพบุรีเลยค่ะ : )


ปักพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวไว้ให้ที่นี่เลย

ทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง 📍 Map

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 📍 Map

ภูซับเหล็ก 📍 Map

Credit Picture: ภาพถ่ายทั้งหมดโดยนักเขียน (Photo By BiwWillGo) แต่งรูปผ่าน Dazz Cam

BiwWillGo

 วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 19.47 น.

ความคิดเห็น