หลังจากหายไป นานมากกกก วันนี้กลับมาพร้อมกับทริปล่าสุดที่ไปไกลถึงต่างแดนแบบงงๆ ฮะ
คืองี้ มีความจำเป็นต้องติดตามเขาไปประเทศที่ไม่ได้อยู่ในหัวเลยมา นั่นก็คือ แท่น แทน แท๊นนนน "มาเก๊า" นั่นเอง แต่เดี๋ยว มาเก๊าไม่ใช่ประเทศ แต่เป็นเกาะหนึ่งของจีน ชื่อเต็มของนังคือ "เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน" นังเกิดมาเป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง ที่หาข้อมูลแล้วงงมาก 5555 เอาเป็นว่าเล่าคร่าวๆ ตามประสาดิฉันละกันนะ รู้ว่านังเป็นเกาะ ได้รับอารยธรรมจากโปรตุเกส ถ้าพูดถึงมาเก๊า ในหัวเค้านี่มีแต่ casino แต่เอาเข้าจริง มันก็มีเยอะอยู่นา ไอ้เกาะเล็กๆ เนี่ย เข้าเรื่องกัน
- เราเดินทางไป-กลับด้วย Air Macau ใช้เวลา ตอนไปเกือบสามชั่วโมง ตอนกลับ สามชั่วโมงกว่า ก็งงเหมือนกันทำไมไม่เท่ากัน เวลาของมาเก๊าเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
- พักที่ Sheraton Grand Macau ย่าน Cotai ได้มีวาสนาพักโรงแรมระดับห้าดาวอย่างหรู แต่ของแพงมาก ตามฐานะเขานั่นล่ะ ส่วนเราได้แค่น้ำฟรีจากห้องพักฮะ 555
- เงินใช้เงินดอลล์ล่าฮ่องกงได้ที่มาเก๊า เรทตอนนั้น 4.44 บาทไทย
- การเดินทางส่วนมากใช้รถบัส ถ้าเดินทางไปโรงแรมจะมีบัสฟรีจากสนามบิน ตามที่ต่างๆ ก็มีบัสฟรีฮะ แต่ต้องนั่งเป็น ส่วนมากนั่งแทกซี่ จะมีบางจุดที่แท็กซี่หายากมากก ให้ศึกษาเรื่องบัสสาธารณะไปด้วย
- เป็นเมืองที่ต้องใส่รองเท้าสำหรับเดินหรือวิ่งไปเลย เดินมากจริง
เริ่มได้ .. วันแรกบนเครื่องบิน มองเมฆ มองทะเล เผื่อจะเจอปลาวาฬ
ซูมสนามบินมาจากห้องพัก ชั้น 16
เดินทางถึง ผ่าน ตม. แล้วก็หอบกันไปขึ้นบัสฟรีไปโรงแรม คือพอไปถึงที่ เมืองเขาแบบโอ้โหมากกกก เราพักกันที่ย่าน Cotai เรียกได้ว่า เป็นย่านคนรวยแหล่ะ เพราะที่นี่เป็นแหล่ง Casino แล้วก็พวกชอปปิ้งแบรนด์ ดิฉันได้เพียงเก็บภาพมาฝาก ภาพมันจะปนๆ กันนะ มันคือระแวกเดียวกัน "รวมภาพย่าน Casino"
- พยายามจะหาภาพแบบกว้างๆ ให้เห็นความอลังการ มาดูภาพกลางคืนบ้าง
คือ มันเวอร์วังมาก "รวมภาพกลางคืน"
อ่อ แถวนี้ คือทุกตึกจะมี casino โรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งชอปปิ้ง แต่แหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็น Venetian (เวเนเชี่ยน) ซึ่งใหญ่จริง และแพงทุกอย่าง 5555 นี่จับได้แค่ Uniqlo ฮะ ถูกกว่าไทยเยอะอยู่ แล้วก็พวกรองเท้าผ้าใบบางรุ่น นอกนั้น ไม่รู้ รู้แค่ว่าแพง 5555
ในเวเนเชียนมีจุดถ่ายรูปที่นิยมอีกจุดหนึ่ง เรียกว่าเป็น "เวนิสแห่งเอเชีย" แต่ตอนไปคือ เรือไม่พายแล้ว คงเพราะค่ำแล้ว และไม่ใช่วันหยุด แต่ว้าวตรงที่ อยู่ตรงนั้นแล้วไม่รู้เวลาเลยฮะ ท้องฟ้าเหมือนจริงมาก สว่างตลอด ประมาณ 3-4 ทุ่มได้ ในภาพ
เอาภาพจากเวเนเชียนมาฝากอีกภาพ จุดนี้เป็นจุดที่เดินตามหา แต่หาเองไม่เจอ 55555
จบที่ย่านคาสิโน ไปต่อที่ เซนาโด สแควร์ – Senado Square จตุรัสใจกลางเมืองมาเก๊า รายล้อมไปด้วยตึกและโบสถ์สไตล์ยุโรปที่ได้อิทธิพลมาจากโปรตุเกส มีร้านค้าเปิดกันอยู่ทั้งสองข้างทาง คนเหรอ เยอะมากเช่นกัน แดดก็ร้อนมาก มาที่นี่ต้องกินทาร์ตไข่ฮะ ร้านที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าเคยเสด็จ แล้วก็ต้องชิมร้านดังที่ตามรีวิวกันมา ด้วยบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง 7 ชั่วรุ่น
ดูอัลบั้มเต็มได้ที่นี่ฮะ Senado Square อ่อ ภาพเซทหลังๆ จะมีรอยแตกที่ภาพ เกิดเพราะกล้องดิฉันตกค่ะ 5555 แต่เป็นตรงฟิลเตอร์ แต่ก็ไม่สามารถจะแกะออกได้เนื่องจากเลนส์บุบ เลยถ่ายมาทั้งแบบนั้น จตุรัส senedo ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO’s World Heritage ด้วยอารยธรรมโปรตุเกสสไตล์ดั้งเดิม แล้วก็มาเก๊าได้เป็น City Of Gastonomy เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโกด้วยทาร์ตไข่ของนัง
ระแวกเดียวกันนั้น เดินขึ้นไปเป็น ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล Ruins of St. Paul’s คือมีแต่ประตู แรกเข้าใจว่าเขาสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่เเพื่อนบอกว่า เป็นของจริง แต่เหลือเท่านั้น เออเหลือเท่านั้นจริงๆ ฮะ อัลบั้มเต็ม โบสถ์เซนต์ปอล
เลยโบสถ์ขึ้นไปเป็นมิวเซียมของมาเก๊า แต่ไม่ได้เข้าไปในมิวเซียม แค่เดินถ่ายรูปข้างนอก ถ่ายฟิลล์มุมเมืองจากที่สูงอะไรงี้ คือ ร้อนมาก และเดินขึ้นเหนื่อยพอตัว เลยนั่งหอบกันอยู่ข้างนอก ภาพเต็มที่นี่ฮะ MUSEU De Macau
ช่วงบ่าย ข้ามฝั่งไปหมู่บ้านไทปา หมู่บ้านที่ถือได้ว่าเป็น Street Food และเป็น Street Art ไปด้วยเลยฮะ มีของอร่อยๆ เยอะตามที่รีวิว และมุมถ่ายรูปเยอะ คือในรีวีว มันดีมาก แต่พอเจอเข้าจริง คือ มันดีตามเขาว่าละฮะ ติดแค่ว่า คนเยอะ มากกกกกกกกกก มาก มาก มาก 555 แต่ก็นะ ได้ไปต่อแถวยืนซื้อชา แล้วก็ได้กินเนื้อตุ๋น ทั้งสองเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ถือว่า คุ้ม ดิฉันเอาภาพมวลมหาประชาชนมาให้ชมก่อน ดิฉันต้องไปเดินงงอยู่คนเดียวในนั้น
นี่คือโฉมหน้าชาในตำนานที่มีคนต่อแถวยาวมาก ร้านมีพวกแซนวิสไข่ กับเบอร์เกอร์ด้วย แต่ไม่ได้จัดมา เอาแค่ชามาด้วยราคา 28 เหรียญ คือ รสชาดสำหรับคนชอบหวานน้อยคือกู๊ดแหล่ะ เราว่ามันโอเค
อันนี้เด็ดฮะ ต้องขอบคุณเพื่อนในทีมที่ไปยืนต่อแถวซื้อมาให้ชิม คือมันอร่อยมาก ไม่มีกลิ่นเหม็นของเนื้อเลย แล้วคือ เนื้อนี้นุ่ม ยกให้เป็นนัมเบอร์วันในทริปนี้ฮะ
เก็บภาพหมู่บ้านไทปามาฝากด้วย เยอะอยู่ ตามนี้เลยฮะ Taipa Village ที่นี่มีร้านอาหารไทยด้วยฮะ เสียดายไม่ได้ชิม
วันรุ่งขึ้น ก่อนบินกลับพากันกะเตงกับเพื่อน 2 คน ไปสักวัดนึงก่อน ไม่ใช่อะไรนะ มาเก๊าไม่มีวัดเลย 555 เลือกไปวัดอาม่า ตามที่เขารีวิวกัน เป็นการเดินทางที่ได้รสชาติมากที่สุดในทริปนี้ แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็เถอะ 555 คือ ตอนไปคือง่ายแหล่ะ แท็กซี่ไป แต่ตอนกลับคือ ชิบหายมาก 5555 แท็กซี่ไม่มีว่าง ไม่มีจุดรอแท็กซี่ Map ไม่ขึ้นพิกัด ละคือ กุจะกลับกันยังไง พากันเดินไปเดินมา เจ็บเท้าสุดๆ เนื่องจากใส่รองเท้าผิดประเภท เดินลากกันสี่วัน เท้าพองฮะ วันสุดท้ายยังพากันเดินอีก คือ ยืนรอรถกันอย่างไร้จุดหมาย จนสุดท้ายตัดสินใจขึ้นรถเมล์ แบบรถเมล์แน่นมากกกก นึกถึงกรุงเทพเลยเชียว เสียค่ารถเมล์กันคนละ 6 เหรียญ ตอนมาแทกซี่ 80 เหรียญ เออประหยัดเยอะเลย รถเมล์ก็พาวนไป วนไป ไปรื่อย 555 ยืนอ่านป้ายไปเรื่อย แต่ก็ถึงในที่สุด ได้อรรรถเต็มๆ พร้อมกับข้อคิดหลายอย่าง รูปเต็มที่นี่ฮะ A-Ma Temple
สุดท้ายแล้วววววววว ใครอ่านมาถึงตรงนี้อยากบอกว่า ขอบพระคุณมาก อ่านมาได้ยังไง 55555 สุดท้ายแล้วขอกล่าวเรื่องอาหารการกินของที่นี่สักหน่อย คือ มีหลายเชื้อชาติมาก มีให้เลือกกินได้กันตามชอบ ไม่ว่าเอเชีย หรือตะวันตก ส่วนอาหารเมืองเข้าก็ไม่ขี้เหร่นะ ไม่จืดเหมือนที่คิด ออกไปทางเค็มนู่น 5555 ซีอิ๊วเขาอร่อย เส้นบะหมี่เส้นเล็กแต่ก็อร่อย มีรีวิวอาหารการกินในเพจด้วย กดไปตามนี้เลยฮะ " Chinese food ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน"
ขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับการเยี่ยมชม จริงๆ มีวันนึงไปฮ่องกงมา แต่ไม่มีอะไรหวือหวานอกจากเดิน แต่พอจะเก็บภาพมาฝากได้ 2 ชุด ตามนี้ฮะ "วัดกังหัน ฮ่องกง" และ "4 ชั่วโมงในฮ่องกง"
ไว้ดิฉันขยันเล่าแล้วเราพบกันใหม่นะ บายค่ะ
เที่ยวให้ได้ "เรื่อง"
วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.56 น.