เส้นทาง อ.เมืองน่าน - ปัว - ดอยภูคา
วันแรก ณ น่านนั่งรถทัวร์ไปน่าน หลับตลอดทาง ตื่นมาอีกทีเห็นป้ายเวียงสา ประตูสู่น่าน ตาโตเลยจ้ะ มาถึงในเมือง 5 โมงเย็น พี่ขายตั๋วบอกจากพิษณุโลกบอกว่าไปทันสองแถวรอบสุดท้าย ใช่ค่ะทัน แต่สรุปไม่ทันเพราะไปเข้าห้องน้ำ อุส่าบอกพี่คนขับรถไว้ว่าไปห้องน้ำ พอออกมา ป๊าดด หาย5555
ก็เลยต้องมองหาที่พัก เลื่อนไปเลื่อนมา เจอ Paknap Hostel เข้าไปครั้งแรก พี่เค้าเดินไวมาเปิดประตูให้ ในใจคิดทำไมใจดีจัง แล้วมารู้ทีหลังว่า มันต้องเปิดจากข้างใน555 (แต่มันมีกริ่งนะ) ปลอดภัยระดับ 10
ข้างในสวยมากเป็นสัดส่วนและรู้สึกปลอดภัย ทุกอย่างดูดีงดงามเกินราคา มีจักรยานให้ยืมด้วยเก็บของเสร็จ รีบไปปั่นก่อนมืด ตั้งหลักไปที่ริมแม่น้ำ
ปั่นไปเรื่อยๆ เจอสะพานศรีบุญเรือง ดูวิวน่านน้ำแดง และวิวฝนตกบนเขา
ยืนถ่ายอยู่นาน เหลือบไปเห็นคนมาวิ่ง เลยไปดูว่ามีที่ตรงไหนให้นั่งดูวิวอีกก็ไปเจอ บ่อบำบัดน้ำเสีย วิวดีมาก แล้วก็ได้เจอป้าปุ้
คุณป้ามาเดินออกกำลังกายกับลูกชายและฝนตกค่ะ เราหลบฝนในศาลาเล็กๆ กับชาวน่านอีกเกือบ 10 คน บทสนทนานุ่มหู ละมุนมากๆกับสำเนียงภาษา เนิบๆ
กลับมาเจอพี่อีกคนมาเปิดตูให้ไม่ใช่คนเดิม เลยรู้ว่าที่นี่มีเจ้าของ 5 คนและได้คุยกันนิดหน่อย
ความตั้งใจของพี่ๆที่นี่เจ๋งมาก อยากหาอะไรทำร่วมกัน และทำที่พักนี้ขึ้นมา คิดถึงนักท่องเที่ยวอย่างเรา เตียงนอนสบายมากกก น้ำแรงสุด ที่นี่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากอาบน้ำ นอน หมดวัน
วันที่สองตื่นมาจากพักแนป ฝนตก แต่ใจสู้ไปรอสองแถว เมื่อวานโทรถามเค้าบอก 7 โมง ไอเราก็ไปก่อน 6.50 น. ไม่เห็นมา ใจแป้วแล้ว หรือจะตกรถอีก 5555 นั่งก็แล้ว ยืนก็แล้ว 7.15 รถมา โล่งอกมาก
ทีนี้มาอีก 3 คันไปเลย สะใจนั่งไปปัว ลูกค้าทั้งหมด 3 คน ฝนตก ไอฝนสาดนิดหน่อย วิวข้างสวยตลอดทาง กล้องเปียกหมด55 เป๋าก็เปียก จนมาถึงปัว เช่ามอไซค์ ตื่นเต้นมาก เก็บอาการว่าขับเก่งน้อย555 พี่เค้าเอากุญแจสำรองใส่ใต้เบาะเผื่อให้อีกอัน ถ้าต้องใช้ก็งัดเบาะเอานะ 555
เอาหละโจทย์ยากคือ ต้องกลับรถถนนใหญ่ ว้าวซ่าาา วิวสวยแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ แต่ก็ทำได้ดี เพราะไม่มีรถเลยทีนี้ไปตามทาง ทางสบายๆอารมณ์ขับในซอยบ้านลัดเลาะเบาๆ วิวสวยมากตั้งแต่ในปัวเลย
จอดถ่ายแต่เนินๆ สวยจนจะร้องไห้ แล้วก็ไปเจอป้ายหมู่บ้าน ชื่อว่า บ้านร้องแงแก ฉันร้องแงจริงๆตอนเข้ามา 55555 ตรงปก
ไปเรื่อยๆปลายทางคือ ภูคา ไปสักครึ่งนึงของปัว สะปัน ดูทรงก่อน แวะเยอะมาก
ขนตากระพรือเลยไปเจอวิวสวยที่คาเฟ่ ระหว่างทาง แต่คาเฟ่ปิด โอเค คาเฟ่นี้เป็นของฉัน นี่เป็นการขี่มอไซค์ครั้งแรกขึ้นเขานะ ตื่นเต้นมากต้องแยกประสาทดีๆ วิวในชอบดึงลูกกะตาไปมองวู้ว ว้าวในใจได้แค่แรกๆ หลังๆเริ่มเปล่งเสียงออกมา 555555
และวันนี้เราก็ตัดสินใจพักที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา - Doi Phu Kha National Park
คิดว่าน่าจะเซฟสุดทั้งความปลอดภัย และเงินด้วย ที่สำคัญบริเวณกว้างขวาง และวิวสวยมากกกกกกกก (กอไก่ล้านตัว) วิ่งเล่นเพลินเลย
ความสบายใจของเราในวัยนี้ ก็คือได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ และดูตะวันตกดินแบบสบายใจ และที่น่าน ให้เราได้
วันที่สาม ตื่นมาดูหมอก หมู่บ้านในหุบเขานั่นยังสวยงามและดึงดุดสวยตา จนมองหาเส้นทางไป คิดเล่นๆนะ
แต่บ่อเกลือที่อยากไปก็ไม่ถึงสักที เสียงเจี๊ยวจ๊าวเหล่าแม่บ้านมารวมตัวกัน เอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปทำงาน เจอพี่ที่ประจำบ้านเกวียนถามว่ามาคนเดียวหรอ เพราะทั้งอุทยาน มีเราคนเดียว บ้านเกวียนเป็นสิบก็มีแต่เรา และคำถามนี่ก็ตามมา > ฝันเห็นเลขไหม 555555
พี่เค้าอยู่บ้านเตย บ้านชนเผ่าที่เรายืนมองอยู่วันสองวันนี้ มาจากตรงนั้นเพื่อทำงานที่อุทยานใช้เวลามา 40 นาที
มาจากดอยภูคา จะไปสะปัน แวะชมวิว 1715หมอกแบบโอ้ม้ายยยก้อดดด
สมกับเป็นจุดสูงสุด ขาวโบ๊ะ ไร้เขา 5555 แล้วก็ได้เจอน้องๆแก๊งนึง น่ารักมากเลยขอถ่ายรูปหน่อย น้องมาจากปัว ขอแม่มาแล้วน้องบอก แล้วก็มีอีกหลากหลายเลย
ทั้งผู้คนที่มากับครอบครัวเช่ารถตู้มา สายแว๊น สายคู่รัก น่ารักและอบอุ่นท่ามกลางหมอกหนาและหนาวนี้สุดๆ แต่...เราก็ยังกินไอติมนะ มันน่ากิน ลุงมาจากปัว ร้านเดียวบนยอดดอยเลย ท่ามกลางหมอกขาว ผู้คนหลากหลายวัย มาสร้างความสดใสให้ตรงนี้มีสีสันขึ้นมาก ๆ แล้วเจอกันต่อใน Ep.ต่อไปใน กิ๊บเจอน่าน
#กิ๊บเจอนี่มา #KIBjourney #น่าน #น่านหน้าฝน #เที่ยว #เที่ยวคนเดียว #แบกเป้เที่ยว #แบกเป้เที่ยวคนเดียว #แบกเป้เที่ยวเหนือ #ดอยภูคา #ดอยภูคา1715 #ดอยภูคาน่าน #คนเดียวก็เที่ยวได้
กิ๊บเจอนี่มา kib's journey
วันพฤหัสที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.03 น.