ทำเพจมา 8 ปี แต่นี่คือทริปกระบี่ ครั้งแรกของปิง
ในที่สุดเราก็ได้มา จังหวัดที่มีทะเลสวยติดอันดับโลก!
และจากที่รีสอร์ทที่เราพัก สามารถเดินเที่ยวได้
ถึง 3 หาดเลย! Beach Lovers ทั้งหลาย ไม่ควรพลาด <3
จะไปเที่ยว ก็อย่าลืมซื้อประกัน
การเดินทางเผื่อไว้น้า ประกันการเดินทาง
ในประเทศโดย 𝗠𝗦𝗜𝗚 𝗧𝗿𝗶𝗽 𝗘𝗮𝘀𝘆 𝗣𝗹𝘂𝘀
เบี้ยประกันภัย เริ่มต้น แค่ 180 บาท
- คุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า
- คุ้มครองความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรคอาหารเป็นพิษ
พิกัด : https://atth.me/0027jn001c4k
ทางรีสอร์ทมี โปรพิเศษ ถึง 31 ต.ค. 66 นะคะ
เข้าพักอย่างน้อย 2 คืน ต่อเนื่อง เริ่มต้น 11,900 บ. / คืน / ห้อง
– ราคานี้รวมอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน
– ฟรีบริการรถและเรือ รับ/ส่ง สนามบินกระบี่
– เครดิต 1,000 บาท / คืน / ห้อง สำหรับใช้ในรีสอร์ท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : https://www.facebook.com/rayavadeekrabithailand
โทร : 02 301 1861
** ขอย้ำว่า ราคานี้ คือ คุ้มไม่ไหวจริงๆ
เพราะประสบการณ์ที่เราได้ มันสุดยอดมากๆค่ะ
อ่านในรีวิวนี้ได้เลย เรารีวิวให้ละเอียดมากๆ
เพราะเราประทับใจจริงๆค่ะ **
ไปเที่ยวภาคใต้ทีไร ปิงบินกับแอร์เอเชียตลอด
เพราะสะดวก ตรงเวลา และมีเที่ยวบิ
ครอบคลุมสุดในไทยและมากสุดในภาคใต้ค่ะ <3
ที่นั่งกว้าง นั่งสบาย ^^
ตอนนี้เขามีเส้นทางบินตรง ทั้งจากสุวรรณภูมิ
ดอนเมือง และออกจากเชียงใหม่ด้วยน้า
จองตั๋วได้ที่ www.airasia.com และ
AirAsia Superapp ค่ะ
เราใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมากระบี่
ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พอมาถึงสนามบิน
กระบี่แล้ว ก็จะมีพนักงานจากทาง 𝐑𝐚𝐲𝐚𝐯𝐚𝐝𝐞𝐞
มารับขึ้นรถตู้ ไปที่ท่าเรือค่ะ ใช้เวลาประมาณ
20 – 25 นาที และจากท่าเรือ ไปรีสอร์ท
ก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเช่นกันค่ะ
แค่ลงเรือมาก็ประทับใจแล้ว <//<
ข้างในสวยมากค่ะ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม
มาถึงแล้วค่า! ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆก่อนว่า 𝐑𝐚𝐲𝐚𝐯𝐚𝐝𝐞𝐞
ตั้งอยู่บริเวณแหลมพระนางที่ทอดยาวสู่ทะเล
อันดามัน ริมอุทยานแห่งชาติทางทะเล
จังหวัดกระบี่ค่ะ ซึ่งท่าที่เรือมาจอดจะเป็นอ่าวน้ำเมา
และเราสามารถเดินไปหาดถ้ำพระนาง กับ หาดไร่เลย์ ได้เลย : )
มาถึงแล้ว พนักงานก็จะนำทางเรา
ไปที่ lobby และอธิบายรายละเอียด
ในการเข้าพัก พร้อมกับแนะนำเรื่อง
กิจกรรมต่างๆให้เราฟังค่ะ : D
Welcome drink และผ้าเย็น
เติมความสดชื่นกันหน่อยยยย ^^
รอบนี้ปิงพักห้อง Deluxe Pavilion ค่ะ
เป็นวิลล่า 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น
และมินิบาร์ ชั้นบนเป็นห้องนอนใหญ่
และห้องน้ำค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ
ชั้นล่างมีโซฟากว้าง เหมาะจะนอนดูหนังมากๆค่ะ มาพร้อมห้องน้ำขนาดเล็ก
เตียงคิงไซส์ มาพร้อมตู้เสื้อผ้า TV
มุมทำงาน มุมแต่งหน้า และ ห้องน้ำในตัวค่ะ
ห้องน้ำมีทั้ง ฝักบัวและอ่างค่ะ ส่วนตัวชอบยาสระผม ครีมนวด
และครีมอาบน้ำของเขามาก! กลิ่นหอมแบบธรรมชาติ <3
วันแรกเรามาถึงก็เย็นแล้ว
เลยยังไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรค่ะ
ไปประเดิมที่ ห้องอาหาร “ครัวพระนาง” ก่อนเลย
เสิร์ฟอาหารไทย อาหารใต้ และเครื่องดื่มมากมาย
เปิด 18.00 น. – 23.00 น. ค่ะ
ห้องอาหารมี 2 ชั้นค่ะ และมีทั้งโซน indoor และ outdoor เลย
คนขี้ร้อนแบบเรา ก็ต้องนั่งในห้องแอร์ค่ะ
ข้อดีอีกอย่างคือ ห้องนี้มีแค่ 2 โต๊ะ
เพิ่มความเป็นส่วนตัวไปอีกกกก!
หน้าตาคนพร้อมกินค่ะ : D
ฝากติดตาม IG ส่วนตัวของปิงด้วยน้า
ชื่อ pingpitchayaa ( a 2 ตัว ค่ะ )
หรือจะคลิกลิงก์นี้ก็ได้ค่ะ
https://www.instagram.com/pingpitchayaa/
จานซ้ายมือ เป็นของทานเล่นที่เขาเสิร์ฟ
ให้เราฟรีนะคะ ไม่มีอยู่บนเมนูและจะ
เปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ วันที่เราทานเป็น
ข้าวแต๋นกับข้าวเกรียบ ให้จิ้มทานกับ Dip
มะขามและเต้าหู้ค่ะ รสชาติเค็มๆ นัวๆ อร่อยดีค่ะ
จานบนเป็นยำถั่วพลู ซึ่งเราแพ้กุ้ง
เขาเลยเสิร์ฟกุ้งแยกมาให้แฟนเราค่ะ
จานนี้อร่อยมากค่ะ รสชาติเข้มข้น : p
จานล่างเป็นแกงเผ็ดเป็ดย่างค่ะ
เผ็ดกำลังดี เป็ดเนื้อดีม๊ากกกกก
และให้เนื้อแบบไม่หวงค่ะ <3
จานบน คือ ปลาช่อนทะเลทอดซีอิ๊ว
เสิร์ฟคู่กับยำมะม่วงค่ะ จานนี้คือ มงลง!
เนื้อปลาสุกพอดี นุ่มลิ้นมากกก แต่หนังยังกรอบ
กินไป นั่งพูด “อร่อยเกิ๊น” กันไป อยู่ 2 คน :”D
ปิดท้ายด้วยจานล่าง เป็นของหวานค่ะ
ไอศกรีมพุดดิ้งข้าวหอมมะลิ
มันหอมและหวานไม่เหมือนกับไอศกรีม
ที่เคยๆกินมา มีผลไม้มาตัดเลี่ยนด้วย คือเลิฟ <3
มื้อเย็น ทำใจชั้นละลายไปแล้ว
มาดูมื้อเช้ากันบ้าง อาหารเช้าเราทาน
กันที่อีกห้องอาหารนึงนะคะ ชื่อ “Raya Dining” ค่ะ
มีที่นั่งทั้ง indoor และ outdoor ค่า
อาหารเช้าทานได้ตั้งแต่ 7.00 – 10.30 น. ค่ะ
อาหารเช้าที่นี่มีทั้ง Buffet และ a la carte ค่ะ
ตัว Buffet จะมีเบเกอรี่ สลัด ซีเรียล โยเกิร์ต
ผลไม้ ฯลฯ ค่ะ ส่วน a la carte ก็มีทั้งอาหารไทย
อาหารเอเชี่ยน และอาหารตะวันตก มีทั้งคาว หวานเลย
สิ่งที่ปิงสั่งมาลองคือ…
– Full English / อาหารเช้าแบบอังกฤษ
– Steak & Egg Skillet / เนื้อกระทะร้อนไข่ดาว
– French Toast ซึ่งอร่อยหมดเลยยยย
จะบอกว่า คนนึง สั่งเมนู a la carte ได้ 2 อย่างนะ
ใครพักหลายวัน ก็สั่งหลายๆอย่างมาลองค่ะ
ส่วนปิง อีกวันนึง ลองก๋วยเตี๋ยวเสฉวน กับ
สลัดสมุนไพรไทยอกไก่ย่าง น้ำจิ้มแจ่ว ไป
ถูกใจไม่ไหววววว อยากกลับไปกินอี๊กกก >//<
กินอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินย่อยค่ะ
ในรีสอร์ทมีมุมถ่ายรูปเยอะมากกก
เดินให้ทั่วไปเลย โดยเฉพาะมุมต้นมะพร้าวริมสระว่ายน้ำ
นี่คือต้องไปปป! ถ่ายรูปสวยแกรรร : )
สระว่ายน้ำที่นี่คือปังไม่ไหว!!
ใหญ่มาก และ ติดกับหาดไร่เลย์เลย
เล่นน้ำสระเสร็จ เล่นน้ำทะเลต่อได้เลยค่ะ <3
ในที่สุดก็ได้มา หาดไร่เลย์ หาดสวยของกระบี่ ^^
ใครอยากไป day trip เที่ยวเกาะต่างๆ
ก็ติดต่อเรือ ตกลงราคากัน หน้าหาดได้เลย
ส่วนเรา ขอพักผ่อนอยู่ที่นี่แหละ อิอิ
เกือบลืมบอกไป! ใครไม่อยากเดิน
ก็โทรไปแจ้งที่ lobby ให้ขับรถมา
รับ-ส่ง เราตามจุดต่างๆในรีสอร์ทได้ค่ะ
ตากแดดกันจนเหนื่อย เราขอมาพัก
ในห้องแอร์แป๊ป! และนี่คือ ห้องสมุด
และ Rayavadee Boutique ค่ะ
ตัวห้องสมุดมีหนังสือ นิตยสารมากมาย
เราสามารถ scan QR code ดูหนังได้ด้วย
หรือจะใช้คอมพิวเตอร์ในห้องสมุดก็ได้ค่ะ
ส่วน Rayavadee Boutique เป็นร้าน
ขายโบราณ ของสะสม ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า
และเครื่องประดับ ค่ะ เข้าไปช้อปกันได้ : )
ช่วงเย็น เรามาเดินเล่นที่หาดถ้ำพระนางค่ะ
เพราะพนักงานที่รีสอร์ทบอกว่าหาดนี้
พระอาทิตย์ตกสวยมาก เราก็คือ มารอดูเลย ^^
จากรีสอร์ทเดินลงหาดมา เดินไปทางซ้าย ก็จะเจอถ้ำพระนางค่ะ…
เกาะเล็กๆตรงนี้ ถ้าน้ำลง
เราสามารถเดินข้ามไปได้เลยค่ะ
แต่บนเกาะก็ไม่มีอะไรนะ ไปถ่ายรูปเฉยๆ ^^
จากรีสอร์ทเดินลงหาดมา
เดินไปทางขวา ก็จะเจอถ้ำค้างคาวค่ะ
ใครอยากพายคายัค ก็ขอคายัค
ไม้พาย และเสื้อชูชีพ กับทางรีสอร์ทได้เลย
ไม่ต้องไปเสียเงินเช่าเจ้าอื่นนะ : D
นี่คือ ห้องอาหาร The Grotto ค่ะ
เป็นส่วนหนึ่งของทาง 𝐑𝐚𝐲𝐚𝐯𝐚𝐝𝐞𝐞
แทรกตัวอยู่ภายใต้อ้อมกอดของภูเขาหินปูน
บนหาดพระนาง บรรยากาศโรแมนติกสุดๆค่ะ
มื้อกลางวัน เปิดบริการ 12.00 น. – 16.00 น.
เมนู a la carte
มื้อเย็น เปิดบริการ 18.00 น. – 21.00 น.
อาหารชุด ‘Twilight Dinner Set Menu’
ใครสนใจทานที่นี่แนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ
คนมารอดูพระอาทิตย์ตกที่หาดนี้เพียบเลย
ส่วนตัว ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆแบบนี้
มานานแล้วค่ะ วันนี้คือ ใจฟูเว่อร์ <3
เช้าวันกลับเราไปเดินเล่นอ่าวน้ำเมา
อ่าวที่เรือของรีสอร์ทมาจอดส่งเราค่ะ
อ่าวนี้ถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับหาดไร่เลย์
และหาดถ้ำพระนาง แต่น้ำก็ใส เห็นปลาเลย มาว่ายน้ำได้ค่ะ
ก่อนกลับ ขอจัด สปาซะหน่อย >//<
เขามีบริการตั้งแต่นวดไทย นวดน้ำมัน
นวดประคบ นวดหน้า ไปจนถึงขัดตัว
พอกผิว ทำผม ทำเล็บ ฯลฯ ใครสนวจก็
เข้าไปดูแพ๊คเกจต่างๆได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ https://www.rayavadee.com/th/spa.php
รอบนี้เราเลือกเป็น REVITALIZING MASSAGE
75 นาทีค่ะ เป็นการนวดโดยอาศัยแรงผ่ามือและแรงกด
จากปลายนิ้วโป้ง ช่วยบรรเทาอาการปวดหรือเกร็งของ
กล้ามเนื้อและไขข้อ บรรยากาศในห้องเต็มสิบ!
นวดเสร็จ หายปวด ตัวเบา เหมือนเกิดใหม่ มีจริงค่ะ : D
จบแล้ว กับทริปพักผ่อน 3 วัน 2 คืน ที่ 𝐑𝐚𝐲𝐚𝐯𝐚𝐝𝐞𝐞
ประทับใจทุกอย่างเลย ทั้งบรรยากาศ
กิจกรรม บริการ และอาหาร เป็นทริปที่ทำให้อยาก
กลับไปกระบี่อีก! บางคนอาจจะคิดว่า ราคาคืนละหมื่น
มันแพง แต่ปิงอยากบอกว่า เอาจริง หารกัน เหลือคนละ
5,XXX – 6,XXX บ. แล้วได้ประสบการณ์แบบนี้
มันก็คุ้มนะ พักผ่อนแบบให้รางวัลตัวเอง นานๆที ได้อยู่
และเราว่าที่นี่ คือ ช่วย Recharge คุณได้แน่นอน! : )
สุดท้าย ถ้าชอบทริปชิลล์ๆแบบนี้
อย่าลืมกดติดตาม 𝐁𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐎𝐮𝐭 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞
ครบทุกช่องทางด้วยน้า ^^
https://linktr.ee/blissoutthere
Bliss Out There
วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 21.39 น.