ทริปนี้จะพาไปเที่ยวเชียงใหม่ เลือกไปแม่แมะ และ แม่แตง แบบฉบับเช่ามอเตอร์ไซด์ขับ ไปเดือนกันยายน ยังคงเป็นหน้าฝนอยู่ ก่อนไปก็เสียว ๆ เหมือนกัน ว่าจะรอดไหม เสื้อผ้าจะเปียกไหม รถจะขับได้ไหม แล้วมาดูกัน
ทริปนี้ก็เหมือนเดิม จองตั๋ว 0 บาทกับสายการบินแอร์เอชียเจ้าเดิม เจ้าประจำ และโชคดีก็เป็นของเราอีกแล้วไฟลท์ยกเลิกเลยเลื่อนวันมาเป็น ส อ จ อิ ๆ
ไปดอนเมืองรอบนี้ เราใช้บริการจอดรถกับ ที่จอดรถ.com ประหยัดกว่าจอดที่สนามบิน ก็สะดวกดีนะ ไม่ต้องวนหาที่จอดรถ และไม่ต้องเดินไกลด้วย มีบริการรถรับ-ส่ง ถือเป็นทางเลือกที่ดีเลย เพราะวันเดินทางจะมี จนท.โทรถามตลอด ถึงไหนแล้ว จะถึงกี่โมง 55 ดี ๆ เป็นตัวช่วยถ้าเราลืมตื่น หรือลืมตั้งปลุกได้ ♥
23/9/23 ถึงสนามบินเชียงใหม่ ออกประตู 10 นั่งรถกอล์ฟ ไปรับรถที่จองไว้ เหมือนเดิม ถ้าเช่ามอเตอร์ไซด์ขับ เราจะใช้บริการกับไบกี้ เจ้าเดิมเจ้าประจำ มีบริการรับ-ส่งรถที่สนามบินได้เลย (เดี๋ยวนี้ไม่มี จนท.มาส่งรถนะ เค้าจะจอดรถไว้ เตรียมหมวก กุญแจ ไว้ให้เรา พอรับรถก็โอนเงิน 55 ก็สะดวกดี แต่อย่าลืมถ่ายรูป ร่องรอย รถไว้ด้วยหล่ะ เผื่อใช้เป็นหลักฐาน ปลอดภัยไว้ก่อน)
มื้อแรกที่มาเชียงใหม่ แน่นอน ต้องไปกินอาหารพื้นเมืองสิ ร้านนี้เค้าว่าเป็นร้านลับซะด้วยต้องไปลอง
ร้านขนมจีนป้าป้อม อยู่ตรงหน้าวัดพันแหวน เค้าเปิดมานานกว่า 20 ปี แล้วนะ
ให้มาเช้า ๆ เพราะเดี่ยวของจะหมด เพราะขายดีมาก ๆ (มาเช้า ๆ ปัาจะได้อารมย์ดีด้วย 55)
ขนมจีนน้ำเงี้ยวอร่อย ราคาแค่ 35 บาท เต็มจานเลย ตักผักได้ไม่อั้น (แต่ก็ตักได้ไม่เยอะ เพราะป้าใส่ขนมจีนกับน้ำยามาพูนจานแล้ว 55) ส่วนข้าวซอยเนื้อ จานละ 55 บาท ข้าวกั๊นจิ๊น หรือข้าวเงี้ยว 18 บาท อิ่มเลยแนะนำ
ท้องอิ่ม ต่อด้วยกาแฟ หาข้อมูลมา ว่าร้านไหน ทำ dirty อร่อย เลยมาเจอร้านนี้ เพราะไม่ไกล และเป็นทางผ่านด้วย จัดสิ รออะไร
แต่เค้าไม่มีที่จอดรถนะ ย้ำ ! เพราะร้านติดถนน ต้องหาที่จอดและเดินมาเอง ส่วนเราสบาย เพราะเป็นมอเตอร์ไซด์ จอดได้ไม่ลำบาก ร้านอยู่หน้าประตูสวนดอก ฝั่งในคูเมือง ร้านจะเป็นสไตล์มินิมอล สีขาว ๆ จิบกาแฟไป ชมวิวไป ฟิน (จะบอกว่าเราแวะมาจิบกาแฟ ทั้งขาไป และขากลับเลย อร่อยดี)
จากนั้นก็มุ่งหน้าไป อ. เชียงดาว ระหว่างทาง ก็ต้องมีแวะสักนิด เพื่อกำไรชีวิต
กาดเกรียงไกรมาหามิตร เป็นโรงงานที่ทำธุรกิจแปรรูปผัก-ผลไม้ ตั้งแต่ปี 2524 ปัจจุบันก็ยังเปิดอยู่ แต่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่ง ให้คนในชุมชนนำสินค้ามาขาย เพื่อสร้างรายได้ ไปดูกันว่าข้างในมีอะไร
ชั้นบนเป็นสวนญี่ปุ่น
เรียกความสดชื่นหน่อย
ที่นี่จะมีไหดองกระเทียมเก่าเยอะมาก
และมีร้านของฝาก เด่น ๆ จะเป็นกระเทียมโทนดอง เผื่อใครผ่านมา แวะมาจับจ่าย ซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากได้ค่ะ
ออกจากกาด ก็มุ่งหน้าไปที่พักของเรากัน พอผ่านอำเภอแม่แตง ช่วงนี้ ริมถนนจะเห็น สิ่งนี้ เยอะเลย ห้ามพลาดนะเพราะอร่อยมาก ... เงาะแม่แตง รสชาติจะคล้ายเงาะโรงเรียน แต่เปลือกจะหนากว่า แต่ขอบอกว่า หวาน กรอบ อร่อย และที่สำคัญ เนื้อแห้งดี เวลาแกะไม่มีน้ำพุ่งออกมา ชอบ ๆ ทริปนี้ จัดไปเบา ๆ 5 กิโล ♥
ระหว่างทางมาบ้านแม่แมะ ไม่ลำบาก รถทุกชนิดมาได้หมด เพราะที่พักจะห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 74 กิโล ขับแค่ 1.5-2 ชม. ก็ถึงแล้ว
แต่ช่วงขึ้น 8 กิโล ทางจะแคบ และโค้ง จะมีป้ายบอกให้เปิดกระจก และบีบแตรทุกโค้งค่ะ เพื่อความปลอดภัย ขับระมัดระวังกันนะคะ รับรองถึงอย่างปลอดภัยแน่นอน
คืนนี้เราจะนอนกันที่ บ้านต้นไม้แม่แมะ บอกไว้ก่อนว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ที่ดอยหลวงเชียงดาว นะ และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานฯ
ราคาที่พัก คิดเป็นหัวละ 850 บาท รวมอาหารเย็น+เช้า ส่วนที่พักจะมีหลายแบบ ก็เข้าไปดูใน เพจ ไม่ก็แชทถาม จนท. ขอดูภาพห้องพักได้ก่อนจ้า
เราโชคดี บ้านหลังใหญ่ ห้องวิว 1 ว่าง เลยจัดไป และก็ไม่ผิดหวัง เพราะวิวสวยจริง ๆ ค่ะ ♥
ห้องพักจะไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ แต่ห้องน้ำจะแยกออกไป แต่ไม่ต้องกลัวนะ เพราะเค้าจะมีกุญแจให้ห้องใครห้องมัน ใช้เสร็จก็ล็อค ดังนั้นจะไม่รวมกับใคร ส่วนตัวดี
กิจกรรมมีเดินป่า แต่เราไม่ดีกว่า ขอไปนอนนวด สบาย ๆ สัก 2 ชั่วโมงดีกว่า อิ ๆ
แผนที่ ท่องเที่ยว และที่พัก สนใจที่ไหน ก็ลองไปหาข้อมูลใน google ได้เลยค่ะ
นวดเสร็จ ก็เดินเล่น ที่พักแต่ละที่ ก็สวยแตกต่างกันไป น่าพักไปหมดเลย
เดินไปเรื่อย ๆ มาเจอที่พักอะไรนะ เปิดไฟสวยจัง ลองเดินไปดูสักหน่อย
สวยดี เดี่ยวพรุ่งนี้ ก่อนกลับเราจะมาดูอีกรอบ ตอนนี้ กลับไปทานข้าวเย็นก่อนนะ หิวแล้ว
ตกดึกจะมีก่อกองไฟ ถ้าได้ดื่ม ได้กิน ได้คุย กับเพื่อน ถ้ามาช่วงหน้าหนาว จะฟิน และดีกว่านี้มาก ๆ แต่เรามาเดือนนี้ไง ฝนก็ไม่ตก อากาศเลยไม่หนาวเท่าไหร่ ไว้แก้ตัวใหม่ ต้องมาหน้าหนาวเนอะ
เช้าแล้ว ไม่อยากตื่นเลย นอนฟังเสียงน้ำตก เสียงนกร้อง และหมอกยามเช้า ลอย บอกเลยว่าสุขสุด ๆ
มุมมหาชน สักหน่อย สวยจริงแหละ
อาหารเช้าจะเป็นข้าวต้ม ขนมปัง ไข่ลวก กาแฟ และขาดไม่ได้คือ เงาะแม่แตง ของโปรดเลย
ทานเสร็จก็นอนเล่น มองวิวไปเรื่อย ๆ ก็แลกกันเนอะ ถ้ามาหน้าหนาว คนจะเยอะ ก็จะไม่ส่วนตัวเหมือนมาหน้าฝน
สาย ๆ เช็คเอ้าท์ มาดูคลิป ดีกว่า ว่าวันแรก การเดินทางของเราเป็นไง เดี่ยวนี้ ถ่ายคลิป แล้วลงสะดวกดี
ลงคลิปไว้ใน TikTok กดดูได้เลยจ้า >>>> การเดินทางมา บ้านต้นไม้แม่แมะ
หลังจากเช็คเอ้าท์ เมื่อวานที่ติดไว้ ว่าเราแอบเห็นที่พัก ที่หนึ่งตอนไปเที่ยวน้ำตก สวยดี วันนี้เลยมาดูอีกรอบ
บ้านธารชีวี ราคาที่พัก 850 บาท รวมอาหารเย็น-เช้า เท่ากัน ใครไม่ได้พัก ก็สามารถมานั่งทานอาหารได้
บรรยากาศดี นั่งดื่มไป ชมวิวน้ำตกไป
เผื่อเป็นทางเลือก สำหรับใครที่อยากมาเที่ยว บ้านแม่แมะ เราถ่ายคลิป ไว้ 2 ที่ ลองเข้าไปดูใน TikTok ได้เลยค่ะ >>> บ้านธารชีวี
24/9/23 ออกจากบ้านแม่แมะ ย้อนกลับมาที่ อ.แม่แตง เพื่อจะไปยังที่พักของเรา คืนที่ 2 จริง ๆ ต้องย้อนกลับทางเดิม แต่ GPS เจ้ากรรมให้มาทางลัด แม่เจ้า ยิ่งขับยิ่งขึ้นเขา แถมทางไปก็ไม่มีบ้านคนเลย แถมสัญญาณโทรศัพท์ ก็ไม่มีอีก แต่ที่ตกใจมากกว่า ตอนรถขึ้นเขา มีงูเลื้อยตัดหน้ารถเรากระทันหัน หลบไม่ทัน เลยทับน้องไป ใจคอไม่ดีเลย เอาไงต่อดี ยิ่งขับยิ่งหลง โชคดีที่มีรถชาวบ้านผ่านมาเลยถามทาง กว่าจะหลุดออกจากเขามาได้ เล่นเอา หัวใจเต้นตุบ ๆ ภาวนาไปตลอดทาง เดี๋ยวจะทำบุญไปให้นะ น้องงู T_T
และก็มาถึงที่พักของเรา สเตย์ดอยโฮมสเตย์ ... ต้องดูดี ๆ เพราะมีเพจปลอมเยอะ ระวังโดนโกงหล่ะ
วันที่เราไป เหลือ 2 หลัง เป็นหลังที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ (วัยรุ่นชอบมา ตรงอ่างอาบน้ำเนี่ยแหละ)
ราคา 800 บาท หน้าฝน ถ้ารวมอาหารเช้าก็ 1000 บาท ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับวิวที่ได้
ไปถึงตอนบ่าย ก็สั่งอาหารจานด่วนมาทาน กับ พระเอกของทริป เงาะแม่แตง 55
และนั่งเล่น มองวิวไป เพลินมาก มอง ๆ ไปก็คล้าย ๆ ม่อนแจ่มนะว่าไป
ตอนเย็น ก็หมูกระทะ ชุดละ 450 บาท (จองล่วงหน้านะ)
มาหน้าฝน ฝนก็ไม่ยอมตก อากาศเลยไม่หนาวเลย ถ้าหนาว ๆ ได้หมูกระทะไป จะยิ่งอร่อย
25/9/23 เช้าอันสดใส กับกาแฟ สักแก้ว (อือ ชอบที่นี่ ตรงมีไดร์เป่าผมให้ด้วยอ่ะ ห้องน้ำ ก็น้ำแรงดี)
และอาหารเช้ามาเสริฟ อยู่ที่นี่ แทบไม่ต้องเดินไปไหนเลย นอกจากเดินไปเปิดประตู เมื่อน้อง ๆ มาเรียก
เชื่อไหมว่าเราอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ บ่าย 3 จนถึง 11 โมง ของอีกวัน นั่ง ๆ นอน ๆ เล่นเน็ต มองวิว ไม่เบื่อเลย แถม ที่พัก ตอนเช้าไม่โดนแดดด้วย เรามองไปที่อื่นแดดเปรี้ยง ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีกนะ ♥
มีอัดคลิป การเดินทางมาที่พัก ตามไปดูกันจ้า >>> stay Doi สเตย์ดอย โฮมสเตย์ อ.แม่แตง
ระหว่างทาง กระจกมองข้าง น็อตมันหลวม หมุนรอบตัวเอง เลยต้องแวะร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ ให้น้องขันให้ น้องใจดี ไม่คิดเงิน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
ออกจากที่พัก วันนี้เราต้องกลับแล้ว ระหว่างเดินทาง ก็แวะทานข้าวเที่ยง ที่ร้านคุ้มแสงดาว ตั้งอยู่ตรงข้ามกองพลทหารราบที่ 7 ร้านเค้าใหญ่อยู่ ที่นั่งเยอะ อาหารเป็นหม้อ ๆ เป็นอาหารพื้นเมือง และเด็ดคือพวกย่างต่าง ๆ
อร่อยมาก แถมราคาไม่แพงด้วย ไส้อั่วก็อร่อย ซื้อมาฝากน้องที่ทำงานด้วย เสียดายเหลือน้อย เลยได้มาเท่านี้เอง
ถึงตัวเมือง สิ่งแรกที่ทำคือ ทำบุญให้ น้องงู ก่อนเลย วัดแรกวัดดวงดี
และวัดลอยเคราะห์ อโหสิกรรมให้ด้วยนะ
วันนี้เรามีไฟลท์กลับ 17.30 น. เวลาเหลือเลยแวะทานกาแฟ ร้านเดิม (ติดใจ) และแวะไปเดินเที่ยวที่ คลองแม่ข่า เป็นแลนด์มาร์คใหม่ แนว ๆ ญี่ปุ่น จริง ๆ ต้องไปตอนเย็น ๆ ถึงค่ำ ๆ ร้านจะเปิดตอนเย็น เราไปตอน บ่าย 3 กว่า ๆ ยังไม่มีร้านเปิด เลยไปเดินเล่นดู โครตร้อน
ร้านยังไม่เปิด ถึงเปิดก็นั่งไม่ได้ เพราะแดดจัดมาก ท่องไว้ เรามาหน้าฝน ๆ 55
เหมือนคลองโอ่งอ่าง ที่กรุงเทพฯ แต่ต่างกันตรง ที่นี่ทางเดินจะสั้นกว่า และน้ำที่นี่ไม่ใสนะ มีกลิ่น คงต้องจัดการเรื่องน้ำ ให้ใส ๆ จะน่าเดินเดินสุด ๆ
ได้เวลาก็ขับเข้าสนามบิน และจอดรถที่เดิม ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และไลน์ แจ้งร้านว่ามาส่งรถแล้ว
จบทริป นอนบ้าน 2 แม่ 3 วัน 2 คืน อย่างมีความสุข โชคดี ฝนไม่ตก ถ้ามีโอกาส จะกลับมาเที่ยวเชียงใหม่อีกนะ บ๊าย บาย
ค่าใช้จ่ายทั้งทริป
แตงโมเนื้อทราย
วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 22.29 น.