ทำงานเหนื่อย ๆ มา 5 วันเต็ม วันหยุดเสาร์อาทิตย์แบบนี้
ออกไปสูดอากาศดี ๆ ที่จ.กาญจนบุรีกันเถอะ
เราจะพาไปนอนในบรรยากาศเงียบสงบแนบชิดธรรมชาติกัน
ที่นี่ครับ "บ้านกลางทุ่งออร์แกนิคโฮม"
เราออกเดินทางจากห้างเซนจูรี่ ขึ้นวินรถตู้สายกาญจนบุรี-พนมทวน ราคาคนละ 130 บาท
บอกพี่คนขับไว้ก่อนเลยว่าเราจะลงที่หน้าบริษัทฮิปโป
พอเห็นป้ายตามข้างทางที่เขียนไว้ว่าหมู่บ้านหนองขาว ก็เตรียมตัวลงกันได้เลยครับ
นั่งกันไปไม่นานถึงแล้วครับหน้าบริษัทฮิปโป
จากนั้นก็โทรหาป้าแอ๊ดเลยครับ
รอกันสักพักเดี๋ยวป้าแอ๊ดเจ้าของบ้านกลางทุ่งก็จะมารับ
ตลอดสองข้างทางก่อนถึง
เราจะเห็นเลยว่าเต็มไปด้วยทุ่งนาเต็มไปหมด
อากาศก็สดชื่นดีซะจริง ๆ
นั่งรถกันไปไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงแล้วครับ
มาถึงไม่ทันไรท้องร้องหิวข้าวซะแล้วครับ
ป้าแอ๊ดมีอะไรให้ผมกินมั่ง
หิวจะแย่แล้ว ป้าบอกมาอยู่นี่กินกันง่าย ๆ นะ
เดี๋ยวป้าทำไข่เจียวกับเห็ดให้กินแล้วกันนะ รอแปปนึง
ระหว่างรอป้าแอ๊ดทำกับข้าว
เราก็เดินสำรวจห้องที่นี่ไปพลางๆ
สำหรับบ้านกลางทุ่งจะมีบ้านอยู่ 3 หลังด้วยกันครับ
บ้านหลังนี้จะมีอยู่ 3 ห้องครับ
ห้องแรกเป็นห้อง Honey สำหรับคู่รัก ห้องนี้เล็กหน่อย
แต่ห้องน้ำใหญ่มาก พอดีมีคนเข้าพักเราเลยถ่ายได้แค่หน้าห้อง
ห้องที่สองเป็นห้อง Japanese
อารมณ์สไตล์ญี่ปุ่นหน่อย ๆ ครับ
ส่วนห้องสุดท้ายเป็นห้อง Ozone
เป็นห้องพักของเราเองครับ
ห้องน้ำทุกห้องของที่นี่ จะเป็นแบบเปิดโล่งครับ
อาบน้ำไปกับธรรมชาติได้สบายๆ เลยครับ
ธรรมชาติขนาดที่ว่าตั๊กแตนยังมาเกาะดูเลยครับ ฮ่าๆๆ
บ้านหลังต่อไปชื่อว่า ไฮกุ ครับ
เนื่องจากป้าแอ๊ดเป็นคนชอบคิดชอบเขียน
แนวบทกวีของญี่ปุ่น ในห้องก็จะมีหนังสือกวีเต็มไปหมด
เลยเป็นที่มาของบ้านหลังนี้ครับ
บ้านหลังสุดท้าย เป็นบ้านเรือนไทยครับ
เหมาะสำหรับคนที่มาพักกันเป็นครอบครัว เข้าพักได้ 4 คนครับ
ด้านล่างเรือนไทยก็จะมีที่ให้นั่งเล่น
นั่งอ่านหนังสือกันได้เพลิน ๆ แบบนี้ครับ
นี่ ๆ หิวข้าวยัง ไปกินข้าวกันเถอะ
เราหิวแล้ว อ่านหนังสือเพลินเชียวนะ
สำหรับอาหารของที่นี่ จะมีแต่อาหารปลอดสารพิษ
อาหารทุกอย่างก็จะเต็มไปด้วยผัก เพราะป้าแอ๊ดไม่กินเนื้อสัตว์มานานแล้วครับ
หน้าตาอาหารก็จะเป็นแบบนี้ครับ
ไข่เจียวกินกะน้ำพริก
เริ่มหิวกันแล้วใช่มั๊ยล่ะ ฮ่าๆๆๆ
กระเพราเห็ดกินพร้อมกับข้าวกล้อง
กินแบบคลีน ๆ กันดูบ้าง
อยู่ในเมืองกินเนื้อสัตว์กันมาเยอะแล้ว
แต่จะอิ่มมั๊ยค่อยว่ากัน ฮ่าๆๆ
ส่วนใครที่กลัวไม่อิ่ม
แนะนำให้ซื้อขนมมาตุนไว้ก็ดีครับ
ไม่งั้นร้องหิวขึ้นมาไม่มีอะไรกิน
จะต้องรอถึงเช้าเลยทีเดียว
อาหารว่างก็จะมีแต่ขนมปังโฮลวีทครับ
ปิ้งกรอบ ๆ ราดด้วยแยมบลูเบอรี่
กินกันได้ทั้งวัน ป้าแอ๊ดบอกเต็มที่
กินคู่กับชาร้อน ๆ อร่อยไม่เบาครับ
อิ่มจนได้ที่เราก็เดินไปดูกระท่อมเห็ด
วัตถุดิบง่าย ๆ ทั้งสดทั้งกรอบ
เห็ดอร่อย ๆ จากบ้านกลางทุ่งครับ
บนกระท่อมเห็ดยังมีความสวยงาม
จากดอกหางนกยูงให้เราดูกันด้วยครับ
ถึงจะร่วงหล่นจากต้นแล้ว
แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความสดใสครับ
พอเริ่มอิ่ม เริ่มมีแรง เราเลยออกไปปั่นจักรยาน
ออกไปสูดอากาศดี ๆ จากทุ่งนากันซักหน่อย
ที่นี่มีจักรยานให้เลือกหลายคัน
ชอบคันไหนเลือกเอาตามสบายเลยครับ
ปั่นไปได้ไม่ไกล
ก็เจอฝูงวัวฝูงควายนี้เข้า
หญ้าที่นี่สมบูรณ์มากครับ
อากาศดี ๆ แบบนี้
เราสองคนเลยปั่นจักรยานกันยาวเลยครับ
เห็นทุ่งนาเขียวขจีแบบนี้
เราเลยถ่ายเก็บรูปเก็บกันไว้สักหน่อย
ปั่นจักรยานกันเสร็จ
มาเดินชมสวนดอกไม้กันต่อ
ดอกพุทธรักษายามเย็นครับ
มื้อเย็นครับ
ยังคงเต็มไปด้วยความคลีนอีกเช่นเคย
กลับไปน้ำหนักลดฮวบแน่ครับ
กินข้าวกันเสร็จ เราก็มาหาหนังสืออ่านเล่นกันครับ
ป้าแอ๊ดเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก
จะเห็นได้ว่าหนังสือเต็มทุกชั้น
บ้านทุกหลังก็อัดแน่นไปด้วยหนังสือเต็มไปหมดครับ
ป้าแอ๊ดเป็นคนเกิดปีม้าครับ
พวกภาพวาดที่เป็นรูปม้าเลยเยอะเป็นพิเศษ
ภาพรูปนี้ป้าแอ๊ดบอกว่า อายุป้าเริ่มเยอะแล้ว
อยากมีรูปนี้ไว้เป็นแรงบันดาลใจ
พอเห็นแล้วจะได้มีแรงเหมือนม้าหนุ่มอย่างในรูปครับ
พวกเราก็นั่งคุยกับป้าแอ๊ดไปเรื่อยครับ จนป้าแนะนำหนังสือไฮกุมา
เป็นหนังสือที่แกเขียนเอง สั่งตีพิมพ์เอง
แบบนี้ต้องเอาไปอ่านหน่อยซะแล้ว
ว่าฝีมือการเขียนป้าแอ๊ดจะเด็ดดวงแค่ไหนกัน
ป้าแอ๊ดเริ่มง่วง
ได้เวลาที่เราจะต้องกลับไปบ้านพักกันแล้วครับ
แล้วเราก็หลับไปด้วยบรรยากาศดี ๆ จากบ้านกลางทุ่งครับ
เช้าวันใหม่กับบรรยากาศดี ๆ ริมหน้าต่าง
สดชื่นสุด ๆ ครับ
ก่อนกินข้าวเช้า เดินเล่นชมดอกกล้วยไม้
เช้าวันใหม่ที่ใคร ๆ ก็อยากจะตื่นมาเจอกับอากาศดี ๆ แบบนี้ครับ
เราตื่นกันเช้าไปหน่อย
คนทำกับข้าวป้ายังไม่มา
เลยมีคนขอเป็นลูกมือป้าแอ๊ด
ทำกับข้าวกินกันเองซะเลยครับ
มื้อเช้านี้เราอินเตอร์กันหน่อย แซนด์วิชขนมปังโฮลวีทหนานุ่ม
กัดคำโต ๆ พร้อมกับโอวัลตินร้อน ๆ นั่งมองต้นไม้ไปเพลิน ๆ
อะไรจะมีความสุขได้ขนาดนี้ล่ะครับ
แล้วเราก็ได้เวลาที่ร่ำลาป้าแอ๊ดกันแล้ว
ที่นี่ไม่มีตู้เย็น ไม่มีทีวี มีแต่อากาศดี ๆ
มีอาหารปลอดสารพิษให้ได้เลือกกิน
ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาหาป้าอีกนะครับ
ป้าแอ๊ดโทรหารถสองแถวให้เราก่อนกลับ
ถ้าหาเองราคาจะแพงกว่านี้
เราเลยได้ราคาเหมาไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว
ในราคา 200 บาทครับ
แล้วเราก็ได้ไปเห็นอะไรหลายๆ อย่างบนสะพาน
ผู้คน นักท่องเที่ยว ที่ใครหลายต่อหลายคน
ได้แวะเวียนมายังสะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้
สะพานที่ยังคงความคลาสสิค
ได้ในทุก ๆ ครั้งที่มาเยือน
"เพราะชีวิตที่วุ่นวายในสังคมเมือง
ทำให้เราอยู่กับตัวเองได้น้อยลง
การได้พาตัวเองมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้
เป็นชีวิตดีๆ ที่เราต้องออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง"
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
ค่ารถตู้ กาญจนบุรี-พนมทวน คนละ 130 บาท ไปกลับคนละ 260 บาท
ค่าที่พัก บ้านกลางทุ่งออร์แกนิคโฮม 1 คืน รวมอาหาร 3 มื้อ คนละ 1,000 บาท
ค่ารถสองแถว เหมาไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว 200 บาท คนละ 100 บาท
ค่ารถมอเตอร์ไซด์ ไปสถานีขนส่งกาญจนบุรีคนละ 30 บาท
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม คนละ 500 บาท
ไปกัน 2 คน รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนละ 1,890 บาท
FB : Bean Skullflied
Bean Skullflied
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.43 น.