เริ่มต้นการเป็นแบ็คแพคเกอร์เดินทางคนเดียวที่“วังเวียง”ประเทศลาว
ภายหลังการที่ผมได้มีโอกาสไปสหรัฐอเมริกากับโครงการ Work and Travel ในตอนที่ยังเป็นนักศึกษาปี 4 มันทำให้ผมเห็นโลกในอีกมุมหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนหนึ่งในนั้นคือเห็นกลุ่มคนที่แบกกระเป๋าเป้ใหญ่ๆ เดินทางท่องเที่ยวไปหลายๆที่ นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้เริ่มอยากเดินทางด้วยตนเองเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตที่จะเก็บไว้เป็นความทรงจำในขณะที่ผมยังอยู่ในช่วงเวลาที่ผมยังทำได้
ผมพยายามหาจุดหมายปลายทางต่างประเทศที่จะเริ่มเดินทางด้วยตัวผมเองคนเดียวที่ไม่ยากมากและใช้งบไม่สูงและมีข้อจำกัดด้วยระยะเวลาเพียง 3 วัน 2 คืน ซึ่งผมได้เลือกที่วังเวียง,ลาว ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับภาคอีสานของไทย โดยผมเลือกเดินทางด้วยรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ในตอนเย็นหลังจากเลิกงานเพื่อไปจังหวัดอุดรธานี นอนที่อุดร 1 คืนหลังจากนั้นผมจะขึ้นรถบัสต่อไปยังวังเวียงอีกที
เมื่อถึงอุดรก็พักเที่ยวที่อุดรธานี 1 คืนแล้วค่อยเดิาทางไปขึ้นรถที่ บขส. เพื่อไปยังวังเวียงอีกทีในตอนเช้า เพราะอุดรอยู่ใกล้กับประเทศลาวซึ่งจะใช้เวลาไม่นานในการเดินทางครับ
เริ่มเดินทางออกจากอุดรธานีโดยผมซื้อบัตรโดยสารที่ บขส. แล้วก็ขึ้นรถบัส หลังจากนั้นทางพนักงานก็จะเอาบัตรกรอกข้อมูลขาเข้าของ ตม.ฝั่งลาวมาให้ให้เราเตรียมปากกามาด้วยและกรอกไว้เลยพอถึงเวลาที่เข้าฝั่งลาวจะได้ไม่เสียเวลาไปนั่งเขียนเพราะคนจะเยอะมาก
ขั้นตอนการเข้าเมืองก็มีพาสปอร์ต กับจ่ายค่าธรรมเนียมขาเข้าเมือง 10,000 กีบ หรือจ่ายเป็นเงินบาทก็ได้ ประมาณ 20 บาท หลังจากผ่านทางเข้าผมก็ไปแลกเงินซึ่งมีช่องแลกเงินของธนาคารอยู่หลายธนาคาร ส่วนซิมการ์ดผมไปซื้อตอนแวะกินข้าวเที่ยวระหว่างทางเพราะรถบัสต้องแวะพักเที่ยงบริเวณนั้นมีร้านค้าเราสามารถซื้อซิมได้ที่นั่นครับ ถ้าใครอยากซื้อไปเลยก็ได้ครับมีอยู่ข้างๆธนาคาร แต่คนเยอะรอคิวนาน หรือจะไปซื้อร้านสะดวกซื้อที่วังเวียงก็ได้
ถึง บขส.วังเวียงก็เกือบเย็น หลังจากถึงวังเวียงผมก็เลยซื้อตั๋วขากลับไว้เลยเพราะกลัวรถจะเต็มก่อน หลังจากนั้นผมก็เดินทางไปที่พักแล้วก็เดินดูรอบๆเมือง พร้อมกับหาซื้อทริปที่จะไปเที่ยวพรุ่งนี้ด้วยเพราะมีกิจกรรมให้ทำด้วย
ผมเลือก 1 Day trip ที่มีกิจกรรมให้ทำคือ 1. พายเรือคายัค เป็นการพายคายัคครั้งแรกของผมเลยซึ่งเป็นสิ่งที่อยากทำมานานมาก 2. Zip lining 3.Tubing 4. โดดน้ำที่ blue lagoon
กิจกรรมเป็นแบบจอยกลุ่มนะครับ ได้เจอเพื่อนๆ ที่มาจากหลายประเทศเลย เป็นกิจกรรมที่ดีเลยถ้าใครอยากได้เพื่อนใหม่ๆ ที่สำคัญวิวตอนเช้าอากาศกำลังดีมีหมอกบนเขา
ตอนเย็นผมมาเที่ยวที่ผับชื่อดัง ซากุระบาร์ ซึ่งเวลา 20.00-21.00 มีฟรีเครื่องดื่ม ซึ่งผมไม่พลาด หลังจากดื่มพอเหมาะก็กลับที่พักเตรียมตัวพักผ่อนและตื่นเช้าขึ้นเขาไปดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาหนามไซ
ตอนเช้าผมเช่าจักรยานเผื่อปั่นไปดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าของวันสุดท้าย ผมเช่าตั้งแต่ตอนเย็นของเมื่อวานนะครับเพราะต้องปั่นไปแต่เช้า ระยะทางไม่ไกลมากแต่ร้อนพอสมควรเลย เหงื่อเต็มกว่าจะขึ้นเขาอีก แต่วิวข้างบนสวยมาก อากาศเย็น ไม่มีคนเลย แอบกลัวเหมือนกัน
หลังจากจบการชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นผมก็กลับโฮสเทลเก็บของขึ้นรถกลับโดยต้องมาขึ้นรถไฟที่อุดรธานีต่อเพื่อกลับ กทม. จบทริปแรกของการเริ่มต้นเป็นแบคแพ็คเกอร์ของผมครั้งนี้เจอกันทริปหน้าครับ
รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน
ฝากติดตามวีดีโอทางช่องยูทูปด้วยนะครับ
Roam the roads
วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 20.21 น.