ทริปนี้เป็นทริปที่เราไปเที่ยวเชียงรายเมื่อเดือนมกราคมปี 66 เป็นช่วงที่กำลังหนาวได้ที่ และเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวทางโซนภูชี้ฟ้า อย่างที่รู้กันว่าในเดือนมกราคมของทุกปี เป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่ง อยู่ในช่วงกำลังเบ่งบาน ทริปนี้เลยตั้งใจจะไปตามหาดอกสีชมพู และไปเก็บภูให้ได้มากที่สุดในเวลาเพียง 3 วัน 2 คืน ซึ่งเราได้ลิสต์ไว้แล้วว่า มีภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน ภูชี้ดาว และดอยผาตั้ง
ทริปนี้เราเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพ-ไปลงเชียงราย เริ่มต้นทริปมาก็ไม่ค่อยดีนักเพราะว่าตกเครื่องบิน เป็นการตกเครื่องบินครั้งแรก เนื่องจากตื่นสาย555 ไปไม่ทันขึ้นเครื่อง เลยต้องเสียตังซื้อตั๋วใหม่ กว่าจะถึงเชียงรายก็เล่นเอาบ่ายแก่ๆ ผิดแพลนไปซะหมด
พอถึงเชียงรายเราได้นัดรถเช่ามอเตอร์ไซค์ แล้วขับไปที่พักกันครับ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงได้ ถึงที่พักก็เกือบจะค่ำกันเลยสำหรับที่พักเราพักที่บ้านคำแก้ว ภูชี้ฟ้า เป็นบ้านสามเหลี่ยมทรงเอเฟรมน่ารักๆ
เตียงนอนภายในห้อง เตียงนอนนุ่มๆ ตกแต่งแบบมินิมอล
ด้านหน้ามีระเบียงชมวิว ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกเดินไม่ไกล
สั่งหมูกระทะมากินแก้หนาวซักหน่อย
ที่แรก เรามากันที่ภูชี้ฟ้า ครับ เช้ามืดรีบตื่นตั้งแต่ตี 5 เข้าขับรถมาที่ วนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า บริเวณทางขึ้นก็จะมีร้านขายของ ของเช้าบ้าน
มีไฟฉายส่องสว่าง อันละ 20 บาท เผื่อว่าใครไม่อยากใช้ไฟโทรศัพท์ แนะนำก่อนขึ้นพกน้ำดื่มไปสักคนละ ขวด
ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ที่ วนอุทยานภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1628 เมตร อยู่ในบริเวณเทือกเขาดอยผาหม่น ลักษณะพิเศษของภูชี้ฟ้า จะมียอดเขาแหลม เหมือนนิ้วชี้ ยอดปลายแหลมชี้ขึ้นบนฟ้าทางทิศตะวันออก จึงเรียกภูนี้ว่าภูชี้ฟ้า ที่นี่นักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นมาช่วงเช้ามืด เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกยามเช้า กับวิวทิวทัศน์ของภูเขาแบบสุดลูกหูลูกตา
ภูชี้ฟ้าสามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือ
- เส้นทางที่ 1 ขึ้นทางวนอุทยาน ภูชี้ฟ้า จากจุดจอดรถจะเดินขึ้นภูประมาณ 750 เมตร
- เส้นทางที่ 2 ทางขึ้นภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าทอง จากลานจอดรถ เดินขึ้นภูประมาณ 400 เมตร ในวันธรรมดา สามารถขับรถขึ้นไปยังจุดจอดรถได้เลย ในส่วนวันหยุดอาจจะต้องนั่งกระบะรับ-ส่งของชาวบ้านขึ้นไป ทางค่อนข้างชัน สำหรับคนที่ขับรถไม่แข็งอาจจะไม่ชินเส้นทางแนะนำให้นั่งรถชาวบ้านขึ้นไป
ยามเช้า ถ้าเราขึ้นไปตรงช่วงที่ อุณหภูมิ ความชื้น และแรงลมเหมาะสม เราจะได้เจอกับทะเลหมอกที่สวยงามของภูชี้ฟ้า
พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ณ ยอดภูชี้ฟ้า
ทะเลหมอกกับแสงอาทิตย์ยามเช้าเป็นอะไรที่ลงตัว
ทิวเขาสลับซับซ้อนสวยมาก
ได้เวลาร่ำลา ภูชี้ฟ้า แล้วกลับที่พักไปเช็คเอาท์
จิบกาแฟซักหน่อย แล้วก็เก็บของไปจุดอื่นกันต่อ
ที่ต่อมาเรามากันที่ หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว เป็นอีก1จุดที่สามารถชมดอกนางพญาเสือโคร่งได้อย่างสวยงาม
หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ในวันธรรมดา สามารถขับรถขึ้นมาจอดได้ถึงด้านบน แต่ถ้าเสาร์-อาทิตย์คนเยอะ อาจจะต้องใช้บริการรถ รับ-ส่งขึ้นมา
วันที่เราไปดอกบานประมาณ 50-60% ยังสวยมาก ถ้าบานเต็มที่ต้องสวยมากแน่ๆ
ภาพมุมสูงประมาณนี้ฮะ
ถ่ายรูปเล่นกันซักหน่อย
จุดเช็คอินต่อมา เรามากันที่ โรงเรียนบรรพตวิทยา เป็นอีก 1 จุดที่ชมดอกพญาเสือโคร่งที่สวยมากๆ
ภาพบรรยากาศฮะ
บางต้นดอกออกเต็มที่ สวยมาก
ถ่ายรูปเล่นแล้วไปกันต่อฮะ
ที่ต่อมาเรามาแวะกันที่ คาเฟ่ ผาตั้งบ้านกาแฟฟาร์ม เป็นคาเฟ่น่ารักๆ ตั้งอยู่บนเนินเขา นอกจากวิวบริเวณระเบียงจะสวยแล้ว ยังมีดอกพญาเสือโคร่งที่สวยมากๆ
วิวบริเวณระเบียงชมวิว
นั่งชมวิวไปด้วยดูดอกพญาเสือโคร่งไปด้วย
ภาพบรรยากาศ
สั่งเครื่องดื่มมาจิบชิลๆ
ประมาณบ่ายโมงเราแวะกินข้าวกลางวันกันที่ ร้ารบ้านดิน ขาหมูหมั่นโถ เป็นร้านอาหารสไตล์จีน รสชาติอร่อยมาก
ที่พักคืนที่ 2 เราพักกันที่ ดาวล้อมเดือน ผาตั้ง รีสอร์ท เป็นที่พักที่อยู่ในโซนดอยผาตั้ง
บรรยากาศที่พักจะเป็นบ้านเป็นหลัง มีห้องน้ำในตัว หันหน้าไปทางวิวภูเขา
เตียงนอนภายในห้อง ห้องนอนกว้างขวางดี ดูสบายตา
มีระเบียงชมวิว
ประมาณ บ่าย 3 โมงเย็น เราขับรถย้อนมากันที่ภูชี้เดือน ซึ่งอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า ประมาณ 8 กม.
สำหรับภูชี้เดือน เป็นภูน้องใหม่ อยู่ใกล้ภูชี้ดาว ตั้งอยู่ที่ ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นภูที่สูงที่สุดใน 3 ภู มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1742 เมตร จากจุดจอดรถ เดินขึ้นประมาณ 150 เมตร จะเห็นวิวทิวทัศน์ ลักษณะของภูชี้ดาวจะเป็นสันเขา บริเวณจุดชมวิวปลายสุด จะเห็นยอดเขาแหลมชี้ขึ้นคล้ายภูชี้ฟ้า ที่นี่สามารถชมวิวได้ 360 องศา สามารถขึ้นมาชมทะเลหมอกยามเช้า หรือขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็ได้
การเดินทางขึ้นภูชี้ดาว แนะนำให้นั่งรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปบนยอดเขา เพราะทางขึ้นเป็นดินทางลูกรัง ค่อนข้างชัน ระยะทาง ประมาณ 3 กม. ค่ารถขึ้นเขา 500 บาท ไป-กลับ
ภูชี้เดือน เป็นภูที่เดินใกล้สุดใน 3 ภู มีจุดถ่ายรูปสวยๆหลายจุด
มีเก้าอี้ อยู่บนขอดเขา สามารถไปนั่งถ่ายรูปชมวิว 360 องศาได้ อีกอย่างคือ เราสามารถเดินไปชมวิวได้ทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวา
บริเวณทางขึ้นยอด มีราวบันได และต้นซากุระปลอม สวยดี
ถ่ายรูปกับหลักหมุดภูชี้เดือนกันหน่อย
ยอดเขาที่เราเห็นคล้ายภูชี้ฟ้านั่น จากข้อมูลที่อ่านมา น่าจะเป็นยอดดอยผาหม่น
ใช้เวลาถ่ายรูปอยู่บนภูชี้เดือนได้ไม่นาน เราก็ลงเขา แล้วไปต่อกันที่ภูชี้ดาว
จากภูชี้เดือน ขับมาไม่กี่ร้อยเมตร เราจะถงจุดทางขึ้นภูชี้ดาว เรานำรถไปจอดที่ด้านล่าง แล้วนั่งกระบะชาวบ้านขึ้นไป
ภูชี้ดาว อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้า ประมาณ 8 กม. ตั้งอยู่ที่ ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1600 เมตร ภูชี้ดาวมีลักษณะของยอดเขาเชิดขึ้นเหนือท้องฟ้า เป็นที่มาของภูชี้ดาว สามารถชมวิวได้ 360 องศา ที่นี่เป็นจุดชมพระทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่ตอนเย็น ช่วงพระอาทิตย์ตก พระทิตย์ตกตรงช่องปลายของภูเขา บริเวณจุดชมวิวพอดี วิวสวยมากๆ
การเดินทางขึ้นภูชี้ดาว จากด้านล่างต้องนั่งรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปบนจุดเริ่มเดินขึ้นเขา เพราะทางเป็นทางลูกรัง สูงชันและแคบ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถขึ้นไปเอง ค่ารถรับส่ง ไป-กลับ จะอยู่ที่ คนละ 100 บาท 5 คนขึ้นไป ถ้าไม่ถึง 5 คน จะต้องเหมาไป 500 บาท จากจุดจอดรถจะต้องเดินขึ้นไปจุดชมวิวประมาณ 350 เมตร
ความพิเศษของภูชี้ดาวที่เรา เลือกมาตอนพระอาทิตย์ตกนั่นก็คือ ตรงบริเวณจุดชมวิว พระอาทิตย์จะตกตรงกับช่องจุดชมวิวพอดี เป็นวิวที่สวยมากๆ
บริเวณจุดชมวิวเราก็สามารถชมวิวได้ 360 องศาเช่นกัน
เก็บภาพบรรยากาศยามเย็นภูชี้ดาว
เก็บภาพบรรยากาศยามเย็นภูชี้ดาว
แม้ในยามพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ท้องฟ้าก็ยังสวยงาม จริงๆเราอยากใช้เวลาอยู่ต่อรอให้มืด สักนิด จะเก็บภาพดาวไปสักหน่อย แต่ว่าเกรงใจคนขับรถ ก็เลยรีบลงเขาไปก่อนท้องฟ้าจะมืด แต่ก็เป็นอีก 1 ยอดภูที่ประทับใจมากๆ ส่วนใหญ่จะมาตอนเช้าก็ได้นะ สามารถมาดูพระอาทิตย์ขึ้นดูทะเลหมอกได้เช่นกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น Day3 เรามากันที่ดอยผาตั้ง เนิน 102 และ เนิน 103
สำหรับ ดอยผาตั้งเนิน 102 และ เนิน 103 ตั้งอยู่ที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ระยะทางเดินขึ้นถึงเนิน 103 ประมาณ 1-2 กม. ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 20-30 นาที โดย เนิน 102 กับ เนิน 103 ห่างกันประมาณ 500 เมตร
ทะเลหมอกฟูๆปังๆ
และมาสุดทางที่เนิน 103 สามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม
ภาพมุมสูง
ภาพบรรยากาศยามพระอาทิตย์ขึ้น
แสงอาทิตย์ยามเช้า ภูเขา+ทะเลหมอกเป็นอะไรที่ลงตัว เป็นอีกดอยที่อยู่ในลิสต์ที่ชื่นชอบมากๆ
มีจุดที่เป็นหน้าผาคู่ ที่น่าจะทำให้เรียกว่าดอยผาตั้ง
ด้านล่างสามารถถ่ายรูปกับน้องม้าได้ด้วย
มีร้านขายของฝาก
มีต้นดอกนางพญาเสือโคร่งด้วยนะ
มีต้นดอกนางพญาเสือโคร่งด้วยนะ
กลับที่พักเก็บของเสร็จ ขับรถไปกันที่ สกายวอร์ค วัดพระธาตุผาเงา
ต้องจอดรถบริเวณบ้านล่างแล้วนั่งสองแถวขึ้นไปด้านบนจุดชมวิว
วันที่เราไปคนเยอะมากๆ ไปช่วงกลางวันแดดเปรี้ยงเลย
มองลงไปด้านล่างเสียวอยู่เหมือนกัน
วิวสวยเลย
จากนั้นมาแวะกันที่วัดห้วยปลากั้ง เป็นอีกวัดสวย ที่ไปเชียงรายแล้วต้องแวะ มีเจดีย์พบโชคธรรมเจดีย์ 9 ชั้น เจดีย์รูปทรงแปลกตา ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบจีนและล้านนา มีอุโบสถสีขาวสวยงามมาก และยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ มีรูปปั้นมังกรสีขาวตรงบันไดทางขึ้น และภายในยังสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้อีกด้วย
เจดีย์พบโชคธรรมเจดีย์ 9 ชั้น
สวยมาก ดูมีความยิ่งใหญ่อลังการ
เป็นอันจบทริป เที่ยว เชียงราย 3 วัน 2 คืน แบบลุยๆ ลุยขึ้นเขาขึ้นดอย เป็นทริปที่เหนื่อยหน่อย แต่รับลองว่าสนุกแน่นอน สวยทุกเขา มีเสน่ห์ทุกดอยสำหรับใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวเชียงราย ก็ลองแพลนๆดูได้ แต่ถ้าใครอยากไปดูดอกนางพญาเสือโคร่ง ปีนี้คิดว่าไม่น่าจะทันแล้ว ก็ลองแพลนไว้ปีหน้าได้ ยังไงก็ฝากรีวิวนี้ไว้ด้วยนะครับ เจอกันใหม่รีวิวหน้าฮะ ^^
อยากเที่ยวก็เที่ยว
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 15.37 น.