ข้อมูลนี้อ้างอิงมาจากกระทู้พันทิพย์ที่เราเขียนเขียนรีวิวไว้เมื่ตอนปี 2017 ค่ะ
หลายคนคงเคยไปมาเลเซียกันมาแล้ว สำหรับเรา บอกเลยค่ะว่านอกจากตึกแฝดไม่รู้จักอะไรอย่างอื่นเลย
จนวันนึงเพื่อนก็ได้ชวน ว่า เฮ้ยแก ไปเที่ยวมาเลกัน เออ ไปดิไป
หลังจากตกลงกันดิบดี บอกเลยค่ะว่าไม่หาข้อมูลไรเลยและไม่รู้ไรเลยสำหรับมาเล นอกจากตึกแฝด กับไม่ค่อยกินหมู
แต่แล้วก็มีเหตุการไม่คาดคิด คือเพื่อนเราเจ้าตัวที่ชวนไปไม่ได้!! ซึ่งเรารู้ก่อนเดินทาง 1 วัน
เราเลยตัดสินใจไปคนเดียว ในเมืองที่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเลย แต่บอกว่าได้อะไรหลายๆอย่าง ผิดไปจากที่คิดมากๆเลยทีเดียวนะ!!
เรารู้อย่างเดียวว่าเราอยากจะไปเมืองที่ชื่อว่าคาเมรอน เพราะอะไรหน่ะหรอ เห็นเพื่อนไปมามีภาพสวยๆทั้งนั้น
เลยรู้เลยว่านี่คือเป้าหมายหลักของทริปนี้
หลังจากตัดสินใจก้าวเท้าไปมาเล บอกเลยค่ะ ตั้งแต่ไปท่ารถยังไม่รู้เลย ไปหาเอาดาบหน้าหมดทุกอย่าง
ทางเอาตัวรอดที่ดีคือ ลงเครื่อง หาซิม โทรศัพท์ หาข้อมูล เอาหน้ารอดไปเรื่อยๆ
รู้ว่าอย่างแรกต้องไปท่ารถก่อน ต้องไปให้ทันก่อน รอบหมด เพราะไม่งั้นจะถึงคาเมรอน ดึกเกินไป
การเดินทางจากท่ารถไปคาเมรอน จะใช้เวลาประมาI 4 ชั่วโมงนะคะ มีแวะทานข้าวด้วย ส่วนรถจะไปจอดที่ไหน เราไม่แน่ใจนะคะ เพราะว่า คาเมรอน มีสามส่วน เราไปถึงก็ดึกพอสมควร เขาเลย จอดแค่ทานาระตะรึเปล่า ไม่แน่ใจ เลยหาสาว Backpack ที่มาคนเดียวเหมือนกัน เหมารถไป บริงซาง เพราะว่าจองที่พักข้างบนเหมือนกัน
คาเมรอน เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นตลอดปีใครจะไปอย่าชะล่าใจแบบเรา เอาไปที่เรียกว่า กันได้ไม่มาก ตอนกลางคืนหนาวมากแทบทนไม่ไหว แถมเมื่อวานฝนก็ตกก่อนมาถึงยิ่งเย็นไปใหญ่ เราพักโรงแรม Parkland คะ หัวมุมสุด มันจะมี เราว่าที่พักที่นี่ดีนะ ดูใหม่สะอาด ติดอย่างเดียวหนาวมาก ห้องนอนเราชั้นสี่ แอร์ไม่มีแถมยังมีพัดลมให้อีกแหน่ะ หนาวจะแย่อยู่แล้วค่าาา
สถานที่ส่วนใหญ่ของที่นี่จะอยู่บนเขา ดังนั้นการเดินทางที่เราคิดว่าดีที่สุดของการไปคนเดียว คือซื้อทัวร์จ้า จัดไปกับที่โรงแรม มารับถึงหน้าโรงแรม แถมเป็นรถที่เรียกว่าเท่สุดๆไปเลย ก่อนรถจะมาหาอาหารเช้ากินก่อนดีกว่า ใกล้ๆโรงแรมมีหน้านึง คนนั่งกินกันเต็มเลย เราเลยเดินไปดูว้าาว อ่านหน่ะออก แต่ไม่เข้าใจว่าเมนูมันคืออะไร ด้วยสัญชาติญาณ คือสั่งมั่วแบบไม่มีรูปด้วยค่าาา ที่สำคุญใช้มือกินอย่างเดียวนะคะ สไตล์ของคนที่นี่ ตอนแรกกินไม่เป็นเป็น ขอช้อนมา ยิ่งยากกว่ามือเลยใช้มือตามคนอื่นเลยจ้าา
มาแล้วจ้า คันนี้มาพร้อมกับไกด์หน้าตาอินเดีย ภาษาอังกฤษดีเลิศ มารับถึงหน้าโรงแรม ตอนแรกก็สงสัย เที่ยวแค่แถวนี้ รถต้องลุยขนาดนี้เลยหรอ พอถึงทางขึ้นอันแรกละบางอ้อ ชันแถมดินแดงอีก พ่อคุณ !!
ที่แรก ไร่ชาสุดฮิต บอกเลยค่ะ ต้องถ่าย ต้องเอาเยอะๆ สวยถึงแม้ว่าจะคล้ายๆ ฉุยฟงที่เชียงราย แต่ว่าที่นี่ขาปลูกแบบ หย่อมๆ แถมข้างหลังเป็นหุบเขาสวยมาก ในขณะที่เรากำลังอุทาน เป็นภาษาไทยว่า "เฮ้ย !! โคตรสวย" ก็มีคนไทยมาทัก ก้เลยขอให้พี่เขาถ่ายรูปให้หน่อย 555
เราชอบไกด์และคนที่นี่นะใจดี แถมดูแลเราเป็นพิเศษ เพราะเขากลัวหลง เขารู้ว่ามาคนเดียว ยิ่งคอยลากคอยตามจนได้ไกด์เนี่ยแหละเป็นเพื่อน คอยเล่าเรื่อง นั่งคุย เกี่ยวกับมาเลก็ไม่เบื่อ สนุกดี
ต่อมาก็พาไปเดินป่า มอส วันก่อนหน้าที่เราไปฝนตก บอกเลยค่ะ รองเท้าขาวๆ ถ้าวันนั้นเอาไป มีหวังเละ เรียกได้ว่าไปที่นี่ ได้ไปปีนรากไม้ บุกป่าเลยวันนั้น เพราะว่าทางธรรมดา มันลื่น เปียก ไกด์ก็พาไปอีกทาง แต่ก็สนุกดีไปอีกแบบ
และก็พาไปชมสวนดอกไม้ อากาศเย็นตลอดวัน เลย
ใครเป็นสาวก ชอบกระบองเพชรบอกเลยที่นี่สวยมากเราอยากได้ตั้งหลายต้นสวยๆทั้งนั้นเลย แถมราคาก็ไม่แพงมากด้วย
สตอว์เบอร์รี่เขาก็มีนะเธอ แต่ความเห็นส่วนตัวเราคิดว่า บ้านเราอร่อยกว่านะ
แต่ที่ที่พลาดไมไ่ด้เลยของที่นี่คือการได้มานั่งชิบชา กินเค้ก ชมบรรกาศท่ามกลางหุบเขาที่ "Boh tea plantation"
ชาโอเค แต่เค้กนี่แล้วแค่ดวงค่ะ นั่งกินกับเพื่อสิงค์โปรมอหน้ากันแล้วขำๆ เหมือนรู้กัน ว่า คิดเหมือนกันใช่ไหม กับเค้กเนี่ย555
จิบชากับคนรู้ใจ อากาศหนาวก็นั่งต่อได้ แต่ฉันหน่ะซิมาคนเดียว และต้องไปต่อกับคณะทัวร์ แต่ขอฝากวิวสวยๆ มาให้ชมกันจ้า
ตบท้ายด้วย อาหารคลายหนาว ของที่นี่ สุกี้สตรีมโบ้ท กินคนเดียว แก้หนาวได้ดีพร้อมกับชาสมุนไพร เข้ากันดี้ดี เหงื่อแตกเลยทีเดียว
ต่อมา เรื่องการเดินทาง เราเป็นคนหนึ่งที่ก่อนวันไป หาข้อมูลการเดินทางไม่ทัน พอนั่งรถก็เปิดหาไปเรื่อยว่าต่อไปเอาไงต่อไปไหน แต่หาได้แบบส่วนใหญ่เขามาจากปีนังก่อนทั้งนั้น แต่เราเวลาน้อย ก็เลยไปลงเครื่องที่กัวลา
เรานั่งAir Asia ไป ถึงก็บ่ายโมงกว่าๆแล้ว ต้องทำเวลาพอสมควร เพราะที่คิดไว้คือต้องไปให้ถึงคาเมรอน คืนนั้นเลย
- ออกจาก ตม มองหาป้าย รถบัสเลยค่ะ เดินออกมาตรงไปเรื่อยๆ ลงไปบันไดเลื่อนชั้นล่าง ก็จะเจอตู้รถเยอะๆ เราจะไป TBS Terminal Bersepadu Selatan เอาจริงๆ พูดไม่ถูก มันยาวเกิน จดค่ะ และให้เขาอ่านเลย เขาบอกว่าให้ไปช่องที่ 2 เสียไป 10 MYR และก็ได้ตั๋วมา มีเลขที่นั่ง แต่ว่าขึ้นไปจริงๆ นั่งตรงไหนก็ได้ค่ะ
- เดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ไปถึงก็ขึ้นไปหาตั๋วรถเลยค่ะ คนเต็มไปหมด อ่านชื่อ ภาษาเขาก็ยาวๆ หาไม่เจอ Carmeronเลย เราเลยไปถามเขาว่าจะไปคาเมรอน เขาเลยบอกว่าเข้าไปซื้อเลยตู้ไหนก็ได้ราคาเท่ากัน เราเลยจัดเลยเสียไป 35 MYR เท่ากับที่ดูในเน็ตเลย เขาบอกว่าถ้าเอาตอนนี้ต้องลงไปเลยนะเดี๋ยวนี้ เราก็เออ เอาซื้อเสร็จ วิ่งแจ้นเลยจ้าา 55 เลขมีแต่นั่งยังไงก็ได้เหมือนเดิมค่ะ
- ส่วนขากลับจาก คาเมรอนมากัวลา หลายคนคงคิดว่าต้องไปขึ้นรถที่ ทานาระตะเท่านั้นเพราะมีท่ารถ ตอนแรกเราก็เกือบจะไปเหมือนกัน คือต้องนั่งแท็กซี่ลงมาอีก แท็กซี่ก็บอกว่าขากลับโทรหาฉันนะฉันจะมารับเธอมาท่ารถ แต่เอาเข้าจริง ไปถามโรงแรม โรงแรมบอกไม่ต้องไป ร้านข้างๆโรงแรมที่เราอยู่เนี่ยแหละ ขายบัสรถบัส ตอนเช้าก็มารอตรงนี้เลย โห ทำเลจะดีอะไรอย่างงี้ เราเลยสามารถขึ้นได้เลยที่บริงซาง 35 MํYR เหมือนกันจ้าา แต่ว่าคราวนี้มีเลขกำกับที่นั่งนะค่ะ
Mallibell
วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567 เวลา 00.44 น.