Writer: สวัสดีครับทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอพาทุกท่านมาเที่ยว แบบกางเต้นท์นอนที่ "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกันน๊ะครับ

Reader: โอ้โห๋ๆๆๆ ใหญ่ที่สุดในประเทศเลยเหรอๆๆๆ
Writer: อื้อๆๆๆ คงไม่มี "แก่งกระจาน" ที่ไหนใหญ่กว่านี้อีกแล้วอ่ะ
Reader: โอ้โห๋ๆๆๆ มันมี "แก่งกระจาน" ที่อื่นด้วยเหรอ
Writer: ไม่อ่ะ มีอยู่ที่เดียวนี่เหลอะ มันถึงใหญ่ที่สุดอย่างงัยล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
Reader: อ่าวๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
"ไอ้พวกบ้าๆๆๆ ป้ายนี้มันหมายถึง ที่นี่มันเป็นอุทยานที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโว๊ยๆๆๆ" เจ้าหน้าที่ ที่แอบยืนฟังอยู่เงียบๆนั้น ตะโกนขึ้นมาทันที

และหลังจากที่ผมทำการจ่ายเงิน และประทับตราอุทยานเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปตะเวนหาที่กางเต้นท์เหมาะๆทันที

และหลังจากได้ที่แล้ว ผมก็การ "ปักสมอ เท่ห์เสมอ" ทันที

ปักอยู่ใกล้ๆ สะพานแขวน ที่เป็นจุด Landmark สวยๆไปเล้ยๆๆๆ

และพอแดดร่มลมตก ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สะพานแขวน

จุดที่น่าสันใจของสะพานแขวนนี้ก็คือ มันเป็นสะพานไม้ ผสมเหล็ก ที่ขึงด้วยลวดสลิง มันจึงเป็นสะพานที่สวย และเต็มไปด้วยลวดสลิง ที่โยงไปมา จนเกิดเส้นสายทางศิลปะ ที่ผสมไปกับการออกแบบทางวิศวกรรม มันจึงมีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆบนสะพานอยู่แย่ะมากๆ

แว่ะดูรูปแผนที่คร่าวๆก่อน
Writer: อืมมม มันเป็นเกาะเล็กๆ ที่สันโดษอยู่ 2 เกาะ และมีทางข้ามทางเดียวตรงนี้ นี่เอง

Writer: อืมมม เค้าห้ามเอาจักรยานข้ามไป พวกเราเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

พระอาทิตย์จะตกแล้วๆๆๆ

ถ่ายภาพย้อนกลับมาที่ลานกางเต้นท์ดูบ้าง

เป็นสะพานที่สามารถถ่ายรูปแนว สถาปัตยกรรม ที่มีเส้นสาย ได้สวยมาก

Writer: และเมื่อทุกท่านนั้น ข้ามสะพานแขวนมาแล้ว ท่านก็จะสามารถมาปั่นจักรยานที่ลู่ปั่นรอบๆเกาะเล็กๆแห่งนี้ได้ด้วย
Reader: แอ๊ะๆ
Writer: แอ๊ะๆ
Reader: แอ๊ะๆ
Writer: แอ๊ะๆ
.
.
.

และหลังจากนั้น ผมก็เดินถ่ายรูปเล่น และสำรวจลานกางเต้นท์แห่งนี้

อ่อๆๆๆ มีที่ล้างภาชนะ เอาไว้บริการอย่างสะดวกสบายด้วย

Writer: อืมมม มีป้ายข้อบังคับด้วยๆๆๆ
Writer: แอ๊ะๆๆๆ "ไม่ส่งเสียงอื้อฉาว" อะไรคือ "เสียงอื้อฉาว" ว๊ะ
Reader: ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้พวกมานอนกางเต้นท์ และขดตัวอยู่ในถุงคนเดียว เอ็งไม่มีทางเข้าใจ คนมากางเต้นท์เป็นคู่ แบบพวกข้าหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า
Writer: แล้วมันคืออะไรว๊ะ ไอ้ "เสียงอื้อฉาว" นี่น่ะๆๆๆ
Reader: หึหึ

และเนื่องจากว่า ในวันนี้นั้น เป็นวันที่น้ำน้อย ผมจึงสามารถเดินลงไปด้านล่าง เพื่อถ่ายรูปเล่นได้

บ๊ายบาย พระอาทิตย์

10 มีนาคม 2567

บรรยากาศสบายๆ ยามเช้าครับ

Reader: เฮ้ยๆๆๆ แล้วรูปพระอาทิตย์ขึ้นอ่ะ เห็นทุกทีมีรูปพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนี่ๆๆๆ
Writer: ข้าตื่นสาย โว๊ยๆๆๆ พอใจหรือยัง
Reader: นั่นงัยว่าแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

แล้วก่อนกลับ ผมก็ไปเดินถ่ายรูปเล่น บนสะพานแบบ ไม่มีคน

อ๊ะๆ เจอเจ้าถิ่นด้วยๆ

น้อนมองตามด้วยๆๆๆ

แล้วผมก็ทดลองเดินรอบเกาะเล็กๆนี้ดู (เพราะเมื่อวานตอนเย็น ผมไม่ได้เดิน)

และก็เจอสะพานแขวนแบบเดียวกัน ที่เป็นทางข้ามไปอีกเกาะ

แต่เขาไม่ให้เดินข้ามน๊ะ

ถนนดี สวย และน่าปั่นจักรยานมากครับ
.
.
.
และหลังจากนั้น ผมก็กลับไปเก็บเต้นท์ และเดินทางออกจากอุทยาน

และระหว่างทาง ผมก็แว่ะถ่ายรูปที่สันเขื่อนแป๊บนึง

แต่สันเขื่อนตรงนี้ มันจะไม่ใช่จุด ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันน๊ะครับ
โดยจุดนี้ จะสังเกตุได้ง่าย ตอนขับออกมาจากอุทยานน่ะครับ (ตอนที่ขับเข้ามาหลายคนอาจจะขับเลยไปโดยไม่ได้สังเกตุเห็นครับ)
เพราะเนื่องจากว่าผมเคยไปถ่ายรูปแล้ว ก็เลยไม่ได้เลี้ยวเข้าไปครับ โดยรูปภาพในจุดนั้น สามารถดูได้ที่รีวิวอันเก่าครับ
https://th.readme.me/p/40255
หมายเหตุ: จุดนี้นั้น จะเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้ด้วยน๊ะครับ

.
.
.

และในขณะที่ผมนั้นกำลังขับรถเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป
"แล้วตกลงว่า ไอ้เสียงอื้อฉาวนี่ มันคือเสียงอะไรว๊ะ นอนคิดทั้งคืนก็คิดไม่ออก"

แบกกล้อง

 วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15.52 น.

ความคิดเห็น