ประเทศอินเดียนั้นมีสถานที่เที่ยวสวยๆ มากมาย และจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะสวยแค่เฉพาะที่เที่ยว บางเมืองที่เป็นเมืองอยู่อาศัยก็ดี อยู่ง่าย ไม่ได้อยู่ยากหรือย่ำแย่ ล้าหลังแบบที่คนไทยเข้าใจ เช่น นอยด์ดา บังกาลอร์ ทุกครั้งที่ไปนอยด์ดาบางทีก็แทบจะไม่อยากกลับไทย แต่บทความนี้เราไม่ได้จะพาไปดูวิถีชีวิตคนเมือง แต่จะพานั่งรถไฟไปหิมาจัล แต่ก่อนจะไปถึงที่นั่น เราจะพาคุณไปรู้จักรถไฟทอยเทรน เส้นทางรถไฟสายมรดกโลก Kalka - Shimla 

เนื้อหาจะแบ่งเป็น

  • ทำความรู้จักทอยเทรนและเส้นทางรถไฟ
  • วิธีเดินทางไปชิมลา หิมาจัล อินเดีย
  • ข้อควรรู้เพื่อเตรียมตัวก่อนไป
  • เหตุผลที่ควรไปชิมลา หิมาจัล
ztkmehcal7eo

ทำความรู้จักทอยเทรนและเส้นทางรถไฟ

เส้นทางไปชิมลานั้น จะเป็นเส้นทางรถไฟตัดขึ้นหุบเขา ถือเป็นเส้นทางรถไฟสายมรดกโลก และเส้นทางนี้ก็มีมาตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคม ไม่ได้มีเครื่องจักรไฮท์เทคโลยีแบบปัจจุบัน นั่นทำให้มันควรค่าที่จะได้ลงบันทึกเป็นมรดกโลก และเพราะว่าเป็นเส้นทางรถไฟตัดขึ้นเขาสูงไปเรื่อยๆ ทำให้รางรถไฟเป็นรางเล็ก จึงจำเป็นต้องใช้รถไฟขนาดเล็กกว่ารถไฟมาตรฐานทั่วไป ซึ่งมันมีหน้าตาคล้ายรถไฟของเล่น เขาก็เลยเรียกมันว่าทอยเทรน Toy Train นั่นเอง 

gi6dcob61wtw
h8vbpej6uj54


วิธีเดินทางไปชิมลา หิมาจัล อินเดีย

เส้นทางนี้ไปได้หลายวิธีทั้งรถบัส แท็กซี่ เครื่องบินแต่ถ้าอยากประหยัดเงิน และชมทัศนียภาพระหว่างทางก็ต้องรถไฟ และไม่มีรถไฟตรง ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนของอินเดียคุณจำเป็นต้องหารถไฟไปลงที่ Kalka เพื่อเปลี่ยนรถไฟเป็นทอยเทรน ในที่นี่เราจะยกตัวอย่างเป็นเริ่มจากนิวเดลี และอัมริตสาร์

  • นั่งรถไฟเริ่มจากนิวเดลี

ต่อที่ 1: นั่งรถไฟ New Delhi to Kalka

ต่อที่ 2 นั่งรถไฟ Kalka To Shimla 

mn62srx404l3
  • นั่งรถไฟเริ่มจากอัมริตสาร์ ( ปัจจุบันมีบินตรงไปยังอัมริตสาร์ และเมืองนี้ใกล้หิมาจัล )

    ต่อที่ 1: นั่งรถไฟ Amritsar To Chandigarh

    ต่อ 2: นั่งรถไฟจาก Chandigarh To Kalka ประมาณ 1 - 2 ชม.

    ต่อ 3: นั่งรถไฟจาก Kalka To Shimla 

    *หมายเหตุ ต้องระวังเรื่องเวลาช่วงรอยต่อการเปลี่ยนขบวนด้วยนะ อย่าจองแบบกระชั้นชิดเกินไป ถ้าดีเลย์จะยุ่ง และเวลาจองรถไฟ ตอนค้นหาชื่อสถานีชิมลาบนเว็ปจองรถไฟ IRCTC นั้นให้พิมพ์ชื่อสถานีว่า Simla ถ้าพิมพ์ Shimla มันจะไม่หาสถานีไม่เจอ 

    ikwhrqvueiu8
    sqoguqhvehq8


    ข้อควรรู้เพื่อเตรียมตัวก่อนไป

    1. ชิมลาเป็นเมืองบนเขา มีพื้นที่ครอบคลุมเขา 7 ลูก จึงได้ชื่อเรียกว่า Seven Hill of Shimla ( เซเว่นฮิวแห่งชิมลา ) ที่ต้องบอกเรื่องนี้เพราะเราจะเหมือนเดินเที่ยวบนเขา ขึ้นเนินลงเนิน มีทางลาด มีบันได ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยมากกว่าเที่ยวเมืองอื่นๆ ขนาดเราเตรียมตัวแล้วและเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง การกลับไปรอบนี้ ( 2025 ) ก็ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่ดี ตอนกลับมาถึงนิวเดลีรู้สึกได้เลยว่าขาก้าวขึ้นบันไดแทบจะไม่ไหว เพราะเดินขึ้นเขาลงเนินที่ชิมลาตลอด ( ตระเวนหาคาเฟ่ )

    2. ระวังไม้เลื่อยตามกำแพงต่างๆ บางชนิดมีพิษค่ะ ไม่ใช่พิษร้ายแรงแต่มันจะเจ็บแปล๊บเหมือนโดนอะไรต่อยในแว๊บแรกที่เราสัมผัส จากนั้นมือจะชา และจะเริ่มคันคะยอ แต่จะมีอาการไม่เกิน 1 อาทิตย์ ทำได้แค่หายาประเภทคาละมายทาแก้คัน ไม่ปวด ไม่บวม ไม่แดง ไม่อักเสบแต่คัน  เนื่องจากมีคนชนเราและเราเซไปทางกำแพงเลยเอามือท้าวกำแพงเลยได้เรื่อง พืชไม้เลื่อยชนิดนี้จะพบได้ทางอินเดียเหนือและเนปาล ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันชื่อว่าอะไร ( ถามแฟนมาได้ความมาแค่นี้ เพราะแฟนก็ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไร รู้แต่ว่ามันจะทำให้คัน ) 

    cfxqp2gl4zyi


    3. ระวังแท็กซี่หลอก และอย่าเชื่อคนอาสาแบกของให้

    เรารักอินเดีย มีแฟนเป็นคนอินเดีย ไปอินเดียตั้งแต่อายุยี่สิบกลางๆ จนตอนนี้ 32 ต้องบอกว่าคนใจดีมีจริง แต่ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ใจดี ยอมเสียเปรียบ ไม่มีแน่นอน ดังนั้นคนที่มาอาสาพาคุณไปไหน เดินนำทาง อาสาแบกของเพราะเป็นเมืองบนเขากลัวคุณเหนื่อย ล้วนแล้วแต่คิดค่าบริการ พวกนี้จะไม่แนะนำตัว ไม่บอกเรทราคา มาอาสาช่วยแบกของ หรือเดินคุยบอกทางโดยเราไม่ได้ขอ แล้วจะขอเงินตอนท้าย ลองสังเกตพวกนี้จะแทบไม่สนใจนักท่องเที่ยวอินเดียเลย จะพุ่งมาหาชาวต่างชาติก่อน 

    vbukzg6yajsp

    และที่ให้ระวังแท็กซี่คือ เขาไม่ส่งที่จุดหมายค่ะ เขาจะไปส่งที่ที่มีคนรอแบกหามของให้ เราเรียกแท็กซี่เพราะเราเช็กเส้นทางและถามโรงแรมแล้วว่ารถยนต์เข้าถึงไหม ที่พักบอกว่าถึง สามารถมาได้ แต่แท็กซี่ไม่ขึ้นไปถึงตรงนั้นค่ะ เขาพาเราไปส่งถนนที่ต่ำสุดเพื่อให้เราเหนื่อยตอนเดินขึ้น และคนแบกหามพวกนี้ก็ประกบเราตลอดเวลา เราเลยบอกเขาว่า "ฉันสามารถไปถึงโรงแรมได้ด้วยตัวเองเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาที่นี่ และฉันสามารถถือกระเป๋าเองได้ แต่ถ้าคุณยืนยันจะช่วย โอเค ขอบคุณ แต่ฉันไม่มีทิปให้นะ" คนๆ นั้นก็ตอบกลับว่า "โอเค คุณไปเลย บาย" และเขาก็จากไป และเราก็ไปถึงยังที่พักซึ่งถ้าเดินจากสถานีรถไฟมันมีทางที่ขึ้นมาง่ายกว่า แต่เพราะแท็กซี่ทำให้เราเหมือนเริ่มจากถนนที่ต่ำสุดสู่สันเขา ทางที่ดีคือติดต่อโรงแรมที่พักให้จัดรถมารับ ราคาเท่าไรก็ว่าไปถ้ามันส่งถึงที่พักแน่ๆ มันโอเคกว่า 

    hzs5jyhiqn44



    เหตุผลที่ควรไปชิมลา หิมาจัล

      แม้จะมีเรื่องไม่ค่อยโอเคเกี่ยวกับแท็กซี่และคนบางจำพวก แต่เราก็ยังชอบเมืองๆ นี้ที่สุด จากสิบกว่าเมืองที่เราเคยไปมา จนถึงวันนี้เราก็ยังชอบชิมลามากที่สุด นั่นก็เพราะว่า

      1. ถ้าขยันเดินอยู่แล้ว เมืองๆ นี้จะเดินเที่ยวง่ายมากๆ เพราะมันจะมีซอยที่ทะลุถึงกัน ทั้งถนนมอลล์ สันเขา โซนที่อยู่ล่างสุด หรือขึ้นขาไปวัดที่มีหนุมาร วางแผนช่วงจากรถไฟไปที่พักและจากที่พักไปสถานีรถไฟดีๆ จะแฮปปี้มาก 

      2. คาเฟ่ ร้านอาหารน่านั่งเยอะมาก เราเป็นสายคาเฟ่ฮอปปิ้ง ดังนั้นเลยรู้สึกเอนจอยกับการเดินหาคาเฟ่ จิบกาแฟมากๆ 

      xh5xbvoa1hgw
      duo9ri1cnttn


      3. สายชอปปิ้งจะต้องชอบถนนมอลล์ เพราะร้านค้าเยอะมาก ตลอดสองข้างทางมีตั้งแต่ร้านขายของธรรมดาไปจนถึงของมียี่ห้อ

      4. อาหารอินเดียเหนืออร่อยและทานง่าย เช่น โมโม มัชรูมชิลลี่ เป็นต้น

      5. อากาศดีตลอดปี บรรยากาศดี วิวสวย ทั้งระหวางเส้นทางรถไฟรวมถึงบนเขา

      *หมายเหตุ หน้าฝนก็สวยเหมือนกัน แต่ต้องระวังเรื่องหน้าดินถล่ม ต่อให้ตอนไปไม่ถล่ม แต่ถ้าระหว่างพักหรือเที่ยวอยู่ที่ชิมลา หรือส่วนอื่นๆ ของหิมาจัลแล้วเกิดหน้าดินถล่มช่วงไหน ก็อาจทำให้รถไฟหรือรถบัสไม่สามารถวิ่งรถบริการได้ ก็จะต้องติดแหงกอยู่ที่นั่นไปจนกว่ารถจะวิ่งได้ ต้องเช็กเหตุการณ์วันต่อวันเลย คนจึงไม่นิยมไปหิมาจัลช่วงหน้าฝน

      9652rttm1rs8
      qky2b84k739u

      และนี่ก็คือเส้นทางรถไฟสายมรดกโลก Kalka - Shimla ไว้บทความหน้าจะพาไปรู้จักชิมลาแบบเต็มๆ กันอีกครั้ง สุดท้ายนี้ใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลย หรือแวะมาติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะ

      ความคิดเห็น