#แพลนเที่ยวฮ่องกง
#3วัน2คืน #ฉบับคนมีวันลาน้อย
เที่ยวง่าย เดินทางสะดวก ฟรีวีซ่า !!!สายชิล..สายกิน สายมูขอพรเสิรมเฮงชีวิตปังๆ
ถ้าให้นึกถึงที่เที่ยวไม่ไกลจากไทยแถมได้เที่ยวครบทุกแบบ เชื่อว่าทุกคนคงจะมีฮ่องกงไว้ในตัวเลือกแน่นอน
ฮ่องกง หนึ่งในเมือง ที่เต็มไปด้วยของอร่อยมากมาย ย่านท่องเที่ยวสุดฮิปกับความคลาสสิกที่ไม่ว่าจะแพลนกล้องไปทางไหน ถ่ายรูปยังไงก็สวย ที่สำคัญฮ่องกงเป็นที่ที่เรารู้สึกว่าไม่ว่าจะมากับใครก็เอ็นจอยได้หมด ซึ่งในทริปนี้เราไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกัน 3 คน ค่าใช้จ่ายรวม 40,000 บาท 3 วัน 2 คืน สายชิล สายกิน สายเที่ยว สายมูเสริมเฮง ชีวิตปังๆๆ ซึ่งจะมีที่ไหนบ้าง ตามเราไปเที่ยวกันดีเลยกว่า 😍😍
Plan Trip Hongkong 3 Day 2 Night
𝗗𝗮𝘆 𝟭
• BKK >> HKG
• Airport Bus to Hotel (A11)
• Best Western Plus Hotel Hong Kong
• Bao Dim Gui Yan ติ๋มซำหน้าที่พัก
• ไหว้เจ้าแม่กวนอิม Repulse bay (รถเมล์สาย 6)
• Chee Kei โจ๊กปู
• Chekung Temple
• ไปกินอาหารญี่ปุ่นแถวที่พัก (ลืมชื่อ)
• กลับ รร
𝗗𝗮𝘆 2
• Bao Dim Gui Yan ติ๋มซำหน้าที่พัก
• ฟ้อ เกย์ For Kee Restaurant ร้านข้าวหมูทอด
• Yick Flat Monster building (ฉากหนัง ทรานฟอร์เมอร์)
• Wong Tai Sin Temple
• บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หมัค หมั่น เกย์
• เดินเล่นย่าน Mong Kok
• กลับ รร
𝗗𝗮𝘆 3
• ฟ้อ เกย์ For Kee Restaurant
• Hung hom kwun yum temple
• กลับที่พัก เอากระเป๋า
• กระเช้านองปิง
• นั่ง Taxi ไปสนามบิน
• HKG >> BKK
** การเดินทาง ใช้บัตร Octopus“ บัตรเดียวอยู่
** เปิดโรมมิ่ง
** จองตั๋วกระเช้านองปิง เที่ยวฮ่องกง Hong Kong Fan Club บริการดี ตอบทุกคำถาม
คลิปวีดีโอรายละเอียดการเดินทาง
Day 1 : Thailand > Hongkong
ครั้งนี้เดินทางไปกับสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ เราจองผ่าน Trip.com
· ขาไปเราเลือกเดินทางไฟลท์ดึก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เที่ยวบิน HX780 02.00 > HKG 05.55
· ขากลับเลือกไฟลท์ไม่ดึกมากถึงไทยมีเวลาพัก เที่ยวบิน HX 765 16.55 > DMK 19.15
ลางานแค่วันเดียวไปต่างประเทศได้แล้วน้า
เที่ยวฮ่องกงต้องมีบัตร Octopus สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ Express ที่สนามบินได้เลย
ซื้อบัตร (Sold Tourist Octopus Card) จะเสียค่าซื้อบัตรจำนวน 39 HKD ตอนซื้อจ่าย 150HKD เงินในบัตรเหลือ 111 HKD ****บัตรเดียวเที่ยวได้ทั่วทั้งฮ่องกง
เวลาประมาณ 05.55 น. เราก็เดินทางมาถึงสนามบิน ประเทศฮ่องกงกันแล้ว หลังจากที่เรามาถึงก็ทำการยื่นเอกสารเข้าประเทศ ผ่านเรียบร้อย ก็ได้เวลาเริ่มทริปเที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน กันแล้วครับ
จากสนามบินเราขึ้นรถบัส A11 จากสนามบินมายังลงสถานี macao ferry ใช้เวลานั่งมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
พอลงรถ เราก็เปิด GPS เดินมายังที่พัก ใช้เวลา 18 นาที แต่ถ้าใครไม่อยากเดินไกลแบบเรา สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาได้นะ ลงสถานี Sai Ying Pun Exit B3
วิธีการเดินทาง
จากสนามบินไปโรงแรม Best western plus hotel Hong Kong
ย่าน Sai Ying Pun การเดินทาง : นั่งรถ A10 / A11 จากสนามบิน ถึง Macao Ferry เดินไปที่พัก /
หรือนั่งรถไฟฟ้า MTR ลงสถานี Sai Ying Pun Exit B3
Best western plus hotel Hong Kong
เดินทางสะดวก รอบๆที่พักมีของกิน ราคาไม่แพง
เราจองมาแบบ 3 เตียง 2 คืน 5,xxx วิวคือสวยมากๆ เสียดายไม่มีเวลาดื่มด่ำเลย
เดินทางสะดวก รอบๆที่พักมีของกิน ราคาไม่แพง ห้องพักสะอาดดี มีแม่บ้านเข้ามาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัว จัดเตียง เติมน้ำให้ทุกวัน กลิ่นไม่อับ ไม่มีกลิ่นบุหรี่ อยู่ใกล้สถานีรถบัส รถแทรม รถไฟฟ้า
• Bao Dim Gui Yan ติ๋มซำหน้าที่พัก
ย่าน Sai Ying Pun
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-22:00
การเดินทาง : MTR สถานี Sai Ying Pun Exit B3
ออกมาจากที่พักเราก็เดินกลับมายังร้าน Bao Dim Gui Yan ที่เดินผ่านตอนมาที่พัก คุณป้าคนจีนสองคนขายกันแบบงงๆ เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ทำได้แค่ชี้ ๆ แล้วก็บอกจำนวน
มาฮ่องกงจะไม่กินติ่มซำได้ยังไง แนะนำร้านนี้เลย อร่อย อยากกินไรสั่งเลย
แต่แนะนำ ฮะเก๋ากุ้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง อร่อยย ย ~ ราคาเบาๆ ไส้แน่น ชิ้นใหญ่
มีให้เลือกหลายอย่างในร้านเดียว อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เดินทางสะดวก ราคาเป็นมิตรถูกใจเราที่สุด555
ทานมื้อเช้ากันง่ายๆ เสร็จแล้ว เราก็ตั้งใจไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ Replus Bay ก่อน และเราเลือกเดินทางด้วนรถบัส
• ไหว้เจ้าแม่กวนอิม Repulse bay (รถเมล์สาย 6)
MTR ไปลงที่สถานี Central (ทางออก A) จากนั้นเดินข้ามสะพานลอยและลงไปต่อรถบัสที่ด้านล่างของตึก Exchange Square, ขึ้นรถบัสสาย 6, 6A, 6X, 66, 260 ไปลงที่อ่าวรีพัลส์เบย์บริเวณด้านหน้าของตึก Repluse Bay Tower จากป้ายรถบัสเดินเรียบริมชายหาดไปอีกประมาณ 450 เมตร ก็จะเจอวัดอยู่ที่ปลายสุดของอ่าว
เริ่มต้นการเดินเข้าวัด จะต้องเดินด้วยเท้าซ้าย เวลาเดินออกวัดจะต้องเดินออกด้วยเท้าขวา ก่อนเข้า ให้ลูบลูกแก้วในปากสิงโต
ขอพรจาก เจ้าแม่กวนอิม เป็นองค์แรก ซึ่งตรงหน้าพระแม่กวนอิม จะเห็นแผ่นกระเบื้องสีขาว ๆ ที่พื้น ตรงกับพระพักตร์ เจ้าแม่กวนอิม ให้เรายืนก้มหน้า แล้วก็ตั้งสมาธิ จากนั้นให้บอกชื่อ บอกนามสกุล ที่อยู่ แล้วบอกว่า จะมาขอพรเรื่องอะไร ขอได้ 1 เรื่องให้ตัวเองเท่านั้น ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มาก
เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย :
ไหว้ขอโชคลาภความมั่งคั่ง ต้ององค์นี้เลย "เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย" ตั้งอยู่ด้านหน้ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
ไฉ่ซิงเอี้ย - เทพเจ้าประทานโชคลาภ และความมั่งมีเงินทอง ความร่ำรวย
วิธีการขอพร ใช้ธนบัตร 100 บาท ตั้งจิตอธิษฐานขอพรเรื่องโชคลาภ จากนั้นธนบัตรลูบที่เคราขององค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยลูบตั้งแต่ด้านบนลงมาด้านล่าง แล้วมาสิ้นสุดที่ถุงใส่เงินขององเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ที่อยู่บริเวณเอวจากนั้นนำธนบัตรใบนั้นเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน
ไหว้ขอพรเจ้าแม่ทับทิม เป็นองค์ที่ 2 เจ้าแม่ทับทิม หรือ เทพธิดาแห่งท้องทะเลเนื่องจาก คนฮ่องกง คนมาเก๊า จะอยู่ติดริมทะเล มีความเชื่อว่าเจ้าแม่ทับทิมจะปกป้องเราจากภัยอันตรายจากการเดินทาง
เหรียญจีนโบราณแห่งโชคลาภ
เหรียญจีนโบราณ ตั้งอยู่หน้าองค์เจ้าแม่ทับทิม มีทั้งหมด 5 เหรียญ
ให้เลือกตั้งจิตอธิษฐานที่เหรียญใหญ่สีเหลือง ขอพรเกี่ยวกับธุรกิจ และการเงิน โดยยืนที่หน้าเหรียญทอง
ใช้ 2 มือลูบรอบนอกของเหรียญที่เป็นกระจกสีทอง 3 ครั้ง เพื่อให้พรที่เราขอสะท้อนเข้ามาที่ตัวเรา
เมื่อลูบครบแล้ว ให้ไหว้ที่ช่องสี่เหลี่ยมที่อยู่ตรงกลางของเหรียญ
สะพานต่ออายุ ( สะพานอายุยืน )
สะพานสีแดงตั้งอยู่บนริมหาด สีแดงสด เชื่อกันว่า คนจีนเชื่อกันว่าหากเดินข้ามสะพานนี้ เราจะมีอายุยืนยาวขึ้นอีก 3 ปี บนโลกมนุษย์ วิธีการเดินข้ามสะพานต่ออายุ
ตั้งสมาธิ จากนั้นให้ก้าวเท้าซ้ายเดินขึ้นสะพาน แล้วเดินข้ามไปยังอีกฝั่ง
เมื่อข้ามไปแล้ว... ห้ามเดินกลับทางเดิม "เด็ดขาด" เราต้องเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อกลับมาทางเดิม
ศาลา 8 เหลี่ยม
ตำแหน่งที่ตั้งของศาลา 8 เหลี่ยม เชื่อกันว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในวัดนี้ ให้เราไปยืนขอพรจากตำแหน่งนี้เพื่อขอพลังจากสวรรค์ เมื่อเรายืนขอพรเสร็จแล้ว ให้เดินไปที่ป้ายหินแกะสลัก โดยเอาฝ่ามือทั้ง 2 วาดเป็นรูปหมายเลขแปด หรือ infinity ในความหมายคือ โชคดีมีชัยแบบไม่สิ้นสุด
ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์มาก ทั้ง เทพเจ้าแห่งความรัก เพื่อให้สุขภาพดี ร่ำรวย เงินทอง และความรักการมาที่นี่เหมือนมารับความสิริมงคล ที่เป็นศูนย์รวมของสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ต้องไปหลายที่เลย
อ่าวรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay) ที่นี่เป็นชายหาดที่ทุกคนจะมาแวะเล่น แวะถ่ายรูปเพราะเป็นทรายสีขาว และที่นี่เองก็ ติดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดของฮ่องกง ด้านหลังจะมีห้องน้ำให้อาบน้ำเปลี่ยนชุดด้วย
เรียกง่ายๆ ว่ามาวัดเดียวได้ไหว้ครบจบหมด อิ่มบุญอิ่มใจมากๆ ขากลับเราก็เดินทางเหมือนขามาเลย แล้วก็นั่ง MTR ไปยัง สถานี Tsim Sha Tsui
• โจ๊กปูไข่ ฮ่องกง : Chee Kei ชีเกย์
เวลา : 11:00 – 21:00
พิกัด map : https://goo.gl/maps/uYH7cCHTR2...
การเดินทาง : สถานี Tsim Sha Tsui ทางออก A1 (เดิน 2 นาที)
บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง สาขา Lock Road จิมซาจุ่ย เป็นสาขาที่เดินทางสะดวกมาก ใกล้สถานี Tsim Sha Tsui
บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง สาขา Lock Road จิมซาจุ่ย เป็นสาขาที่เดินทางสะดวกมาก ใกล้สถานี Tsim Sha Tsui
เมนูภาษาอังกฤษ บอกราคาชัดเจน เมนูหลักๆ คืออร่อย กินง่าย เมนูข้าวอบ ก็มีนะ ราคาไม่แรงมาก โจ๊กปู หนึ่งในเมนูยอดนิยมของ Chee Kei – โจ๊กเนื้อเนียน เสิร์ฟมาในถังไม้เก็บความร้อน – ปูไข่ ขนาดย่อม ทางร้านจะนำไข่ปูบางส่วนต้มพร้อมกับโจ๊ก ทำให้ได้โจ๊กสีนวลๆ ร้อนมาก ระวังจะลวกปาก
ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เราก็ตั้งใจไปไหว้พระกันต่อที่วัดแชกงหมิว สายมูต้องไม่พลาดวัดดังฮ่องกงการเดินทาง นั่ง MTR สถานี Tai Wai ทางออก B เดินตามป้ายไปประมาณ 5 นาที
Chekung Temple หรือวัดกังหันที่คนไทยนิยมไปขอพร
การเดินทาง : สถานี Tai Wai ทางออก B เดินตามป้ายไปประมาณ 5 นาที
Map : https://maps.app.goo.gl/GtQQJJH6GapQRVpv5
แชกงหมิว เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนฮ่องกง เคารพนับถือมาอย่างเนิ่นนาน โดยรูปปั้นองค์แชกงถูกสร้างเพื่อระลึกถึง นักรบแชกง นักรบฝีมือดีในราชวงศ์ซ่ง ที่คอยปราบศึกศัตรูที่เข้ามารุกรานดินแดนทางเกาะฮ่องกงให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบัน
วิธีไหว้องค์แชกง ขอพรที่วัดแชกงหมิว
บริเวณหน้าวัดจะมีบริการจุดให้เช่าซื้อธูป เทียน บูชา พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำในการไหว้ และทำพิธีทั้งหมดดังนี้
1. เขียนชื่อ จุดประสงค์ และการขอพรลงบนในกระดาษสีแดงที่มากับชุดธูปเทียนบูชา
2. จุดธูปไหว้ ฟ้า-ดิน เป็นลำดับแรก โดยการไหว้นั้นให้หันหน้าออกทางประตูวัด ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหน้าตามลำดับ โดยบอกชื่อ ที่อยู่ อายุ และวัตถุประสงค์ที่มา เสร็จแล้วปักธูป 3 ดอก
3. บริเวณหน้าลานประตูวัดจะมีองค์เจ้าที่ ให้กราบไหว้สักการะ ปักธูปอีก 3 ดอก
4. นำธูปที่เหลือปักลงบนกระถางกลางแจ้ง บริเวณหน้าทางเข้าศาลเจ้าองค์แชกง โดยเหลือไว้ 3 ดอก
5. นำธูป 3 ดอกที่เหลือไปกราบไหว้ สักการะองค์แชกงกล่าวคำขอพรอีกหนึ่งครั้ง แล้วนำไปปักไว้ที่กระถาง
6. หมุนกังหันลม ถ้าชีวิตไม่ค่อยราบรื่นให้ใช้มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา แต่ถ้าชีวิตราบรื่นดี และอยากให้รุ่งเรืองเพิ่มขึ้นให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย
7. ตีกลอง บริเวณด้านในทั้ง 2 ฝั่งซ้าย-ขวา อย่างละ 3 ครั้ง
8. ลำดับสุดท้าย อย่าลืมนำกระดาษขอพรที่เขียนไว้ใส่ลงในกล่องเพื่อฝากทำพิธีในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ ภายในวัดแชกงหมิวยังมีพิธีกรรมต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการสักการะองค์แชกง, การขอพร บนบานศาลกล่าว ขอโชค ขอความรัก, การปัดเป่าเรื่องร้ายๆ จากปีชง, การทำพิธีเสริมโชคลาภเข้ากระเป๋า และรวมถึงเครื่องรางของขลังยอดนิยมจากวัดแห่งนี้
Che Kung temple ไปยืนอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นของท่านแชกง อธิษฐานขอพรและมองหน้าท่าน อย่างมุ่งมั่น ทำพิธีหมุนกังหันแห่งโชคชะตา โดยใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกาถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาไม่ดี ให้ใช้มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา
วัดแชกงหมิว (Che Kung temple) หรือที่คนไทยอย่างเราๆ รู้จักกันดีในชื่อของ วัดกังหันลม เป็นวัดที่ชาวจีนนั้นให้ความเคารพและศรัทธาเลื่อมใสกันมาอย่างยาวนานแล้ว ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่ 300 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อระลึกถึง นักรบเอกที่ชื่อว่า “แช กง” นั่นเองค่ะ โดยท่านผู้นี้เป็นนักรบในราชวงศ์ซ่ง มีฝีมือเก่งกาจและเป็นแม่ทัพปราบศึก โดยท่านจะมีสัญลักษณ์ประจำกองทัพนั่นก็คือ กังหันลม ค่ะ ว่ากันว่าถ้าได้มาขอพรที่นี่จะช่วยพัดพาสิ่งที่ไม่ดีออกไป และนำความโชคดีเข้ามาในชีวิตเราด้วยน้า
ก่อนเข้าที่พัก ไปกินร้านราเมงแถวที่พัก ก่อนจะกลับเข้าที่พัก หมดสภาพไปตามๆ กัน
Day 2 : For Kee - Yick Flat Building - วัดหวังต้าเซียน - Mak Man Kee - Mong Kok
ตื่นเช้ามาวันที่สองด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม เพราะได้นอนหลับพักมากันตลอดทั้งคืน วันนี้เราตั้งใจไปทานข้าวหมูทอดร้าน For Kee เจ้าดัง เป็นอีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาด แต่ร้านนี้ก็อยู่นอกเส้นทางแต่ถ้าใครรักที่จะกินของอร่อย บอกเลยร้านนี้น่าจะชอบกันทุกคน เราเดินจากที่พักประมาณ 15 นาที
• ฟ้อ เกย์ For Kee (科記咖啡餐室) #ร้านข้าวหมูทอด เจ้าดัง
ย่าน Sheung Wan
การเดินทาง : สถานี Sheung Wan ทางออก A2 เดิน 10 นาที ถึงหน้าร้าน
เมนูอาหารราคาไม่แพง เราสั่งข้าวหมูทอด ไข่ดาว และบะหมี่น้ำไป ข้าวหมูทอดอร่อยมาก หมูนุ่มละมุน แต่ไม่ค่อยชอบบะหมี่เท่าไหร่ คงเพราะหมูทอดอร่อยกว่า 5555
และที่พลาดไม่ได้คือการไปถ่่ายรูปกับตึกทรานฟอร์เมอร์ ทานข้าวเสร็จเราก็นั่ง MTR สถานี MTR Tai Koo (สายสีน้ำเงิน) ทางออก B ให้เดินไปทางซ้ายมือ ออกจากสถานีฝนตกปรอยๆ เราก็เดินลุยฝนกันไปยังตึก Yick Fat Building จะอยู่เลขที่ 1048 King's Road ทางเข้าต้องสังเกตุดีๆน้า ไม่งั้นเดินเลยแน่ๆ
• Yick Flat Monster building พิกัดถ่ายรูปสวย (ฉากหนัง ทรานฟอร์เมอร์)
การเดินทาง : สถานี MTR Tai Koo (สายสีน้ำเงิน) ทางออก B ให้เดินไปทางซ้ายมือ
ทางเข้าตึก Yick Fat Building จะอยู่เลขที่ 1048 King's Road
Monster Building ตึกทรานส์ฟอร์เมอร์ มุมฮิป ๆ สุดฮอตอีกแห่งของฮ่องกง พิกัดเช็คอินตามเก็บ Instagram Spots ประดับหน้าฟีดที่ไม่ควรพลาด จริง ๆ แล้วตึกนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวฮ่องกง มีห้องพักนับพันห้อง เรียงรายติดกันอย่างหนาแน่น บนความสูงของตึกเกือบ 20
ถ่ายรูปกันจนพอใจ เราก็ตั้งใจไปไหว้ขอพรกันที่วัดหวังต้าเซียน ถ้าเน้นเสริมดวงเรื่องความรัก หรืออยากขอเนื้อคู่ต้องมาที่วัดนี้เลย การเดินทาง : MTR ไปลงสถานี Wong Tai Sin ทางออก B2 แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที
วัดหวังต้าเซียน เป็นวัดเก่าแก่กว่าร้อยปี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นหนึ่งใน วัดดังฮ่องกง ที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนจะต้องมาไหว้ เทพเจ้าหวังต้าเซียน เพื่อขอพรเรื่องสุขภาพ และ เทพหยุคโหลว ขอพรเรื่องความรัก ใครอยากขอเนื้อคู่ อยากเจอคนที่ถูกใจ ต้องไปผูกด้ายแดงขอพรกับ เทพหยุคโหลว หรือ เทพเฒ่าจันทรา ให้ช่วยดลบันดาลให้มีคนรักเข้ามาในชีวิต ไหว้เสร็จปุ๊บอาจจะพบรักที่ฮ่องกงเลยก็ได้นะ
ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน เทพเจ้าหยุคโหลว หรือ เทพเจ้าแห่งความรัก ที่เราเรียกกันว่า เทพเจ้าด้ายแดง เชื่อว่าเทพเจ้าจะลงมาโลกมนุษย์เพื่อผูกด้ายแดงแห่งดวงชะตาระหว่างคู่รัก ซึ่งเมื่อคู่กันแล้วก็จะไม่แคล้วคลาดกัน ผูกด้ายแดง ขอเนื้อคู่
คนที่มีคู่แล้ว ก็ขอให้ความรักมั่นคง อยู่รักกันไปตลอด
ออกจากวัดหวังต้าเซียนอิ่มบุญไปตามๆ กัน เราก็ไปหาของกินกันที่ย่านจอร์แดน Jordan ที่นี่ของกินเยอะมาก ละลานตาเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว เราเลือกทานร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หมัค หมั่น เกย์ Mak Man Kee Noodle Shop
บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หมัค หมั่น เกย์ Mak Man Kee Noodle Shop
ย่านจอร์แดน Jordan
เวลาเปิด-ปิด : 12:00-00:30
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4ZQ6gAdK4zdpcSWS7
การเดินทาง : MTR สถานี Jordan ทางออก C2 เดินต่อ 90เมตร
ร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดังร้านหนึ่ง นักท่องเที่ยวมาทานเพียบ ตอนไปคนไม่เยอะไม่ต้องรอคิว เกี๊ยวกุ้งของเค้าเด็ด อร่อย กุ้งเต็มๆคำ ส่วนบะหมี่ เส้นจะกรุบๆไม่นิ่ม ถ้าคนชอบเส้นนิ่มๆอาจจะไม่โดน ใครติดกินเผ็ดแนะนำให้ใส่พริกเผา เผ็ดแซ่บขึ้น ช่วยได้ 😁
แล้วเราก็มาเดินเล่นกันต่อที่ย่าน Mong Kok เพื่อช็อปปิ้งกันต่อ ถ้าเห็นรถสีแดงขาวคันนี้ห้ามพลาด แวะทานไอศกรีมกันน้า 13$ เราสั่งแบบโคน อร่อย หอมนมมากๆ เลยแหละ ตอนแรกว่าจะไม่ ไม่พลาดดดดดด 55555
Day 3 : For Kee - วัดฮองฮำ - Nong Ping 360 - BKK
ตื่นเช้ามาวันนี้เราตั้งใจจะไปทานหมูทอดกันที่ร้าน For Kee แต่เพราะเราไปเช้าเกินพวกข้าว บะหมี่ เค้ายังทำไม่เสร็จ เลยทำให้ทานได้แค่พวกชา กาแฟ แล้วก็ขนมปัง แซนวิช
ตื่นเช้ามาเดินจากที่พัก ไปร้านฟ้อเกย์ for kee
ช่วงเช้าจะขายเป็นชา กาแฟ ขนมปัง หลัง 10.00 น. จะมีข้าวหมูทอด และบะหมี่ บรรยากาศภายในร้านก็ไม่ต่างอะไรจากวันแรกที่เรามากันเลย ชานม กับ ขนมปัง อร่อยน้า ทานจนหมดไม่รู้ตัว
ออกจากร้าน For Kee เราก็มุ่งหน้าไปยังวัดฮองฮำ เพื่อทำพิธีของยืมเงินจากเจ้าแม่กวนอิม เดินทางด้วย MTR สถานี Hung Hom ทางออก B1 เดินประมาณ 8 นาที
Hung Hom Kwun Yam Temple
ย่าน Hung Hom
เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00 น. – 17.15 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/MxbTiDUCCh...
การเดินทาง : สถานี Hung Hom ทางออก B1 เดินประมาณ 8 นาที
เจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ ร่ำรวยเงินทอง สายมูที่มาเที่ยวฮ่องกง ต้องไม่พลาดวัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ มาไหว้ขอยืมเงินเจ้าแม่กวนอิมช่วยเสริมดวงเงินทอง โชคลาภ
ทริคก่อนเข้าวัดแนะนำให้ก้าวเท้าขวาเข้าวัด มาช่วงเช้าคนได้ไม่เยอะ แนะนำเลยวัดนี้ต้องมา
ทำพิธีขอยืมเงินเจ้าแม่เสร็จเรียบร้อย เราก็เดินทางกลับไปยังที่พัก เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วนั่ง MTR เพื่อไปยังกระเช้านองปิง สถานที่สุดท้ายของทริปนี้ก่อนเดินทางกลับบ้าน
• กระเช้านองปิง
Ngong Ping 360
การเดินทาง : Ngong Ping Skyrail Terminal อยู่ใกล้กับ MTR สถานี Tung Chung ทางออก B แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
มาถึงสถานีเราก็ทำการฝากกระเป๋าที่ด้านล่างก่อนทางขึ้นกระเช้า ค่าฝากใบละ 25$ ฝากเสร็จเราก็รีบเดินขึ้นบันไดเพื่อทำเวลาในขึ้นกระเช้า โชคดีมากที่เราจองตั๋วออนไลน์มากับ เที่ยวฮ่องกง Hong Kong Fan Club มาก่อน ไม่งั้นลำบากแน่ๆ เพราะคนรอต่อแถวเยอะมาก ๆ
เราใช้เวลาในการรอไม่นานก็ได้ขึ้นกระเช้านองปิง ไปไหว้ขอพรพระใหญ่
เราเลือกนั่งกระเช้าแบบ 360 เห็นยันพื้นข้างล่าง ตอนแรกคิดว่ากระเช้าจะเป็นแบบ Private แต่ไม่ใช่นะทุกคน นั่งกันเยอะมาก จนกว่าจะเต็ม (สิ่งที่คิดกับสิ่งที่เจอ) 5555
วิวด้านบนสวยมากจริงๆ มองเห็นแทบจะทั้งเกาะฮ่องกงเลย ถือเป็นการชมวิวมุมสูงของฮ่องกงผ่านสายตาตัวเอง เพราะปกติภาพมุมสูงจะเห็นผ่านจอที่บินโดรนทั้งนั้น
เห็นวิว 360 สวยมากจริงๆ เราว่าคุ้มนะกับค่านั่งกระเช้าที่จ่ายไปกับวิวขนาดนี้
แต่จากที่นั่งชมวิว ดื่มด่ำกับบรรยากาศอยู่ดีๆ บรรยากาศรอบข้างเริ่มเปลี่ยนไป
ฟ้าเริ่มมืด หมอกมาฟุ้งกระจาย จนมองไม่เห็นอะไรเลย แง๊ๆๆๆๆ
ลมด้านบนแรงมาก พัดกระเช้าเราไหวไปมา จนเกิดความรู้สึกมึนหัว อยากจะอ้วก นี่อาจจะเป็นข้อดีที่เราไม่ได้มาแบบ private อย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมไปด้วยกัน
น้องหมอกมาแบบไม่นัดหมายเลย และด้านบนฝนตกหนักมาก บอกตามตรงกลัวมากๆ คิดว่ารอบหน้าถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวฮ่องกงอีก คงไม่นั่งกระเช้าแล้ว ขอนั่งรถบัสแทน เสียเวลามากกว่า แต่ไม่หวาดเสียว
พวกเราตัดสินใจระหว่างนั่งกระเช้า ว่าพอขึ้นไปถึงแล้วถ้าสภาพอากาศยังไม่มี จะนั่งกลับเลย เพราะถ่ายอะไรไม่ได้ และที่สำคัญไฟลท์บินของเราเลื่อนเวลาเข้ามา
ขากลับเรานั่งแบบธรรมดา ความกลัวเริ่มลดลง และพอลงมาฟ้าด้านล่างโปร่งมาก คนละฟิวกับด้านบนเลย
พีคกว่านั้นคือ ไฟล์ทบินเลื่อนเวลาเร็วขึ้น ลงมาถึงด้านล่างรับกระเป๋า เรียก taxi เข้าสนามบินเลย จบทริปเที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน แบบฉบับคนมีเวลาน้อย
ส่วนตัวเราประทับใจฮ่องกงมากๆ เพราะว่าที่นี่มีที่เที่ยวเยอะ อาหารรสชาติดี
มีจุดให้เราถ่ายรูปเท่ๆตลอดทาง และเป็นอีกเมืองที่เที่ยวได้ไม่ต้องง้อทัวร์ แบบฉบับคนมีวันลาน้อย
เพราะการเที่ยวเยอะๆ มันช่วยทำให้เราลืมเรื่องไม่สบายใจได้ระยะหนึ่ง ถ้าไม่เชื่อลองไปเที่ยวดู
ช่องทางการติดต่อ :-
อย่าลืมกด Like กด Share และ Subscribe ด้วยครับ
Facebook https://www.facebook.com/EnvyJ... : https://envyjourney.com/
Tiktok : @envyjourney
Instagram : https://instagram.com/king_jou... : เที่ยวให้คนอิจฉา
เ ที่ ย ว ใ ห้ ค น อิ จ ฉ า
วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 19.31 น.