อ่างเก็บน้ำบางพระ - ชลบุรี
12 - 13 และ 20 - 21 พ.ค. 2559
อ่างเก็บน้ำบางพระ หลายคนอาจจะรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จากดอกเสลาที่ปลูกเรียงตามแนวถนนภายในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งดอกจะบานออกสีชมพู – ม่วงเต็มต้นช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวมาชื่นชมความงามเป็นจำนวนมาก มากจนชนิดที่ว่าถ่ายรูปไปแล้วไม่ติดคนตอนช่วงดอกบานเต็มที่นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ครั้นพอหมดช่วงดอกเสลาบาน นักท่องเที่ยวก็หดหายไปอย่างผิดหูผิดตา แต่ที่นี่ก็ไม่เคยเงียบเหงา ยังคงมีผู้คนแวะมาเยือนทุกวันไม่ได้ขาด ทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีใจรักในการปั่นจักรยาน จนกลายเป็นหนึ่งจุดที่รวมกลุ่มนักปั่นจักรยานรูปแบบต่าง ๆ มาปั่น พูดคุยกัน
ทริปนี้เป้าหมายคือการไปถ่ายรูปงานให้น้องสาวที่ทำร้านขายเสื้อผู้หญิง และกำลังจะทำ Page เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว โดยการถ่ายคนที่ใส่หัวหมีใหญ่ ๆ สร้างเนื้อเรื่องประกอบไปด้วย (ในบางครั้ง) ชื่อ page 'บันทึกนานา' (https://www.facebook.com/Diarynana/)
ซึ่งปกติแล้วผมก็เดินทางเพื่อถ่ายรูปวิวสวย ๆ เอาไว้หาทางขาย และหาช่องทางทำรีวิว หรือหาทางคุยกับพวกนิตยสารบ้างอยู่แล้วด้วย งานนี้น้องสาวออกค่าที่พักทั้งหมด เลยได้นอนที่สบายหน่อย แต่ก็ไม่แคล้วต้องไป 2 รอบ โดยรอบแรกไปกับน้องสาว แล้วไปกับเพื่อน ๆ ของน้องที่เป็นแบบ ส่วนรอบที่สองผมไปเองเพื่อเก็บภาพที่ยังไม่สมบูรณ์นัก
กระทู้รีวิวเก่า เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว
ยอยักษ์ ตักตะวัน ทะเลน้อย ควายน้ำ นกอพยพ ต้นลำพู - ทะเลน้อย - พัทลุง (http://pantip.com/topic/34977668)
สะพานไม้สุดชิว วิถีชาวมอญ - สะพานมอญ - สังขละบุรี - กาญจนบุรี (http://pantip.com/topic/34907371)
ชมทะเลหมอก ชิมน้ำใจที่เขาพะเนินทุ่ง - เขาพะเนินทุ่ง - อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - เพชรบุรี (http://pantip.com/topic/34582338)
หาเพื่อนร่วมเดินทางเพื่อการถ่ายภาพ โดยเดินทางด้วยรถส่วนตัว ตัวผมใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง ผู้ร่วมเดินทางจะเป็นรถยนต์ก็ยินดีเช่นกัน แต่ผมเน้นที่งบประหยัดที่สุดถ้าทำได้ ส่วนใหญ่จะนอนเต็นท์ มีนอนโฮมสเตย์บ้างในบางครั้งเพื่อสะดวกในการทำงาน (ยังไม่เคยนอนโฮสเทล แต่ว่าจะเลือกโฮสเทลบ้างละ เพราะประหยัดดี และสะดวกในการทำงานกว่าการพักเต็นท์ตลอด)
การเดินทางผมบางครั้งจะลุย ๆ หน่อย ถึงลุยค่อนข้างมาก เหนื่อย แต่ก็สนุก ผมเคยออกเดินทางไปกับเพื่อนแปลกหน้าไม่รู้จักกัน แต่นัดกันไว้ก่อนแล้วลุยไปด้วยกันครึ่งเดือนมาก่อน แต่น้อยครับที่จะมีคนร่วมทางกับผม เพราะมักจะกำหนดได้แค่วันเดินทาง วันกลับไม่แน่นอน
ใครคอเดียวกัน เข้ามาคุยกันได้นะครับ Facebook ผม คือ https://www.facebook.com/fasndee
เกริ่น
จุดชมวิวหลักของอ่างเก็บน้ำบางพระ
ด้วยความที่จังหวัดที่เจริญ และไม่ไกลกรุงเทพอย่างชลบุรี ทำให้มีนักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ทุกวัน แต่อันที่จริงแล้วในจำนวนผู้คนที่เดินทางมาที่นี่มักจะเป็นกลุ่มนักปั่นจักรยานเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะช่วงเช้ามืด หรือจะเป็นช่วงเย็น ๆ เราก็จะเห็นนักปั่นจักรยานรวมตลอดทั้งวันร่วมหลายร้อยคนแวะเวียนกันมา
ไม่ว่าจะปั่นชิว ๆ กินลม ปั่นร่วมก๊วน จะปั่นมาราธอนรอบอ่างเก็บน้ำ จนไปถึงฝึกปั่นขึ้นเนินก็มีให้ได้ลองครบทุกรส ถนนหนทางก็มักจะมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นเกือบทั้งหมด ทำให้ทางการได้สร้างเลนถนนเฉพาะสำหรับการปั่นจักรยานขึ้นมาในบางช่วงของถนนรอบอ่างไว้ด้วย
ปั่นจักรยานสายชิว กินลม
รวมไปถึงนักวิ่ง และนักท่องเที่ยวชมวิว เดินทอดน่อง
ที่จุดชมวิวตามแผนที่ด้านบนนั้นเป็นจุดที่ถนนเป็นถนนสองเส้นวางตัวขนานกันไป โดยที่เส้นหนึ่งจะอยู่บนเนินสูง รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ห้ามเข้า ทำให้มีผู้คนมาปั่นจักรยานออกกำลังกาย รวมไปถึงวิ่ง และเดินเล่นตรงถนนเส้นนี้กันเยอะ ใกล้ ๆ กันก็มีจุดจอดรถยนต์ รองรับได้ประมาณ 10 คัน และก็มีที่จอดที่ไกลออกไปอีกหน่อย ทำให้สะดวกที่หลายจะบรรทุกจักรยานไว้บนรถยนต์เพื่อขับมาแล้วมาปั่นจักรยานที่นี่
ในช่วงเย็น ๆ จะมีเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยจากภายนอก ซึ่งทางการจ้างมาเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยให้เป็นประจำทุกวัน
บนเนินนั้นจะมีเหล็กกั้น แต่คน และจักรยานผ่านไปได้ ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครแอบเอามอเตอร์ไซค์เข้ามาขับเชี่ยวชน จึงมีผู้คนที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั้น ขับรถแล้วมาจอดเพื่อออกกำลังกายที่นี่กันเป็นจำนวนมาก ตอนเช้าก็กลุ่มหนึ่ง ตอนเย็นผู้คนจะเยอะกว่าตอนเช้าเสียอีก แต่ก็ไม่ได้แออัดจนไม่สะดวก
ถ้าคุณจะมาช่วงเช้ามากขอให้เข้าสู่พื้นที่อ่างเก็บน้ำด้วยประตูด้านหน้า ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแต่ว่าถ้าเข้ามาในช่วงเช้ามืดมาก หรือมาดึก ๆ ยามหน้าประตูจะสอบถามอะไรเรามากหน่อย (ดูตามแผนที่ด้านล่างนี้) เพราะประตูอีกฝากจะเปิดตอน 07.00 น. เท่านั้น
พิกัดทางเข้าประตูหลัก ซึ่งจะมียามประจำอยู่ 24 ชั่วโมง ใครต้องการมาเช้ามืด หรือตอนกลางคืนจะต้องเข้าประตูนี้เท่านั้น แต่ถ้ามาดึก ๆ ยามจะกวดขันเป็นพิเศษ
ตอนเช้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มาปั่นจักรยานออกกำลังกายแบบชิว ๆ เสียมากกว่า และเมื่อฟ้าเริ่มสว่างขึ้นก็จะเริ่มมีผู้คนมาวิ่ง และเดินออกกำลังกายมากขึ้น บ้างก็เดินชมนกชมไม้ เพราะที่นี่นั้นมีนกหลากหลายสายพันธุ์อยู่ไม่น้อย เป็นที่สนใจของตากล้องสายส่องนก
เช้ามืดที่แห่งนี้เฝ้ารออย่างสงบ รอต้อนรับนักท่องเที่ยว และนักปั่นที่กำลังออกเดินทางกันมา
ผ่านไปไม่กี่อึดใจก็เริ่มเห็นรถยนต์ของนักปั่นจักรยานรายแรกเข้าสู่พื้นที่
วันสบาย ๆ อากาศสดชื่นยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่พ้นจากขอบฟ้า
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ไม่ไกลก็จะมาวิ่งออกกำลังกายที่นี่เป็นประจำ
เมื่อฟ้าสว่าง แต่ยังเช้าอยู่ เราจะเริ่มพบเห็นกลุ่มก๊วนปั่นจักรยานสายชิวก่อน ณ ที่แห่งนี้ บางก๊วนก็ใหญ่ระดับเกือบ 10 คน บางทีก็ 3 คน หรือคนเดียวก็มี แต่ช่วงเช้า ๆ เรามักจะเห็นเป็นคนออกกำลังกายแบบเดิน หรือวิ่งเสียมากกว่า
ใครต้องการหาก๊วนชิว ๆ ปั่นจักรยานคุยเล่นกันไปก็ต้องมากันตอนนี้แหละครับ ประมาณ 07.00 น. เพราะหลายคนเพิ่งจะมาถึง ยังไม่ออกวิ่ง หรือออกปั่น ทำให้คุณจะมีเวลาเข้าไปทักทาย พูดคุยกันจนสนิทชักชวนกันร่วมก๊วนได้ไม่ยาก
ซึ่งตอนเช้า ๆ แบบนี้จะไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตรงจุดชมวิว แต่ก็มีรถของนักท่องเที่ยว และผู้ที่มาออกกำลังกายที่นี่จอดอยู่ทั่วไปใกล้ ๆ นี้ ซึ่งที่จอดรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 5 - 8 คัน เพราะเป็นการจอดตรงไหล่ทาง ซึ่งจะว่าไปก็มีที่จอดถัด ๆ ไปอยู่ตามทางเรื่อย ๆ ก็เดินไกลอีกนิดเท่านั้น ส่วนมอเตอร์ไซค์สามารถจอดได้หลายสิบคันในบริเวณนี้
นักท่องเที่ยวหลายท่านคงมาไกลหน่อย เพราะมักจะเอาจักรยานบรรทุกใส่รถยนต์มาเพื่อมาปั่นที่นี่โดยเฉพาะ หรือเพื่อความปลอดภัย เพราะการปั่นผ่านถนนใหญ่เพื่อเข้ามาในพื้นที่อ่างเก็บน้ำอาจจะมีอันตรายอยู่บ้าง แต่ผมพบว่าก็มีนักปั่นจำนวนไม่น้อยปั่นออกมาจากบ้านพุ่งตรงมาถึงอ่างเก็บน้ำเลย
ปั่นจักรยาน สายทดสอบสมรรถนะตัวเอง
ไม่ว่าจะปั่นขึ้นเนินเล็ก ๆ หรือจะปั่นกินระยะทางรอบอ่างเก็บน้ำก็ตาม
ตัวถนนตีคู่กันตรงริบอ่างเก็บน้ำ ณ จุดชมวิวนั้น เราคุยกันถึงเนินด้านบนแล้วว่าสายชิวนิยมเดิน วิ่ง ปั่นเล่นกันตรงนั้น แต่ตรงจุดเชื่อมต่อกันของถนนเส้นขนานนี้ จะเป็นเนินสูงระยะทางร่วม 100 เมตรที่มีเหล่านักปั่นบางท่านชื่นชอบนักหนา เพราะได้ทดสอบความอึดในการปั่นขึ้นที่สูงก่อนที่จะออกทัวร์เดินทางไปปั่นขึ้นเขาจริง ๆ จัง ๆ
ความแตกต่างระหว่างถนนบนเนินที่ผู้คนมักจะชิว ๆ คุยเล่น วิ่งเล่น ปั่นจักรยานเล่น แต่กับถนนด้านล่างที่มีเนินตรงจุดเชื่อมต่อถนนนั้นกลับตรงกันข้าม
แต่อาจจะต้องระวังรถยนต์บ้าง เพราะถนนเส้นนี้มีรถยนต์วิ่งผ่านอยู่ตลอด อาจจะไม่น่ากลัวนัก เพราะคนขับรถยนต์ที่นี่ก็รู้ดีว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่นักปั่นจักรยานนิยมมาปั่น จึงทำให้ผู้ขับรถยนต์ระมัดระวังมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ถนนด้านล่างถึงจะมีรถยนต์วิ่ง แต่นั่งปั่นหลายคนก็นิยมมาปั่นเส้นด้านล่างเพราะผู้คนน้อยกว่ามาก
ส่วนถนนเส้นที่อยู่ด้านล่างของเนินจะเป็นถนนที่รถยนต์วิ่งผ่านได้ ตรงจุดชมวิวที่พิกัดไว้ในแผนที่ด้านบน จะเป็นเนินลาดชันยาวประมาณ 100 เมตร ทำให้นักปั่นที่อยากฝึกการปั่นขึ้นเนินก็จะมาปั่นกันตรงนี้เพื่อวัดกำลังขาของตน
นักปั่นบางท่านจะอาศัยปั่นเน้นระยะทางไกลโดยการปั่นรอบอ่างเก็บน้ำ ซึ่งถนนรอบอ่างเก็บน้ำบางพระจะยาวประมาณ 22 กิโลเมตร ได้ปั่นกันสะใจแน่ ๆ
การปั่นรอบอ่างเก็บน้ำ ควรจะปั่นแบบเรียงแถวตอนเรียง 1 และใช้สัญญาณมือกันด้วย เพราะบางจุดมีรถบรรทุกวิ่งอยู่บ้าง
การปั่นรอบอ่างไม่ต้องกลัวร้อนมากนัก แต่ก็ควรจะใส่ปอกแขนกันแดดไว้ เพราะถึงต้นไม้จะร่มรื่นแต่ก็ไม่ได้มีเต็มจนปกคลุมถนนทั้งหมดนะครับ
ที่สำคัญ บางช่วงของถนนจะมีเส้นทางเข้าสู่มอเตอร์เวย์ได้ ทำให้คุณอาจจะเจอรถบรรทุกบ้างในบางจุด แต่ผมก็พบว่านักปั่นจักรยานรอบอ่างที่นี่ มีเยอะตลอดเวลา ยกเว้นช่วงเที่ยง ๆ บ่าย ๆ
ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะไม่มีอาหาร หรือน้ำขาย เพราะระหว่างเส้นทางในถนนรอบอ่างเก็บน้ำจะมีร้านค้าชาวบ้านเปิดบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ดีควรจะพกกระติกน้ำไปด้วยจะดีที่สุด
ร้านค้าเปิดท้ายรถ ที่มีร้านที่มาจากร้านขาย และซ่อมบำรุงจักรยานด้วย เป็นจุดรวมของนักปั่นเส้นรอบอ่างหลาย ๆ ท่านชอบมาชุมนุมกันที่นี่ เพราะมีที่จอดรถได้สะดวก แต่เป็นที่จอดที่อยู่บนลานดิน ถ้าหน้าฝนอาจจะเละเทะซักหน่อย
จุดใหญ่ที่นักปั่นเส้นรอบอ่างนิยมไปนั่งคุยกันอีกจุดก็คือ ร้านค้าเปิดท้ายรถตรงบริเวณประตูฝั่งที่เปิดช่วง 7 โมงเช้า ซึ่งพิกัดให้ดูตามแผนที่ด้านล่างนี้ครับ ซึ่งจุดนี้คุณจะสามารถหาทางเดินลงไปตลิ่งริ่มอ่างเก็บภาพสวย ๆ ยามเช้า ซึ่งอาจจะพบชาวบ้านกำลังหาปลาด้วยครับ
ตำแหน่งร้านค้ารถเปิดท้ายขายของ จุดรวมตัวอีกจุดที่นักปั่นจักรยานรอบอ่างบางท่านชอบมานั่งคุยกัน และมีที่จอดรถยนต์รองรับได้ 10 กว่าคัน ที่นี่ยังเป็นตำแหน่งประตูอีกฝั่งซึ่งจะเปิดให้เข้าตอนช่วง 07.00 น. เท่านั้น
แถวนี้สวยงามขนาดที่ว่ามักจะมีทีมถ่ายภาพ pre-wedding มากันให้เห็นเกือบทุกวัน อย่างวันที่ผมไปนี่ก็ 2 เจ้าในจุดเดียวกันเลยทีเดียว
ทีมถ่ายภาพ pre-wedding ถ้าดูดี ๆ จะเห็นว่ามีเจ้าบ่าวสาวอีกคู่อยู่ไกล ๆ ด้านซ้ายของภาพ
นี่คือทีมถ่ายภาพ pre-wedding อีกคู่
จริง ๆ แล้วแถวนี้ก็มีคนมากางเต้นท์นอนให้เห็นบ้างนะครับ แต่ไม่บ่อย ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ก็ต้องเตรียมการทุกอย่างเองทั้งหมด เพราะห้องน้ำ ห้องส้วมไม่มี ร้านอาหารก็ต้องเดินขึ้นจากตลิ่งไปอีกไกลพอควร ทำให้มีคนมากางเต้นท์นอนกันน้อย
ทิวทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำบางพระ
ไม่ใช่แค่นักวิ่ง นักปั่นจักรยานเท่านั้น ที่นีมีวิวสวย ๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็เข้ามาเยี่ยมชมทุกวัน
ตรงด้านล่างของจุดชมวิวหลัก จะมีทางลงไปตรงตลิ่งได้ ถ้าน้ำลดเยอะ ๆ เราจะเดินได้ไปถึงเนินดินเก่าที่ใช้กันทำอ่างเก็บน้ำได้เลย (ถนนตรงจุดชมวิวที่เป็นเนินนั้นเป็นการทำใหม่เพื่อขยายอ่างเก็บน้ำ)
เนินดินเก่า ผมได้คุยกับน้อง ๆ ในพื้นที่เขาเล่าให้ฟังว่า ปกติเนินดินเก่านี้เราจะไม่ได้เห็นกันง่าย ๆ เพราะน้ำจะท่วมมิดหมด แต่ปีนี้น้ำน้อยลงมาก ทำให้เห็นเนินเก่านี้ ซึ่งตัวเนินก็อยู่ไม่ห่างจากจุดชมวิวหลักเท่าไหร่นัก
นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเยี่ยมชมที่นี่เฉพาะช่วงเดือนที่ดอกเสลาบานเท่านั้น แต่ที่นี่กลับมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดปี เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพ มีนกนานาพันธุ์ สงบ ร่มเย็น สาธารณูปโภคพร้อมเพรียง จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะดวกเป็นอย่างมาก
นกที่นี่มีจำนวนมาก ทำให้หลายคนนิยมมาส่องนกตามป่ารอบ ๆ อ่างเก็บน้ำ
ตามตลิ่งต่าง ๆ รอบอ่างเก็บน้ำ มักจะมีทางรัดเลาะเดินลงไปได้เสมอ ทำให้เราเข้าไปใกล้ชิดอ่างเก็บน้ำ รับลมเอื่อย ๆ เย็น ๆ ได้ครับ
ที่นี่บริเวณจุดชมวิวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ แต่ถ้าจะชมพระอาทิตย์ขึ้นแบบตรง ๆ หน้าแนะนำให้มาตรงตลิ่งแถวร้านค้ารถเปิดท้ายจะดีกว่าครับ ตรงนั้นจะมีทางลงให้เราเดินลงลัดเลาะไปถ่ายรูปริมตลิ่ง และมีพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้าเหนือแนวเขา ด้านหน้าเป็นอ่างเก็บน้ำ เห็นชาวบ้านหาปลากันด้วย
วิวริมตลิ่งตรงนี้หาทางลงได้จากแถวจุดร้านเปิดท้ายแถวประตูที่เปิดตอน 7 โมงเช้า
ตรงประตูทางเข้าแถวที่มีร้านขายของรถเปิดท้าย ตรงนี้มักจะเห็นชาวบ้านหาปลาอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะนัก
นอกจากนี้ยังมีจุดที่เราสามารถไปชมพระอาทิตย์ตกริมตลิ่งอ่างที่จุดอื่นได้อีก แต่การเข้าไปถึงริ่มตลิ่งจะต้องลุยถนนดินทรายซักหน่อย ทางไปนั้นจะอยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อเตียวหุย
ตรงข้ามกับศาลเจ้า จะมีทางลงออกจากถนนหลักเข้ารกเข้าพง ซึ่งจะพาเราทะลุไปออกไปยังถนนด้านในที่พาไปออกตลิ่งเพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกได้
เมื่อออกจากถนนหลังตรงข้ามกับศาลเจ้าพ่อเตียวหุย พ้นทางดินไปก็จะเป็นทางหินแผ่น แล้วก็หาทางออกจากทางหินแผ่นเพื่อวิ่งไปตามทางดินอีกรอบไปจนถึงขอบอ่าง ซึ่งจะดูไม่ยากครับ เห็นทางไหนที่รถออกได้ก็ออกได้เลย
ลักษณะทางเข้าสู่ทางไปริมตลิ่งเพื่อชมพระอาทิตย์ตก บริเวณตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเตียวหุย
จุดนี้ในบางฤดูจะเห็นนกน้ำมารวมกลุ่มเป็นฝูงใหญ่ร่วมหลายร้อยตัว และเห็นทั้งชาวประมง นักท่องเที่ยว ชาวบ้านมาจับปลา และพักผ่อนย่อนใจกันเยอะครับ แต่ขยะบริเวณนี้ก็เยอะเช่นกัน เพราะพ้นหูพ้นตาเจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยวบางคนก็มักง่ายก็มีเยอะ ทั้งถ้วยโฟม ขวดพลาสติก ไปจนถึงขยะชิ้นใหญ่น่าจะมาจากการรื้อถอนอย่างโถส้วมก็มี
จะว่าไปแล้วทางลงไปริมตลิ่งนั้นมีหลายจุดมากนะครับ ไม่ใช่แค่ตรงศาลเจ้าพ่อเตียวหุยเท่านั้น
ทางดินทรายบริเวณริมตลิ่งรอบอ่างเก็บน้ำ
นกน้ำหลายร้อยตัวบินให้เห็นทั่วไปยามเย็นที่ริมตลิ่ง
ดินริมตลิ่งจะมีแอ่งน้ำเป็นช่วง ๆ ถ้าขับรถยนต์เข้าไปต้องดุทางดี ๆ ไม่งั้นอาจจะติดหล่มได้
แอ่งน้ำน้อยใหญ่ริ่มตลิ่งรอบอ่างเก็บน้ำ
รถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาอาจจะต้องระวังมากขึ้นหน่อย เพราะทางเป็นทรายร่วน ถ้ารถมีน้ำหนักมากจะทำให้ล้อจมแล้วเสียการทรงตัวได้ง่าย
ขยะบริเวณนี้มีเยอะมาก ทั้งใหญ่และเล็ก แต่ขยะส่วนใหญ่จะดูง่ายว่าเป็นขยะที่มาจากนักท่องเที่ยว สิ่งใดไม่ใช่ และไม่ควรอยู่ในจุดนั้น ขอให้เอามันกลับมาทิ้งในตัวเมือง หรือที่บ้านของตัวท่านเองด้วย
บริเวณตลิ่งแถบนี้ จะมีทิศทัศน์หลายแบบ ทั้งผิวน้ำ ต้นหญ้าเขียว ๆ และมีพวกตะไคร่น้ำขึ้นบนผิวดิน น้ำขังเป็นแอ่ง รวมไปถึงต้นไม้ที่ใบแห้งแดง หรือแม้แต่กลุ่มต้นไม้ยืนต้นตาย ให้ความสวยงามไปอีกแบบ ซึ่งจำได้ว่ามี MV บางตัวก็มาถ่ายทำตรงนี้เพื่อนำไปประกอบภาพยนตร์ แต่ตรงจุดนั้น ขยะเยอะจนน่าตกใจ เยอะมากจริง ๆ ทั้งเป็นถุงดำกองอัดแน่นซัก 3 - 4 ถุงใหญ่ แล้วเป็นขยะกองแบบไม่ใส่ถุงอีกหลายกอง ไม่รวมขยะที่กระจายอยู่ไปทั่วบริเวณ
ที่พักมากมาย
ตั้งแต่ห้องส่วนตัวหลัก 200 จนไปถึงบ้านแยกเป็นหลังราคา 600 กว่าบาทหรือแพงกว่านั้น
ที่พักที่ไม่ไกลจากอ่างเก็บน้ำนั้นหาไม่ยากเลย มีหลากหลายราคา หลายระดับให้เลือก ที่ผมไปลองพักมี 2 ที่ คือแบบที่สวย น่ารัก เป็นส่วนตัวอย่าง ‘เดอ โคโค่ เฮ้าส์’ ที่เป็นทั้งร้านอาหาร และที่พักน่ารัก ๆ แบบเป็นส่วนตัว ไปจนที่พักแบบห้องแยกราคาถูกเพียงคืนละ 200 อย่าง ‘บังกาโลว์บางพระ’
ซึ่งผมได้ถ่ายรูปเก็บไว้เฉพาะที่เดอ โคโค่ เฮ้าส์นะครับ แต่ผมจะเอาพิกัดระบุตำแหน่งของทั้ง 2 ที่พักให้ได้ดูกัน
จากหน้าประตูเข้ามาจะเห็นห้องเป็นทางยาว ห้องน้ำอยู่ด้านหน้า มีที่วางของด้านหน้า ตู้เย็น ทางด้านตรงข้ามตู้เย็นจะเป็นจุดว่าง ๆ ไว้เก็บสัมภาระได้อีก พวกกระเป๋าใหญ่ ๆ อะไรแบบนี้ หรือจะใช้นั่งทำงานก็ได้
มุมนี้ผมยืนอยู่ตรงจุดวางสัมภาระกระเป๋าใหญ่ ๆ มองไปยังโต๊ะที่ใช้นั่งทำงานได้
ที่พักของเดอ โคโค่ เฮ้าส์นั้นตอนผมไปพักเป็นห้องแอร์ คืนละ 650 สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นสัตว์เลี้ยงตัวละ 250 บาทครับ มีบริการ Wi-Fi ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะสัญญาณไปไม่ทั่วถึง แต่ถ้าต้องการนั่งทำงานก็สามารถมานั่งในร้านอาหารได้ เพียงแต่ผมก็เกรงใจเพราะในร้านอาหารเป็นห้องแอร์และมีที่นั่งไม่มากนัก ลูกค้าที่มาทานอาหารก็เยอะพอสมควรด้วย ถ้าเรามาพักหลายคืนก็สามารถต่อรองราคาได้ครับ โดยรวมแล้วที่พักสะอาด ดูดี ราคาไม่ถือว่าแพงเมื่อเทียบกับความสะอาด และดูดี มีแอร์ มีน้ำอุ่น แผนที่ดูด้านล่างนี้ครับ
ที่พัก เดอ โคโค่ เฮ้าส์
สำหรับที่พักอีกที่คือ บังกาโลว์บางพระ ซึ่งเป็นที่พักที่ถูกมากครับ ห้องเป็นห้องส่วนตัวราคาเพียง 200 บาทสำหรับห้องพัดลม และห้องแอร์ราคา 300 บาทเท่านั้น มีบริการ Wi-Fi ที่ทั่วถึงเปิดตลอด 24 ชั่วโมงดีมากครับ ที่พักไม่ได้สะอาดเอี่ยม แต่ก็ไม่ได้แย่เกินไป ที่สำคัญอยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำเพียงแค่ขับรถไปอ่างเก็บน้ำใช้เวลาแค่ 5 นาทีกว่า ๆ ก็ถึงครับ แถมยังติดถนนใหญ่อีกด้วย ใกล้ตลาด และ 7-11 นี่คือจุดที่ดีกว่า เดอ โคโค้ เฮ้าส์ครับ พิกัดตามด้านล่างนี้
ที่พัก บังกาโลว์บางพระ
เดินทางตามฝัน
วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 20.53 น.