*สวัสดีครับนักท่องเที่ยวเเละนักเดินทางทุกคน เป็นรีวิวเเรกของผมเลยที่เขียนลงPantip ถ้าไม่ชอบหรือผิดพลาดประการใดเค้าขอโทษด้วยนะครับ


เชื่อเถอะว่าหลายคนมีความชอบในการท่องเที่ยวต่างกัน บางคนชอบทะเล....บางคนชอบภูเขา.....หลายคนอาจจะชอบนอนอยู่บ้านเฉยๆ5555 (ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวนะ เที่ยวในฝันฝันไง) เเต่สำหรับผม ผมชอบอ้อมกอดของภูเขามันสดชื่นเเละเติมพลังได้เสมอ

เรื่องมันมีอยู่ว่าผมใกล้จะเปิดเทอมเดือน ส.ค. นี้เเล้ว(ลืมบอกไปว่าผมเรียนอยู่มหาลัยดังย่านอโศก^^) ทริปนี้มันเริ่มจากการที่ผมอยากไปสัมผัสธรรมชาติบนภูเขาเเละอยากลองพิสูจน์ร่างกายว่าจะอดทนเเค่ไหนเราเลยหาข้อมูลที่เที่ยวทีเเรก ผมคิดว่า ภูกระดึง น่าไปมาก เเต่ผมได้แอบไปเห็นกระทู้ๆหนึ่ง ที่ตั้งคำถามว่าระหว่างภูสอยดาวกับภูกระดึงอันไหนโหดกว่ากัน หลายคนบอกภูกระดึง เเต่มีอีกหลายคนบอกภูสอยดาว พอผมเห็นกระทู้นี้ ผมเลยอยากลองพิสูจน์เเต่ภูกระดึงเราเคยไปเเล้วเลยอยากลองไปภูสอยดาวจะได้รู้ว่าโหดจริงไหมโหดกว่าภูกระดึงหรือเปล่า เมื่อคิดได้ดังนี้การเดินทางเลยเกิดขึ้น ผมเลยจัดการหาข้อมูลการเดินทางงบประมาณที่ใช้ เเต่ที่ดีไปกว่านั้นทริปนี้มีเพื่อนไปด้วย(ปกติจะชอบไปคนเดียว ประมาณว่าคนโสดคิดเเล้วก็ไปเลยไม่ชวนใคร) เเต่คราวนี้นึกอะไรก็ไม่รู้555 เลยโพสใน Facebook ว่าช่วง 18-20 ก.ค. มีใครอยากไปภูสอยดาวบ้างเเละเเล้วก็มีเพื่อนเก่าสมัยอนุบาล ประถม เเละมัธยม มาด้วย 3 คน จึงเกิดทริปการเดินทางอันเเสนพิเศษขึ้น เมื่อผมได้เพื่อนเดินทางเเล้ว ผมจึงติดต่อนัดหมายตกลงกัน โดยผมตกลงกันที่จะใช้รถไฟในการเดินทางครั้งนี้เราเลยทำการจองตั๋วล่วงหน้าเพราะกลัวว่าช่วงหยุดยาวคนจะเต็ม(เเต่เเล้ววันไปคนโล่งมากบนรถไฟ5555)

หลายๆคนที่อ่านคงฟังเค้าโม้มามากพอสมควรอยากเพิ่งเบื่อกันนะ....อยากให้ไปเที่ยวด้วยกันเเละเเล้วการเดินทางก็เริ่มในคืนวันที่ 18 ก.ค. โดยพวกเราเดินทางด้วยรถไฟรอบ 21.00 ไปถึงพิษณุโลก 4.30 โดยประมาณ

*เเต่ก่อนที่จะไปดูบรรยากาศที่นำมาฝากผมขอบอกข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการไปภูสอยดาวก่อน โดยเราจะสรุปแบบยาวๆดังนี้ 😍 😍


1.ข้อมูลอุทยานเเห่งชาติภูสอยดาว

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก อำเภอห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น มีเนื้อที่กว้างประมาณ 1,000 ไร่ มีความสวยงามมาก มีถนนลาดยาง เข้าถึงพื้นที่ทำให้สะดวกสบายในการเดินทางพักผ่อนหย่อนใจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีเนื้อที่ประมาณ 212,633 ไร่ หรือ 340.21 ตารางกิโลเมตร

ข้อมูลจาก [ http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=9114] (ไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากลิงค์นี้ได้นะครับ)

2.ข้อมูลการเดินทาง

เส้นทางอื่นผมก็ยังไม่เคยลองเเต่เส้นทางที่ผมใช้คือรถไฟไทยซึ่งสายชิลๆเเบบผมชอบ5555 โดยผมเริ่มจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพงที่หลายคนเรียกนั่นล่ะ) โดยใช้บริการรถเร็วขบวนเลขที่ 105 ออกเดินทาง 21.00 ถึง 04.00 น. โดยลงที่สถานีพิษณุโลก(เข้าอุทยานทางพิษณุโลกใกล้กว่าทางอุตรดิตถ์) เมื่อถึงสถานีพิษณุโลกต่อรถสองเเถวไป บขสเก่า 20 บาทเมื่อถึง บขส เก่าจะมีรถไปอำเภอชาติตระการ เมื่อถึงอำเภอชาติตระการจุดที่รถจอดแล้วให้ต่อวินมอเตอร์ไซต์ไปตลาดชาติตระการจะมีรถสองเเถวไปอุทยานเเต่จะมีเเค่ 2 เที่ยวต่อวัน(เเต่บริเวณตลาดจะมีรถเหมาไปอุทยานเเนะนำว่าควรหากลุ่มเพื่อนเดินทางที่จะไปภูสอยดาวเพราะจะได้ช่วยกันหารยิ่งคนเยอะยิ่งถูก) เเต่พวกเราบังเอิญเจอน้องๆที่เดินทางมาอีกกลุ่มจากมหาลัยทางภาคอีสานจึงเหมารถรับจ้างจาก บขสเก่า ไปอุทยานเเห่งชาติภูสอยดาวเลยเเล้วนัดวันให้พี่เขามารับซึ่งจะไม่เสียเวลาเเละทำให้เราเดินทางได้เร็วขึ้น (เเต่วิธีนี้ต้องมี 5 คนขึ้นไปถึงจะคุ้มเพราะคนยิ่งเยอะจะยิ่งถูก โดยรถรับจ้างไปภูสอยดาวจะอยู่หน้า บขสเก่าเลย มีบริการตลอดพี่ๆใจดีมากดูเเลเราตลอดทางเลย)

ป.ล. ยิ่งเดินทางไวจะยิ่งทำให้มีเวลาเดินขึ้นภูเเละไปทันการใช้บริการลูกหาบ

เว็บเช็คบริการเที่ยวรถไฟ [ http://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp]

3.การบริการที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก เเละการบริการ ของอุทยาน

3.1อุทยานมีบริการลูกหาบคิดค่าบริการกิโลกรัมล่ะ 30 บาท (ถ้าใครที่คิดว่าตัวเองเเข็งเเรงเดินไหวเเบกขึ้นเองก็ได้)

3.2อุทยานมีบริการเต็นท์คืนล่ะ 225 บาท (เเต่พวกเราเอาไปกันเองประหยัดเงิน) เเละมีบริการถุงนอนเเละเตาถ่านสำหรับปรุงอาหารรวมทั้งมีอุปกรณ์เเคมป์ปิ้งอีกหลายอย่างให้เช่าเเต่พวกเราเอาไปเองเลยไม่ทราบค่าบริการ5555 เเต่ไม่น่าจะเกินชิ้นล่ะ 100 บาทยกเว้นเต็นท์ที่คืนหนึ่งก็เเพงอยู่ถ้ารวมค่าลูกหาบที่เเบกขึ้นไปให้เราด้วย (เชื่อเถอะเพราะบางคนเเบกเองไม่ไหวเเน่ๆ)

3.3มีค่าเข้าอุทยานซึ่งพี่เจ้าหน้าที่ถามว่าเราเป็นนักศึกษาใช่ไหมเราจึงตอบว่าใช่พี่ๆเขาเลยคิดคนล่ะ 20 บาทโดยปกติค่าเข้า 40 บาทต่อคน

3.4ค่าบริการพื้นที่กางเต็นท์บริเวณลานสนที่อยู่บนภู 30 บาทต่อคนต่อ 1 คืนเราเลยเสียค่าเสียหาย 120 บาทเพราะมากัน 4 คน

3.3อุทยานคิดค่ามัดจำขยะ 200 บาทต่อคณะเดินทางนะครับ

3.4อุทยานมีบริการร้านอาหาร น้ำดื่ม เเละของที่ระลึกบริเวณที่ทำการข้างล่างภู เเต่บนภูที่เราพักไม่มีอาหาร ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้นะครับ ต้องจุดไฟทำอาหาร เอง มีบริการน้ำดื่มที่กรองมาจากน้ำฝน มีห้องน้ำให้บริการเเต่ต้องไปตักน้ำมาเองจากน้ำตก (ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยนะ)

ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช


4.สิ่งที่ควรร้เเละเตรียมตัวก่อนไปภูสอยดาว

4.1 ที่พักภูสอยดาวเป็นลานกางเต็นท์บนภูซึ่งเป็นลานสนโดยต้องเดินเท้าขึ้นไปโดยระหว่างทางขึ้นจะผ่านเนินเขา น้ำตก เเละธรรมชาติต่างๆของพืชพันธุ์ป่าไม้จะพืชระดิบล่างจนถึงพืชท่ขึ้นในพื้นที่สูง ซึ่งจะประกอบไปด้วย 5 เนินคือ 1.เนินส่งญาติ 1200 เมตร 2.เนินปราบเซียน 1700 เมตร 3.เนินป่าก่อ 3700 เมตร 4.เนินเสือโคร่ง 4400 เมตร 5.เนินมรณะ 4700 เมตร จนมาถึงลานสน 6500 เมตร นั่นก็คือระยะทาง 6.5 กิโลเมตรที่เราเดินขึ้นเเละลงถือว่าโหดเลยเพราะตลอดทางเป็นทางราบ เนินสูงชัน มีป่าทึบเเละหินที่มีความลื่นท้ายทายเราตลอดเวลา

4.2บนภูสอยดาวมีห้องน้ำให้เเต่ไม่มีน้ำให้ งง...ล่ะซิว่าจะเอาน้ำที่ไหน555 คือเราต้องไปตักน้ำเอาเองที่ลำธารโดยที่ศูนย์บริการข้างบนมีถังน้ำกับขันให้เช่า

4.3บนภูไม่มีอาหารขายมีเเต่ต้องเอาของขึ้นไปกินเองเเละจุดไฟทำกับข้าวเอง (น่าฝนไฟติดยากสึดๆเลย5555)

4.4บนภูมีลานสนให้ถ่ายรูป จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเเละตก มีอากาศดีโครตๆให้สัมผัส เเต่ภูสอยดาววันหนึ่งอาจมี 3 ฤดูนะคือ ร้อน หนาว ฝน ดังนั้นติดชุดกันฝน เสื่อกันหนาว ครีมกันเเดดไปด้วย(สำหรับสาวๆที่กลัวเสียผิว555)

4.5เช็คอุปกรณ์กางเต็นท์ดีๆว่ามีคุณภาพไหมเพราะถ้าคืนไหนฝนตกเต็นท์น้ำท่วมเลยนะ ถ้าไม่เเน่ใจกับอปกรณืเเนะนำเช่าทางอุทยานเพราะเขาเตรียมอปกรณ์ไว้พร้อมสำหรับเรา(เตือนเเล้วนะ....เค้าเปียกมาก่อน)

4.6ภูสอยดาวเหมาะกับคนที่รักภูเขาชอบการผจญภัยเเละมีความอดทนไม่เหมาะอย่างยิ่งกับลูกคุณหนูเพราะที่นี่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางขึ้นลำบาก ข้างบนไม่มีไฟฟ้าให้ใช้(เอาไฟฉายไปด้วยสำคัญมาก ใครชอบถ่ายรูปเอาเเบ๊ตสำรองไปเยอะๆถ้าไปหลายคืน) จุดไฟทำอาหารเอง ตักน้ำอาบเอง

4.7ภูสอยดาวสัญญาณมือถือหายากที่ผมไปมือถือผมไม่มีสัญญาณเลยดังนั้นใครคิดว่าชีวิตนี้ขาดFaceook Lineไม่ได้กรุณาอย่าไปเดี๊ยวลงเเดงตาย5555 ถ้าจเอาไปถ่ายรูปเอาเเบ๊ตสำรองไปด้วยนะครับ

*ข้อที่ควรรู้ก็มีประมาณนี้นะครับ ย้ำอีกทีภูสอยดาวเหมาะมากสำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติเเบบเเท้ๆเอาตัวเองห่างความวุ่นวายจากในเมืองเเละความทันสมัยของโลโซเชียลสักพักเพราะบางทีคนข้างๆเราก็สำคัญเหมือนกัน หลายคนอาจจะใช้ภูสอยดาวในการพาครอบครัวมาเปิดโลกใหม่ สำหรับเพื่อนก็เป็นการเพิ่มมิตรภาพที่ดี สำหรับคู่รักที่นี่ใช้พิสูจน์รักได้เลยนะ55555(คนเราจะรู้ธาตเเท้กันก็เวลาที่เหนื่อนนี่ล่ะ)

>>> ต่อไปก็เป็นภาพบรรยากาศเเละการเดินทางที่ผมนำมาฝากภาพอาจไม่สวยเเต่อยากเเบ่งปันให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้ลองไปสัมผัสสักครั้งเเล้วจะรู้ว่า "กลิ่นไอของสายหมอกเเละธรรมชาติของขุนเขามันทำให้เรามีความสุขได้มากจริงๆ" ตามไปเที่ยวกันเยอะๆนะครับยิ่งช่าง กันยายน-ตุลาคมกำลังสวยเลย พี่ๆอุทยานบอกมาเเต่เสียดายที่ผมเปิดเทอมเเล้วเลยไม่ได้ไปถ้ามีอะไรสงสัยอยากสอบถามข้อมูล ติดต่อได้นะครับ

#ผมเลือกภูเขา

#เขาไม้สน

#เอาใจไปพักที่ภูสอยดาว

Facebook: [ https://www.facebook.com/tassapolthiburpan]

1.ตลาดชาติตระการจุดที่รถที่พวกเราเหมาพาเเวะซื้อของขึ้นไปทำกินบนภู


2.ระหว่างทางที่เราเดินทางไปอุทยาน


3.ระหว่างทางไปก็เต็มไปด้วยหุบเขาที่เต็มไปด้วยสายหมอก ฟินมากๆเลยล่ะ


4.น้ำตกภูสอยดาวทางเริ่มต้นของเรา


5.บรรยากาศมาถึงเนิน1 เนินส่งญาติ


6.บรรยากาศมาถึงเนิน2 เนินปราบเซียน


7.บรรยากาศมาถึงเนินป่าก่อ


8.บรรยากาศมาถึงเนินเสือโคร่ง


9.บรรยากาศมาถึงเนินมรณะ


10.บรรยากาศมาถึงลานสนจุดที่พวกเราใช้กางเต็นท์


*ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงสักที 6.5 กิโลเมตรไม่ใกล้เลยระหว่างทางมีหลายอากาศมากทั้งร้อน ฝน หนาว เเต่เราก็มาถึงเเล้ว จะใกล้หมดตัวอักษรที่Pantipกำหนดไว้เเล้ว เอาไว้ต่อในกระทู้ภาค 2 นะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยไว้นะที่นี้ด้วนะครับ อย่าลืมไปตามกันนะครับสนุกๆจริงๆ ไปทดสอบความอดทนของตัวเองไปพิสูจน์ว่าตัวเองเเข็งเเรงเเค่ไหน หรือใครอกหักรักพังก็ขึ้นไปพักใจได้นะเชื่อเถอะว่าธรรมชาติมันช่วยเราได้ ส่วนใครจะพาเเฟนไปพิสูจน์รักเตรียมเเบกเเฟนได้เลย55555 เอาไว้เจอกันกระทู้ภาค2 ครับขอบคุณนะครับ ^^ 🍁 🍃 🍂 🌿 🌾

ความคิดเห็น