สวัสดีครับเพื่อนๆ วันหยุดศุกร์เสาร์อาทิตย์แบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงอยากหยุดพักผ่อน เอาเท้าไปแช่น้ำชิลๆ จิบเบียร์เย็นๆ แล้วเอาชีวิตไปนอนตายแบบทิ้งงานปิดสัญญาณมือถือหนีนายแล้วผ่อนคลายกับชีวิตสั้นๆสักสองวันหนึ่งคืน ผม
แม่งไม่ต่างกันครับ ทำงานประจำอย่างเราๆ แม่งโคตรน่าเบื่อ ต้องตื่นเช้า รีบ Clock in สายหน่อยก็โดนด่า บ่อยหน่อยนิคือ Two way กันยาวๆ เลย แต่ก็ช่างมันเถอะ ชีวิตแม่งต้องค่อยๆ ไต่ครับ ใจร้อนไปก็ไม่ดี แบตเตอร์รี่มันยังมีแบตหมด แล้วร่างกายเราล่ะครับ แม่งต้องพังบ้างล่ะ โดยเฉพาะจิตใจ ฮาๆ
คือลอง Search หาตั๋วจาก Traveloka และ Jetradar ดูเล่นๆ ปรากฏว่าตั๋วไปกลับภูเก็ตราคาเพียง 2,300 บาท คือถูกมาก ที่ตกใจเพราะ Search หาก่อนเดินทาง 6 ชั่วโมงครับ ได้ราคาเหมือนจองมาก่อนหน้านี้ 2-3 เดือน เจอตั๋วถูก + ใจพังๆ ยั้งใจไม่อยู่ กดจอง มาสนามบิน แล้วบินมาแบบไม่คิดอะไรเลย
ระหว่างที่เครื่อง Landed ที่ภูเก็ตก็เปิด App HotelQuickly หาที่พักใกล้ทะเลครับ ไปเจออยู่ที่หนึ่ง Recommend มา ชื่อ Lub D Patong Phuket ก็เลยกดเข้าไปดู บระเจ้า ค่าที่พักเริ่มที่ 375 บาท ที่นี่คือเป็น Hotel & Hostel คือแบบเป็นทั้งโรงแรมและโฮสเทลในตึกเดียวกันครับ ก็กดจองไป แต่จองอีกแบบหนึ่งที่ราคาแพงกว่า เพราะอยากพักชิลๆ นอนสบายๆ กับเค้าบ้าง ๕๕๕ จริงๆ ไม่ใช่ค่ะ ช่วงนี้ Low Season ราคาที่พักแม่งถูก จาก 2,000 กว่าเหลือ 1,000 กว่าบาท จะไม่ให้พักได้ไง ฮาๆ
จากสนามบินเดินทางมายังป่าตองด้วย Taxi ครับ โดนฟันไป 1,000 แต่ขอต่อเหลือ 800 บาท คือประเทศไทย Taxi ที่ภูเก็ตแม่งโหดสัสรัสเซียที่สุดแล้ว คงไปด้วยกันไม่ได้ เด่วพรุ่งนี้ค่อยเช่ารถขับแล้วกัน
จากนสนามบินมาถึงที่พักใช้เวลาไม่นานครับ รถไม่ติดก็เพียง 30 นาทีเท่านั้น ก็ยื่น โทรศัพท์ เช็คอิน เข้าที่พัก แล้วก็นอนเลย พรุ่งนี้กะว่าจะหาที่เช่ารถ แล้วก็ไปเล่น Surf ชิลๆ ที่หาดกะตะครับ แล้วเด่วก็ต่อด้วย Flow wave ที่หน้าหาดก่อนกลับ คือแพลนแบบเรื่อยเปื่อยมาก ไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้ สำหรับคืนนี้ ก็นอนเฉยๆ อยู่ที่ห้องนี่และครับ
ห้องที่ผมนอนคือห้อง Duluxe ครับ ช่วง Low พันกลางๆ ช่วง High พันปลายๆ วิวเด็ดคือชั้น 2 และ 3 ตึกที่ติดกับสนามมวย ห้องของผมเบอร์ 1310 ใครอยากได้วิวแบบนี้ ก็ห้องเบอร์นี้เลย ผมตื่นเช้าเพราะเสียงฝนที่ตกกระทบกับระเบียงครับ บรรยากาศไม่น่าไปไหนเลย น่านอนตายอยู่ในห้องนี่แหละ แต่ก็อย่างว่า มาแล้วก็ออกจากห้องสะหน่อย
ที่ Lub D Patong Phuket เค้าเก๋เรื่อง Breakfast Set มาก ผมโคตรชอบเลย แบบจ่าย 175 บาท แล้วทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใน Set ก็จะมีอาหาร Standard ให้เลือกเช่น ไข่ดาว เบคอน ขนมปัง บลาๆ สัก 4-5 อย่าง และก็จะกำหนดให้ว่าไม่เกินกี่ชิ้น อย่างขนมปังก็ห้ามเกิน 20 ชิ้น อะไรทำนองนี้ แต่คือสามารถมาเบิกทานได้ 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าบางทีไม่ต้องไปไหน นอนโง่ๆ อยู่ที่โรงแรมนี่แหละ
คือที่นี่มันมี Activities ให้ทำเยอะมากครับ แล้วคือพี่ผู้จัดการเค้าบอกว่า ช่วงเย็นๆ อย่าไปที่ไหนนะ ให้แวะกลับมาที่โรงแรม เพราะช่วงเย็นของที่นี่จะครึกครื้นมากๆ คนจะมาว่ายน้ำเล่นกัน แล้วคือห้องโถงหรือบาน Activities ก็จะเปิดเพลง EDM ให้แด๊นซ์กัน ต่างชาติมาเพียบบบบบ > <
ในช่วงที่ไปทานอาหารเช้า ก็มีโอกาสได้ไปเจอกับหนุ่มจีนคนหนึ่ง กำลังแทงพูอยู่ เลยขาแจมครับ เล่นกันประมาณสองยก ผมแพ้ทั้งสองยก ด้วยความที่เคยมาภูเก็ตหลายรอบแล้ว เลยถามเค้าว่าเค้าจะไปไหน แผนเป็นยังไง เผื่อเราจะแนะนำอะไรให้บ้าง สรุปแล้วไม่ได้แนะนำห่าอะไรเลยครับ กูชวนเมิงมาหารค่าเช่ารถนี่แหละ ฮาๆๆ พอเค้าบอกแผนเราเสร็จ เราก็บอกแผนเราไป คือดูเหมือนเค้าจะสนใจ เราก็เลยถามว่า Join กันมั้ย?
จอยไม่จอยไม่รู้ รู้แต่ว่าเพื่อนมันมากับกูครับ ฮาๆ คือมันมีเพื่อนผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง ก็เลยชวนต่อกัน สรุปก็ไปด้วยกันครับ เช่ารถวันละ 2,000 กว่าบาทแล้วพาเค้าขับชมตัวเมืองภูเก็ต กว่าจะออกก็เที่ยงแล้วครับ ไอ่เราก็ชินกับการไปย่าน ถนนถลาง เลยจะพาพวกเค้าไปทานอาหารพื้นเมืองพวกพริกแกงหรือดื่มชาชักที่เค้าว่าดังที่สุดในภูเก็ต
แล้วมากไปกว่านั้นคือซื้อทุเรียนให้กินด้วยไง ฮาๆ เหม็นทั้งรถ ช่วงที่เราไปฝนตกตลอดทั้งวันครับ ไม่ได้ออกไปถ่ายรุปเมืองเก่าโปตุกิสมาฝากเพื่อนๆ เลย แต่จริงๆ แล้วจะถ่ายก็ได้นะ แต่ขี้เกียจ มาห้ารอบแล้ว แต่ที่สงสัยคือ เพื่อนชาวต่างชาติของผมเค้าไม่ถ่ายรูปอะไรกันเลย คืองงว่าเมิงมาเที่ยวกันยังไง ฮาๆ เสร็จจากทานข้าวก็ไปต่อกันที่ร้านของหวานแถวๆ บ้านเก่าโปตุกิสนั่นแหละครับ
พอหอมปากหอมคอครับ ทานกันอิ่มก็เลยชวนพวกเค้าไปเล่น Surf ต่อ ก็ขับข้อนกลับมาที่หาดกะตะ เพื่อที่จะไปเล่น surf กัน คือเมืองไทยเนี่ย น้อยคนนักจะรู้ครับ ว่าสามารถ Surf ได้ ช่วงมรสุมหรือหน้าฝนบ้านเรา คลื่นจะสูงมาก สูงในระดับ 2-3 เมตรเลย คือเหมาะแก่การ Surf สำหรับ Beginner ประเทศในโซนเรามากๆ
การเล่น Surf จะบอกว่ายากก็ยาก จะบอกว่าง่าย ก็ง่าย แต่คือมันจะต้องมีความอดทนในระดับหนึ่ง เพราะเราจะต้องว่ายทวนคลื่นเพื่อไปหาก้อนคลื่นที่ใหญ่กว่า ผมนะนำที่ Boat House Re Ka Ta ครับ จะมีทีมที่จิมมี่และพี่ทิมคอยสอยอยู่ตรงนั้น คือสอนฟรี แล้วคือค่าเช่า Board เพียงชั่วโมงละ 150 บาทเท่านั้น
เล่นได้สักพัก รู้สึกว่าวันนี้เหนื่อยครับ หมดแรง สู้คลื่นไม่ไหว เลยขอกลับไปที่ Surf House ไปเล่นคลื่นเทียมครับ เจ้ากิจกรรมนี้ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบมากๆ เล่นจนดึกเลยครับวันนั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับ Surf House ตรงนี้ก็สำหรับคนที่ยังไม่เคยมาจะต้องจ่าย 1,000 บาทครับ หลังจากนั้นจะจ่ายเพียง 800 บาทเท่านั้น
เอาล่ะ รีบกลับไปที่โรงแรมกันดีกว่า เค้าบอกว่าที่นี่จะครึกครื้นช่วงเย็น คือเราก็ชอบด้วยสิ ปาร์ตี้เล็กๆ กับพวกแขกที่เข้าพักโรงแรมเดียวกัน หากใครเคย Backpack ไปต่างประเทศบ่อยๆ จะชินกับกิจกรรมแบบนี้ครับ คือมันเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีโคตรๆ สำหรับผมแล้ว ถึงมีเงินมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยากที่จะพักพวก Hostel แบบนี้อยู่ดีครับ มันได้ Connection ซึ่งในบางครั้งสำคัญกว่าเงินอีกนะ ฮาๆ
พอจอดรถแล้วเดินออกมาหน้าที่พักเท่านั้นล่ะ อื้มหื้มมมมม บรรยากาศทำไมมันโดนใจอะไรแบบนี้ ผมบอกเพื่อนชาวจีนว่า ให้ไปเก็บของแล้วมาเจอกันข้างล่างนี้ วันนี้เรามาปาร์ตี้เล็กๆ กัน
เพื่อนต่างชาติมันดีอยู่หลายอย่างเลย แต่ที่ผมชอบหนักๆ อยู่อย่างหนึ่งคือ มันไม่ค่อยแคร์อะไรครับ มันอยากเต้น มันเต้น มันอยากจูบ มันจูบ มันอยากทำอะไรก็ได้ถ้ามันอยากทำ คือมันใจอ่ะ มันค่อยเหมือนคนไทยที่ระแวงนู้นนี่นั่น คือบางครั้งชีวิตก็ต้องสุดบ้าง การเดินทางท่องเที่ยวกับต่างชาติมันเลยมีรสชาติกว่าเพื่อนคนไทยในบางครั้ง ไม่น้อยใจนะ แต่นี่คือประสบการณ์จริง ยกเว้น เพื่อนคนไทยคนนั้น จะเป็นเพื่อนที่เราสนิทโคตรๆ ฮาๆๆ
เมื่อคืนไม่หนักไม่เบจนเกินไปครับ ยังตื่นไหวอยู่ ผมตื่นขึ้นมาออกกำลังกายที่ลานกิจกรรม ด้วยการไประบายอารมณ์กับกระสอบทรายครับ ฮาๆ บางทีก็เอาความเครียดไปทิ้งไว้กับอีกที่หนึ่งแม่งก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน ได้ระบายก็หายเหนื่อยครับ คิดสะว่าอิกระสอบทรายเป็นอิห่านั้นไปก็แล้วกัน ๕๕๕
ช่วงบ่ายผมซื้อแพ็จเกจล่องเรือผ่านทาง Medsye Travel ครับ ซึ่งเค้าโคกันกับทาง Discover Catamaran ล่องเรือ Yatch ออกไปเกาะไม้ท่อน แล้วไป Dinner ที่ศรีพันวา คือโปรแกรมนี่พลาดไม่ได้จริงๆ ระหว่างนั้นก็โทรหาเพื่อนชาวจีนครับ จะชวนมันไปด้วย มันบอกให้ขึ้นมาเล่นที่ห้องมันก่อน ห้องมันเป็นแบบ Dorm น่ารักดี
เย่!!! ได้มาเห็นห้อง Hostel ของที่นี่สักที ห้องน่าอยู่มากครับ มีที่เก็บของให้ด้วย แต่ต้องเอากุญแจมาเอง คือที่นี่มันจะมีห้องอยู่ 3 ประเภท เป็นแบบ Dorm ราคาก็จะประมาณ 400 บาท Junior ก็จะ 1,000 ต้นๆ ส่วนห้องที่ผมอยู่ Deluxe ก็จะพันปลายๆ หรือสองพันในบางซีซั่น และคือเค้าเพิ่งเปิดไปเมื่อเดือนที่แล้ว เรียกได้ว่าผมแทบจะมาเป็นคนแรกๆ ที่มาพักที่นี่เลย ฮาๆ
ก็บอกเพื่อนคนจีนว่า วันนี้ไอจะไปล่องเรือนะ ยูสนใจไปกับไอหรือเปล่า บลาๆๆ แต่มันบอกว่า มันจองไปโดดบันจี้จั้มป์ไปแล้ว แล้วก็จะไปไหนต่อไม่รู้ ผมจำไม่ได้ ก็เลยบอกว่าไม่เป็นเรา เด่วไอไปคนเดียว ก็เลยชวนกันไปทานข้าวเช้าด้านล่างครับ แล้วก็ว่ายน้ำเล่นกันชิลๆ
คือที่นี่สระว่ายน้ำเค้าเป็นกระจกครับ สามารถมองเห็นเวลาที่เพื่อนเล่นน้ำได้ คือเก๋มาก แต่ก็อย่าทำอะไรแผลงๆ ใต้น้ำนะครับ ฮาๆ
ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายครับ ผมจะกะจะไปเล่น Flow ก่อนไปล่องเรือสักชั่วโมงครับ ก็เลยบอกลาเพื่อนๆ ก่อนมา เด่วเค้าจะบินไปเที่ยวเชียงใหม่ต่อ ก็แนะนำอะไรให้เค้าสะหน่อย ว่าต้องไปที่ไหน ควรทำอะไรบ้าง กอดกัน แล้วก็แลกเฟสบุ๊คเรียบร้อย ก่อนที่จะขับรถมาที่กะตะ เพื่อนมาฝึก Flow board ต่อ
Happy Hour ของที่นี่ดีมากครับ คือเค้าจะลดราคาให้ แล้วก็จะเพิ่มเวลาให้ด้วย ปกติจ่าย 800 บาทเล่นได้ 1 ชั่วโมง แต่ถ้ามาช่วง 9.30 - 11.00 am จะได้เล่น 1 ชั่วโมงครึ่งและจ่ายเพียง 500 บาท และนี่ก็เหตุผลเดียวที่ผมต้องขออนุญาติเพื่อนชาวจีนออกมาข้างนอกก่อน ฮาๆ แต่ว่าไปแล้ว ผมเล่นจะหมด 10,000 แล้วยังยืนไม่ได้ถึงสิบวิเลย ปล่อยเชือกทีไรล้มตลอด ท้อโคตรๆ T T
จากหาดกะตะขับมาท่าเรือ Dolphin ไม่ไกลกันมากครับ ราวๆ 30 นาทีก็ถึงแล้วครับ Package นี้คือ BH14 ครับ รายละเอียดทริปก็คือ
- ไปเกาะไม้ท่อน
- ดำน้ำตื่น
- ตกปลา
- ชมโลมา
- ทานอาหารเย็นที่ Baba Pool Sripanwa
เรือออกเวลาบ่ายโมงครึ่งครับ ไม่นานก็ไปถึงหลังเกาะไม้ท่อน เห็นโลมาสามตัวแต่ถ่ายไม่ทัน ฮาๆ ได้แต่ตะโกนเรียกให้คนอื่นมาดู ทริปนี้ยังก็ Private Trip ครับ ทั้งลำมีกันอยู่ 7 คน ไทย 6 ฝรั่ง 1 ฮาๆ
บนเรือก็จะมี Fin และ Snorkel รวมอยู่ Package เรียบร้อยครับ ก็ดำน้ำดูปะการังไป ผมเจอปลาดาวด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายมา ฮาๆ แต่ปลาที่นั่นเยอะมากๆ ว่ายหล่ายล้อมตัวผมกับนักท่องเที่ยวเหมือนใน Postcard ที่เค้าขายตามร้านหนังสือเลย
คือพี่ๆ เค้าก็ปล่อยให้เราเล่นน้ำดำน้ำจุดนั้นไปนั่นแหละครับ 45 นาที ใครใคร่ดำ ก็ดำ ใคร่ว่ายก็ว่าย ใคร่ชิลก็ชิบอยู่บนเรือนั่นแหละ บนเรือมีเครื่องดื่มจำหน่ายครับ บรรยากาศแบบนี้ ขอเบียร์กระป๋องหนึ่งครับ ฮาๆ
เสร็จจากตรงนั้นก็นั่งเรือย้อนกลับมาที่ด้านหลังเกาะไม้ท่อนครับ มาตกปลากัน คือไม่คิดว่าจะได้ก็ได้ครับ และได้เยอะด้วย ราวๆ 10 กว่าตัว ตอนแรกคิดว่าพี่เค้าจะทอดให้กิน ที่ไหนได้ แร่กันสดๆ จิ้มวาซาบิ แล้วก็ทานเป็นซาชิมิเลย ฮาๆ
ขออธิบายเพิ่มเติมว่า เจ้า Package BH เนี่ย มันมีสองรอบครับ คือรอบเช้า BH10 กับรอบเย็น BH14 ถ้าให้ผมแนะนำคือรอบเย็นครับ จะได้มาชมแสงสุดท้ายที่ศรีพันวาแบบฟีลโรแมนติกด้วย ราคาแพ็คเกจก็ 4,000 บาทต่อคนแบบรวมทุกอย่างแล้วครับ พี่ๆ เค้าจะนัดเจอกันที่ Dolphin Pier ครับ
เอาเถอะ คนมีคู่ไม่รู้หรอก กูเห็นนอนกอดกันเกลียว กูนี่รีบข่มตานอนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ คือเข้าใจว่าบรรยากาศมันดีนะ แต่เมิงอย่ามากอดกันให้คนโสดดูได้มั้ย ฮาๆ ก็ว่าไป เห็นแบบนี้แล้วก็ยินดีครับ มากับแฟนนะทริปนี้ โคตรชิลเลย เอาล่ะ ช่วงที่เดินทางไปศรีพันวาบรรยากาศน่านอนอย่างที่เห็นจริงๆ
ล่องเรือไปได้สักพัก ไกด์ปลุกครับ บอกว่าถึงแล้วหนู อื้มหืม เคยเห็นแต่ในทีวี นี่สินะ แหลมพันวาภูเก็ต ดูอลังการจริงๆ เรือจอดเทียบฝั่ง ไกดืแนะนำพอสังเขป แล้วก็เดินขึ้นโรงแรมไปโซน Baba pool ครับ
คือชอบมาก ชอบตั้งแต่ทางขึ้นแล้ว คือแบบเป็นป่าดูร่มรื่น ดูเข้ากับบรรยากาศมาก ไม่คิดว่าอาคารหรือทางเดินต่างๆ จะมีไม้เลื่อยชอนไชมาประกอบกับตึกหรืออาคารแบบนี้ คือสวยจริงๆ แล้วคือถ้ามองไปอีกทางก็จะเป็นภูเขาและทะเล แหม่ ได้ใจจริงๆ
ที่ Baba Pool เราสามารถเล่นน้ำ ใช้ผ้าเช็ดตัว และอื่นๆ ของทาง Sirpanwa ได้หมดเลยครับ มาที่นี่โดยไม่ต้องพัก Sripanwa แต่ได้ทำอะไรแบบนี้ก็ถือว่าดีพอสมควร ขึ้นไปบนด่านฟ้าไปชมวิวอีกวิวหนึ่งก็สวยดีครับ
ทางพีๆ ไกด์เค้าจะให้เราเลือกอาหารตั้งแต่อยู่บนเรือแล้วล่ะครับ ว่าเราจะทานอะไร ก็จะมี Starter, Main, Desert ตามลำดับ อาหารต่างๆ น่าทานมากครับ คือด้วยความที่เป็นระดับห้าดาวแล้ว ทุกอย่างดูละเอมียดละมัย อ่อนช้อยน่าสอยมากๆ
ทานได้สักพัก ก็ขอเอาตัวลงไปแช่ตัวกับวิวพันล้านที่ศรีพันวาสักครั้งในชีวิตครับ นิถ้ามี Cocktail ไว้จิบติดมือจะดีมากๆ แต่คือไม่ไหวแล้วไง อิ่มพุงจะแตก ฮาๆ
ช่วงที่มาเล่นน้ำ เห็นแล้วล่ะ ว่ามีสาวๆ มานั่งแถวนี้อยู่โต๊ะหนึ่ง แอบชำเลืองมอง อั๊ยย่ะ น่าร้ากกกก แต่ก็ทำเป็นไม่สนไม่มองให้เกียตริครับ แต่เธอก็มองมาบ่อยและเหมือนจะซุบซิบๆ กันหลายรอบเหลือเกิน ไอ่เราก็อดไม่ได้ อยากรู้ว่าเธอคุยอะไรกันเลยเข้าไปเคลมครับ ฮาๆ ไปถามว่าพวกเธอมาจากไหน มาทำไม ชื่ออะไร บลาๆ คุยไปคุยมาแลกไลน์กันเฉยเลย แหน่ะ คิดมาก ที่แลกไลน์เพราะเธออยู่ Osaka และผมก็มีแพลนจะไปช่วงปีหน้าพอดี เอาล่ะ เธอคนนี้จะเป็นไกด์นำทางที่ดีของผมในทริปนั้นแน่ๆ แต่เอาล่ะ ถึงเวลาที่ผมต้องกลับแล้ว ผมขับรถกลับไปสนามบิน คืนรถ และนั่งเครื่องบินกลับมาพร้อมคำถามที่ว่า จะกลับไปภูเก็ตตอนไหนอีกดีนะ...
Mi Palapilii
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 09.48 น.