หน้าฝนใครบอกว่าเหงา แต่เราไม่เฉา เรามีแต่อยากเที่ยว

และไอ้อาการอยากเที่ยวของเรานี่สิ ขอเลือกที่ๆ ไปแล้วสดชื่นกันหน่อยนะคะ

แม้ฝนจะตกก็ตามไม่เคยมีอุปสรรคกับการเดินทางสำหรับเรา

เคยได้เห็นรีวิว เห็นภาพลงในเน็ตเยอะมาก พูดถึง ภูลังกา รีสอร์ท จ.พะเยา เราก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที

แต่เราก็เคยไปนอนเต้นท์บน วนอุทยานแห่งชาติภูลังกา หน้าหนาว มาถึง 2 ครั้งแล้วนะ

แน่นอนค่ะว่า สวย สมใจจริงๆ

สำหรับหน้าฝน เรายังไม่เคยไปเสียที ได้การล่ะครั้งนี้เดินทางกลับบ้าน

หาเรื่องมานอนกันสักคืน และ Walk in ด้วยอีกต่างหาก เพราะรู้เลยว่า ในฤดูนี้ ห้องว่างแน่ๆ !!


เดินทางกันเล้ยยยยย เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินเสร็จ เดินไปต่อที่ Blue Ribbon Club

ทริปนี้ เดินทางกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ค่ะ นั่งยิ้มสวยๆ กันก่อนเลย 555


ห้องรับรองผู้โดยสาร ระดับพรีเมียร์ หรือชั้นธุรกิจ ของสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ค่ะ

ขอบอกว่า เราเพิ่งเคยได้มีโอกาสเข้ามายลโฉมในห้องรับรองนี้ครั้งแรกเลยน่ะ 555

เพราะรู้มานาน จากหลายปากของเพื่อนๆ ว่า เกี้ยวกุ้งที่นี่อร่อยมากกกกกก

เมื่อเลือกโต๊ะน่ั่งภายในห้องได้แล้ว ไม่ว่ายๆ ที่เราจะสั่งเกี้ยวกุ้งทันที่ โดยไม่ต้องมองเมนูแต่อย่างใด



ตามด้วยเมนูอื่นๆ ที่บอกได้ว่าอร่อยไม่แพ้กัน คราวนี้สั่งตามเมนูที่ให้มาบางแล้วนะคะ อิอิ

คืออยากรู้ว่ามีอะไรบ้างนั่นแหละค่ะ ส่วนเครื่องดื่ม ตักเองเลย มีให้เลือกหลายรายการ

และที่ไม่พลาดๆ ของสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ ก็คือ ข้าวต้มมัดจ๊ะ


นี่คือภาพบางส่วนเท่านั้นที่เราเก็บภาพมาฝากแต่ละเมนู วันนั้นคือเราได้บินไฟล์ทบินตอนเช้าค่ะ

อาหารเต็มๆ ตา แต่อยู่นานไม่ได้ เราต้องรีบไปขึ้นเครื่องต่ออีก 555

ยังๆ เก็บภาพห้องรับรอง Blue Ribbon Club มุมอื่นๆ มาฝากกันเพิ่มก่อน


โดยรวมประทับใจนะคะ เงียบสงบดี คนไม่เยอะด้วย พนักงาน พอเรามานั่งโต๊ะก็เดินเข้ามาทักทายทันทีเลยค่ะ

พร้อมเมนูในมือ มุมโต๊ะนั่งก็เยกเป็นโซน เป็นสัดสวนให้ด้วย นี่หากได้รอนานๆ

เราคงไปใช้บริการเบาะนวดไฟฟ้ากันบ้างล่ะเอ้า จริงๆ นะ

ในการเดินทางครั้งนี้ เราได้อัพเกรดเป็น VIP ค่ะ บริการบนเครื่อง ก็ดีกว่า ที่นั่งอยู่ระดับแถวหน้า สะดวกมากกว่า

และพอถึงปลายทางแล้ว กระเป๋าจะมาตามสายพานคนแรกๆ เลย แบบนี้ คือสะดวกกับเราเป็นอย่างมาก

ถึงแล้วจ้าาา สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่คุ้นเคย มาบ่อยเหมือนกันเนอะ เชียงราย




พอลงเครื่องปุุ๊ป ลงมารับกระเป๋าทันทีเพราะได้ก่อนใคร ทำให้มีเวลาเลือกและมองรถเช่าเป็นอันดับต่อไปค่ะ

เมื่อถึงสนามบิน ครั้งนี้เช่นเคยที่เรายังคงเลือกใช้บริการของ Thai Rant A Car ทียังเป็นโปร #มากกว่า

ราคาดีดี สำรหรับคนไทย รถไซด์ S ที่เราเลือกใช้อยู่ วันละ 499 บาทเท่านั้น คุ้มค่ามาก สำหรับเรา

จองออนไลน์สะดวกสุดด้วยเช่นกัน ที่ www.thairentacar.com e-mail : [email protected]

โดยผู้เช่าต้องมีบัตรเครดิตค้ำประกันไว้ก่อน ถามกันมาเยอะมาก ถ้าไม่มีบัตรสามารถจองรถได้ไหม เอาบัตรเพื่อนร่วมทางได้ไหม

ขอตอบว่า เอาบัตรเพื่อนร่วมทางได้ค่ะ แต่หากไม่มีบัตร ก็จองไม่ได้จ้า


เอาล่ะๆ เตรียมตัวขึ้นดอยกัน ซึ่งพาหนะในครั้งนี้ เครื่อง 1200 CC. เช่นเดิม จะไหวไหม

ตอบเลยค่ะว่า สบายมากกกก

เส้นทางจากเชียงรายมายังพะเยา เรามาเส้นเทิง เชียงคำค่ะ

เพราะเป้าหมายเราอยู่ที่ภูลังกา รีสอร์ท อ. ปง จังหวัดพะเย หนทางขึ้นดอยสูง และลาดยางตลอดเส้น

แต่ช้าก่อนๆ คือว่า เห็นป้ายทางผ่านด้วยนะเออ ว่าทางไปภูลังกา พะเยานั้น มีน้ำดกแห่งหนึ่ง ชื่อว่า น้ำตกน้ำมินค่ะ

อีกแค่ 8 กิโลเมตร ทางลาดยางล้วน ๆ เลี้ยงซ้ายไปกัน !!

คือใครเค้ามาเที่ยวน้ำตกกันหน้าฝนกันน่ะ เรานี่แหละมา อิอิ แม้น้ำจะแดงนิดๆ แต่โดยรวมจัดว่า สวยอยู่นะคะ

ไม่มีคนสักคนด้วย ภายในบริเวณร่มรื่น ป่าชื้นมาก สายน้ำซู่ซ่าตลอดเวลา

อะ ยืนชื่นชมธรรมชาติกันหน่อยนึง


"น้ำตกน้ำมิน" หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า "น้ำตกห้วยโป่ง" เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติค่ะ

น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของวนอุทยานน้ำตกน้ำมิน ตำบลแม่ลาว อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

น้ำตกน้ำมิน เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลใสเย็นอยู่ตลอดทั้งปี มีความสูงประมาณ 50 เมตร และมีพืชคลุมดินหลายชนิดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น

นับว่าเหมาะแก่การเป็นสถานที่สำหรับศึกษาธรรมชาติได้อีกด้วยค่ะ

ยืนเช็คอินแป๊ปหนึ่งก็กลับ แต่ๆ ไม่ได้เลยนะเช็คอินไม่ได้แล้วค่า

คือตั้งแต่เข้ามาบนดอยเนี่ยน่ะคลื่นมือถือเราใช้ DTAC ค่ะ ก็ตายตลอดทุกดอยอยู่แล้ว และทุกครั้งที่ขึ้นบนดอย

ก็บ่นตลอดเช่นกัน 555


กลับๆ ลงมาต่อ ไปต่อ พิกัดเป้าหมายคืนนี้ของเรา จากทางแยกปากทางน้ำตกน้ำมินมาอีกประมาณ 25 กิโลเมตรค่ะ

เราก็มาถึง ภูลังกา รีสอร์ท พะเยา มายืนเท่ ๆ มุมนี้ได้สมใจแล้วค่า




แต่ๆ เดี๋ยวนะ เวลานี้ 5 โมงเย็นกว่าแล้วนะคะ ไม่มีหมอกยามเย็น ใจชักแป้วๆ ซะแล้วสิ คือวันที่เรามาเนี่ยฝนไม่ตกค่ะ

ทั้งที่ก่อนหน้าคือตกเกือบทั้งวัน แต่ยังมีความหวังพรุ่งนี้ไง มาลุ้นกันเนอะ เวลานั้นคือ เราไปคืนวันอาทิตย์ค่ะ

ทั้งรีสอร์มีคนพักอยุ่ 3-4 หลังมั้งถ้าจำไม่ผิดนะคะ คอนข้างเป็นส่วนตัวและเงียบสงบดี

อย่าได้ถามถึงคลื่นมือถือ Dtac อีกเด็ดขาดตายสนิทจริงๆ แต่ Ais ใช้ได้นะคะ

ที่พักคืนนี้ค่ะ กระท่อมบนดอย หลังละ 700 บาท รวมอาหารเช้าด้วยจ้าาาา


ภายในห้องเป็นที่นอนกว้างๆค่ะ ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม อากาศเย็นมากก ไมไ่ด้เปิดเลยเรียกว่าหนาวล่ะกัน

น้ำดืมตามธรรมชาติ ที่ผ่านการกรองแล้ว เครื่องทำน้ำอุ่น ห้องน้ำในตัว และไม่มีทีวีให้จ้า ส่วน Wi-Fi อย่าได้ถามถึงเลย ไม่มีแบบนี้แหละดีแล้ว

จะได้ใช้ชีวิตแบบออฟไลน์กันซะบ้าง

เย็นวันนั้นเราก็เลือกไปนั่งทานข้าวที่ห้องอาหารของภูลังกา รีสอร์ทค่ะ โดยเมนูจะมีอาหารให้เราเลือกราคาไม่แพงมาก

เราสั่งมา 4 อย่าง ข้าว 1 โถ ขอให้ตั้งโต๊ะเวลา 6 โมงเย็น ถ้าค่ำกว่านี้หน่อย ยุงเยอะเอาเรื่องเหมือนกันนะคะที่นี่

คาเสียหายเย็นนี้อยู่ที่ 260 บาทคุ้มค่าที่จ่ายไปอย่างมาก


จะบอกว่า ช่วงเวลานี้แหละเรียกว่าออฟไลน์อย่างเต็มเปี่ยม เราทานข้าวเย็น 6 โมงเย็

และเข้านอน 2 ทุ่ม ตื่น ตี 3 และก็นอนต่อ 555 เพราะยังมืดอยู่ไม่รู้ทำไรนอนต่ดีกว่า

คือเป็นช่วงเวลาที่เราได้พักผ่อนยาวนานมาก เราไม่เคยนอนเวลานี้มาก่อน ทำแต่งานๆ และก็งาน

ยังคิดอยู่ว่า หากเราเอาโน๊ตบุ๊คมาด้วย เราคงเอาแต่ทำงานแน่ๆ กว่าจะได้นอนอีกล่ะ

ไม่ได้จับมือถือมาเล่นมาแชท มาไลน์แต่อย่างใด เพราไม่มีคลื่น ไม่มี WiFi แต่เรากลับไม่ได้ร้อนรนกับสิ่งเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ

พัก ก็คือพักค่ะ ซึ่งเราไม่ค่อยได้มีโอกาสมาพักที่ออฟไลน์แบบนี้บ่อยๆ ด้วย

เป็นความรู้สึกที่ดีอีกครั้งหนึ่งกับการได้พักผ่อนในครั้งนี้ของเรา แม้สถานที่ไม่ได้สวยเริด วิเศษเลิศหรูอะไร

แต่ทว่า กลับทำให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อย่างแท้จริงค่ะ

จนรุ่งเช้า แสงมาแล้วๆ เปิดระเบียงห้องมาเจอแบบนี้เลยจ้าาา



กะ กะ กรี๊ดๆ แบบนี้ใช่มั้ยยย ที่เราต้องการเห็น

ใช่แล้ว คือใช่อย่างนี้แหละ ใช่เลย หมอกลอยยังไม่เยอะมาก และมีทีท่าจะว่าจะลอยมาเรื่อยๆ

ณ เวลานี้ พากันอาบน้ำแต่งตัว ไปห้องอาหารดีกว่าค่ะ เรามีจุดที่ฟิน ยิ่งกว่านี้อีก

แค่ออกมาที่ประตูทางเข้าห้องพัก ก็แลเห็นหมอกบางๆ มาได้เรื่อยๆ ฟินยิ่งขึ้นไปอีก


นายแบบตัวน้อยของเรา แม้จะเป็นเด็กดอยน่ะ แต่บ้านเราไม่มีแบบนี้ไง ต้องมาบนดอยสูงๆ ถึงจะเห็น

เด็กน้อย ไม่ได้เล่นเกมส์ เข้าสู่โลกออฟไลน์เหมือนกัน ก็ขอฟินกับธรรมชาติตรงหน้าด้วยกันค่ะ อิอิ

พร้อมๆ กับเรา ที่อยากหยุดเวลา สูดเอาความสุข สูดเอาธรรมชาติ และความสดชื่นนี้ไว้นานเท่านาน


พร้อมๆ กับหมอกที่ไหลมาเรื่อยๆ จนมิดพื้นที่ มองไม่เห็นอะไรแล้ว

เวลานี้เราก็เปลียนมานั่งกินข้าวเช้าดีกว่า หิวได้อีก 555 ตอน 7 โมงกว่าๆ นี่หละค่ะ ข้าวต้มทั้งหม้อ ยกมาเสริ์ฟให้เราเลือกตักเองได้เลย

และก็ตักแบบไม่อั้น ด้วย เราตักไป 3 รอบ อิ่มมากกกก

ก่อนจะเช็คเอาท์ออกไปในตอนสายๆ ในวันนั้น กับเรื่องดีดีที่อยากเล่า

คือพนักงานต้อนรับ 4 ขาของภูลังกา รีสอร์ทพะเยาน่ารักมากค่ะ

เจอมา 2 ตัว คอยเทคแคร์ วิ่งตามเราตลอด ไม่ว่าจะเดินเล่นที่ไหนภายในรีสอร์ท ก็ตามมาเป็นบอดี้การ์ดด้วย

และก็จะนอนเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ เรานั่นแหละค่ะ ดู้ดู ว่าน่ารักมั้ย ^^


ลาแล้วน้า ภูลังการีสอร์ท พะเยา กับวิวที่เราโอเค ทุกคนก้โอเค กับราคาที่พักหลักร้อย กับการพักผ่อนอย่างเต็มที่

ของโลกออฟไลน์ ที่เราบอกได้เลยค่ะว่า ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ได้มาเยือนที่นี่


สองข้างระยะทาง ที่มีสายหมอกให้ดูตลอดเส้นทางที่ขับลงมาจากดอย

อดที่จะเก็บภาพมาให้ชมอีกไม่ได้จริงๆค่ะ ให้รู้เลยว่า รถ 1200 CC. ก็ใช่ย่อยนะเออ อิอิ


แล้วคอยพบกับรีวิวการเดินทางของเราในพื้นที่แห่งนี้อีกเช่นเคยนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามชมค่าาา

จัดเต็มทุกรีวิว จัดเต็มทุกพื้นที่ ไม่ว่าทริปนี้ หรือทริปไหนๆ

ความคิดเห็น