เบื่อมั้ยชีวิตคนทำงาน? หยุดแค่ 2 วัน แต่ดันอยากไปทุกที่ !!! อยากชมวิวทะเล อยากเที่ยวน้ำตก สูดอากาศดีๆในป่าชายเลน แล้วก็อยากชมวิวสวยๆบนเขา ความอยากไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แต่เอาเหอะ "ทริปนี้ที่จัน มันทำให้ฝันเป็นจริง"

ดูแผนที่ก่อน ใครอยากไปไหนก็ไป ไม่อยากไปก็ข้ามเลย ; p สำหรับที่พัก เราจะรีวิวเป็นอย่างสุดท้ายนะ จะได้ดูที่เที่ยวใกล้ๆให้ครบกันก่อน เพราะต้องขับเลยจากน้ำตกคลองนารายณ์ไปอีกประมาณ 56 กม.

เริ่มกันเลยดีกว่าที่จุดแรก คือจะบอกว่าแหกตาตื่นตั้งแต่ 6 โมง กลัวเที่ยวไม่ครบ ใช้เวลาขับจาก กทม. ไปจุดแรกก็ 3 ชม.พอดี (เรื่องเที่ยวขอให้บอก พี่รีบตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น 555+)

1.จุดชมวิวเนินนางพญา จุดชมวิวที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก

ที่นี่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Dream destinations จาก ททท. ด้วยนะ เค้าบอกว่าชมพระอาทิตย์ตกสวยมาก แต่เราคงไม่ได้อยู่ดูหรอก ขี้เกียจนั่งคอยเบาๆ 8 ชม. (ใครผ่านอีกรอบตอนเย็นอย่าลืมแวะนะ)

ลองดูวิวอีกฝั่งนะ สวยไม่แพ้กันเลย


ก็นั่งๆเดินๆ ถ่ายรูปเพลินๆ แล้วก็ move ไปจุดถัดไป

เป็นจุดชมวิว ถ่ายรูปเฉยๆนะ ไม่ได้มีให้เล่นน้ำ


2. ป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน - ศูนย์สึกษาการพัฒนาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน

เวลาเปิด 8.00 - 17.00 น. (เวลาที่เดินสบายๆไม่ร้อนตั้งแต่เปิด ถึงก่อน 10.30 และอีกทีหลังบ่าย 3 )

ที่นี่อยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 15 กม. ค่ะ เหมาะสำหรับคนชอบเดินชมธรรมชาติ ถ่ายรูปบนสะพานไม้ชิวๆ วิวสวยๆ

บริเวณพื้นที่ ที่เปิดให้ชมประมาณ 200 ไร่ ระยะทางเดินบนสะพานไม้มีความยาวประมาณ 1.7 กม.

*อย่าลืมพกน้ำไปสักขวดไว้ดับกระหายระหว่างทางก็ดีนะ ทางเดินดีค่ะ เป็นสะพานไม้ทอดยาวตลอดเลย ไม่ได้เลอะโคลน

ชิวมั้ยคิดดู... ถ่ายกันเกือบทุกจุด ; p


3. จุดชมวิวปากน้ำแขมหนู (อยู่ห่างจากป่าชายเลน 10 กม.) #สะพานเฉลิมพระเกียรติ

เราว่าสะพานข้ามแม่น้ำนี้วิวมันจี๊ดมากอ่ะ เป็นสะพานที่จะเห็นวิวบริเวณกว้างจากแม่น้ำวังโตนด ที่ไหลลงสู่ปากอ่าวของอ่าวไทย

ฝั่งนึงมองเห็นทะเล

อักฝั่งดูเป็นแบบเห็นวิถีชาวบ้านที่ทำการประมงในบริเวณแถวนั้น

คือตอนแรกขับรถผ่านมา ไม่คิดไร แต่วิวโครตสวย เลยต้องลงไปจอดรถแล้วหยิบกล้องขึ้นมา...

ลองดูวิวกลางสะพานอีกสักรอบ ตอนไม่มีรถ

ท้องฟ้าวันนั้น...มันสวยจริงๆนะ

มุมด้านล่างก็สวยไม่แพ้กันนะบอกเลย

เห็นบรรยากาศแบบนี้ ยืนสูดอากาศสักทีให้ชื่นใจ


4. สะพานแหมสิงห์ (ขับจากจากจุดชมวิวปากน้ำแขมหนูไป 14 กม.)

ตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ต้องมาเยือน มันสวยจริงๆนะ สะพานยาวมาก สามารถจอดรถบนสะพานข้างทางเพื่อถ่ายรูปได้เลย ตอนขับขึ้นไปจะเห็นว่ามีรถจอดถ่ายรูปกันอยู่เยอะมาก วิวที่เห็นจะเป็นวิวทางฝั่งของปากแม่น้ำจันทบุรีและท่าเรือน้ำลึก


ถ้าผ่านไปวันที่ฟ้าเปิดนะ รับรองว่ามีถ่ายรูปลืมเวลาแน่ๆ


บอกเลยว่าวิวบนสะพานที่สวยจริง ถ่ายเสร็จขับรถลงมาจากสะพานจะเป็น คุกขี้ไกและตึกแดง

5.คุกขี้ไก่ + ตึกแดง (ขับลงมาจากสะพานประมาณ 1 กม.)

จุดตรงนี้ก็ไม่ได้มีอะไรสักเท่าไร แต่ไหนๆผ่านมาแล้วก็แวะถ่ายรูปสักหน่อยแล้วกัน คุกนี้เป็นคุกที่ฝรั่งเศสได้สร้างเพื่อกักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศษ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ กว้างประมาณ 4 ม. สูง 7 ม. จินตนาการตามนะแบบว่า ด้านบนเลี้ยงไก่ ด้านล่างขังนักโทษ มีช่องระบายอากาศเล็กๆ คนอยู่ด้านล่างก็โดนขี้ใส่ประมาณนั้นแหละ อยู่กันแบบแออัด ไม่มีภาพประกอบ ต้องใช้จินตนาการเอา 555+

ส่วนตึกแดงอยู่ถัดมาไม่กี่ร้อยเมตร ใช้เป็นกองรักษาการของทหารฝรั่งเศสที่ใช้รักษาการที่เข้ามารักษาปากน้ำแหลมสิงห์ เมื่อครั้งตอนที่ยึดจันทบุรีไว้ ลักษณะเป็นตึกยาวๆ 5 ห้องทาสีแดงทั้งหลัง กว้างประมาณ 5 ม. ยาวประมาณ 30 ม.

จุดตรงนี้ก็ไม่ได้มีไรอะไรสักเท่าไร แนะนำว่าให้ขับรถต่อไปที่น้ำตกพลิ้วเลยจ้า

ปล. เราเที่ยวถึงจุดนี้ก็หมดวันแล้ว เราเข้าที่พักแล้วมานั่งเก็บต่ออีกวัน ส่วนใครยังไม่เหนื่อยหรือเวลาเหลือก็ต่อกันเลยก็ได้ เพราะว่ามันอยู่ไม่ไกล

6. น้ำตกพลิ้ว (จากคุกขี้ไก่ ขับไปประมาณ 18 กม.)

ค่าเข้าอุทยานฯ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

เห็นเค้าบอกกันว่า อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีน้ำตลอดปี อันนี้ไม่แน่ใจนะว่าจริงรึเปล่า แต่เราไปช่วงมิถุนา น้ำก็เยอะนะ คือระดับน้ำแต่ละช่วงอาจไม่คงที่ แต่บอกเลยว่าความสวยนั้นคงทน น้ำนี่ใสเห็นปลา เรียกได้ว่าสามารถว่ายน้ำกับปลาได้เลย : )

เราไปถึงช่วงประมาณบ่าย 3 แดดนี่กำลังแผดเผาเลย ลงจากรถนี่ร้อนตับแตก แต่เชื่อมั้ย ข้างในตอนเดินเข้าไปคือร่มรื่นนะ ได้รับไอเย็นๆจากน้ำตกเลย

นี่เป็นทางเดินที่เราเดินเข้าไป ดูสิว่ามันร่มรื่นมั้ย?

ระหว่างทางก็เห็นมีคนเล่นน้ำเป็นระยะนะ บางคนก็มานั่งคนเดียว น้ำเย็นๆ แช่น้ำแบบไม่ต้องคิดไร...

เดินไปเรื่อยๆจนสุด จะเห็นคนเล่นน้ำอยู่เยอะมาก ที่ต้นสายน้ำตก

และที่บอกว่าได้เล่นน้ำกับปลา... คือตัวใหญ่มาก บางคนก็ชอบนะ แต่เราขอ บายยยย ; p ปลาไม่กลัวคน แต่คนสิจะกลัวปลา แต่มันไม่กัดนะ เล่นได้ ... อย่าถามนะว่ารู้ได้ไงไม่ได้เล่น คือนั่งมองอยู่ไง ... ไม่ได้ยินเสียงใครร้อง เล่นกันสนุกสนานจ้า


ดูปลาให้ชัดๆอีกสักครั้ง... ใหญ่ป่ะ นี่แหละเหตุผลที่เราไม่ได้เล่นน้ำ 555+


แล้วไม่เล่นน้ำ ... ไปทำอะไรล่ะ? นี่ไงคำตอบ

เราไปนั่งเล่น แล้วก็ถ่ายรูปกัน แค่นี้ก็ฟินส์ละ : )

จริงๆก็อยากเล่นนะ แต่คนเยอะ ปลาตัวใหญ่มาก เลยไม่เล่นดีกว่า ประกอบกับทุกคนแต่งหน้าเต็ม เลยไม่อยากลงน้ำ 555+ ว่าแล้วก็move ไปจุดถัดไปนะ

7. น้ำตกคลองนารายณ์ (อยู่ห่างจากน้ำตกพลิ้ว 11 กม.)

ที่นี่ไม่ค่อยดังมั้ง... ไม่มีคนเลย * แต่จะบอกว่าประทับใจมากนะ คืออยากสารภาพว่าเราขับรถหลงเข้าไป เห็นป้ายน้ำตกพอดีเลยแวะเข้าไป ตอนแรกเปิดกระจกถามชาวบ้านแถวนั้นว่า "พี่คะๆ น้ำตกข้างในสวยมั้ยคะ?" พี่เค้าตอบว่า พี่ก็ไม่รู้อ่ะน้อง รู้แค่ว่ามี แต่ไม่เคยเข้า 555+ โอเคค่ะ ไหนๆก็ถึงแล้ว ลองดูกัน


เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่มีน้ำใสๆ และไม่มีคนเลย ... ตอนไปนี่มีแค่พวกเรา จะบอกว่าทุกที่ เราชอบที่นี่สุดจะแปลกมั้ย? คือมันเล็ก แต่ทุกคนได้พัก นั่งคิดไรเรื่อยเปื่อย แบบว่านั่งลมเย็นๆ เอาขาแช่น้ำ สมองหยุดสั่งการ ไม่ต้องฟังเสียงใครโหวกเหวกโวยวาย

นั่งเล่นเรื่อยเปื่อย คนละมุม แปปๆหมดเป็นชั่วโมง

บางที่สวยกว่านี้ แต่ไปแล้วไม่สบายใจเท่านี้ ... แค่นี้แหละที่อยากจะบอก

จะถ่ายรูปมุมไหนก็สบาย จะนั่งไหนก็ได้ ... เพราะมีแค่เรา เท่านี้พอมั้ย? สำหรับการไปพักผ่อน...

สำหรับเราแล้ว ทริปนี้...นี่เป็นมุมเล็กๆที่เราประทับใจทึ่สุดเลยล่ะ

ไม่ต้องดังกว่านี้ ไม่ต้องใหญ่กว่านี้ แต่สงบแบบนี้ ที่นี่แหละใช่เลย : )



สำหรับที่พัก : เราไปพักกันที่ "ชาเทรียม กอล์ฟ รีสอร์ท สอยดาว จันทบุรี"

เที่ยวกันเพลิน ไปถึงก็มืดพอดีจ๊าา ... เหนื่อยเพลียร่าง รีสอร์ทแอบไกล ขับจากน้ำตกก็ประมาณ 50 กว่าโล แต่ข้อดีคือ สวยและสงบมาก เหมาะกับการพักผ่อนและชมวิวเป็นที่สู๊ดดดด !!!

รีสอร์ทจะมีเขาล้อมรอบ กลางคืนมองเห็นดาวเยอะมากกก !!

อย่าถามว่าทำไมถ่ายไม่ชัด 555+ ถ่ายมาแค่รูปเดียวอ่ะ ให้พอเห็นดาวเนอะ ว่าเยอะจริง เหนื่อยแล้ววันนี้

อันนี้ห้องพักเรา ห้องพักใหม่ เตียงใหญ่ โซฟาก็นอนได้อีกคนนะ สบายๆ นอนกัน 3 คน

สำหรับคืนนี้ เราถ่ายอีกรูปไว้เป็นที่ระลึก แล้วเราก็เข้านอนกัน : ) หลับฝันดีเลย เหนื่อยเกินสำหรับวันนี้

ตื่นมา 9 โมง ด้วยความหิวโหย น้ำยังไม่ทันอาบ รีบไปกินข้าวก่อน ; p

กินเสร็จนี่ Energy เต็ม เบค่อนนี่ต้องรีบย่อย ... เลยถือโอกาสไปปั่นจักรยาน เค้ามีให้ยืมฟรีนะ บอกเลยว่าต้องปั่น เพราะวิวเค้าพีคมาก

หน้าหนาวนี้ราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 1,600 บาท เชคราคาได้ที่ https://goo.gl/7qa5fN (ลองเชคดู ส อา บางอาทิตย์ก็ราคานี้นะจ๊ะ)

เห็นหมอก ภูเขา และสายน้ำ ปั่นไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ซิวๆ ถ่ายรูปเล่นสบายๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากไปพักผ่อนจริงๆ

ใครชอบที่ไหนก็เลือกจิ้มเป็นจุดๆไปได้เลย Mark ไว้ให้แล้ว แค่ตั้ง Navigator รับรองถึงที่ชัวร์ๆ

ขอให้เที่ยวกันให้สนุกน๊าาาาา : ))))

-----------------------------------------------------------------------------------

ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ https://th.readme.me/id/ReviewPapai

ฝากเพจด้วยนะคะ https://www.facebook.com/ReviewPapai/ แล้วพบกันใหม่ : )

ReviewPapai

 วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 13.52 น.

ความคิดเห็น